ตอนที่ 737 รำลึกความประทับใจแรก (1)
อู่ซานซานเรียกได้ว่าเป็นป๋อเล่อ[1]ของลู่เฉิน และแน่นอนว่าเธอเป็นป๋อเล่อที่โชคดีมาก
เพราะลู่เฉินม้าพันธุ์ดีตัวนี้ที่เปล่งแสงสว่างพร่างพรายออกมาในตอนนั้นค่อนข้างเจิดจรัสเลยทีเดียว ขอแค่เป็นคนที่สายตาเฉียบแหลมสักหน่อยย่อมดูออก โชคดีของเธอคือการที่สามารถคว้าลู่เฉินมาเซ็นสัญญาได้ก่อน
และสัญญาฉบับนั้น ก็กลายเป็นสัญญาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในอาชีพการงานของอู่ซานซาน และด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้ปัจจุบันนี้เธอได้กลายเป็นบุคคลระดับผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ ‘จิงอวี๋ทีวี’
ส่วนอู่หงหมิง ก็เลื่อนกระโดดขึ้นอีกหนึ่งขั้น ก้าวกระโดดขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ดังนั้นทั้งสองคนถึงได้มางานแฟนมีตติ้งที่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เป็นผู้จัดงานในครั้งนี้
เมื่อได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายกันไปนาน แม้ว่าสถานะของลู่เฉินในวงการจะอยู่ในระดับที่อู่หงหมิงและอู่ซานซานต้องแหงนมอง แต่เขากลับใจดีและเป็นกันเองเหมือนเมื่อก่อน ทั้งรอยยิ้มและคำทักทายที่จริงใจทำให้คนทั้งคู่ปลื้มอกปลื้มใจ
อู่หงหมิงพูดขึ้น “อาจารย์ลู่ พวกเราไปคุยด้านในกันเถอะ”
ภายใต้การนำทางของทีมงาน ‘จิงอวี๋ทีวี’ ลู่เฉินมาถึงในห้องรับรองแขกวีไอพีของศูนย์วัฒนธรรมเหม่ยเล่อ
เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวพิเศษของ‘จิงอวี๋ทีวี’ ที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก
รอจนกว่าการสัมภาษณ์จะเสร็จก็ใกล้เวลาหนึ่งทุ่มแล้ว
และในช่วงเวลานี้ที่นั่งในฮอลล์หลักของศูนย์วัฒนธรรมเหม่ยเล่อเต็มหมดแล้ว บนเวทีที่ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับหลากสีสัน หน้าจอแอลอีดีขนาดยักษ์แสดงภาพหัวข้องานและโลโก้ของ ‘จิงอวี๋ทีวี’
‘รำลึกความประทับใจแรก’… งานแฟนมีตติ้งของลู่เฉิน!
ฮอลล์หลักของศูนย์วัฒนธรรมเหม่ยเล่อจัดเป็นสถานที่ในร่ม มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มาก สามารถรองรับผู้ชมได้เพียง 500 คนเท่านั้น และผู้ชมเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของลู่เฉินบนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด
จากจำนวนทั้งหมด 500 ที่นั่ง จำนวน 300 ที่นั่งในนั้นถูกจัดสรรให้กับพวกคนรวยหรือแฟนพันธุ์แท้ที่ให้รางวัลในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินติด 300 อันดับแรก จำนวน 100 ที่นั่งถูกจัดสรรให้กับแฟนคลับรุ่นเก๋าหนึ่งร้อยคนแรกที่ติดตามลู่เฉิน และมีแฟนคลับอีก 50 คนที่มาจากการจับสลาก
สำหรับ 50 ที่นั่งสุดท้ายสงวนไว้สำหรับตัวแทนอย่างเป็นทางการและแขกรับเชิญพิเศษของ ‘จิงอวี๋ทีวี’
ซึ่งหมายความว่า 90% ของผู้ชมเป็นผู้สนับสนุนตัวยงของลู่เฉิน แม้ว่าจำนวนจะไม่มาก แต่ก็ไม่ต้องสงสัยถึงความกระตือรือร้นของพวกเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นแท่งไฟเรืองแสงหลายต่อหลายแท่งที่โบกไปมา หรือป้ายเชียร์ที่ชูขึ้นสูงอีกหลายๆ ป้าย และยังมีเสียงเชียร์ที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาดื่มด่ำอยู่กลางทะเลแห่งความสุข
เมื่อเวลาเดินมาถึงหนึ่งทุ่มตรง ลู่เฉินในชุดลำลองปรากฏตัวพร้อมกับดนตรีประกอบที่นุ่มนวล ผลักดันบรรยากาศของงานไปถึงจุดสูงสุด
“ลู่เฉิน!” “ลู่เฉิน!”
เริ่มมีเสียงร้องตะโกนเจี๊ยวจ๊าวผสมปนเปกัน ไม่นานก็กลายเป็นเสียงโห่ร้องที่เป็นระเบียบและเป็นหนึ่งเดียว เสียงดังขึ้นจนแทบจะทะลุฮอลล์!
เมื่อเผชิญกับคลื่นเสียง ลู่เฉินที่ยืนอยู่ใต้สปอตไลต์แจกรอยยิ้มและโบกมือราวกับร่ายเวทมนตร์บางอย่าง ไม่นานนักทั้งฮอลล์ก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว
มีเพียงแท่งไฟเรืองแสงและป้ายเชียร์เท่านั้นที่ยังคงโบกไปมา และแสงไฟหลากหลายสีก็สะท้อนใบหน้าที่แสดงความตื่นเต้นออกมา
เวทีที่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จัดขึ้นน่าสนใจมาก พวกเขาวางโต๊ะคอมพิวเตอร์สีน้ำเงินไว้ตรงกลาง พร้อมอุปกรณ์ถ่ายทอดสดครบชุด มีทั้งคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน และกล้องความละเอียดสูง
แน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเก้าอี้ถ่ายทอดสดที่สั่งทำขึ้นมา
อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ใช่อุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งหมดนี้ล้วนเปิดใช้งาน และกำลังถ่ายทอดสดไปยังแพลตฟอร์ม ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้เปิดช่องใหม่สำหรับงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้โดยเฉพาะ ผู้ชมบนแพลตฟอร์มนับร้อยล้านคนสามารถรับชมการถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์ได้ ทั้งยังสามารถคอมเมนต์สดและมอบของขวัญอีกด้วย
เมื่อลู่เฉินปรากฏตัวบนเวที จำนวนผู้ดูออนไลน์ในห้องถ่ายทอดสดของช่องแฟนมีตติ้งทะลุเกินห้าล้านคน และยังคงเพิ่มสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ ทั้งยังสร้างสถิติใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า!
สำหรับของขวัญอย่างเช่นลูกชิ้นปลาไม่สามารถอธิบายด้วยคำว่าเม็ดฝนได้อีกต่อไป ระบบแจ้งว่าความเร็วในการสาดใส่หน้าจอนั้นเร็วมากจนทำให้คนมองไม่ทัน เรือบรรทุกเครื่องบินบินว่อนเต็มหน้าจอ
“ฮ่าๆๆ เริ่มแล้ว!”
“ไม่พลาดด้วย ดีใจจังเลย!”
“อิจฉาคนพวกนั้นที่ได้ไปดูในงานจัง ฉันก็อยากไปนะ”
“ชาวฮู่ไห่ส่งข้อความแสดงความยินดี หวังว่าแฟนมีตติ้งของลู่เฉินจะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์!”
“ชาวปักกิ่งส่งข้อความแสดงความยินดี!”
“ชาวเซินไห่…”
ที่น่าสนใจก็คือ บรรดาผู้ถ่ายทอดสดของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จำนวนมากหยุดเล่น เพื่อมาร่วมสนุกและรับชมที่นี่ ทำให้ความสนใจของแพลตฟอร์มทั้งหมดตกไปอยู่ที่ลู่เฉินคนเดียว
มีเพียงลู่เฉินเท่านั้นที่ได้รับความนิยมและมีความน่าดึงดูดใจเช่นนี้!
ไม่มีพิธีกรของงาน แสงทั้งหมดส่องไปที่เขาเป็นจุดเดียว
ลู่เฉินนั่งลงบนเก้าอี้หันข้างให้ผู้ชมในงาน แล้วพูดว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้พบทุกคนในค่ำคืนนี้ขอบคุณ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ที่จัดแฟนมีตติ้งนี้ให้ผมและแฟนคลับทุกคน”
“เมื่อสามปีก่อนผมก็เป็นคนธรรมดาทั่วไปในสังคมเหมือนหลายๆ คนที่อยู่ในงาน ตอนนั้นผมยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ และทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพ…”
คำกล่าวเปิดงานของลู่เฉินนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ไม่ได้จงใจสร้างความประทับใจหรือสร้างบรรยากาศเขาเล่าประสบการณ์ชีวิตของเขาให้ผู้ชม 500 คน รวมถึงแฟนคลับหลายล้านคนใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ ฟัง
รำลึกความประทับใจแรก…
หลังจากผ่านไปสามปี เมื่อลองมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาสมัยนั้น ลู่เฉินทอดถอนใจมีความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่ภายในใจของเขา
ชีวิตคนเราช่างน่าอัศจรรย์มากเหลือเกิน ความฝันอันยาวนานทำให้เขาอยู่บนเส้นทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และบางครั้งก็สงสัยว่าเขายังอยู่ในความฝันยังไม่ตื่นขึ้นมาหรือไม่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีอยู่ในตอนนี้มันดูเกินจริงไปหน่อย
เขาไม่ได้พูดอะไรมากมาย ความทรงจำไม่ได้แสดงออกมาด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงดนตรีและการร้องเพลงด้วย
ลู่เฉินหยิบกีตาร์โปร่งไม้โรสวูดข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์ขึ้นมากอดแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมเชื่อว่าทุกคนจำกีตาร์ตัวนี้ได้ มันเป็นเครื่องดนตรีที่ผมรักมากที่สุด เพราะมันคือของขวัญวันเกิดที่ลู่เสวี่ยน้องสาวของผมมอบให้กับผม”
“ผมจะใช้มันเล่นเพลงทั้งหมดในค่ำคืนนี้ รวมทั้งเพลงแรกต่อไปนี้ด้วย…”
“เพลงที่ทุกคนคุ้นเคย!”
หลังจากพูดจบ ลู่เฉินเริ่มเกาสายกีตาร์ดีดอินโทรออกมา จากนั้นน้ำเสียงกังวานใสปนด้วยอารมณ์เศร้าเล็กน้อยของเขาก็ดังขึ้นตามมา ราวกับเสียงสายธารน้ำไหลเข้าหูของทุกคน
“พรุ่งนี้ฉันจะเดินทางไกล ย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ…”
“เธอยังจำคริสตัลสีฟ้าที่ฉันให้เธอได้ไหม”
“บนนั้นแกะสลักชื่อจริงของเธอ…”
“คริสตัลสีฟ้า!”
มีคนตะโกนชื่อเพลงออกมาเสียงดัง
‘คริสตัลสีฟ้า’ เป็นผลงานคลาสสิคที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่นิยม ด้วยเนื้อเพลงที่ไพเราะและท่วงทำนองที่สวยงาม ทำให้เป็นเพลงอันดับต้นๆ ที่คนนิยมร้องในร้านคาราโอเกะมาโดยตลอด
มันไม่ใช่เพลงที่ลู่เฉินแต่งขึ้น แต่เป็นเพลงที่ลู่เฉินเล่นและร้องบนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดในครั้งแรก
แม้ว่าแพลตฟอร์มที่เขาร้องเพลงในตอนนั้นจะไม่ใช่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ แต่แฟนเพลงรุ่นเก๋าหลายคนรู้จักลู่เฉินจากเพลงนี้!
…………………………………………………………………
[1]ป๋อเล่อเป็นผู้คัดเลือกม้าพันธุ์ดีในสมัยโบราณ ในปัจจุบันเปรียบเทียบกับผู้ที่มองเห็นความสามารถของผู้อื่น