ตอนที่ 765 เกิดสงครามไซเบอร์ก่อน
รับคำท้า!
ถึงแม้จะพูดว่าลู่เฉินมีเหตุผลร้อยแปดประการสามารถปฏิเสธคำท้าของหลี่เจ๋อเฉิงได้ เหมือนที่แฟนคลับมากมายต่างพูดกัน เขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้ครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่เขาก็มีความคิดเป็นของตนเองเช่นกัน
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ออกอากาศจบแล้ว ละครแนวความรักของคนเมืองทั้งสามเรื่องของลู่เฉินสำเร็จเสร็จสิ้น ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ เขาจะไม่ถ่ายละครประเภทนี้อีก และเปลี่ยนทิศทางมาทำผลงานลิขสิทธิ์แนวกำลังภายในขนานใหญ่
หลังจาก ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ก็คือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’!
‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะทำเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ก่อน และถ่ายทำสามภาครวดเดียวจบ พอถ่ายทำเสร็จแล้วค่อยทำเป็นละครอีกครั้ง ผลงานชิ้นต่อไปของลู่เฉินต่อจากนั้นคือ ‘มังกรหยก’ ‘เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี’ ‘ดาบมังกรหยก’ เป็นต้น เป็นการเดินหน้าสะสมผลงานลิขสิทธิ์ขนานใหญ่ที่ไม่ธรรมดาของจริง
ความทะเยอทะยานของลู่เฉินไม่ได้จำกัดแค่การถ่ายทำภาพยนตร์และละครกำลังภายในเท่านั้น เขายังคิดที่จะพัฒนาลิขสิทธิ์เป็นเกมและการ์ตูน เป็นต้น ผลักดันวัฒนธรรมการต่อสู้ที่ตัวเองสร้างขึ้นไปทั่วโลก!
หนทางหมื่นลี้เริ่มต้นที่ก้าวแรก แผนการของเขานี้ใหญ่โตมโหฬารมาก การถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เป็นเพียงก้าวแรก และเป็นก้าวที่สำคัญมาก ดังนั้นจึงต้องสำเร็จเท่านั้นล้มเหลวไม่ได้
ลู่เฉินมีแผนให้เฉินเฟยมีเดียเริ่มโปรโมตภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ถ้าหากอยากจะสร้างกระแส เช่นนั้นคำท้ารบของหลี่เจ๋อเฉิงย่อมเป็นประเด็นร้อนที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
หลี่เจ๋อเฉิงท้ารบกับลู่เฉิน เพราะอยากจะโปรโมตศิลปะการต่อสู้จริงรูปแบบใหม่ของเขา ในทางตรงกันข้ามลู่เฉินก็สามารถอาศัยการต่อสู้ในครั้งนี้ ทำให้กังฟูจีนฝังลึกเข้าไปในจิตใจของผู้คน เพื่อสร้างพลังโปรโมตให้ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’
หลี่เจ๋อเฉิงอยากจะเหยียบลู่เฉินเพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ลู่เฉินเองก็อยากจะใช้เขาเป็นหินเหยียบขึ้นไปข้างบนเช่นกัน!
แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกคือลู่เฉินจะต้องชนะ ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องตลก
และในจุดนี้ ลู่เฉินมีความมั่นใจมาก นับตั้งแต่ที่ได้พบเจอความฝันที่แปลกประหลาดนั้น สามปีที่ผ่านมาเขาพยายามฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และออกกำลังกาย สุขภาพร่างกายนับวันยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ความสามารถของการตอบสนองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่อย่างนั้นตอนที่อยู่บนเที่ยวบิน UD725 คงไม่สามารถโจมตีอดีตนาวิกโยธินสหรัฐที่มีอาวุธอยู่ในมือได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นขอเพียงหลี่เจ๋อเฉิงยังอยู่ในขอบแขตของมนุษย์ เขาไม่จำเป็นต้องกลัวคำท้าของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ!
เมื่อได้ตัดสินใจแล้ว ปณิธานของลู่เฉินมีความแน่วแน่มาก ถึงแม้ลู่ซีจะพยายามเกลี้ยกล่อม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเอาชนะความตั้งมั่นของลู่เฉินได้
ตอนเย็นวันที่ 30 เวลาหกโมงสิบห้านาที ลู่เฉินได้อัปเดตโพสต์ในบล็อกล่างฉาวส่วนตัวของเขา เพื่อแสดงว่าตนยอมรับคำท้ารบของหลี่เจ๋อเฉิง ยังไม่ได้กำหนดเวลา สถานที่คือโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้อู่เฉิงในกรุงโซล!
โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้อู่เฉิงในกรุงโซลตั้งอยู่ในเขตคังนัมที่เป็นย่านหรูและเจริญรุ่งเรือง เป็นหัวใจหลักของศิลปะการต่อสู้เทควันโดแบบใหม่ ลู่เฉินเลือกรับคำท้ารบของหลี่เจ๋อเฉิงที่โรงเรียนนี้ มีความหมายไม่น้อยไปกว่าการหาเรื่อง
นี่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ของลู่เฉิน!
นอกจากการประกาศในบล็อกล่างฉาวแล้ว เนื้อหาเดียวกันได้ถูกโพสต์ใน FLOO เช่นกัน
เนื่องจากลู่เฉินเริ่มบุกตลาดเกาหลีใต้มาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ดังนั้นเขาจึงมีบัญชีที่ยืนยันตัวตนแล้วใน FLOO และจำนวนแฟนคลับยังมากกว่าหลี่เจ๋อเฉิงเสียอีก
เพราะฉะนั้นพอโพสต์ข้อความนี้ออกไป จึงเกิดความฮือฮาในสังคมออนไลน์ที่ใหญ่สุดของจีนและเกาหลีทั้งสองประเทศในทันที!
แฟนคลับในประเทศจีนสนับสนุนเป็นจำนวนมาก
“เฉินของฉันสู้ๆ!”
“สู้กับเกาหลีให้ชนะไปเลย ลู่เฉินฉันสนับสนุนคุณ!”
“เอาชนะหลี่เจ๋อเฉิง เฉินของฉันต้องชนะเท่านั้น!”
“ฮ่าๆๆ ฉันบอกแล้วว่าลู่เฉินจะรับคำท้าแน่นอน แล้วฉันก็เดาถูกจริงๆ”
“อะไรยังไม่ต้องพูดถึง เป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”
“จากแฟนคลับขาจรเป็นแฟนคลับจริง…”
แน่นอนว่ามีคนแสดงความกังวลเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรหลี่เจ๋อเฉิงก็เป็นปรมาจารย์เทควันโดมืออาชีพ มีหรือจะต่อกรได้ง่าย!
เนื่องจากผลกระทบของเรื่องนี้ ชื่อของหลี่เจ๋อเฉิงเป็นที่รู้จักของชาวเน็ตจีนอย่างรวดเร็ว วิดีโอมากมายที่เกี่ยวข้องกับเขาได้อัปโหลดบนอินเทอร์เน็ต ถูกคนมากมายมองเห็น
วิดีโอการแข่งขันโอลิมปิกไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ถึงแม้จะคว้าแชมป์มาครอง แต่ไม่ได้ทิ้งความประทับใจอะไรให้คนมากขนาดนั้น เพราะกฎการแข่งขันมีข้อกำหนดหลายด้าน จำกัดการแสดงความสามารถของผู้เข้าแข่งขัน
นี่เหมือนกับมวยอาชีพเทียบกับมวยโอลิมปิก พลังต่อสู้ของฝ่ายแรกมีความแข็งแกร่งกว่ามาก ด้านสมรรถภาพทางกายและพละกำลัง มวยอาชีพก็มีความต้องการสูงกว่ามวยโอลิมปิก อย่างไรก็ตามเจตนาของมวยโอลิมปิกคือการสนับสนุนกีฬา จึงมีหลายๆ ด้านที่ไม่อาจสู้การแข่งขันแบบมวยอาชีพ
เทควันโดรูปแบบใหม่ของหลี่เจ๋อเฉิงเน้นการต่อสู้จริงเป็นสำคัญ ลดข้อจำกัดของกฎเกณฑ์เพื่อเพิ่มสีสันระหว่างการต่อสู้ ความทะเยอทะยานของเขาคืออยากผลักดันการต่อสู้รูปแบบใหม่ไปทั่วโลก และสร้างการแข่งขันเทควันโดอาชีพที่เทียบเท่ากับมวยหรือคิกบ็อกซิ่ง!
บนอินเทอร์เน็ตมีวิดีโอที่เขาต่อสู้กับคนอื่นอยู่ไม่น้อย ดูน่าตื่นเต้นกว่าการแข่งขันโอลิมปิกอย่างไม่ต้องสงสัย และยิ่งมองเห็นถึงความสามารถของเขาได้ชัดเจน
ดังนั้นหลังจากดูวิดีโอแล้ว คนที่บอกว่าลู่เฉินชนะแน่นอน นั่นคือมั่นใจเกินเหตุ!
แตกต่างจากแฟนคลับในประเทศหรือพวกขาจรทั้งหลาย ชาวเน็ตในเกาหลีใต้เข้าข้างฮีโร่ของพวกเขามากกว่า
“ฉันคิดว่าหลี่เจ๋อเฉิงชนะแน่นอน ฉันจำได้ว่าเขาไม่เคยแพ้มาก่อน”
“ฉันชอบลู่เฉินมาก เขาถ่ายละครทั้งสามเรื่องได้ดีเยี่ยมจริงๆ แต่ฉันคิดว่าเขาเอาชนะไม่ได้หรอก”
“เลือกต่อสู้กับหลี่เจ๋อเฉิงที่โรงฝึกสอนนี้ เหอะๆ มั่นใจมากเกินไปจริงๆ”
“หรือจะพูดว่าโอหังอวดดี…”
คำวิจารณ์เหล่านี้ถือว่าเกรงใจมากแล้ว ชาวเน็ตเกาหลีใต้จำนวนไม่น้อยหัวเราะเยาะลู่เฉินที่ไม่รู้จักประมาณตนเอง คิดว่ากังฟูจีนอยู่ระดับเดียวกับเทควันโดได้
มีแฟนคลับของหลีเจ๋อเฉิงที่หัวร้อนและเข้าใจภาษาจีน ถึงขนาดวิ่งไปที่บล็อกล่างฉาวของจีน พูดจาเสียดสีลู่เฉินยกใหญ่
“ไอดอลของพวกคุณ เหมาะเป็นแค่ตัวสนับสนุนฮีโร่ของพวกเราเท่านั้น!”
คราวนี้เหมือนแหย่รังแตน ลู่เฉินมีแฟนคลับในบล็อกล่างฉาวเกินหนึ่งร้อยล้านคน เมื่อเจอเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนแรงแบบนี้ พวกแฟนๆ ที่ชื่นชอบเขามีหรือจะทนให้ตัวตลกของเกาหลีสองสามคนนี้มากระโดดเต้นแร้งเต้นกาอยู่ตรงหน้า
ดังนั้นภายใต้การนำของกลุ่มแฟนคลับลู่เฉิน ชาวเน็ตจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนข้ามแม่น้ำยาลูด้วยความฮึกเหิมและกล้าหาญ เข้าไปลงทะเบียนใน FLOO ของเกาหลีใต้สมัครไอดีเป็นจำนวนมาก แล้วก่อความวุ่นวายในช่องแสดงความคิดเห็น FLOO ของหลี่เจ๋อเฉิง
ผู้ที่เข้าร่วมสงครามต่อสู้นี้ไม่ได้มีเพียงแฟนคลับของลู่เฉินเท่านั้น ยังมี ‘อาสาสมัคร’ ออนไลน์อีกมากมาย อาวุธที่ทรงพลังมากที่สุดของพวกเขาก็คือ ‘มีม’ เฉพาะตัวแบบต่างๆ
หน้าหัวเราะเยาะ หน้าดูถูก หน้าเย็นชา หน้าตลก…
มีมมากมายล้วนใช้ภาพดาราดังของเกาหลีมาทำ ดั่งคำพูดที่ว่าเอาหอกของท่านแทงโล่ของท่าน หน้าเพจ FLOOของหลี่เจ๋อเฉิงโดนคอมเมนต์ละลานตา ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นการโจมตีตอกกลับความท้าทายของคนเกาหลี!
จริงๆ แล้วเหตุการณ์ที่คล้ายกันแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งแรก เมื่อก่อนเคยมีชาวเน็ตรวมตัวกันข้ามประเทศไปก่อสงครามโต้แย้ง แต่ขนาดไม่สามารถเทียบกับครั้งนี้ได้ เนื่องจากปริมาณไอพีที่ล้นเข้ามา บวกกับคำวิจารณ์ที่เร็วและมากเกินไป กระทั่งทำให้ FLOO เครื่องค้าง ไม่สามารถดำเนินการปกติได้ภายในเวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมง
คนเกาหลีที่ทำตัวไม่ถูกต้องรีบพูดบอกลา พวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จึงไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรในทันที
การต่อสู้ของลู่เฉินกับหลี่เจ๋อเฉิงยังตกลงกันไม่เรียบร้อย ชาวเน็ตจีนและเกาหลีสองประเทศกลับเริ่มทำสงครามไซเบอร์ก่อน!
…………………………………………………………………………
————————————————