ตอนที่ 761 ความนิยมในประเทศเกาหลี
สนามบินนานาชาติโซล ห้องโถงใหญ่ของอาคารผู้โดยสาร
จินซิ่วเหม่ยกับเพื่อนนักศึกษาของเธออีกสองคนกำลังเบียดอยู่ท่ามกลางผู้คน จ้องมองช่องทางเดินผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศหมายเลขสองด้วยสีหน้าตื่นเต้น
รอบๆ ตัวเธอ มีนักข่าวกำลังถือกล้องพร้อมเลนส์สั้นเลนส์ยาวหลายคน และยังมีทีมงานจัดทำการสัมภาษณ์ของสถานีโทรทัศน์อีกด้วย แต่ที่มากไปกว่านั้นคือพวกแฟนคลับเหมือนเธอ หลังจากที่ทราบข่าวแล้วรีบมารอรับไอดอลที่สนามบินทันที
ไอดอลของจินซิ่วเหม่ย ก็คือลู่เฉินพระเอกของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ‘ฟูลเฮ้าส์’ และ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ซึ่งเป็นดาราดังจากจีนแผ่นดินใหญ่!
เธอทราบข่าวว่าลู่เฉินจะบินมาที่โซลจาก FLOO และไม่รู้ว่าคนวงในที่ไหนที่ข้อมูลข่าวสารฉับไวมาก เปิดเผยในFLOO ว่าลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาที่เกาหลีเพื่อร่วมรายการของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส และยังบอกเที่ยวบินอีกด้วย
FLOO เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ลู่เฉินเป็นดาราจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในFLOO อาศัยละครแนวความรักของคนเมืองสามเรื่องขยายฐานแฟนคลับได้จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
ในฐานะนักศึกษาหญิงแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลคนหนึ่ง จินซิ่วเหม่ยสามารถพูดได้ว่าเป็นแฟนคลับตัวยงของลู่เฉิน เธอไม่เพียงแต่ดูผลงานละครและภาพยนตร์ทั้งหมดของลู่เฉินเท่านั้น แต่ยังซื้ออัลบั้มเวอร์ชันที่ระลึกสองอัลบั้มของลู่เฉินอีกด้วย
และในหมู่เพื่อนๆ ของเธอ ก็มีคนหลงใหลชื่นชอบลู่เฉินเยอะมาก ดังนั้นวันนี้เธอจึงติดต่อเพื่อนสนิทอีกสองคนมาที่สนามบินนานาชาติโซลได้อย่างง่ายดาย เพื่อต้อนรับไอดอลของตัวเองสู่ประเทศเกาหลี
ผลปรากฏว่าหลังจากที่ถึงสนามบินแล้วจินซิ่วเหม่ยพบว่า พวกเธอมาสายไปหน่อย ตำแหน่งที่ดีถูกนักข่าวและแฟนคลับคนอื่นยึดหมดแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่เขย่งปลายเท้าอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้คน รอคอยและเฝ้ารออย่างกระวนกระวายใจ
เพื่อที่จะได้เจอหน้าลู่เฉินสักครั้ง เรื่องขอลายเซ็นถ่ายรูปอะไรหยุดคิดไปชั่วคราว
และเวลานี้ การบินผ่านไปสองชั่วโมงกว่า เที่ยวบิน CT158 ได้ลงจอดยังท่าอากาศยานนานาชาติโซลอย่างมั่นคง
เมื่อผ่านด่านตรวจ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สองคนพร้อมกับผู้ช่วยเพิ่งเดินออกมาจากช่องทางเดินของผู้โดยสารก็ถูกล้อมรอบไปด้วยนักข่าวและแฟนคลับที่กระตือรือร้นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
“ลู่เฉินโอปป้า!”
เสียงกรี๊ดของพวกผู้หญิงดังหนวกหู พร้อมกับแสงวาบขึ้นๆ ลงๆ
ถึงแม้จะเคยเจอเหตุการณ์รูปแบบต่างๆ มาแล้ว แต่กลุ่มขบวนที่อยู่ตรงหน้ายังคงทำให้ลู่เฉินรู้สึกตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้รับความนิยมสูงขนาดนี้ในเกาหลี มีนักข่าวและแฟนคลับมากมายมารับที่สนามบิน
ถึงแม้จะพูดว่าเฉินเฟยมีเดียค่อนข้างให้ความสำคัญกับตลาดเกาหลี และ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เวอร์ชันภาษาเกาหลีกับเวอร์ชันจีนก็ออกอากาศพร้อมกัน ทว่าบริษัทเพิ่งจะตั้งตัวได้ไม่นานตอนนี้จึงทุ่มเทกำลังไปที่ตลาดภายในประเทศเป็นหลัก ตลาดเกาหลีโดยพื้นฐานแล้วยังอาศัยการร่วมงานกับเคจีเอสและเอสพีจี
ครั้งนี้รับคำเชิญของเคบีเอสมาที่ประเทศเกาหลี เฉินเฟยมีเดียไม่ได้มีการโปรโมตใดๆ และไม่ได้แจ้งทางเคจีเอสกับเอสพีจี สามารถพูดได้ว่าไม่ทำตัวเป็นจุดเด่นอย่างเต็มที่
ผลปรากฏว่าทำให้คนต้องรู้สึกตกตะลึง!
โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินเข้ามาช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย ดังนั้นถึงแม้สถานการณ์จะน่าตกใจ แต่ไม่ได้เกิดความโกลาหล ลู่เฉินเห็นป้ายให้กำลังใจเขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาจีนและภาษาเกาหลีอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้คน และยังมีโปสเตอร์อะไรของเขาอีก
ที่น่าสนใจคือ แฟนคลับที่มารับที่สนามบินส่วนมากเป็นผู้หญิง ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นแฟนคลับของเขา
แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์ลังเลเล็กน้อย อยากจะปล่อยมือของลู่เฉิน
เธอรู้ว่าพวกแฟนคลับมีความรู้สึกไวและเปราะบาง ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนรักกัน แต่แฟนคลับสาวๆที่เกาหลีเหล่านี้ใช่ว่าจะยอมรับการอวดความรักของไอดอลได้
ดังนั้นอย่าไปกระตุ้น ไม่กระตุ้นจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความยุ่งยากที่คาดไม่ถึง ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ทว่าลู่เฉินกลับจับมือของเธอแน่นขึ้น ขณะเดียวกันก็โบกมือยิ้มทักทายแฟนคลับที่กระตือรือร้นเหล่านั้น
เรื่องจริงพิสูจน์ว่า เฉินเฟยเอ๋อร์คิดมากเกินไปอย่างเห็นได้ชัด
มีละครสามเรื่องอย่าง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ‘ฟูลเฮ้าส์’ และ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ล้างสมอง ทั้งสองคนกลายเป็นคู่รักไอดอลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในหัวใจของแฟนคลับเกาหลีไปนานแล้ว ถึงแม้จะมีผู้หญิงบางคนที่ชื่นชอบลู่เฉิน ถึงขั้นบ้าคลั่งก็ตาม แต่ก็ไม่ถึงขั้นรับไม่ได้สำหรับความรักของคนทั้งสอง
ส่วนอาหารสุนัขอะไรนั่น ถูกละครสามเรื่องนี้ป้อนจนอิ่มแล้ว โดยเฉพาะ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ที่เพิ่งออกอากาศจบ ส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่มากในเกาหลีอย่างไม่เคยมีในประวัติศาสตร์มาก่อน
คู่รักในจอ กับคู่รักในชีวิตจริง ในใจของพวกแฟนคลับ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือที่เกาหลี ล้วนเป็นคู่รักที่ไม่อาจแยกจากกันได้!
เสียงกรี๊ดกร๊าดของแฟนๆ ดังยิ่งขึ้น กลุ่มผู้คนเบียดกันเข้ามาจนเกิดความชุลมุน ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินเหมือนกับต่อสู้กับศัตรูอย่างกะทันหัน ยุ่งจนหัวหมุนเลยทีเดียว
“ลู่เฉินโอปป้า…”
จินซิ่วเหม่ยโชคดีที่เบียดมาอยู่ข้างหน้าได้ มองเห็นลู่เฉินอยู่ห่างแค่สองสามก้าวเท่านั้น หัวใจของเธอแทบจะกระโดดออกมา พยายามยื่นมือตะโกนเป็นภาษาจีนว่า “ช่วยเซ็นชื่อให้ฉันได้ไหมคะ”
จินซิ่วเหม่ยเรียนวิชาเลือกภาษาจีนในมหาวิทยาลัย ระดับภาษาจีนถือว่าไม่เลว โดดเด่นขึ้นมาทันทีท่ามกลางการรายล้อมของกลุ่มแฟนคลับ
ลู่เฉินเดินผ่านได้ยินคำพูดของเธอพอดี ดังนั้นจึงหยุดเดิน
เขารับปากกากับกล่องซีดีที่ยื่นมาจากจินซิ่วเหม่ย พบว่าคนหลังมี ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ รุ่นลิมิเต็ดที่ออกจำหน่ายในประเทศ เขายิ้มเล็กน้อยอดไม่ได้ที่จะถามว่า “สวัสดีครับ คุณชื่ออะไรครับ”
“จิน…จินซิ่วเหม่ยค่ะ…”
จินซิ่วเหม่ยไม่คาดฝันมาก่อนว่าลู่เฉินจะหยุดเดินเพื่อตัวเอง หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที เอ่ยพูดภาษาจีนอย่างตะกุกตะกัก “ฉันชื่อ…จินซิ่วเหม่ย ซิ่ว ซิ่วชี่ที่แปลว่าสง่างาม เหม่ย เหม่ยลี่ที่แปลว่า…สวยงาม”
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “คุณพูดภาษาจีนได้ดีเลยนะครับ อัลบั้มชุดนี้ซื้อมาจากไหนครับ”
ขณะที่ถาม เขาก็เขียนคำอวยพรวรรคหนึ่งบนกล่องซีดีอย่างรวดเร็ว
จินซิ่วเหม่ยกลืนน้ำลาย ก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันวาน วานเพื่อนคนจีน ช่วยฉัน ช่วยฉันสั่งซื้อค่ะ”
ลู่เฉินเซ็นชื่อเสร็จ จากนั้นจึงนำกล่องซีดีกับปากกาคืนให้อีกฝ่าย “ขอบคุณที่คุณช่วยอุดหนุนนะครับ”
จินซิ่วเหม่ยเพิ่งจะรับมา จากนั้นก็ถูกคนรอบๆ เบียดไปข้างหลังทันที
ท่ามกลางความวุ่นวาย เธอไม่รู้ว่าถูกใครเหยียบเท้า พลันได้สติขึ้นมา รีบถอยไปข้างหลังทันที
หากไม่ถอย ถูกเบียดอีกคงแย่แน่ๆ
“ซิ่วเหม่ย!”
ผลปรากฏว่ายังไม่ทันยืนให้มั่นคง นักศึกษาสองคนที่เพิ่งถูกกลุ่มคนเบียดกระเด็นก็เข้ามาล้อมรอบ จ้องมองซีดีพร้อมลายเซ็นที่อยู่ในมือของเธอตาเป็นประกาย “เธอได้ลายเซ็นของลู่เฉินโอปป้าเหรอ”
จินซิ่วเหม่ยพยักหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้นจึงเกิดความระแวงขึ้นมาในใจ เธอรีบนำซีดีมากอดไว้ในอ้อมแขน พลางเอ่ยว่า “นี่เป็นของฉัน พวกเธอหยุดคิดอะไรไม่ดีไปเลย!”
ถ้าใครคิดจะแย่งกับเธอ เธอจะแตกคอกับคนนั้น!
ส่วนลู่เฉินได้แจกลายเซ็นให้แฟนคลับคนอื่นๆ อีกสองสามคน เมื่อเห็นสถานการณ์ยากที่จะควบคุมแล้ว ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคน เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์และผู้ช่วยจึงรีบออกจากอาคารผู้โดยสารอย่างรวดเร็ว
เมื่ออกมาจากห้องโถงใหญ่ ทุกคนขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านนอกอยู่นานแล้วทันที สลัดนักข่าวทิ้งไป
…………………………………………………………………………
