ตอนที่ 749 มูลค่าทรัพย์สินพุ่งสูงขึ้น
วันที่ 1 ธันวาคม ลู่เฉินที่กำลังหลับใหลอยู่ในห้วงนิทรา ได้รับสายโทรศัพท์จากหลี่มูซืออีกครั้ง
เว็บไซต์ระดมทุนได้จดทะเบียนในแนสแด็กอย่างเป็นทางการในเวลา 09.30 น.ของ วันที่ 30 ตามช่วงเวลาของอเมริกาตะวันออก ราคาเปิดอยู่ที่ 23.50 ดอลลาร์สหรัฐ ได้รับความนิยมจากตลาดราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วงเวลาปิดตลาด 16.00 น. หุ้นได้เพิ่มขึ้นเป็น 45.76 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 100%
มูลค่าตลาดของเว็บไซต์ระดมทุนยังสูงถึง 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ!
แม้ว่าจะไม่ได้สร้างตำนานของตลาด อีกทั้งราคาวันแรกเพิ่มขึ้น 100% ก็ไม่อยู่ใน 10 อันดับแรกของบริษัทอินเทอร์เน็ตที่จดทะเบียนในแนสแด็ก แต่เมื่อเทียบกับห้าปีที่ผ่านมา ผลลัพธ์ของเว็บไซต์ระดมทุนนั้นน่าประทับใจมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO[1]ของเว็บไซต์ระดมทุนในแนสแด็กได้สร้างมหาเศรษฐีหลายคนในเวลาเดียวกัน หลี่มู่ซือที่ถือหุ้นมากที่สุดนั้นไม่ต้องเอ่ยถึง ส่วนลู่เฉินเนื่องจากถือหุ้นผู้ก่อตั้ง 10% ของเว็บไซต์ระดมทุน มูลค่าทรัพย์สินของเขาจึงเพิ่มขึ้นเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในชั่วข้ามคืน!
“นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น…”
หลี่มู่ซือพูดอย่างภาคภูมิใจผ่านทางโทรศัพท์ “เป้าหมายของเราคือราคาหุ้น 100 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าตลาด 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่แหละคือความสามารถที่เว็บไซต์ระดมทุนมี!”
หลี่มู่ซือไม่ได้ภูมิใจจนถึงขั้นหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป แม้ว่ารูปแบบการระดมทุนออนไลน์ในปัจจุบันที่สร้างโดยเว็บไซต์ระดมทุนจะไม่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ความคิดสร้างสรรค์เชิงพาณิชย์อีกต่อไป แต่ด้วยรูปแบบนวัตกรรมและความได้เปรียบของผู้ที่ริเริ่มเป็นเจ้าแรก ประกอบกับการลงทุนจำนวนมากและการพัฒนาตลาดในระยะแรก ดังนั้นเมื่อเผชิญกับการแข่งขันจากหลายๆ บริษัท ส่วนแบ่งการตลาดของเว็บไซต์ระดมทุนก็ยังทิ้งห่างจากอันดับที่สองไปไกลมาก
ปัจจุบันเว็บไซต์ระดมทุนมีส่วนแบ่งตลาดในจีน 65% ในอเมริกา 30%+ ประสบความสำเร็จในการทำกำไรในปีที่แล้ว และการทำกำไรในปีนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเปิดตลาดราคาจึงเพิ่มขึ้นอย่างดุดัน
ตามการประมาณการของผู้เชี่ยวชาญ ในอีกสองวันข้างหน้าราคาหุ้นของเว็บไซต์ระดมทุนน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง หากปีหน้าสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้เท่าเดิม เช่นนั้นมูลค่าตลาดทะลุหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป!
“ยินดีด้วย พี่มู่ซือ!”
หลู่เฉินหัวเราะพลางพูดขึ้น “เศรษฐีนี!”
หลี่มู่ซือพูดเชอะใส่ “ฉันนับว่าเป็นเศรษฐีนีที่ไหนกันล่ะ ในประเทศนี้มีผู้หญิงที่รวยกว่าฉันอีกเยอะน่า”
ลู่เฉินแซวเล่น “ผมหมายถึงคนที่อายุน้อยกว่า 30 ปีต่างหาก…”
ปัจจุบันหลี่มู่ซือถือหุ้น 37.5% ในเว็บไซต์ระดมทุน แม้จะคิดตามมูลค่าตลาดในวันแรก เธอก็ยังมีมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบรรดาเศรษฐีนีอายุต่ำกว่า 30 ปีในจีน เธอมีคุณสมบัติในการครองบัลลังก์เศรษฐีนีที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ
“ถึงจะน้อยกว่า 30 ปี ฉันก็เป็นไม่ได้หรอก…”
หลี่มู่ซือปรับแก้ความเข้าใจของเขาให้ถูกต้องอย่างจริงจังอีกครั้ง “มีอยู่สองคนที่ฉันรู้จักก็เกินยอดจำนวนนี้นะ แต่ถ้ามูลค่าตลาดขึ้นไปถึงหมื่นล้าน ก็น่าจะไม่ต่างกันเท่าไรแล้ว”
ลู่เฉินหัวเราะเอ่ยว่า “พี่มู่ซือ ผมเชื่อว่าพี่ทำได้!”
เว็บไซต์ระดมทุนมีทุกวันนี้ได้ ความพยายามของหลี่มู่ซือเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ เพื่อให้เว็บไซต์ระดมทุนจดทะเบียนเข้าแนสแด็ก เธออุทิศเวลาทั้งหมดให้กับงานของเธอ ไม่มีแฟน ไม่ชอปปิง และมักจะลืมกินลืมนอนอยู่บ่อยๆ อีกด้วย
นี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับตอบแทน!
ลู่เฉินคุยกับหลี่มู่ซืออีกสองสามประโยคก่อนจะวางสาย
เขาดูเวลาตอนที่วางโทรศัพท์ลง ตอนนี้เป็นเวลาตี 5.17 น. ฟ้ายังไม่สว่าง!
มูลค่าเพิ่มตั้ง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ?
รู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่เลย!
ลู่เฉินเอนตัวพิงหัวเตียง สมองตื่นตัวมาก นอนไม่หลับอีกต่อไป
“สายจากใครเหรอ”
เฉินเฟยเออร์งัวเงียตื่นขึ้น เธอลืมตาปรือและถามว่า “ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
เธอหันศีรษะ ผ้าที่เธอห่มอยู่เลื่อนลง เผยร่างกายเปลือยเปล่าโดยไม่รู้ตัว
ลู่เฉินช่วยห่มผ้าให้เธออีกครั้งและเอ่ยว่า “สายจากพี่มู่ซือน่ะ แนสแด็กเพิ่งปิดตลาดไป และมูลค่าตลาดของเว็บไซต์ระดมทุนก็เกือบ 4,000 ล้านแล้ว”
“หา?”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตกตะลึงและตื่นขึ้นเต็มตา “4,000 ล้านดอลลาร์เลยเหรอ”
ลู่เฉินตอบยืนยัน “ใช่แล้ว”
เฉินเฟยเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “งั้นนายก็ทำเงินได้ 400 ล้านดอลลาร์เลยใช่ไหม”
ลู่เฉินยิ้มเอ่ย “จะมากขึ้นอีก พี่มู่ซือบอกว่ามันยังจะพุ่งขึ้นอีก”
“เหลือเชื่อ…”
เฉินเฟยเอ๋อร์ถึงกับพูดไม่ออก
เธอเดบิวต์มานานกว่าสิบปี และทำงานอย่างหนักเพื่อหารายได้ด้วยการร้องเพลง จากนั้นจึงทุ่มเงินทั้งหมดที่หามาอย่างยากลำบากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าทรัพย์สินที่สะสมได้ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันล้าน แถมยังเป็นเงินหยวนอีกต่างหาก
ลู่เฉินแค่สร้างเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมา แล้วขายหุ้นส่วนใหญ่ของเขาไป สุดท้ายหุ้นที่เหลืออยู่กลับมีมูลค่าหลายพันล้าน แบบนี้ใครจะรับได้ ช่างทำให้คนอื่นขายหน้าเสียจริง
“โอ๊ย…”
เฉินเฟยเอ๋อร์เอื้อมมือออกไปหยิกลู่เฉินหนึ่งที “ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ต่อไปฉันจะไม่ทำงานแล้ว นายเลี้ยงฉันเลยนะ!”
ลู่เฉินหัวเราะพลางกอดเธอ “จัดไปครับ หลังจากนี้ คุณจะดื่มน้ำเต้าหู้ก็สามารถดื่มได้สองถ้วยเลยนะ น้ำเต้าหู้รสหวานหนึ่งถ้วย น้ำเต้าหู้รสเค็มหนึ่งถ้วย แล้วก็จะกินปาท่องโก๋กี่ตัวก็ได้ เป็นยังไงครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะและเอ่ยว่า “ฉันไม่ดื่มน้ำเต้าหู้กับกินปาท่องโก๋หรอกนะ!”
ลู่เฉินกดเธอไว้ใต้ร่าง พรมจูบใบหน้าของเธอและพูดอย่างมีเลศนัย “งั้นก็เปลี่ยนเป็นเต้าฮวย ซื้อสองถ้วย กินถ้วยหนึ่ง เททิ้งถ้วยหนึ่ง…”
“ไม่เอา…”
เมื่อถูกคลื่นโหมซัด เช้านี้ก็เปลี่ยนเป็นความละมุนละไมขึ้นมาทันที
…
เริ่มต้นวันใหม่อีกวัน
วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนที่ไปทำงานต่างเร่งรีบ กระฉับกระเฉงว่องไวเป็นพิเศษ
พนักงานออฟฟิศขึ้นรถไฟใต้ดินหรือขึ้นรถประจำทางไปทำงานแต่เช้า การจราจรในเมืองกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง สามารถมองเห็นคนใน ‘สังคมก้มหน้า’ ถือโทรศัพท์ในมือได้ทุกที่ในตู้โดยสารที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน
จากนั้นแฟนๆ ของลู่เฉินหลายคน ก็เห็นชื่อลู่เฉินในหัวข้อข่าวเศรษฐกิจและการเงินของเว็บท่าขนาดใหญ่ทั้งหลาย ในนั้นมีหัวข้อข่าวเขียนว่า ‘400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ’ ที่เป็นตัวหนาสีดำสะดุดตาเป็นพิเศษ!
‘เว็บไซต์ระดมทุนประสบความสำเร็จในการจดทะเบียนเข้าแนสแด็กเรียบร้อย มูลค่าทรัพย์สินของดาราผู้ก่อตั้งได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!’
‘มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้าน เผยประวัติความร่ำรวยของดารามหาเศรษฐีลู่เฉิน!’
‘ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว…’
ในบล็อกล่างฉาวได้ลุกเป็นไฟ ข้อความแสดงความยินดีและความคิดเห็นที่มีทั้งความอิจฉาริษยาและความเกลียดชัง ราวกับกระแสน้ำไหลมารวมกันในบล็อกของลู่เฉิน คนวงในการก็แท็กลู่เฉินเพื่อแสดงความยินดีเป็นจำนวนไม่น้อย
ดาราเข้าร่วมหุ้นบริษัทไม่ใช่ข่าวใหม่อะไรมาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะดาราศิลปินดังๆ หากไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทสักสองสามแห่งนั้นเป็นเรื่องน่าอาย และหลายๆ บริษัทในนั้นก็ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ทำให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่สถานการณ์ของลู่เฉินต่างจากเพื่อนร่วมวงการคนอื่น ประการแรกเขาเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ระดมทุน เขาก่อตั้งเว็บไซต์ระดมทุนมากับมือของเขาเอง ประการที่สองเว็บไซต์ระดมทุนไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ของจีนหรือฮ่องกง แต่เป็นแนสแด็กที่เข้ายากที่สุด
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ สิ่งที่ลู่เฉินได้รับคือเงินของผู้ถือหุ้นชาวอเมริกัน!
ความสำเร็จนี้เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ดาวดวงใหม่ในวงการธุรกิจและวงการอินเทอร์เน็ตจำนวนมากต้องอับอาย!
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วลู่เฉินจะถอนตัวออกจากการบริหารเว็บไซต์ระดมทุน หลังจากโอนหุ้นส่วนใหญ่ของเขาไปแล้ว แต่เว็บไซต์ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์สำเร็จ ก็ยังทำให้เขาได้รับออร่าเปล่งประกายระยิบระยับ!
…………………………………………………………….
[1]IPO (Initial Public Offering) การเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับสาธารณะชน
