Perfect Superstar – ตอนที่ 743 การรวมตัวของสตาร์

Perfect Superstar

ตอนที่ 743 การรวมตัวของสตาร์

ในวันที่สองของการบินมาฮ่องกง ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ได้เข้าซ้อมใหญ่สำหรับงานวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนของฮ่องกง

แม้ว่านี่จะเป็นการซ้อมครั้งแรกของทั้งสองคน แต่เนื่องจากเป็นการซ้อมใหญ่สมจริง นอกจากจะไม่มีผู้ชมจริงๆ แล้วโดยทั่วไปสิ่งอื่นๆ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากการแสดงอย่างเป็นทางการเลย

เซ็นจูรี่พลาซ่าในฮ่องกงตั้งอยู่ที่ย่านเซ็นทรัลของเกาะฮ่องกง ติดกับสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่องกง มีตึกระฟ้าที่มีชื่อเสียงอยู่ด้านหลัง และหันหน้าเข้าหาอ่าววิคตอเรีย ครอบคลุมพื้นที่กว่าสองแสนตารางเมตร รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 30 ปีที่กลับคืนสู่อ้อมกอดจีนและสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับการมาถึงของศตวรรษใหม่

นับตั้งแต่การก่อตั้งเซ็นจูรี่พลาซ่า งานวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนประจำปีจะถูกจัดขึ้นที่นี่ เนื้อหาของงานจะประกอบด้วยขบวนพาเหรด งานเลี้ยงฉลอง และการแสดงดอกไม้ไฟ การเฉลิมฉลองที่ครึกครื้นยิ่งใหญ่นี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

สำหรับผู้คนกว่า 10 ล้านคนในฮ่องกง วันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนเป็นวันเฉลิมฉลองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากวันตรุษจีน และรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยังระบุวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนเป็นวันหยุดตามกฎหมายด้วย

เนื่องจากการเฉลิมฉลองวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนเป็นไปอย่างคึกคักและมีสีสันทุกปี นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจึงแห่กันไปที่ฮ่องกง เพื่อเป็นสักขีพยานในความยิ่งใหญ่นี้

ตามสถานการณ์โดยทั่วไป ผู้ชมมากกว่า 100,000 คนจะหลั่งไหลเข้าสู่งานเฉลิมฉลองในช่วงเย็นของวันที่ 29 ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดสดในงาน อิทธิพลน่าจะเป็นอันดับสองรองจากงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน

เมื่อลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์มาถึงด้านหลังเวที ภายในนั้นคึกคักมีชีวิตชีวามาก

หลังเวทีแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกสำหรับดาราศิลปิน อีกส่วนสำหรับนักแสดงทั่วไปและกลุ่มนักแสดง พื้นที่กว้างขวางมาก โต๊ะเครื่องแป้งถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ศิลปินและนักแสดงหลายคนกำลังแต่งหน้าด้านหน้ากระจก ตรงทางเดินผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ยังมีช่างภาพถือกล้องไว้บนบ่าและกำลังบันทึกภาพ

มีผู้ช่วยสองคนติดตามลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์มา ผู้ช่วยของลู่เฉินยังคงเป็นหลีเจินคนเดิม

หลังจากการถ่ายทำ ‘โปเยโปโลเย’ และการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกง สตูดิโอในฮ่องกงของลู่เฉินไม่เพียงแต่ไม่ยุบลงหรือปิดตัวไปตอนที่เขากลับไปจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ยังใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อขยายขนาดและความแข็งแกร่งอีกด้วย

ปัจจุบันสตูดิโอลู่เฉินในฮ่องกงมีพนักงานมากกว่า 30 คน หน้าที่ความรับผิดชอบหลักในตอนนี้ คือการขยายกิจการ โปรโมตผลงาน ขายภาพลักษณ์ของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ในฮ่องกง เป็นต้น นอกจากนี้ยังดึงคนเก่งๆ ในฮ่องกงส่งไปยังสำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดียด้วย

ตามแผนของลู่เฉิน สตูดิโอในฮ่องกงจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นบริษัทเฉินเฟยมีเดียสาขาฮ่องกงในปีหน้า จะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้น เช่น การโปรโมตผลงานของเขาไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดเพื่อเสาะแสวงหาอิทธิพลที่มากขึ้น

0

ตามแผนของลู่เฉิน สตูดิโอในฮ่องกงจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นบริษัทเฉินเฟยมีเดียสาขาฮ่องกงในปีหน้า จะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้น เช่น การโปรโมตผลงานของเขาไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดเพื่อเสาะแสวงหาอิทธิพลที่มากขึ้น

และในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มเพลง ภาพยนตร์ หรือละครโทรทัศน์ที่เฉินเฟยมีเดียเป็นผู้ผลิต จะจัดจำหน่าย ฉาย และออกอากาศในฮ่องกงเป็นครั้งแรกผ่านเฉินเฟยมีเดีย ไม่ใช่เพียงแค่ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เท่านั้น แต่รวมไปถึงศิลปินทุกคนที่เซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียด้วย!

ลู่เฉินให้ความสำคัญกับแหล่งบันเทิงอย่างฮ่องกงมาก และในเบื้องต้นเขามีเส้นสายของตัวเองอยู่ที่นี่ด้วย

“สวัสดีครับคุณลู่เฉิน!” “สวัสดีค่ะอาจารย์ลู่!” “คุณลู่…”

เมื่อลู่เฉินปรากฏตัวที่หลังเวที ดาราดังมากมายต่างก็ทยอยเข้ามาทักทายเขาอย่างอบอุ่น

ดาราเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นศิลปินฮ่องกง ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ในจำนวนนี้มีดารามากหน้าหลายตาที่ลู่เฉินรู้จัก และสามารถบอกชื่อของแต่ละคนได้ด้วย แต่ความสนิทสนมด้วยนั้นกลับมีน้อยมาก

ไม่ว่าจะสนิทหรือไม่ เขาก็ตอบรับอย่างสุภาพทีละคน โบกมือทักทายสักสองสามประโยค แสดงออกได้อย่างเหมาะสม

ในทางกลับกันเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มาพร้อมกับลู่เฉินกลายเป็นตัวประกอบเสียอย่างนั้น แม้ว่าหลายคนจะเริ่มทักทายแต่ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจเท่ากับลู่เฉิน

แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกละเลยอะไร กลับภูมิใจในตัวลู่เฉินเสียด้วยซ้ำ

ว่าด้วยความนิยมในฮ่องกง ท่ามกลางหมู่ดาราดังในจีนแผ่นดินใหญ่ ลู่เฉินคือที่หนึ่งที่คู่ควร นอกจากผลกระทบของเหตุการณ์เที่ยวบิน UD725 เมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการขยายอาชีพของเขาในฮ่องกง โดยอาศัย ‘โปเยโปโลเย’ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และละครโทรทัศน์อื่นๆ สะสมรวบรวมความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

และเขายังเขียนเพลง ‘รักที่สุดในชีวิต’ ‘ถนนไม่มีที่สิ้นสุด’ ซึ่งถือเป็นผลงานภาษากวางตุ้งสุดคลาสสิก ที่เพิ่มพลังชีวิตและความมีชีวิตชีวาให้กับเพลงป็อปภาษากวางตุ้งที่ความนิยมลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย

สิ่งเหล่านี้ได้สร้างสถานะปัจจุบันของลู่เฉินในวงการบันเทิงฮ่องกง!

“ลู่เฉิน เฟยเอ๋อร์!”

เพียงไม่นานทั้งสองก็พบกับเพื่อนที่รู้จักร่วมกันคนหนึ่ง ซูจิ้ง!

“พี่จิ้ง!”

เฉินเฟยเอ๋อร์โผเข้ากอดซูจิ้งแน่นด้วยความประหลาดใจ “ไม่เจอกันนานเลยนะคะ!”

ซูจิ้งเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ฮ่องกง ทั้งสองรู้จักกันมาหลายปีแล้ว จัดอยู่ในประเภทที่ไม่เจอกันนานหลายปีแต่ความเป็นเพื่อนแท้ยังเหมือนเดิม

ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองพบกันคือรอบปฐมทัศน์ของ ‘โปเยโปโลเย’ และพริบตาเดียวก็ได้ผ่านไปกว่าครึ่งปีแล้ว

ซูจิ้งดูสดใสและมีเสน่ห์มาก ไม่เหมือนผู้หญิงในวัยใกล้สี่สิบเลยสักนิด รอยยิ้มของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกถึงสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ

หลังจากทักทายอย่างอบอุ่นกับเฉินเฟยเอ๋อร์แล้ว เธอได้หันไปกอดลู่เฉินอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง พลางยิ้มถาม “ลู่เฉินไหนๆ ครั้งนี้มาฮ่องกงพร้อมกับเฟยเอ๋อร์ทั้งทีอยู่ต่ออีกสักสองสามวันสิ พวกเราไปเที่ยวทะเลกันดีไหม”

ลู่เฉินยิ้มอย่างขมขื่น “เกรงว่าจะไม่มีเวลาน่ะสิครับ…”

ปีนี้งานของเขายุ่งมาก ตารางงานของเขาเต็มแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการอยู่ต่ออีกสองสามวัน เพราะหลังจากเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองเสร็จเขาต้องบินกลับกรุงปักกิ่งในวันรุ่งขึ้นทันที

ซูจิ้งดึงเฉินเฟยเอ๋อร์และยืนกรานพูดต่อ “เฟยเอ๋อร์ช่วยคุยกับแฟนของเธอให้พี่จิ้งหน่อยสิ ถึงยังไงก็ต้องให้โอกาสฉันขอบคุณสักครั้ง”

เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มริมฝีกปากยิ้ม “พี่จิ้ง ถ้าอย่างนั้นพี่เลี้ยงข้าวเราก็แล้วกัน!”

สาเหตุที่ซูจิ้งอยากจะขอบคุณลู่เฉินก็เพราะว่าอัลบั้ม ‘วันคืนสงบสุข’ ของเธอที่ออกเมื่อต้นปีนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จทำยอดขายระดับดับเบิลแพลทินัมดิสก์เท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลทางดนตรีอีกหลายรายการอีกด้วย

เพลงหลัก ‘ลมฤดูร้อน’ และเพลงรอง ‘ความกล้าหาญ’ ที่ลู่เฉินแต่งในอัลบั้ม ‘วันคืนสงบสุข’ ติดชาร์ตสามอันดับแรกเป็นเวลาเจ็ดสัปดาห์ติดต่อกันในฮ่องกงป็อบเรดิโอ โดยเฉพาะเพลง ‘ความกล้าหาญ’ เพลงนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ดีที่สุดของการกลับมาของซูจิ้งในวงการเพลง

ซูจิ้งในปัจจุบัน อาศัยอัลบั้มขายดีชุดนี้ ได้กลับมาครองตำแหน่งนักร้องหญิงแถวหน้าในฮ่องกงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานพรีเซ็นเตอร์ งานแสดง และงานออกรายการต่างๆ รับงานเข้ามาจนมือไม้อ่อน ทำเงินได้มากมายมหาศาล

ซูจิ้งเคยแต่งงานเข้ามาในครอบครัวที่ร่ำรวย จึงไม่ขัดสนเรื่องเงิน แต่ความรู้สึกในการกลับมาสู่จุดสูงสุดในอาชีพการงานนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับเธออย่างไม่ต้องสงสัย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรู้สึกขอบคุณลู่เฉินมากมายขนาดนี้

ลู่เฉินเห็นด้วยกับสิ่งที่เฉินเฟยเอ๋อร์เสนอ “นั่นสิ ทานอาหารด้วยกันสักมื้อหนึ่ง!”

ซูจิ้งถอนหายใจและพูดว่า “พวกเธอทั้งคู่…ก็ได้ งั้นก็เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้เราไปทานอาหารเย็นด้วยกัน”

ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันก็เกิดความชุลมุนที่บริเวณหลังเวทีอีกครั้ง

หลิวกั่งเซิงและซือฟางได้มาถึงแล้ว

เป็นการรวมตัวของสตาร์ชัดๆ!

…………………………………………………………………..

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน