ตอนที่ 699 โด่งดัง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมทั้งเจ็ดหมื่นห้าพันคนในสนามกีฬาหวงหลง หรือว่าแฟนๆ ที่ชมการถ่ายทอดสดที่อยู่หน้าจอทีวีและคอมพิวเตอร์ คอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ในคืนนี้ เป็นหนึ่งในการแสดงที่สุดยอดที่สุดเท่าที่พวกเขาและพวกเธอเคยเห็น
นับตั้งแต่เริ่มแสดง ไฮไลต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ เลี่ยวเจี่ย และซือฟางนำทัพนักเรียนที่แข็งแกร่งทั้งเก้าคนจากสิบคน มอบการแสดงที่สวยงามอลังการอย่างแท้จริงเพื่อผู้ชมทุกคน
และแขกรับเชิญพิเศษของคอนเสิร์ตก็ไม่ทำให้ผิดหวัง การแสดงของวงนิพพานยอดเยี่ยมมาก เพื่อนสนิทในวงการที่ได้รับเชิญจากเลี่ยวเจี่ย…พลังร็อกของเกาเกิงได้พลุ่งพล่านขึ้นมาเหมือนกัน สร้างความสนุกสุดเหวี่ยงเป็นระลอก
แต่ไม่ว่าจะเป็นวงนิพพาน เกาเกิง รวมทั้งหลูชิงฟางนักร้องชื่อดังชาวไต้หวัน พวกเขาไม่สามารถกลบแสงบนเวทีของสาวน้อยชาวมองโกลอายุสิบสี่ปีคนหนึ่งได้เลย
เธอก็คือเก๋อเกินถ่าน่า!
‘มงคลไตรรัตนะ’ เป็นหนึ่งบทเพลงที่มีความพิเศษ มีทำนองไพเราะน่าประทับใจ และมีลักษณะเฉพาะของชนเผ่าอย่างเข้มข้น กอปรกับการขับดุนให้เด่นขึ้นของนักร้องตัวท็อปทั้งสอง ทำให้เก๋อเกินถ่าน่ากลายเป็นจุดสนใจของงาน
และเมื่อถึงวันที่สองหลังจากคอนเสิร์ตสิ้นสุดลง สื่อบันเทิงออนไลน์ใหญ่ๆ ในประเทศจีนกระทั่งหน้าเว็บบอดร์ด ล้วนมีแต่รายงานข่าวของเก๋อเกินถ่าน่าเป็นจำนวนมาก ความสวยและน่ารักของเธอถูกแพร่กระจายไปตามบล็อก หน้าเว็บ และฟอรัม
อาศัยคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์เป็นลมบูรพาหนุนส่ง ‘มงคลไตรรัตนะ’ จึงโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน
นักวิจารณ์เพลงคนหนึ่งได้เขียนในบล็อกว่า “เมื่อคืน ฉันนั่งดูการแสดงคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาหวงหลงจนจบ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับฉัน คือ ‘มงคลไตรรัตนะ’ ของเก๋อเกินถ่าน่าโดยไม่ต้องสงสัย”
“นี่คือผลงานเพลงพื้นบ้านที่แสดงให้เห็นถึงการถามตอบในครอบครัว ทำให้คนเสมือนได้เห็นกับตาตัวเองว่ามีครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกกำลังปล่อยให้สัตว์เดินเล่นกินหญ้าในทุ่งกว้าง เด็กน้อยน่ารักกะพริบตาโต ดื่มด่ำความความสดชื่นที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ กับคำถามที่ถามไม่รู้จบ”
“เธอหันไปหาแม่ทางซ้าย หันไปหาพ่อทางขวา เจอคำถามของเด็กไร้เดียงสา พ่อกับแม่จึงต้องตอบอย่างอดทนและเต็มไปด้วยความอบอุ่น”
“และเมื่อเกิดภาพจิตนาการแบบนี้ในหัวของคุณ ความรู้สึกโรแมนติกที่แสนอบอุ่นเก็หมือนดั่งน้ำทะเลขึ้น ค่อยๆกระทบหัวใจของคุณทีละนิด เพลิดเพลินจนลืมกลับบ้าน หลงใหลเคลิบเคลิ้มอยู่แบบนั้น!”
นิตยสาร ‘ป็อปมิวสิค’ ลงบทวิจารณ์สั้นๆ ในพาดหัวฉบับออนไลน์ ในบทความเขียนว่า “‘มลคลไตรรัตนะ’ เป็นบทเพลงที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยได้ยินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันไม่ใช่เพลงรักอกหักเลิกกัน มันไม่ใช่เพลงติดชาร์ตที่ได้ยินกันประจำ มันกระทั่งไม่ใช่ผลงานปกติทั่วไป”
“แต่มันคือเพลงที่มีความแปลกใหม่และเป็นที่นิยมรูปแบบหนึ่ง บทเพลงน่ารักที่ใครฟังก็ต้องรู้สึกตะลึงไปกับความงาม มันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่อยู่เหนือภาษา วัฒนธรรม และอายุ มันทำให้ความปรารถนาของทุกคนเหมือนได้รับความสุขที่พวกเขารอคอยมานานแม้ยามหลับฝัน”
“เพลงนี้มีชีวิตเป็นของมันเอง มีชีวิตที่เป็นอิสระจากผู้ฟัง!”
นอกจากนิตยสาร สื่อต่างๆ และนักวิจารณ์เพลงแล้ว ผู้ชมที่ดูโทรทัศน์ทั่วไปรวมถึงพวกแฟนเพลงของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ชม ‘มงคลไตรรัตนะ’ ไม่หยุดปาก และคิดว่าเพลงนี้เป็นผลงานเพลงที่กินใจที่สุดของคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์
ผลลัพธ์ที่เกิดจากสิ่งนี้ก็คือ จำนวนแฟนคลับในบล็อกส่วนตัวของเก๋อเกินถ่าน่าเพิ่มขึ้นไปหลายขั้น จากเดิมมีหลักแสนพุ่งทะยานไปเป็นหลักล้าน คำเชิญมากมายนับไม่ถ้วนส่งมาหาเธอราวกับหิมะ ไม่ว่าจะเป็นการออกรายการ พรีเซ็นเตอร์โฆษณาเยอะแยะมากมายลานตาไปหมด
แต่ในฐานะบริษัทที่เซ็นสัญญากับเก๋อเกินถ่าน่า เฉินเฟยมีเดียไม่ได้อาศัยความนิยมนี้พยายามเรียกทรัพย์อย่างเต็มที่ แต่เลือกร่วมงานกับแบรนด์ที่มีอิทธิพลมากพอสองสามแบรนด์เท่านั้น ปฏิเสธคำเชิญมากมายหลายอย่าง เช่นสัมภาษณ์ออกรายการ งานคอนเสิร์ต เป็นต้น
หากเปลี่ยนเป็นบริษัทบันเทิงเอเจนซี่อื่น คงอยากรับคำเชิญเหล่านั้นยิ่งเยอะยิ่งดี จัดตารางงานให้เก๋อเกินถ่าน่าเต็มตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง งานของเธอเยอะเท่าไร บริษัทที่เซ็นสัญญาด้วยก็ยิ่งทำกำไรได้เยอะเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นลู่เฉินหรือว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ ไม่ได้ขาดเงินเหล่านี้เลยจริงๆ ทั้งสองคนไม่เคยคิดจะให้เก๋อเกินถ่าน่าเป็นต้นเขย่าเงิน ยอมให้เธอเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนอย่างสงบสุข แต่ไม่ยอมให้เธอต้องแปดเปื้อนมลทินในวงการบันเทิงเร็วเกินไป
น่าจะพูดว่าเก๋อเกินถ่าน่าโชคดีอย่างหาที่เปรียบมิได้ เธอเป็นไข่มุกเม็ดงามที่ถูกฝังอยู่บนทุ่งหญ้า ได้พบกับคนที่รู้จักทะนุถนอมดูแลและชื่นชมสิ่งล้ำค่าอย่างเข้าใจจริงๆ ถึงไม่ตกลงไปเปื้อนดินเปื้อนฝุ่น
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่เกิดหลังจากนี้
วันที่ 30 สิงหาคมคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเวลาห้าทุ่ม วันที่สองก็คือวันที่ 31 สิงหาคมสถานีโทรทัศน์เจ้อตงและสตาร์แฟคตอรีมีเดียร่วมเป็นเจ้าภาพ เชิญโค้ชทั้งสี่ของเดอะวอยซ์มาร่วมงานเลี้ยงอำลาที่จัดขึ้นที่โรงแรมแชงกรีลาในหังโจว
‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ซีซันหนึ่ง ถือว่าสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ซีซันสองของปีหน้าถึงแม้จะถูกปรับตารางการถ่ายทำให้เร็วขึ้น แต่ในโค้ชทั้งสี่คนนนี้ ยกเว้นลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ เลี่ยวเจี่ยกับซือฟางยังไม่ยืนยันว่าจะร่วมงานต่อได้หรือไม่
ทางสถานีโทรทัศน์เจ้อตงและสตาร์แฟคตอรีมีเดีย แน่นอนว่าหวังเป็นอย่างยิ่งอยากให้โค้ชทั้งสี่ของซีซันแรกอยู่ครบทั้งหมด เพราะตอนนี้ทีมที่มีทั้งสี่คนอยู่ด้วยกันถือว่าเพอร์เฟกต์มาก และยังได้รับการยอมรับมากจากผู้ชมโทรทัศน์ทั่วประเทศ
ทั้งสองบริษัทได้เสนอค่าตอบแทนโค้ชของเดอะวอยซ์ซีซันสองเพิ่มขึ้นจากพื้นฐานเดิมของซีซันแรกถึงสี่เท่า!
ถ้าหากเป็นดาราคนอื่น ได้รับชื่อเสียงและข้อเสนอดีๆ เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และอยากจะเซ็นสัญญาติดต่อกันสักสิบปี แต่เลี่ยวเจี่ยกับซือฟางกลับไม่เหมือนกัน ทั้งสองคนเคยผ่านช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดมาแล้ว ตอนนี้ถึงแม้จะไม่ได้ออกจากวงการ แต่สำหรับชื่อเสียงเงินทองแล้วกลับไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
อย่างเช่นเลี่ยวเจี่ย หากยึดตามคำพูดของเขาก็คือทั้งชีวิตหาเงินมามากพอแล้ว ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ขอดื่มกินเที่ยวอย่างสนุกสนาน ไม่อยากให้งานกลายเป็นสิ่งผูกมัดตัวเอง ชอบที่จะเดินทางไปทั่วทุกสารทิศ
สุขภาพของซือฟางไม่ดีมากมาโดยตลอด เธอเลือกกลับมาเพราะอยากกลับมาเฉยๆ เท่านั้น และเป็นเพราะว่าตัวเธอชอบดนตรีและอยากจะร้องต่อไป ไม่ได้ขาดเงินเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นใช้เงินทองไม่สามารถทำให้คนทั้งสองหวั่นไหวได้
แน่นอน เนื่องจากมีลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์อยู่ ดังนั้นสถานีโทรทัศน์เจ้อตงและสตาร์แฟคตอรียังมีไพ่น้ำใจเหลืออยู่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ร้อนใจเป็นพิเศษนัก อย่างไรเสียทั้งสองฝ่ายก็มีเวลาเหลือเฟือ
มื้ออาหาร ‘เลี้ยงอำลา’ ทุกคนกินกันอย่างมีความสุข
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากงานเลี้ยงฉลองจบลง เลี่ยวเจี่ยกับเกาเกิงเพื่อนของเขาก็ขอตัวกลับก่อน ส่วนลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ไปส่งซือฟางที่สนามบินนานาชาติหังโจวด้วยกัน
ซือฟางขึ้นเครื่องบินกลับฮ่องกงตอนบ่าย
เมื่อส่งซือฟางแล้ว ลู่เฉินจึงไปส่งแม่ของตัวเองกลับปินไห่
เขาได้ให้กุญแจบ้านที่หังโจวของตัวเองกับลู่เสวี่ย
จากนั้นก็กลับเมืองหลวงพร้อมกับเฉินเฟยเอ๋อร์ เพื่อถ่ายทำ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างด่าว’ อย่างเคร่งเครียดต่อไป!
…………………………………………………………….