ตอนที่ 706 ข่าวด่วน (2)
เที่ยวบิน UD725 ไม่สามารถบินไปถึงนิวยอร์กได้ และเตรียมลงจอดที่ฐานทัพอากาศที่ใกล้ที่สุด
เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตในห้องเครื่องบินผู้โดยสารชั้นประหยัด กัปตันเริ่มเตรียมแผนตอบโต้โจรจี้เครื่องบินก่อนเป็นอย่างแรก แจ้งสัญญาณเตือนไปที่ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศ และเปลี่ยนระบบควบคุมของเครื่องบินจากระบบอัตโนมัติเป็นระบบควบคุมด้วยมือ เพื่อเตรียมลงจอดฉุกเฉิน
เนื่องจากความจำเป็นเรื่องความปลอดภัย เครื่องบินข้ามทวีปเหมือนอย่างโบอิง 798 จะติดตั้งกล้องความละเอียดสูงทั้งในและนอกห้องผู้โดยสาร กัปตันสามารถตรวจสอบเหตุการณ์ภายในห้องผู้โดยสารได้ตลอดเวลา ถึงแม้คนร้ายจะถูกลู่เฉินจัดการแล้ว แต่ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยออกไปแล้ว จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด
ดังนั้นเครื่องบินลำนี้ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินทหารของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
ตอนที่เครื่องบินลงจอด ลู่เฉินกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง
เขาได้รับการปฏิบัติที่ไม่ธรรมดา พวกแอร์โฮสเตสผลัดกันเอาขนมน้ำชามาเสิร์ฟเขาด้วยความกระตือรือร้น และหลังจากที่ผู้โดยสารคนอื่นในที่นั่งชั้นธุรกิจรู้เรื่องราวหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงมาจับมือกับลู่เฉิน เพื่อแสดงความขอบคุณและเคารพนับถือต่อลู่เฉิน
หนึ่งในนั้นมีแอร์โฮสเตสสาวสามคนแอบยัดกระดาษโน้ตที่เขียนเบอร์โทรให้ลู่เฉิน
หวังเยี่ยนถอนหายใจไม่หยุดและเอ่ยว่า “ตอนนี้คุณกลายเป็นฮีโร่แล้ว!”
เธอยังสติหลุดอยู่เล็กน้อย
เมื่อครู่เกิดการยิงกัน หวังเยี่ยนตกใจมากจริงๆ เมื่อก่อนเธอเคยเห็นข่าวจี้เครื่องบิน เครื่องบินตกในทีวี แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเที่ยวบินของตัวเอง
เดิมทีรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่เมื่อได้สัมผัสด้วยตัวเองถึงรู้ว่ามันน่ากลัวถึงเพียงนี้!
และสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกทึ่งก็คือ ภายใต้สถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้ ลู่เฉินกลับพุ่งเข้าไป
นี่คือการเปลี่ยนมุมมองทุกอย่างของหวังเยี่ยนอย่างสิ้นเชิง
ลู่เฉินยังหนุ่มมาก หน้าตาก็หล่อ และเป็นดาราไอดอลชื่อดังที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองในประเทศจีน แถมยังมีแฟนระดับราชินีของวงการ ตัวเองก็หาเงินได้ร้อยสองร้อยล้านต่อปี นี่เรียกได้ว่าอนาคตไกลไร้ขีดจำกัด
ยิ่งรวยยิ่งรักชีวิต คนที่ยิ่งมีเงินยิ่งกลัวตาย แต่ยามที่อยู่ในช่วงอันตราย ลู่เฉินกลับไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง ต่อสู้กับคนร้ายที่พกปืนด้วยมือเปล่า
นี่ต้องอาศัยความกล้าขนาดไหนเชียว!
หวังเยี่ยนไม่คิดว่าลู่เฉินเป็นคนมุทะลุ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถมีฐานะและตำแหน่งเหมือนทุกวันนี้ได้แน่นอน
แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาทำแบบนั้น
เป็นความเลือดร้อน หรือความกล้าหาญ
หวังเยี่ยนไม่อาจคาดเดาความคิดในตอนแรกของลู่เฉินได้เลย มีเพียงความรู้สึกเลื่อมใสอย่างลึกซึ้ง
ลู่เฉินหัวเราะเอ่ยว่า “ไม่ได้เป็นฮีโร่อะไรหรอกครับ เกิดเรื่องบนเครื่องบิน ตัวผมเองก็หนีไม่รอด”
หวังเยี่ยนส่ายหน้า…ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ
ขณะที่พูด โบอิง 798 ได้ลงจอดที่สนามบินอย่างมั่นคง กำลังอยู่ในช่วงแตะรันเวย์สนามบิน
เวลานี้ท้องฟ้าสว่างแล้ว
เวลาประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีนห่างกันสิบชั่วโมงกว่า ดังนั้นขึ้นเที่ยวบินเช้าที่สนามบินนานาชาติปักกิ่งมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาเช้าตรู่พอดี หมอกยามเช้าจางๆ ปกคลุมไปทั่วพื้นดิน
เมื่อมองผ่านหน้าต่างเครื่องบินสามารถมองเห็นรถแต่ละคันเปิดไฟกะพริบวิ่งอยู่ข้างรันเวย์ มีรถตำรวจรถดับเพลิง รถพยาบาล รถป้องกันการก่อจลาจล เป็นต้น เป็นภาพที่เคยเห็นในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของอเมริกา
มีชาวอเมริกันบางคนที่มีการตอบสนองแรงมากใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปกันยกใหญ่
เมื่อปลอดภัยแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเขาก่อนหน้านั้นเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมากอย่างไม่ต้องสงสัย
พอถ่ายรูปเสร็จก็สามารถกลับบ้านไปโม้ต่อได้
รอให้เครื่องบินจอดสนิทประตูเครื่องเปิด ก็มีตำรวจพิเศษติดอาวุธครบทีมหนึ่งพุ่งเข้ามาทันที เข้าควบคุมเครื่องบินทั้งลำอย่างรวดเร็วรวมถึงผู้โดยสารทั้งสี่ร้อยกว่าคน
นี่คือขั้นตอนพื้นฐานในการต่อต้านการจี้เครื่องบินและการก่อการร้าย ตำรวจอากาศที่บาดเจ็บหนักถูกส่งตัวไปรักษาแบบฉุกเฉินเป็นคนแรก และปืนในฐานะหลักฐานสำคัญก็ได้ถูกตำรวจพิเศษยึดไปแล้ว จากนั้นจึงจัดผู้โดยสารให้ลงจากเครื่องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
และภายใต้การควบคุมที่เข้มงวดของพวกเขา สัมภาระติดตัวไม่สามารถนำออกไปได้ และต้องนำไปตรวจสอบ แม้แต่โทรศัพท์ของผู้โดยสารทุกคนก็ถูกยึด
ถึงแม้พวกผู้โดยสารได้รับการปฏิบัติที่ไม่ค่อยมีมารยาทมากนัก แต่ไม่มีใครบ่นสักคน สามารถรอดตายจากเหตุการณ์จี้เครื่องบินได้ นับว่าพวกเขาโชคดีสุดๆ แล้ว
ลู่เฉินกับหวังเยี่ยนก็เดินลงจากเครื่องบินเหมือนกัน แต่ลู่เฉินได้รับปฏิบัติแตกต่างจากผู้โดยสารทั่วไป เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสวมเกราะกันกระสุนสีดำนายหนึ่งเชิญไปที่สำนักงานในสนามบินอย่างมีมารยาท
ภายในสำนักงานห้องนี้ ลู่เฉินถูกซักถามจากผู้ชายวัยกลางคนที่เรียกตัวเองว่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ หลักๆ แล้วเพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เนื่องจากลู่เฉินได้หยุดยั้งคนร้ายทันเวลา ดังนั้นผู้ชายที่มาจากเอฟบีไอคนนี้จึงเกรงใจเป็นอย่างมาก แต่เนื้อหาที่เขาซักถามถึงขั้นละเอียดสุดๆ รวมถึงฐานะ ครอบครัว และจุดประสงค์ที่มาอเมริกาของลู่เฉิน
ลู่เฉินดื่มกาแฟร้อนๆ ตอบคำถามทุกอย่างให้ความร่วมมืออย่างดี
ถูกซักถามยาวนานติดต่อกันหนึ่งชั่วโมงกว่า เอฟบีไอคนนี้ถึงพอใจในที่สุด
“คุณลู่เฉิน…”
เขายื่นมือไปหาลู่เฉิน เอ่ยว่า “ผมขอเป็นตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกา ขอบคุณในความกล้าหาญของคุณด้วยความจริงใจ ขณะเดียวกันต้องขอบคุณที่คุณให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
ลู่เฉินจับมือกับเขา “ขอบคุณครับ”
เอฟบีไอคนนี้พูดต่อว่า “นอกจากนี้ขอให้คุณรักษาการติดต่อกับพวกเราตลอดเวลา หากไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเรา กรุณาอย่าเพิ่งออกจากประเทศอเมริกานะครับ”
แบบนี้เป็นเรื่องงที่จนใจมาก แต่หากต่อต้านคงไม่ได้ผล
ลู่เฉินไม่อยากหาเรื่องยุ่งยากให้ตัวเอง “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
ใบหน้าที่เคร่งขรึมของคุณเอฟบีไอเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ยินดีต้อนรับสู่ประเทศอเมริกาครับ!”
พิธีต้อนรับแบบนี้อลังการไปหน่อยไหม!
ลู่เฉินหมดแรงที่จะบ่น ได้แต่พยักหน้ายิ้มเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขานึกได้เรื่องหนึ่ง ถามว่า “ผมขอโทรหาคนที่บ้านหน่อยได้ไหมครับ”
โทรศัพท์ของเขาก็ถูกยึดไปเหมือนกัน
คุณเอฟบีไอลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังอะลุ่มอล่วย อนุญาตให้ลู่เฉินยืมโทรศัพท์ของสำนักงาน
ลู่เฉินโทรหาเฉินเฟยเอ๋อร์ก่อนเป็นคนแรก
เฉินเฟยเอ๋อร์แน่นอนว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบิน UD725 เธอคิดว่าลู่เฉินถึงนิวยอร์กแล้ว และงุนงงว่าทำไมลู่เฉินไม่ใช้โทรศัพท์ของตัวเองโทรมา
เมื่อคิดว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ช้าเร็วก็ต้องรู้ความจริง ดังนั้นลู่เฉินจึงไม่ปิดบัง เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง
เฉินเฟยเอ๋อร์ฟังจบตกตะลึงไปนานมาก จากนั้นเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอยากจะบินมาอยู่เป็นเพื่อนเขาทันที
เธอเกือบจะสูญเสียลู่เฉินไปแล้ว!
ลู่เฉินได้แต่ปลอบใจ บอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ปลอบขวัญอยู่นานในที่สุดก็ปลอบใจแฟนสาวสำเร็จ
จากนั้นลู่เฉินได้โทรไปรายงานลู่ซีต่อ ให้พี่สาวช่วยบอกแม่ด้วย และก่อนที่ข่าวจะออกมา ให้ทางบริษัทเงียบไปก่อน
ผลปรากฏว่าลู่ซีบ่นจะบินมาอเมริกาให้ได้!
ลู่เฉินจึงได้แต่พูดโน้มน้าวหว่านล้อมด้วยคำพูดดีๆ อีกครั้ง
เขาโทรศัพท์ทางไกลนานเกือบหนึ่งชั่วโมง
หลังจากเสร็จธุระแล้ว ลู่เฉินกับหวังเยี่ยนได้มารวมตัวกันอีกครั้ง รับกระเป๋าเดินทางของตัวเองกลับไป
แต่โทรศัพท์ของทั้งสองคนจะได้รับคืนเมื่อถึงนิวยอร์ก
สายการบินเวอร์จินได้ส่งเครื่องบินลำใหม่มาสองลำ เพื่อขนย้ายผู้โดยสารที่นี่มุ่งหน้าไปนิวยอร์ก โบอิง 798 ลำก่อนหน้านั้นจำเป็นต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดถึงจะกลับไปบินใหม่ได้อีกครั้ง
หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายมาแล้ว ตอนที่ลู่เฉินถึงนิวยอร์ก ก็เป็นเวลาเที่ยงของประเทศอเมริกาพอดี!
และข่าวการเกิดอุบัติเหตุของเที่ยวบิน UD725 ก็ได้ระเบิดออกมาตามสื่อต่างๆ!
…………………………………………………………………………