ตอนที่ 770 สงครามหมื่นล้าน (3)
ลู่เฉินปะทะกับหลี่เจ๋อเฉิง!
หลี่เจ๋อเฉิงเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้เทควันโดรูปแบบใหม่อู่เฉิง ส่วนลู่เฉินดังมาจากกังฟูจีน การประลองของทั้งสองคนเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้พบเห็นมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีตัวอย่างใดๆ ก่อนหน้านั้น
เพราะฉะนั้นกฎการประลองของสงครามหมื่นล้านครั้งนี้ ได้ผ่านการยืนยันร่วมกันจากลู่เฉินและหลี่เจ๋อเฉิงเรียบร้อย
ส่วนใหญ่ให้ยึดกฎกติกาของการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งอาชีพเป็นหลัก ไม่ยึดติดท่าต่อสู้ใดๆ ในระหว่างการต่อสู้อนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความสามารถของตัวเองได้เต็มที่ตามสถานการณ์ วิชาการเคลื่อนไหวร่างกายต่างๆ เช่น หมัด เท้า ศอก เข่า ทุ่ม และอื่นๆ พลิกแพลงใช้ได้อย่างยืดหยุ่น จุดแข็งจุดอ่อนนำมาใช้ได้ทั้งหมด โจมตีคู่ต่อสู้ให้ล้มลงหรือสู้ชนะในท้ายที่สุดนั่นคือเป้าหมาย!
การประลองครั้งนี้กำหนดสามยก หนึ่งยกห้านาที กฎการปกป้องยังคงยึดตามอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปี้ยนชิพยูเอฟซี ไม่อนุญาตให้โจมตีที่จุดสำคัญ เช่น ดวงตา ขาหนีบ เป็นต้น ไม่อนุญาตให้กัดและฉีกคน เป็นต้น
และกรรมการบนเวทีกับด้านล่างเวที ก็เป็นกรรมการที่เชิญมาจากยูเอฟซีเช่นกัน เพื่อรับรองความยุติธรรมของการประลองครั้งนี้
กฎเกณฑ์แน่นอนว่ามีความยุติธรรมมาก ทั้งสองฝ่ายล้วนมีข้อจำกัดและข้อผูกมัดที่เหมือนกัน แต่หลี่เจ๋อเฉิงในฐานะผู้ก่อตั้งเทควันโดอู่เฉิงรูปแบบใหม่ เขามีความคุ้นชินกับกฎกติกาของคิกบ็อกซิ่งอยู่แล้ว มีประสบการณ์ช่ำชอง
เมื่อเทียบกับแล้ว ลู่เฉินด้อยกว่ากันเยอะมาก ไม่มีประสบการณ์การแข่งขันอย่างเป็นทางการสักอย่าง
นี่คือเหตุผลสำคัญที่หลายคนมองว่าเขาไม่สามารถเอาชนะหลี่เจ๋อเฉิงได้ ต่อให้ความสามารถของทั้งสองฝ่ายจะสูสีพอๆ กัน หลี่เจ๋อเฉิงก็สามารถอาศัยประสบการณ์ทั้งหมด สะสมแต้มเพื่อเอาชนะลู่เฉิน!
ข้อได้เปรียบของลู่เฉินจากการมองเพียงผิวเผิน อาจจะมีแค่เขาอายุน้อยกว่าหลี่เจ๋อเฉิงไม่น้อย
ไม่มีคำพูดกระตุ้นให้กำลังใจจากพิธีกร ไม่มีเสียงเชียร์ของผู้ชมนับหมื่นนับพัน และยิ่งไม่การยกป้ายของสาวสวยเสียงระฆังสดใสพลันดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายเริ่มต้นการประลองยกแรกอย่างเป็นทางการ!
หลี่เจ๋อเฉิงยืนให้แขนและเท้าทั้งสองข้างแนบชิดกัน แขนทั้งสองข้างแนบลำตัว เขาใช้สองมือกำหมัดเล็กน้อยสายตาก้มมองไปข้างล่าง ทำความเคารพลู่เฉินด้วยท่ามาตรฐาน
ลู่เฉินสองมือกำหมัด เคารพกลับเช่นกัน
ทั้งสองคนยืดตัวขึ้นพร้อมกัน สายตาประสานกันอีกครั้ง ราวกับมีดอกไม้ไฟที่มองไม่เห็นกำลังส่องประกายระยิบระยับ
ผู้ชมที่ได้รับเชิญมาดูในงานแทบกลั้นลมหายใจ จ้องมองลู่เฉินกับหลี่เจ๋อเฉิงตาไม่กะพริบ กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดแม้แต่นิดเดียว ลูกศิษย์ของหลี่เจ๋อเฉิงยิ่งนั่งตัวตรง แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งขรึม
และภายในห้องถ่ายทอดสดสงครามหมื่นล้านของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ข้อความซับกระสุนที่แน่นขนัดก่อนหน้านั้นพลันหายไป ในบัญชีทางการของลู่เฉินก็ไม่มีใครโพสต์อีก
ถึงแม้จะมีความมั่นใจว่าลู่เฉินต้องชนะ แต่พอเวลาประลองมาถึงจริงๆ แฟนๆ ของลู่เฉินก็อดรู้สึกหวาดเสียวไม่ได้แอบให้กำลังใจเขาอย่างเงียบๆ!
“ฮ่า!”
วินาทีต่อมา หลี่เจ๋อเฉิงแผดเสียงต่ำ พุ่งเข้าไปข้างหน้าทันที เพียงชั่วลมหายใจก้าวไปตรงหน้าลู่เฉินที่อยู่ห่างออกไปสี่ห้าเมตร วาดแขนเร็วปานสายฟ้า มือขวาทำเป็นสันมือทุบไปที่ต้นคอของลู่เฉิน!
ปรมาจารย์เทควันโดคนนี้ไม่ขยับก็ไม่เป็นไร พอขยับกลับรวดเร็วปานสายฟ้า ออกมือด้วยความเร็วทำให้คนตกตะลึงอ้าปากค้าง สันมือผ่ากลางอากาศ แผดเสียงคำรามน่าตกใจ มีพลังแข็งแกร่งสุดๆ
หลี่เจ๋อเฉิงอุทิศตัวให้แก่เทควันโดมากที่สุด ในเรื่องพื้นฐานของเทควันโดดั้งเดิม เขาได้ดูดซับแก่นแท้อันเป็นเทคนิคการต่อสู้ของคิกบ็อกซิ่ง คาราเต้ มวยสานต่า เป็นต้น ทำให้พลังต่อสู้ของเทควันโดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ให้ความสำคัญต่อการต่อสู้จริง ใช้ความเร็วที่สุดและกระบวนท่าที่เรียบง่ายที่สุดโจมตีคู่ต่อสู้ นี่คือแก่นสารสำคัญของศิลปะการต่อสู้ของโรงเรียนอู่เฉิง ดังนั้นผู้แข่งขันที่ไม่ใช้เทควันโดของโรงเรียนอู่เฉิงต้องต่อสู้กับหลี่เจ๋อเฉิงตามกฎของคิกบ็อกซิ่ง โดยทั่วไปแพ้ตั้งแต่ยกแรกแล้ว เปราะบางเหลือเกิน ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
และเทควันโดรูปแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการต่อสู้จริง ทั้งยังมีกระบวนท่าที่รวดเร็วและดุดันเช่นนี้ก็เหมาะสมกับรสนิยมของเด็กวันรุ่นเกาหลี ดังนั้นโรงเรียนอู่เฉิงจึงเติบโตที่เกาหลีใต้อย่างรวดเร็ว แซงหน้าโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมทั้งเก้าแห่ง
ทว่าความทะเยอทะยานของหลี่เจ๋อเฉิงไม่ได้อยากมีอำนาจในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่อยากจะผลักดันเทควันโดรูปแบบใหม่ไปทั่วโลก ก่อตั้งสมาพันธ์การแข่งขันแบบมืออาชีพ ให้มีอิทธิพลถึงระดับเอเอฟเอสและยูเอฟซี
ลู่เฉิน จึงกลายเป็นก้อนหินใต้ฝ่าเท้าที่จะทำให้ความทะเยอทะยานในใจของหลี่เจ๋อเฉิงเป็นความจริง
เขาใช้ท่ายืนก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าทำมือเป็นสันมีดซึ่งถือกำเนิดจากเทควันโดดั้งเดิมเป็นกระบวนท่าแรกที่โจมตีลู่เฉิน แต่แตกต่างจากท่ายืนก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าทำมือเป็นสันมีดแบบมาตรฐานเป็นอย่างมาก ลักษณะการโจมตีและพลังโจมตีเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่า
หากการโจมตีนี้สำเร็จ มีความเป็นไปได้ที่จะตัดหรือสับต้นคอของลู่เฉินให้แตกหัก และล้มลงไปอย่างสบายๆ
เสียงร้องตกใจดังขึ้นรอบสังเวียนการประลอง
แต่ลู่เฉินตอบสนองไวมาก วินาทีที่หลี่เจ๋อเฉิงวาดสันมือเข้ามา เขารีบกำหมัดยกแขนบังทันที
พลั่ก!
ฝ่ามือของหลี่เจ๋อเฉิงสับลงไปที่แขนซ้ายของลู่เฉินอย่างแรง ทำให้แขนของคนหลังถูกกดลงไป เมื่อเขาโจมตีไม่สำเร็จ จึงรีบชักฝ่ามือบิดเอวยกขาขึ้นมาในพริบตาเดียว ขาซ้ายถีบไปที่ลู่เฉินอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
เทควันโดต้องพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นการเตะที่สวยงามที่สุดในโลก ถูกผู้คนเรียกว่าเป็นการเตะที่มีศิลปะ มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบและการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว ท่าเตะหน้า ท่าเตะตวัด ท่าเตะด้านข้าง ท่าเตะเกี่ยว ท่าเตะกลับหลัง ท่ากระโดดเตะสูง ท่าเตะตวัดหลัง ท่ากระโดดถีบสองข้าง ท่ากระโดดถีบ เป็นต้น ท่าทางการเคลื่อนไหวไม่เพียงแต่มีพลังมากเท่านั้น การแสดงท่าทางก็น่าชื่นชมสบายตา
วิธีการใช้ท่าขาของหลี่เจ๋อเฉิงได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นต่อจากท่าพื้นฐานดั้งเดิม การยกขาไม่เพียงแค่รวดเร็วและมีพลัง ยังมีลักษณะการโจมตีกะทันหัน ประกอบกับท่าสับสันมือก่อนหน้าสามารถเชื่อมกันได้อย่างไร้ซึ่งช่องโหว่
หนึ่งหมัดหนึ่งเตะ ปรมาจารย์เทควันโดรูปแบบใหม่แสดงกำลังออกมาอย่างเต็มที่!
เขายกขาเตะข้างทั้งเร็วและแรง ลู่เฉินเองก็ไม่กล้าเข้าไปสู้ง่ายๆ รีบถอยหลังกรูดกันเชิง หลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้
แต่หลี่เจ๋อเฉิงไม่ให้โอกาสลู่เฉินได้หายใจหายคอ ขาซ้ายที่อยู่กลางอากาศเหยียบลงพื้นทันที แล้วใช้ขาซ้ายยึดให้มั่นก่อนจะพุ่งกำลังออกไปทันที ทั้งตัวลอยกลางอากาศ ขณะเดียวกันก็บิดตัวเตะขาออกไปที่หน้าลู่เฉิน!
ท่าเตะตวัดหลังที่สวยงามไม่อาจเทียบได้!
เขาใช้กระบวนท่าติดต่อกันเร็วเกินไป ลู่เฉินจึงหลบไม่ทัน ชูสองแขนขึ้นมาไขว้กันเป็นตัวกากบาทปกป้องด้านหน้าของร่างกาย
พลั่ก!
ฝ่าเท้าของหลี่เจ๋อเฉิงถีบลงไปที่แขนกากบาททั้งสองข้างของลู่เฉินอย่างแรง เกิดเสียงดังสะเทือนออกมา
พลังขาของเขาที่ฟาดออกไปมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แม้แต่ลู่เฉินก็ยังต้านทานไม่อยู่ ‘ตึกๆๆ’ เสียงถอยหลังติดกันสามก้าว ตกเป็นเบี้ยล่างอย่างสิ้นเชิง
“ดี!”
ด้านล่างสังเวียน พวกลูกศิษย์ของหลี่เจ๋อเฉิงต่างโห่ร้องชื่นชม แต่ละคนยิ้มหน้าชื่นบาน เหมือนชัยชนะอยู่ตรงหน้าแล้ว
รอบแรกเพิ่งจะเริ่มต้น หลี่เจ๋อเฉิงไม่เพียงแต่เป็นฝ่ายชิงรุกก่อนเท่านั้น ยังกดลู่เฉินได้อยู่หมัด กระบวนท่าสามท่าติดต่อกันทำให้ลู่เฉินมีแต่กำลังทัดทานไม่สามารถโต้กลับ
พวกเขารู้ดี ถ้าหากหลี่เจ๋อเฉิงเป็นฝ่ายได้เปรียบ กำลังโจมตีของเขาจะยิ่งโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทำลายการป้องกันและปณิธานของอีกฝ่ายให้หมดไปในที่สุด
ดังนั้นในวงการเทควันโด หลี่เจ๋อเฉิงจึงมีอีกฉายาหนึ่งว่า ‘พยัคฆ์แห่งเกาหลี’
พวกเขาเชื่อว่า ภายใต้การโจมตีของหลี่เจ๋อเฉิง ลู่เฉินทนได้ไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น และจะถูกโจมตีจนล้มลงแน่นอน!
เมื่อเทียบกับแฟนๆ ของลู่เฉินที่ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันนี้อยู่ในโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ ต่างตกอยู่ในความเป็นห่วงและเงียบงัน
ความแกร่งกล้าของหลี่เจ๋อเฉิง เกินความคาดหมายจริงๆ!
…………………………………………………………………………