ตอนที่ 805 เลือก
“นายไม่ต้องกังวล…”
ลู่เฉินยิ้มแล้วตบไหล่ชายหนุ่ม พลางพูดว่า “พวกเรามาฝึกกันไหม”
ฝึก? กับลู่เฉิน?
เมิ่งหู่ไม่กล้าที่จะเชื่อหูของตัวเอง และสงสัยว่าหูแว่วไปหรือเปล่า เขาได้แต่ยืนอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง
วั่นหย่งตบที่ไหล่ของเขาอย่างเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้ “นายมัวแต่อึ้งอะไรอยู่”
อย่างคำที่ว่าคนนอกจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนกว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นเรื่องจริง วั่นหย่งรู้ว่าลู่เฉินก็สนใจเมิ่งหู่และต้องการที่จะให้โอกาสเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
โอกาสแบบนี้ถ้าไม่รีบคว้าเอาไว้ให้แน่นๆ ละก็ จะต้องโดนฟ้าลงโทษอย่างแน่นอน!
แม้ว่าเมิ่งหู่จะดูมึนๆ งงๆ แต่ในสายตาของวั่นหย่ง เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีคนนี้เป็นคนที่ซื่อสัตย์และเต็มใจที่จะอดทนต่อความยากลำบาก นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ที่ดีมาก เป็นคนที่คู่ควรแก่การฝึกฝนอย่างแน่นอน
ด้วยรูปร่างหน้าตาและนิสัยของเมิ่งหู่ เขาอาจจะไม่สามารถเป็นดาราดังที่ฝูงชนให้ความสนใจได้ แต่เขาก็มีคุณสมบัติมากเกินพอที่จะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ ทีมตระกูลลู่ต้องการเด็กใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวาแบบนี้เนี่ยแหละ!
การตบที่ไหล่ของวั่นหย่งเรียกสติของเมิ่งหู่ให้กลับคืนมา ใบหน้าของเขาแดงขึ้นทันที กลืนน้ำลายและกำหมัดคารวะพร้อมกับพูดว่า “อาจารย์ลู่ ได้โปรดชี้แนะด้วยครับ!”
หากเป็นศิลปินดาราคนอื่น ถึงแม้เมิ่งหู่จะเคารพและเกรงกลัวมากแค่ไหนก็ไม่มีทางพูดออกไปแบบนั้นแน่ เพราะความสามารถในการต่อสู้ของเขาอยู่ในอันดับต้นๆ ในหมู่นักเรียนของโรงเรียนศิลปะป้องกันตัวหนานเยวี่ยเหิงซาน เขามีคุณสมบัติมากพอที่จะแข่งขันกับอาจารย์ได้เลย
จะมีศิลปินดาราสักที่คนที่สามารถแข่งกังฟูกับครูสอนศิลปะการต่อสู้ได้?
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับลู่เฉิน เมิ่งหู่กลับขอคำแนะนำอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนด้วยความจริงใจ เพราะเขาเคยดูวิดีโอที่มียอดวิวหลายพันล้านของลู่เฉินมาหลายคลิป เขารู้ว่าลู่เฉินนั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด
เมิ่งหู่กำลังจะได้ฝึกซ้อมกับลู่เฉินแล้ว!
โดยได้รับการอนุญาตจากครูฝึก เหล่านักเรียนในพื้นที่ฝึกซ้อมต่างรวมตัวกันอย่างรวดเร็วรอบสนามประลองเพื่อรับชมการแลกเปลี่ยนความรู้ในครั้งนี้
เมื่อมองไปที่เมิ่งหู่ที่เพิ่งสวมอุปกรณ์ป้องกัน ทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก
ลู่เฉินเองก็สวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างง่ายๆ เขาขยับกล้ามเนื้อสองสามครั้งแล้วถามเมิ่งหู่ว่า “พร้อมหรือยัง”
เมิ่งหู่พยักหน้าตอบรับ ท่าทางของเขายังคงดูประหม่าเป็นอย่างมาก
วั่นหย่งทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินให้ทั้งสองฝ่าย เขายืนตรงกลางระหว่างทั้งสองคน ยกมือขวาขึ้นสูงแล้วกระแทกลงอย่างแรง
เริ่มได้!
เมื่อการแข่งขันได้เริ่มขึ้น เมิ่งหู่ก็ไม่ได้ดูประหม่าอีกต่อไป ความสนใจทั้งหมดจดจ้องไปที่ลู่เฉิน ดวงตาจดจ่ออยู่ที่หัวไหล่ แขน เอว ท้อง ขา สะโพก และส่วนอื่นๆ ของลู่เฉิน ราวกับเสือโคร่งที่เฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของเหยื่อ
ลู่เฉินลอบพยักหน้ากับตัวเอง มีนักกีฬาประเภทหนึ่งที่เรียกกันว่าผู้เล่นสายแข่งขัน ในเวลาปกติจะดูธรรมดาไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แต่เมื่อเข้าสู่การแข่งขันกลับมีความสามารถที่โดดเด่น และแสดงทักษะในระดับที่ไม่ธรรมดาออกมา
เมิ่งหู่จะต้องเป็นคนแบบนี้อย่างไม่ต้องสงสัย วั่นหย่งไม่เคยมองคนพลาด!
ในขณะที่ลู่เฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ทันใดนั้นเมิ่งหู่ก็ก้าวเข้าไปข้างหน้าสองก้าวประชิดตัวลู่เฉินในทันที ยกขาของตัวเองอย่างรวดเร็วและเตะเข้าที่ด้านข้างของลู่เฉินด้วยความดุร้ายและทรงพลัง
“อ้า!”
เกิดความโกลาหลรอบๆ สนาม ใครจะไปคิดว่าเมิ่งหู่จะกล้าหาญขนาดนี้ กล้าถึงขนาดที่ลงไม้ลงมือโจมตีลู่เฉินได้
เขาไม่กลัวว่าการทำให้ลู่เฉินบาดเจ็บจะทำให้ผู้คนไม่พอใจ หลังจากนั้นก็จะโดนไล่ออกเลยหรือไง
หากฉลาดสักนิด ในการแข่งขันครั้งนี้ควรจะต่อสู้กับลู่เฉินอย่างดุเดือดก่อนสักสองสามรอบ แล้วค่อยยอมพ่ายแพ้ไปถึงจะถูก
ลู่เฉินไม่ได้เป็นแค่เถ้าแก่ของเฉินเฟยมีเดียเท่านั้น แต่ยังเป็นดาราดังระดับโลกด้วย เขาใช่คนที่คิดอยากจะตีก็ตีได้ง่ายๆ ไหมล่ะ
เมิ่งหู่เป็นคนโง่ที่กล้าหาญอย่างแท้จริง!
ปัง!
ลูกเตะข้างของเมิ่งหู่ถูกลู่เฉินบล็อกได้ทันเวลา โดยไม่ต้องคิด เขาใช้แรงดีดเพื่อดึงขาขวากลับทันที บิดเอวและยกแขนซ้ายขึ้น แล้วใช้ศอกกระแทกหน้าอกของลู่เฉิน
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก การโจมตีก็ยิ่งมีความไหลลื่นมากขึ้น บังคับให้ลู่เฉินต้องถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว
เมิ่งหู่ได้ทีก็ไม่ละเว้น เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับสองมือที่เหวี่ยงหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง กำปั้นกระแทกกับอากาศดูสง่าและทรงพลังเป็นอย่างมาก
หลายคนที่อยู่ข้างล่างทนดูไม่ได้ ภายในใจนั้นอยากจะด่าว่าเมิ่งหู่อย่างจะเป็นจะตาย…เคยเห็นคนโง่ แต่ไม่เคยเห็นคนที่โง่ขนาดนี้มาก่อน ได้เปรียบขนาดนี้แล้วกลับยังกระตือรือร้นจนเกินไปราวกับเสพติด!
พวกเขาอดใจไม่ไหวแล้วอยากจะลงสนามด้วยตนเองแทนที่ของเมิ่งหู่ แน่นอนว่าจะต้อง ‘ฉลาดมีไหวพริบและรู้ความ’ มากกว่าเมิ่งหู่อย่างแน่นอน
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีราวกับพายุเฮอริเคนของเมิ่งหู่ ลู่เฉินถอยหลังเพื่อต้านทานอย่างใจเย็น เขาพบว่าตัวเองสามารถรับมือกับมันได้อย่างง่ายดาย
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันไปมาหลายรอบ เมิ่งหู่โจมตีเป็นเวลานานจนหมดพลังไปไม่น้อยก็ยังไม่สามารถทำอะไรลู่เฉินได้ การโจมตีนั้นอ่อนลงเล็กน้อย ความเร็วและความแข็งแกร่งของหมัดก็แย่ลงมาหนึ่งส่วน
ปรากฏว่าพอถึงเวลานี้ จู่ๆ ลู่เฉินก็ก้าวไปข้างหน้าแทนที่จะถอยหลัง เอาข้างลำตัวและไหล่แทรกเข้าไปในช่องว่างที่ไร้การป้องกัน ก่อนจะกระแทกเข้าที่หน้าอกของเมิ่งหู่
ปัง!
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงเงียบกริบ เมิ่งหู่ที่มีน้ำหนักเจ็ดสิบห้ากิโลกรัมถูกกระแทกจนตัวลอยออกไป ล้มกลิ้งออกนอกสนามในทันที
“ดี!”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นรอบๆ สนามก็ระเบิดเสียงปรบมือและเสียงร้องอย่างยินดีขึ้นมาอย่างร้อนแรง
ไม่มีใครคาดคิดว่าสถานการณ์การต่อสู้จะพลิกกลับอย่างกะทันหันเช่นนี้ เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนเมิ่งหู่เพิ่งจะได้เปรียบไป แต่ในวินาทีต่อมาเขากลับถูกลู่เฉินซัดลงไปกองกับพื้น พวกเขาแทบจะมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของลู่เฉินได้อย่างชัดเจนเลยด้วยซ้ำ
เมิ่งหู่ตกลงไปอย่างน่าเกลียดมาก ล้มลงบนพื้นกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดง ในใจรู้สึกเซ็งเป็นอย่างมาก
ในขณะนั้นเองก็มีมือหนึ่งยื่นออกมา
และสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาในสายตาของเขาพร้อมๆ กัน คือใบหน้าที่ยิ้มแย้มของลู่เฉิน “อีกรอบไหม”
เมิ่งหู่จับมือของลู่เฉินเพื่อพยุงตัวขึ้นอย่างสับสน ส่ายหัวด้วยความอายแล้วพูดว่า “อาจารย์ลู่ ความสามารถของพวกเราห่างชั้นกันเกินไป…”
ลู่เฉินยิ้มและตบไหล่ของเขา พูดว่า “เชื่อฉันเถอะ นายไม่ได้แย่ขนาดนั้น!”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง ลู่เฉินก็ถามเขาว่า “เมิ่งหู่ ฉันมีสองทางเลือกให้นายในตอนนี้ หนึ่งคือนายจะมีส่วนร่วมในรายการ ‘ชุมนุมยอดมือปราบ’ ต่อไป อีกหนึ่งทางเลือกคือถอนตัวออกจากรายการและอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนต่อไป นายลองไปคิดดูก็แล้วกัน”
เมิ่งหู่เป็นหนึ่งในต้นกล้าใหม่ที่โดดเด่นที่วั่นหย่งเลือกเอาไว้ การแสดงออกของเขาตลอดการฝึกสามวันนี้ จริงๆ แล้วลู่เฉินมองเห็นอยู่ในสายตา เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่คู่ควรแก่การฝึกฝนคนหนึ่ง
ดังนั้นลู่เฉินจึงมอบสองทางเลือกให้แก่เขา
หากเป็นนักเรียนคนอื่นที่อยู่ในสนามแห่งนี้ บางทีอาจจะลังเลเมื่อต้องเผชิญกับทางเลือกดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด หรือแม้กระทั่งเกิดความคิดอื่นๆ มากมาย
แน่นอนว่าการอยู่ที่นี่เพื่อฝึกซ้อมต่อก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับโอกาสที่จะได้ออกรายการเพื่อสร้างชื่อเสียงของตัวเองแล้วนั้น…
ไม่ว่าใครก็คงลังเลใช่ไหมล่ะ
แต่เมิ่งหู่กลับไม่ลังเลเลยสักนิด เขาตอบกลับไปทันทีอย่างไม่ต้องคิดว่า “อาจารย์ลู่ ผมยินดีที่จะออกจากรายการและมาฝึกที่นี่ครับ!”
เขาชอบศูนย์ฝึกศิลปะการต่อสู้จิงอู่ ชอบบรรยากาศของที่นี่ ชอบการสอนของที่นี่ ดังนั้นเขาเลยชอบที่จะอยู่ที่นี่!
ลู่เฉินและวั่นหย่งต่างมองหน้ากันและกัน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
วั่นหย่งพยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นนายก็อยู่ที่นี่ต่อเถอะ…”
ความจริงแล้วสิ่งที่เขาหมายถึงจริงๆ ก็คือ การเตรียมตัวทำให้เมิ่งหู่กลายมาเป็นสมาชิกที่แท้จริงของทีมตระกูลลู่ เพราะเมิ่งหู่ได้ผ่านทั้งการทดสอบและการทดลองมาแล้ว และเขาได้ส่งคำตอบที่มีคุณภาพแสนยอดเยี่ยมกลับมา
เมิ่งหู่เกาศีรษะและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีที่มาจากโรงเรียนศิลปะป้องกันตัวหนานเยวี่ยเหิงซาน เด็กจากหมู่บ้านชนบทในเจียงซีใต้คนนี้ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการตัดสินใจของเขาในตอนนี้นั้นสำคัญมากแค่ไหน และจะมีความสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของเขามากเพียงใด
ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้เดินในเส้นทางที่แตกต่างออกไป เรื่องราวน่ามหัศจรรย์ของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!
…………………………………………………………………………