ตอนที่ 802 รถบรรทุกคว่ำ
บล็อกของลู่เฉินอัปเดตอีกแล้ว
หากว่ากันตามจริงแล้วนี่ก็เป็นเรื่องปกติ แทบจะไม่ใช่อะไรที่ควรตกใจเลย ต้องทราบดีว่าตอนนี้พื้นที่สังคมออนไลน์เป็นสถานที่สำคัญในการโปรโมตของดารานักแสดงในวงการบันเทิง ความสำคัญนั้นเกินหน้าโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือสื่อดั้งเดิมอื่นๆ แล้ว คนในวงการเกือบทั้งหมดต่างก็มีบัญชีทางการที่ยืนยันตัวแล้วบนบล็อกล่างฉาวทั้งนั้น
คนดังบ้างคนเรียกได้ว่าเป็นคนบ้าบล็อกเลยก็ว่าได้ ในหนึ่งวันจะโพสต์หลายสิบโพสต์ เรื่องใหญ่อย่างการถ่ายหนัง ถ่ายละคร ถ่ายภาพ เปิดคอนเสิร์ต เรื่องเล็กอย่างการกินข้าว เดินเล่น ซื้อของ ล้วนโพสต์อวดทั้งหมด ภาพเซลฟี่ในทุกๆ วันก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เช่นกัน
เมื่อเทียบกันแล้ว ลู่เฉินที่มีจำนวนคนติดตามในบล็อกเป็นอันดับหนึ่ง ความสม่ำเสมอในการอัปเดตบล็อกของเขาถือว่าน้อยมาก และเขาเองก็ไม่ชอบที่จะโปรโมตสร้างกระแสในบล็อกส่วนตัว ซึ่งแตกต่างจากคนอื่นๆ ในอาชีพเดียวกันมาก
ในฐานะที่เป็นฝ่ายเกาะกระแส กู้เหล่ยได้ติดตามบล็อกของลู่เฉินตั้งแต่แรก เขาเข้าใจสไตล์ของลู่เฉินเป็นอย่างดี
หากไม่พูดถึงจิตใจที่อิจฉาริษยา ก็ถือว่าเขานับถือทัศนคติในการทำเรื่องต่างๆ ของลู่เฉินมากอย่างบอกไม่ถูก
เพราะเขาเองทำไม่ได้อย่างนั้น!
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นลู่เฉินอัปเดตบล็อก กู้เหล่ยกลับรู้สึกอกสั่นขวัญผวา
ก่อนหน้านี้ เขาพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเกาะกระแสความนิยม เพราะเขามั่นใจว่าลู่เฉินจะไม่เอาจริงเอาจังกับเขา ดังนั้นเขาจึงกำเริบเสิบสานมาก โดยคิดว่าแม้ลู่เฉินโต้ตอบกลับมาก็ไม่กลัว
แต่ความเป็นจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากู้เหล่ยคิดผิดไปถนัด ลู่เฉินแทบจะไม่ต้องต่อกรกับเขาเลย เพียงแค่บทกลอนเล็กๆ ไม่กี่ประโยคก็ดึงกระแสความสนใจทั้งหมดไปได้ทันที ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองต่างหากที่กลายเป็นตัวตลก
กู้เหล่ยตอนนี้ใกล้จะเป็นโรคหวาดระแวงบล็อกไปแล้ว แต่จะไม่ติดตามก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงกัดฟันแล้วกดเปิดบล็อกของลู่เฉิน เพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะตอบโต้อย่างไรอีก
อันที่จริงกู้เหล่ยแทบจะไม่รู้เลยว่าสภาพจิตใจของเขาตอนนี้ช่างน่าหัวเราะเยาะยิ่งนัก ถึงแม้ว่าพฤติกรรมบางอย่างของเขาและพวกที่เกาะกระแสอีกกลุ่มหนึ่งจะนำเรื่องยุ่งยากมาให้ลู่เฉิน ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์
แต่ว่าลู่เฉินก็แทบจะไม่ได้สนใจเลย เพราะสถานะของเขาในวงการตอนนี้ ความนิยมของเขาในประเทศไม่มีทางสั่นคลอนได้ แทบจะไม่ต้องลดตัวลงไปใส่ใจคนอย่างกู้เหล่ยเลย
แน่นอนว่าในเมื่อมีเรื่องยุ่งยาก อย่างนั้นก็ต้องคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหา วิธีการรับมือของลู่เฉินง่ายมาก
นายเล่นของนายไป ฉันก็เล่นของฉันไป ดูว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน
และถ้าเขาคิดจะเล่น ต้องการจะเล่น อย่างนั้นก็ต้องเล่นด้วยวิธีการใหม่ๆ ที่เหนือกว่า
บทกลอนเล็กๆ ที่จุดชนวนให้เกิดการอภิปรายอย่างเผ็ดร้อนท่ามกลางผู้คนหลายร้อยล้านคนถือว่าเป็นแค่ออเดิร์ฟ ลู่เฉินอัปเดตเพลงลงในบล็อกอีก และในขณะเดียวกันก็ @เฉินเฟยเอ๋อร์…มอบให้เธอที่อยู่แสนไกล
นี่เป็นผลงานใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้’
“ฉันอยู่ในวงแหวนรอบที่สอง คิดถึงเธอ เธออยู่บนภูผาแสนห่างไกล สายลมวสันตฤดูสิบลี้!”
“วันนี้สายลมพัดสู่เธอ พิรุณโปรย ฉันว่าสุราทั่วหล้า มิสู้เธอ!”
“ฉันขับขานกลิ่นหอมของบุปผาให้เธอท่ามกลางแสงรัตติกาลบนหอเภรี”
“ณ แห่งหนอื่น การพบเจอและความคาดหวังอย่างเงียบงัน…”
“เครื่องบินบินข้ามหมู่เมืองที่แออัด”
“ห่างกี่พันลี้ ไม่ไปไหน…”
……
ปีที่แล้ว ลู่เฉินไม่ได้ปล่อยเพลงใหม่มาเป็นเวลานาน เพราะเขาใช้เวลาและพลังงานส่วนใหญ่ไปกับการถ่ายทำละคร และเขาก็เดินทางไปสหรัฐอเมริกาด้วย
สำหรับแฟนละครของลู่เฉิน ละครปีละเรื่องทำให้พวกเธอและพวกเขาเต็มอิ่มมาก แต่แฟนเพลงของลู่เฉินไม่พอใจอย่างมาก และกระทั่งตอนนี้ลู่เฉินก็ยังไม่ได้จัดคอนเสิร์ตเลย อัลบั้มที่สามก็ยังอีกห่างไกล หลายคนเริ่มบ่นกันแล้ว
เหตุผลหลักก็คือ ทุกคนถูกตามใจจนเสียคนแล้ว พวกเขาคุ้นเคยกับพรสวรรค์ทางดนตรีที่พุ่งทะยานของลู่เฉิน และเคยชินเสียแล้วกับเซอร์ไพรส์ที่เขานำมามอบให้เสมอ ทำให้หูของพวกเขาเลือกฟังมากขึ้น และพวกเขาก็มักจะเปรียบเทียบผลงานของลู่เฉินกับนักดนตรีคนอื่นๆ เสมอ
โชคดีที่ตั้งแต่ต้นปีใหม่ ลู่เฉินได้เขียนเพลงหลายเพลง ซึ่งในที่สุดก็ช่วยคลายความไม่พอใจของแฟนๆ ลงได้
และทุกคนยังพบว่า ตอนนี้ลู่เฉินชอบเผยแพร่เพลงใหม่บนบล็อกล่างฉาว การอ่านบล็อกของเขาทุกวันอาจทำให้ได้เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงได้
คราวนี้ลู่เฉินได้เปิดตัวผลงานใหม่ในบล็อกของเขา!
ดังนั้นเหล่าแฟนคลับนับพันนับหมื่นคนจึงได้ทดลองฟังเป็นครั้งแรก ทั้งยังได้ดาวน์โหลดเพลง ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้’ อีกด้วย
“นำวสันตฤดูมารวมให้เป็นเช้าตรู่วันหนึ่ง”
“นำคำพูดที่พร่ำพรรณนาออกมาจนหยุดไม่ได้เปลี่ยนเป็นความลับ ปิดประตูไว้เสีย”
“แล้วความรู้สึกประหลาดนี้เล่า ใครจะพามันไป ขอถามที”
“ทำได้เพียงนำวันคืนมาเขียนเป็นเพลง ทิ้งไว้กับภูผาและวารี…”
เพลง ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้’ ยังคงเป็นเพลงบัลลาดที่ทุกคนชื่นชอบมากที่สุดของลู่เฉิน และยังมอบให้แก่เฉินเฟยเอ๋อร์อีกด้วย ช่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักลึกล้ำ…แสดงความคิดถึงอย่างลึกซึ้งต่อเธอที่อยู่ห่างไกล
และที่พิเศษมากๆ ก็คือ ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้’ เพลงนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากบทกลอนที่ชื่อ ‘วสันตฤดู’ ที่เขาเขียนให้แก่เฉินเฟยเอ๋อร์ เป็นการนำหัวข้อและเนื้อหามาปรับเปลี่ยน เพื่อรักษาความต่อเนื่องของอารมณ์และยกระดับให้เข้มข้นขึ้น
ส่วนที่ตราตรึงใจที่สุดในเพลงนี้คือประโยคที่ว่า ‘ฉันว่าสุราทั่วหล้า มิสู้เธอ’ อย่างไม่ต้องสงสัย จาก ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้ มิสู้เธอ’ ถึง ‘ฉันว่าสุราทั่วหล้า มิสู้เธอ’ ได้ขับร้องความหลงรักอย่างลึกซึ้งของลู่เฉินออกมาทั้งหมดแล้ว
สำหรับสิ่งนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์ตอบกลับมาสามคำ… ฉันรักคุณ
หากการโต้ตอบกันบนบล็อกของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เมื่อวานนี้ทำให้อาหารสุนัขกระฉอกใส่ทุกคนแล้วละก็ อย่างน้อยวันนี้ก็ต้องมีรถบรรทุกขนาดใหญ่คว่ำบ้างแหละ!
เมื่อได้ฟังเพลงนี้แล้ว อารมณ์ของบรรดาแฟนคลับนั้นซับซ้อนอย่างแท้จริง
ผู้ที่มีความรักอยู่ในใจย่อมมีอารมณ์ร่วม ผู้ที่อยู่เพียงลำพังย่อมเศร้า อิจฉาริษยา และเกลียดชัง ส่วนผู้ที่เคยมีความรักมาก่อน ก็เศร้าโศก เสียใจ และปวดใจ…
มีคนเขียนไว้ในช่องแสดงความคิดเห็นว่า “หลังจากฟังรอบแรกจบ ฉันหยิบเบียร์สองสามกระป๋องออกมาจากตู้เย็นแล้วดื่ม โดยหวังว่าจะได้เมา แล้วพบเธออีกครั้งในความฝันอันแสนมึนเมา ขอบคุณลู่เฉิน ขอบคุณสำหรับเพลงนี้”
ข้อความของเขาโดนใจแฟนๆ หลายคนมาก และหลายคนก็เขียนเรื่องราวของพวกเขาในบล็อกของลู่เฉิน
รวมถึงการสารภาพรักอีกด้วย
“ในปีนั้นฉันดื่มจนเมามายเป็นครั้งแรกก็เพราะเธอ ฉันชอบเธอ แต่เธอไม่ชอบฉัน…”
“ฉันว่าสุราทั่วหล้า มิสู้เธอ! จางอวี่เมิ่ง ฉันรักเธอ!”
“หลั่งน้ำตาออกมา แล้วฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อตอนเป็นวัยรุ่นไม่เข้าใจเรื่องความรัก แต่ตอนนี้เสียใจมากแล้วจริงๆ”
“”แฟนฉัน ตอนนี้อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลแล้ว…”
ความคิดเห็นของแฟนคลับมากมายอย่างนี้ ทำให้ ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้’ ติดอันดับยอดนิยมบนหน้าแรกของบล็อกล่างฉาวในเวลาสั้นๆ เพียงสิบนาที ความเร็วอย่างนี้ทำให้ใครต่อใครต่างก็อ้าปากค้างกันไปหมด เป็นการสร้างสถิติใหม่ของบล็อกล่างฉาวแล้วจริงๆ
บล็อกโพสต์ทั้งสองของลู่เฉินทั้งก่อนและหลัง ทำให้การสร้างกระแสของกู้เหล่ยกลายเป็นเรื่องตลกทันที แม้ว่าต่อมาบริษัทที่กู้เหล่ยเซ็นสัญญาด้วยจะจ้างบริษัทการตลาดมาจัดการเรื่องนี้อย่างชำนาญ อยากให้กระแสร้อนแรงกลับมาอีกครั้ง สุดท้ายไม่เพียงไม่สำเร็จ แต่กลับได้รับความคิดเห็นเชิงลบมาอีกมากมาย และถูกรังเกียจอีกด้วย
เพราะบทกลอนที่เขียนโดยลู่เฉินและเพลงใหม่ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น แสดงถึงความรักที่ผู้คนใฝ่ฝัน ผู้ที่พยายามใช้เขาเพื่อสร้างกระแสจึงน่ารังเกียจและไร้ยางอายเป็นที่สุด
ของสวยงามๆ นั้น ไม่ควรถูกแปดเปื้อน!
………………………………………………………………………..
หมายเหตุ: ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้’ (春凤千里) เนื้อร้อง/ทำนอง: เป้ยเป้ย (倍倍)