ตอนที่ 744 จริงจัง
การซ้อมใหญ่สำหรับงานเฉลิมฉลองคืนสู่อ้อมกอดจีนเป็นไปอย่างราบรื่น
ในพิธีที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ศิลปินดาราต่างก็ทุ่มสุดตัว แสดงความสามารถของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ ไม่มีใครกล้าทำแบบขอไปที แม้ว่าจะเป็นเพียงการซ้อม แต่ก็ไม่ต่างจากการแสดงอย่างเป็นทางการจริงๆ
เวลาผ่านไปเร็วมาก ใกล้จะถึงวันงานกลับคืนสู่อ้อมกอดจีนเข้ามาอีกวัน
เย็นวันที่สามที่ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์บินไปที่ฮ่องกง ทั้งคู่รับประทานอาหารมื้อเย็นหลากหลายเมนูร่วมกับซูจิ้ง
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็เปลี่ยนเป็นอาหารว่างและน้ำชา ทั้งสามนั่งคุยกันอย่างสบายๆ
คุยกันไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นซูจิ้งก็ถามขึ้น “พวกเธอทั้งคู่เมื่อไหร่จะแต่งงานกันล่ะ”
ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์มองหน้ากันยิ้มๆ ดูเหมือนว่าในปีนี้พวกเขาจะถูกถามคำถามเดียวกันหลายครั้งเหลือเกิน
ทุกคนใส่ใจและสนใจมาก!
ลู่เฉินหัวเราะ “ถ้าไม่ติดอะไร ผมคิดว่าคงจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปีหน้า…”
เขาเป็นแฟนกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาเกือบสามปีแล้ว และถึงเวลาที่ควรจะลงหลักปักฐานได้แล้ว แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่ศิลปินดาราจะแต่งงานช้า และคนส่วนใหญ่ในวงการอายุ 30-40 ปีถึงจะจดทะเบียนสมรสกัน
แต่ลู่เฉินรู้สึกว่าเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ จริงๆ แล้วความรักไม่จำเป็นต้องใช้เวลายาวนานขนาดนั้นหรอก ในฐานะที่เป็นผู้ชายและโตเป็นผู้ใหญ่พอแล้ว เขาพร้อมแล้วที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้!
นอกเหนือจากนั้น สิ่งอื่นใดก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ดังนั้นเขาจึงตอบคำถามของซูจิ้งตรงๆ และสิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นการตัดสินใจของเขาหลังจากที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
แต่ในฐานะเจ้าของเรื่องอีกฝ่ายหนึ่ง เฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะทั้งสองได้คุยและปรึกษากันมาก่อนหน้านี้ว่า ภายในสองปีนี้จะขยายธุรกิจเป็นหลัก เรื่องการแต่งงานนั้นอาจจะต้องรออีกสักพัก คิดไม่ถึงว่าลู่เฉินได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ซูจิ้งไปแล้วในตอนนี้
แม้จะแปลกใจ แต่คำตอบของลู่เฉินยังคงทำให้เธอรู้สึกหวานละมุนอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน อดไม่ได้ที่จะกุมมือของลู่เฉิน แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เธอรู้ดีว่าลู่เฉินนั้นจริงจัง!
“ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีด้วยนะ!”
ซูจิ้งยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เธอแค่ถามไปอย่างนั้นเอง และส่วนใหญ่จะเป็นการหยอกล้อเสียมากกว่า นึกไม่ถึงว่าคำพูดที่ยิ่งใหญ่จะร่วงออกมาจากปากของลู่เฉิน
0
ซูจิ้งยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เธอแค่ถามไปอย่างนั้นเอง และส่วนใหญ่จะเป็นการหยอกล้อเสียมากกว่า นึกไม่ถึงว่าคำพูดที่ยิ่งใหญ่จะร่วงออกมาจากปากของลู่เฉิน
ในขณะที่ประหลาดใจ ซูจิ้งก็รู้สึกอิจฉาอย่างสุดซึ้ง
เพราะเธอเห็นว่าความรู้สึกของลู่เฉินที่มีต่อเฉินเฟยเอ๋อร์นั้นเห็นทีจะจริงใจไปกว่านี้อีกไม่ได้แล้ว และในวงการบันเทิงที่ชายหญิงเคยชินกับการรักๆ เลิกๆ มีหลายกรณีที่ความรักเบ่งบานแต่ไม่ออกผล ทำให้รักแท้ดูเป็นสิ่งไร้ค่าไปเลย
สมบัติล้ำค่าหาง่าย แต่รักแท้หายาก! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ซูจิ้งอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้งว่า “ตัดสินใจไว้หรือยังว่าจะไปฮันนีมูนกันที่ไหน”
ลู่เฉินส่ายหัว “ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ผมอยากจดทะเบียนสมรสกับเฟยเอ๋อร์ก่อน แล้วค่อยมาเลือกวันวิวาห์กันอีกที”
ซูจิ้งพยักหน้า “งานแต่งงานต้องมีการวางแผนอย่างดี ถ้าอยากโรแมนติกกว่านี้ละก็เช่าเกาะเล็กๆ ในทะเลอีเจียน…”
เธอคุยกับเฉินเฟยเอ๋อร์เกี่ยวกับงานแต่งงานด้วยความสนใจ และรู้สึกกระตือรือร้นมาก
หลังจากที่ซูจิ้งใส่ใจเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่ เฉินเฟยเอ๋อร์ก็สนใจเรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอเช่นกัน “พี่จิ้ง พี่คิดจะแต่งงานอีกครั้งไหม ฉันเห็นข่าวว่ามีคนตามจีบพี่ไม่น้อยเลย”
ซูจิ้งและเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดี หลังจากงานแต่งงานของซูจิ้งล่มไม่เป็นท่า เฉินเฟยเอ๋อร์ก็บินมาที่ฮ่องกงคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอช่วงหนึ่ง
ตอนนี้ซูจิ้งประสบความสำเร็จในการกำจัดเงาในอดีต และประสบความสำเร็จอย่างมากในการกลับคืนสู่วงการบันเทิง เป็นธรรมดาที่เธอจะตกเป็นเป้าหมายของปาปารัสซี่
เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานข่าวซุบซิบว่ามีชายหนุ่มร่ำรวยและดาราชายหลายคนในวงการตามจีบซูจิ้งหลายต่อหลายครั้ง แม้แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ที่อยู่ไกลถึงกรุงปักกิ่งยังเห็นรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องบนอินเทอร์เน็ต
ในฐานะเพื่อนสนิทที่ตนเองมีความสุขกับความรัก เฉินเฟยเอ๋อร์ก็หวังว่าซูจิ้งจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง
“ฉันเหรอ”
ซูจิ้งยิ้มและส่ายหัวพลางพูดขึ้น “บอกตามตรงฉันรู้สึกว่าในตอนนี้ได้ใช้ชีวิตอิสระเพียงลำพังคนเดียวดีที่สุด ไม่มีแผนจะหาใครมาแต่งด้วย ในอนาคตถ้าแก่ตัวลงก็จะรับเด็กมาเลี้ยง จะไม่มีความเสียใจอีกในชีวิตนี้”
ขณะที่พูดสายตาของเธอฉายแววจริงจัง
…
“นายว่า พี่จิ้งตั้งใจจะใช้ชีวิตโสดไปตลอดชีวิตเลยจริงๆ เหรอ”
ระหว่างทางกลับบ้าน เฉินเฟยเอ๋อร์พิงอยู่ในอ้อมแขนของลู่เฉินและถามด้วยแววตาที่พร่ามัว “อย่างนั้นมันจะเป็นทุกข์ไหม”
ในช่วงเย็นเธอคุยกับซูจิ้งอย่างออกรสออกชาติ ทั้งสองดื่มไวน์องุ่นไปหนึ่งขวด ตอนนี้เริ่มมีอาการกรึ่มๆ และอารมณ์ก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าเล็กน้อย ถอนหายใจให้กับความรักแย่ๆ ของเพื่อนรัก
ลู่เฉินกอดเธอและเอ่ยขึ้น “ไม่หรอก ผมเชื่อว่าพี่จิ้งจะหาความสุขของเธอจนเจอเอง!”
เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
หลังจากนั้นไม่นานรถเมอร์เซเดสเบนซ์ที่พวกเขานั่งอยู่ก็หยุดลงที่ริมถนนอย่างช้าๆ
“ถึงบ้านแล้วเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยืดตัวขึ้น รู้สึกว่าสถานการณ์แปลกๆ ไป “เอ๊ะ? จอดที่นี่ทำไมน่ะ”
ที่นี่ไม่ใช่รีพัลส์เบย์ที่พวกเขาทั้งสองพักอยู่ แต่เป็นเซ็นทรัลอเวนิวที่คึกคักและเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าสุดหรู!
“ถูกต้องแล้ว…”
ลู่เฉินเปิดประตูรถและดึงเฉินเฟยเอ๋อร์ลงจากรถพร้อมกัน “เราจอดรถกันที่นี่แหละ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ถูกลู่เฉินดึงไปด้วยความงุนงง ไม่นานก็มาถึงประตูร้านที่ปิดและดับไฟแล้ว
“เราจะซื้ออะไรกันเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ที่ยังไม่สร่างเมาถูกลู่เฉินทำให้รู้สึกสับสนไปหมด “ที่นี่ปิดแล้วนี่นา!”
ทันทีที่เธอพูดจบ ประตูกระจกสองบานของร้านก็ถูกดึงเปิดจากด้านใน และไฟภายในและภายนอกก็สว่างขึ้นทันทีแสงที่นุ่มนวลและสว่างไสวได้กำจัดความมืดและส่องมายังทั้งสอง
เฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกว่าด้านหน้าของเธอสว่างขึ้น เห็นเพียงพนักงานแนะนำสินค้าแสนสวยสองคนในชุดเครื่องแบบสีแดงยืนอยู่ที่ประตู พวกเขาโค้งคำนับและทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณลู่ คุณเฉิน ยินดีต้อนรับสู่หอเจินชุ่ย!”
เฉินเฟยเออร์ได้สติสร่างเมาขึ้นมาทันที จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น!
ลู่เฉินวางแผนเซอร์ไพรส์ให้เธออย่างเงียบๆ
หอเจินชุ่ยเป็นแบรนด์เก่าแก่นับร้อยปีในฮ่องกง เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจเครื่องประดับหยก ลู่เฉินใช้ความคิดอย่างมากในการทำให้หอเจินชุ่ยปิดร้านเพื่อให้บริการเธอโดยเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่สุดคือเมื่อไม่นานนี้เธอเห็นชุดเครื่องประดับหยกบนนิตยสารโฆษณาและชอบมันมาก พร้อมกับบอกว่าหากมีโอกาสจะไปดู และบังเอิญว่าเป็นหอเจินชุ่ยที่ลงโฆษณาในนิตยสาร!
ในตอนนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์พูดไปอย่างนั้นไม่ได้ใส่ใจ แต่ลู่เฉินกลับจดจำและเก็บมันไว้ในใจ!
เวลานี้หัวใจของเฉินเฟยเอ๋อร์เต็มไปด้วยความสุขแสนหวาน เธอแทบไม่ได้สนใจการปิดร้านซื้อของพรรค์นี้เลย ด้วยทรัพยากรทางการเงินและชื่อเสียงของเธอเธอสามารถทำเองได้อยู่แล้ว
สิ่งที่ทำให้เธอประทับใจคือความตั้งใจของลู่เฉิน!
หากไม่มีพนักงานแนะนำสินค้ามากมายภายในร้านละก็ เฉินเฟยเอ๋อร์คงจะมอบจูบแสนหวานเพื่อแสดงถึงความรักที่ร้อนแรงของเธอในทันที
ลู่เฉินจับมือเธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เราไปดูเครื่องประดับหยกในโฆษณากันก่อน ผมให้พวกเขาเตรียมไว้ให้แล้วยังมีแบบอื่นๆ อีก ค่อยเลือกดูก็ได้ เพียงแค่ที่คุณชอบมัน ก็ซื้อได้หมดเลย”
พนักงานแนะนำสินค้ารอบๆ ต่างพากันส่งสายตาริษยาและอิจฉาตาร้อนไปยังเฉินเฟยเอ๋อร์
ผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยและเอาใจแฟนสาวมากแบบนี้มีน้อยมากจริงๆ!
…………………………………………………………