ตอนที่ 723 บลูสกายสตูดิโอ
เขตชานเมืองจะวันตกฉียงเหนือของลอสแอนเจลิส สวนศิลปะฟลัชชิง
ที่นี่ไม่มีตึกสูงเหมือนป่าในเมือง ต้นไม้เขียวขจีเติบโตขึ้นบดบังอาคารแต่ละอาคารที่สูงสามสี่ชั้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ทางเดินกว้างสะอาดยาวเป็นเส้นตรง ให้ความรู้สึกเงียบสงบจากเมืองที่วุ่นวาย
แต่เขตศิลปะที่อยู่ติดกับฮอลลีวูดแห่งนี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของภาพยนตร์อเมริกา เป็นศูนย์รวมของบริษัทผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์และสตูดิโอมากมาย ทุกปีจะผลิตผลงานที่มีมูลค่าน่าตกใจ
ลู่เฉินอยากจะสำรวจสตูดิโอผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ของบลูสกายดิจิทัล ซึ่งเป็นตัวเด่นเหมือนกัน
สตูดิโอผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์แห่งนี้ยังเด็กมาก ก่อตั้งขึ้นเพียงห้าปีเท่านั้น แต่มีส่วนร่วมในการผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ของภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องแล้ว มีทีมงานที่กระตือรือร้นและร่าเริงทีมหนึ่ง
สมาชิกของทีมบลูสกายสเปเชียลเอฟเฟกต์ก็ยังเด็กมาก มีผู้ก่อตั้งร่วมกันสามคน คือ เมียร์ แอนดรูว์ และคริสโตเฟอร์ ต่างเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย อายุมากที่สุดคือยี่สิบเก้าปี
และเนื่องจากเกี่ยวข้องกับเหตุผลต่างๆ เบื้องต้น ดังนั้นริชาร์ดจึงแนะนำทีมบลูสกายสเปเชียลเอฟเฟกต์ให้ลู่เฉินในฐานะผู้ร่วมงานกับเฉินเฟยมีเดีย ไม่ใช่บริษัทผลิตเอฟเฟกต์พิเศษเจ้าดังเก่าแก่ที่แข็งแกร่งกว่า
เพราะบริษัทดังเก่าแก่พวกนั้นมักจะหยิ่งผยอง พวกเขาชอบหาเงินจากประเทศจีน แต่ไม่ยอมแลกเปลี่ยนเทคนิคของตัวเองให้เด็ดขาด ต่อให้ยอมขายหุ้นออกไปบางส่วน ก็จะฮุบกำไรเยอะกว่า
บลูสกายสเปเชียลเอฟเฟกต์ตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาเงินลงทุน สตูดิโอแห่งนี้ไม่มีข้อบกพร่องเหมือนบริษัทใหญ่ๆ เหล่านั้น สำหรับเฉินเฟยมีเดียแล้วเหมาะที่จะเป็นผู้ร่วมงานด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือบลูสกายสเปเชียลเอฟเฟกต์ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในอุตสาหกรรมนี้ ในประเทศจีนโดยทั่วไปแล้วไม่ค่อยมีใครรู้จักชื่อนี้ แต่ริชาร์ดรับประกันมาตรฐานของพวกเขา
ถ้าหากไม่ใช่เพราะดรีมเวิร์กสตูดิโอเพิ่งรับงานโฆษณาและจำเป็นต้องทำให้เสร็จ ริชาร์ดก็อยากจะบินมาด้วยตัวเอง
รถของเจนนี่จอดอยู่หน้าอาคารสูงสี่ชั้น
รูปร่างภายนอกของอาคารทรงกลมนี้คล้ายจานบิน พื้นผิวของม่านกระจกสีเงินเทาสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง ป้ายหินที่ตั้งตระหง่านหน้าทางเข้าประตูสลักฝังชื่อและโลโก้ของบริษัทต่างๆ เรียงกันเป็นทิวแถว
บลูสกายสตูดิโอตั้งอยู่บนชั้นสามของอาคารแห่งนี้
ภายใต้การเดินนำของเจนนี่ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ขึ้นลิฟต์มาถึงสถานที่ปลายทาง
ประตูลิฟต์เพิ่งจะเปิด แสงแฟลชจากกล้องสว่างขึ้นทันที ทำให้พวกลู่เฉินทั้งสามคนสะดุ้งตกใจ!
เห็นเพียงคนหนุ่มสาวออกันอยู่ที่ห้องโถงลิฟต์ พวกเขาบางคนถือกล้องเอสแอลอาร์ บางคนถือโทรศัพท์มือถือด้วยท่าทางดีอกดีใจ
“คุณลู่เฉิน ยินดีต้อนรับสู่บลูสกายสตูดิโอของพวกเราครับ!”
ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกางเกงยีนส์เดินเข้ามาก่อน ยื่นมือไปหาลู่เฉินด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
เจนนี่เพิ่งจะก้าวออกมาจากประตูลิฟต์ เธอจึงรีบแนะนำให้ลู่เฉินรู้จักทันที “คนนี้คือเมียร์ จอยซ์ เป็นซีอีโอของสตูดิโอของพวกเราค่ะ”
ลู่เฉินเข้าใจทันที ยื่นมือออกไปจับมือกับอีกฝ่าย “ดีใจที่ได้รู้จักคุณครับ คุณเมียร์ จอยซ์”
“เรียกผมว่าเมียร์ก็พอแล้วครับ…”
เมียร์ยิ้มขณะพูด “พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของผม ได้ยินว่าคุณจะมา จึงออกมาต้อนรับคุณครับ!”
นี่คือประโยชน์จากรัศมีของ ‘ฮีโร่’ อย่างต้องสงสัย!
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยเอ่ยว่า “สวัสดีครับทุกคน…”
ลู่เฉินทักทายอย่างไม่ตื่นเต้น สมาชิกของบลูสกายสตูดิโอเข้ามาห้อมล้อมทันที โอบล้อมเขาเหมือนแฟนคลับไล่ตามดารา ขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป ขอกอด!
จากนั้นจึงโพสต์รูปลงบนทีบุ๊กของตัวเอง
ลู่เฉินคิดไม่ถึงว่าคนอเมริกันพวกนี้จะกระตือรือร้นถึงเพียงนี้ แต่เขาเจอเหตุการณ์เช่นนี้จนชินแล้ว รับมือได้สบายตอบสนองความต้องการของพวกเขาทีละอย่าง สร้างบรรยากาศที่กลมกลืนมาก
นี่จึงมองออกว่าบลูสกายสตูดิโอแตกต่างจากบริษัทอื่น บรรยากาศของที่นี่ค่อนข้างสบายๆ ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องมีความสนิทกันเหมือนเพื่อน และไม่เคร่งครัดเรื่องหัวหน้ากับลูกน้อง
หลังจากต้อนรับกันอย่างคึกคักแล้ว เมียร์จึงแนะนำสมาชิกสำคัญสองสามคนในสตูดิโอให้ลู่เฉินรู้จัก รวมถึงคริสโตเฟอร์พาร์ทเนอร์ของเขาที่ควบตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ด้วย
คริสโตเฟอร์เป็นคนหนุ่มที่ขี้อายมาก เขาตัวไม่สูงมากค่อนข้างผอม สวมแว่นตากรอบดำขนาดใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยสิวของวัยหนุ่มสาว พูดจาก็ตะกุกตะกัก
แต่ริชาร์ดนับถือคริสโตเฟอร์มาก เขาบอกลู่เฉินตอนที่โทรศัพท์ว่า ชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปีคนนี้เป็นอัจฉริยะด้านการทำสเปเชียลเอฟเฟกต์คนหนึ่ง มูลค่าครึ่งหนึ่งของบลูสกายสตูดิโออยู่ที่ตัวของเขา!
เพราะฉะนั้นลู่เฉินจึงเกรงใจคริสโตเฟอร์มากพอสมควร ทำให้คริสโตเฟอร์รู้สึกเหมือนได้รับความเอ็นดูเล็กน้อย
ภายใต้การเดินนำของเมียร์ คริสโตเฟอร์และคนอื่นๆ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เดินเยี่ยมชมสตูดิโอแห่งนี้ด้วยกัน
ขนาดของบลูสกายสตูดิโอไม่ใหญ่มาก พนักงานตอนนี้มีไม่ถึงสองร้อยคน ไม่อาจเทียบกับบริษัทใหญ่ๆ ที่มีนับร้อยนับพันคนได้ ดังนั้นการเช่าพื้นที่ก็เล็กตาม ภายในค่อนข้างคับแคบ
แต่ฮาร์ดแวร์ของบริษัทแห่งนี้ถือว่าดีอันดับหนึ่ง ใช้เวิร์กสเตชันรุ่นใหม่ล่าสุดในการผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ ความสามารถในการประมวลผลสูงมาก และพวกเขายังมี ZPDT โปรแกรมสังเคราะห์ดิจิทัลที่น่าภาคภูมิใจอีกด้วย
โปรแกรมสังเคราะห์ดิจิทัลชุดนี้เป็นเทคโนโลยีหลักของบลูสกายสตูดิโออย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ก่อตั้งทั้งสามคนใช้เวลาคิดค้นพัฒนาห้าปีเต็ม และนำไปใช้ในการผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์ของผลงานภาพยนตร์หลายเรื่องได้สำเร็จ ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก
ZPDT เมื่อเทียบกับโปรแกรมชั้นนำของโลก ไม่มีข้อได้เปรียบอะไรด้านเทคนิคมากนัก กระทั่งรายละเอียดการจัดการและการเรนเดอร์ภาพล้วนไม่เพียงพอ แต่ข้อได้เปรียบของมันคือเรียนรู้ได้ไม่ยากนัก ต้นทุนการใช้ก็ค่อนข้างต่ำ หรือพูดง่ายๆ ก็คือคุ้มค่ากว่า
และบลูสกายสตูดิโอก็ตั้งใจอยากจะพัฒนาเวอร์ชันให้สูงขึ้นไปอีก แต่ขาดกำลังด้านทุนทรัพย์
ตอนนี้บริษัทผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์และสตูดิโอของฮอลลีวูดเยอะขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันกันเองจึงดุเดือดมาก ธุรกิจขนาดเล็กอย่างบลูสกายสตูดิโอ ถ้าอยากจะรักษาการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องหางานให้เยอะขึ้น ไม่เช่นนั้นผลที่ได้หากไม่ล้มละลาย ก็ถูกควบกิจการจากบริษัทใหญ่
ทั้งสองอย่างไม่ใช่สิ่งที่ผู้ก่อตั้งทั้งสามคนอยากเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงอยากได้เงินลงทุนจากต่างประเทศมาก
เมียร์ให้ความกระตือรือร้นต่อลู่เฉิน ไม่ใช่เพราะเขาเป็นฮีโร่ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
แต่เพราะลู่เฉินมีเงินไง!
ซีอีโอของบลูสกายสตูดิโอคนนี้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับศักยภาพของเฉินเฟยมีเดียผ่านริชาร์ดนานแล้ว ไม่ใช่บริษัทที่ขาดเงินแน่นอน ดังนั้นเขาจึงพยายามพูดถึงความสามารถด้านเทคโนโลยีและอนาคตที่สดใสของตัวเองอย่างเต็มที่
ด้วยเหตุนี้เขาจึงให้คริสโตเฟอร์แสดงผลการสังเคราะห์ภาพเอฟเฟกต์พิเศษของ ZPDT เวอร์ชัน 2.75 รุ่นใหม่ล่าสุดให้ลู่เฉินดู
ไม่เพียงเท่านี้ เมียร์ยังพาลู่เฉินไปที่สตูดิโอดิจิทัลแห่งเดียวของสตูดิโอ เพื่อให้คนหลังได้สัมผัสเทคนิคการจับการเคลื่อนไหวที่อาศัยโปรแกรม ZPDT ด้วยตัวเอง!
…………………………………………………………………………