ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ – ตอนที่ 28 ตัวฉัน และ การเปิดเทอมที่ 2

ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ

“ใช่ๆ เดี๋ยวๆ มันต้องเป็น [ฉันต้องเข้าโรงเรียนให้ได้ไม่ใช่เร๊อะ!] นั่นเป็นสิ่งที่ต้องพูดเซ่”

 

“อ๋าาา มึนหัวแล้วนะคะ”

 

คุณแม่ได้ลุกขึ้นด้วยความตกใจและจับที่ไหล่ของฉัน แล้วเขย่าไปมา

 

ฉันพยายามที่จะหลุดออกจากการจับของเธอ

 

“หนูรู้อยู่แล้วว่าคุณแม่คิดถึงเรื่องของหนูตลอด แต่ส่วนนั้นก็เป็นส่วนของตรงนั้น

 

“งั้นสิ่งที่อยากจะได้อะไรจากการไปโรงเรียนสอนพิเศษล่ะ?”

 

“สิ่งที่อยากได้..? ใช้เวลาว่างไปกับการดูวีทูบเบอร์ หัวเราะ และ โดเนท!”

 

“ยัยบ้า!”

 

ถูกเคาะหัวจนได้

 

แย่จังเลย ฉันก็แค่ตอบตามที่คุณแม่ถามเองก็เท่านั้น

 

หา? ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าคุณแม่มีเป้าหมายเอาไว้อยู่แล้วในใจ

 

ยัยบ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดหรอ ก็แน่อยู่แล้ว

 

แต่ยังไงสิ่งที่้ปลี่ยนแปลงไม่ได้มันก็ไม่มีวันเปลี่ยน

 

และก็สำหรับสิ่งที่สอง ฉันเองก็อยากที่จะทำบางอย่างเป็นโบนัสให้ในสตรีมของฉันมันสนุกขึ้นด้วย

 

“ฉันอยากที่จะถามคำถามกับคุณแม่ซักคำถามหนึ่ง จริงๆแล้วคุณแม่อยากที่ให้ฉันเรียนพิเศษ หรือจริงๆแล้วอยากให้ฉันได้สอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้น?”

 

“แน่นอนอยู่แล้วว่าแม่อยากให้ลูกสอบเข้า นั่นเลยเป็นสาเหตุที่แม่ให้ลูกไปเรียนพิเศษไง”

 

“อ๋อ.. งั้นหนูก็จะไม่เข้าไปโรงเรียนแบบนั้นแล้วล่ะ”

 

“ไม่นะ..”

 

“แต่หนูยังสามารถสอบเข้าได้อยู่นะ”

 

ฉันได้เพิ่ม “เพราะยังไงมันก็ต้องมีเงื่อนไขยังไงล่ะคะ!”

 

“เอ๊ นี่ลูกคิดจะสอบด้วยหรอ แม้คิดว่าลูกไม่อยากที่จะสอบเข้าแท้ๆ?”

 

“หนูไม่เคยบอกว่าหนูจะไม่อยากสอบนะคะ ก็แค่ไม่อยากเอาเวลาเรียนมาตัดเวลาที่ใช้ในการดูสตรีมก็แค่นั้นเอง”

 

“เห๊ นี่ลูกหมายความว่างี้หรอ!”

 

“หนูจริงจังนะ!”

 

“เฮ้อ.. ลูกนี่มันโง่จริงๆ”

 

เอื๊อก นี่คุณแม่พูดว่าฉันโง่อีกแล้วอ่ะ

 

ทั้งๆที่เมื่อกี้บอกว่า [ลูกไม่ได้โง่หรอกนะ]

 

เอาเถอะ

 

คุณแม่ดูสงสัยกับคำพูดของฉัน

 

ทำไมทิศทางถึงเปลี่ยนไปแบบนี้หรอ ? เพราะว่าฉันได้ตั้งไว้สองเป้าหมาย

 

สอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นให้ได้มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเข้าใกล้เป้าหมายได้

 

มันก็เป็นในกรณีนั้น แล้วถ้าถามว่าทำไมฉันถึงไม่บอกตั้งแต่แรก? ก็เพราะบางทีมันอาจจะมีความเสี่ยงและผลลัพท์ที่ได้กลับมามันไม่คุ้มค่า

 

เพราะถ้าฉันสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นที่ยากๆได้ก็จริง ฉันก็ต้องเรียนเพิ่มจากโรงเรียนที่ยากขึ้นอยู่ดี

 

มันจะตัดเวลาของฉันไปเยอะสุดๆเลยล่ะ ทั้งเสียเวลาไปเต็มๆ

 

แล้วถ้าฉันผ่านเข้าไปได้แบบเฉียดชิวล่ะ

 

มันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ?

 

สำหรับฉันมันก็เป็นอีกเส้นทางหนึงนั่นแหละ

 

ในครั้งแรกที่ฉันได้เรียนในคอร์สสอนพิเศษช่วงฤดูร้อน เอาจริงๆแล้วมันก็เป็นการตัดสินใจที่ดีนะ

 

ถึงอย่างไรก็ตาม ฉันก็มักจะลังเลเสมอในตอนที่ต้องตัดสินใจเส้นทางอะไรแบบนี้

 

เพราะว่ามันไม่แฟร์ และฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น

 

เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้จริงๆแล้วฉันก็อยากเรียนเส้นทางที่มันเสถียรอย่างโรงเรียนมัธยมต้นแบบปกติดีกว่า

 

“นี่แม่อยากให้ฉันสอบเข้าขนาดนั้นเลยหรอ..?”

 

“แน่นอนอยู่แล้วล่ะ”

 

“นี่แม่คิดว่าฉันจะทำได้จริงๆหรอ?”

 

“แน่นอน”

 

“นี่แม่ชัวร์หรอ? ชัวร์จริงๆนะ”

 

“หืม..? นี่ลูกกลัวหรอ? ลูกบอกว่ามันโอเคตั้งแต่แรกใช่ไหมล่ะ?”

“หืม โอเคได้ ถึงจะมีเงื่อนไขก็เถอะ”

 

เพราะฉันได้ตัดสินใจไปแล้วฉันเลยเปิดมือถือขึ้นและโชว์ไปที่คุณแม่

 

มันเป็นเว็บไซต์ของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง

 

“นี่เป็นโรงเรียนเดียวที่หนูจะไปสอบนะ ถ้าหนูสอบไม่ผ่านหนูก็จะไม่เล็งไปที่โรงเรียนอื่นหนูจะเรียนจนกว่าจะสอบเข้าโรงเรียนนี้ให้ได้!”

 

“มันไร้ความหมายนะถ้าสอบให้เปลืองเงินแบบนั้นนะ”

 

“เข้าใจอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะงั้นฉันจะทำให้ได้ดีที่สุดในตอนสอบ และเดียวฉันจะจ่ายค่าสอบด้วยตัวเองเพราะงั้นอย่าทำงานหนักแบบนี้อีกนะคะ คุณแม่”

 

“นี่ลูกพูดอะไรหน่ะ? ไม่มีทางที่ลูกจะหาเงินส่วนนั้นมาด้วยตัวเองได้หรอกนะ แล้วลูกก็ยังไม่ได้บอกเหตุผลแม่เลยว่าทำไมลูกถึงต้องสอบเข้าโรงเรียนนั้นด้วย!”

 

“ไม่นะคะ เดียวนะ นี่แม่ยังไม่เห็นอีกหรอคะ?”

 

“เห็นอะไรหรอ?”

 

“อ่าาา หนูว่าล่ะทำไมบทสนาของเราถึงได้มาถึงขนาดนี้”

 

ฉันได้เปิดไปหน้าของเงินที่ฉันได้จากโฆษณา

 

มันมีตัวเลขโชว์อยู่

 

“ถ้าเป็นข้อมูลของเงินที่หนูทำได้เมื่อเดือนที่แล้ว แล้วก็อีกไม่กี่วันเงินมันจะโอนมาที่บัญชีของหนูแล้ว และนี่เงินที่หนูทำได้ในเดือนนี้”

 

“หืม? เอออออ๊? หน่วย สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน..? นี่ลูกทำเงินได้ขนาดนี้เลยหรอ?”

 

“หึๆ อยู่แล้วล่ะค่ะ!”

 

คุณแม่ของฉันได้ล้มไปบนเตียงอีกครั้ง

 

“ห่าๆ.. ” ฉันได้ยินเสียงขำแห้งๆออกมา

 

“นี่ลูกทำเงินได้มากกว่าแม่อีกนะเนี่ย แล้วนี่แม่จะทำงานหนักเพื่ออะไรกัน..?”

 

“ไม่ๆๆๆๆๆ แม่ก็ลูกนี่ว่าสุดท้ายหนูได้เงินมาก็เอาไปซุบเปอร์แชทอยู่ดี!”

 

“แหม ก็แน่อยู่แล้ว ซุปเปอร์แชท เพราะแม่รู้ว่าลูกเองก็หาเงินได้แต่แม่ก็คิดว่าคงได้แค่ไม่เท่าไหร่ เพราะงั้นแม่เลยต้องทำงานจนดึกดื่นโดยที่แม่แทบไม่ได้แตะพวกสื่อด้วยซ้ำ และแม่เองก็ไม่ได้รู้เลยว่าลูกของแม่หาเงินได้ขนาดนี้โดยที่แม่ไม่รู้ตัวเลย”

 

นี่ฉันตกใจจริงๆนะเนี่ย

 

คุณแม่ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

 

“แล้วที่แม่ทำไปขนาดนี้เพื่ออะไรกันล่ะ..?”

 

เธอทำอย่างกับตัวของเธอเองได้แก่ลงไป และฉันรู้สึกไม่ดีเลย

 

ฉันส่ายหัวของตัวเอง และตัดสินใจปฎิเสธคำพูดของคุณแม่

 

“มันก็เป็นแค่ตอนนี้แหละค่ะ ที่ตอนนี่หนูดังได้ก็เพราะว่า หนูเป็นเด็กประถมจริงๆต่างหาก ปีหน้าฉายานี้ก็คงหายไปแล้วล่ะค่ะ แล้วก็คงทำเงินมากขนาดนี้ไม่ได้แล้ว และก็ปีต่อจากนั้นไปอีกเงินที่ทำได้ก็จะน้อยลง ในทีแรกหนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนูจะสตรีมไปได้อีกนานแค่ไหนกันแน่”

 

“เป็นอย่างงั้นเองหรอ?”

 

“ใช่แล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าแม่หยุดทำงานไปจริงๆและก็พวกเราต้องจบลงที่เป็นคนไร้บ้านแน่ๆ แต่ในตอนนี้เดียวค่าสอบหนูเป็นคนจ่ายด้วยเงินที่หนูหามาเองนะคะ แล้วก็เงินที่หนูหามาได้หนูจะเอาไปแค่ส่วนนึงที่หนูต้องการ แล้วก็เงินที่เหลือก็จะเข้าบ้าน”

 

“อย่าทำแบบนั้นเลย มันเป็นเงินที่ลูกหามาเองนะเพราะงั้นใช้ด้วยตัวเองเถอะ”

 

“แต่ว่า”

 

“แล้วก็ ลูกสามารถตัดสินใจเองได้เลยว่าลูกจะสอบเข้าหรือไม่สอบเข้า

 

“อ่ะ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยคะ..?”

 

“แม่แค่พึ่งรู้ว่าลูกดูโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่แม่คิดเอาไว้อีก แม่คิดเอาไว้ว่าแม่ต้องปูทางไว้ให้ลูกเดินเพื่อไม่ให้ลูกผิดพลาด แม่คิดว่านั่นเป็นงานของผู้ใหญ่ที่ต้องทำแก่ลูกของตัวเอง”

 

ฉันได้เงินหน้าขึ้นและมองออกไป

 

“แต่ลูกได้เดินบนทางของลูกมาตั้งนานแล้ว เพราะงั้นทางที่แม่เคยจะวางไว้ให้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป แม่ขอโทษนะที่มาตัดสินลูกแบบนี้ และทำตัวน่ารำคาญกับลูกแบบนี้”

 

ฉันรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวในเสียงของคุณแม่

 

ฉันกำมือของคุณแม่ให้แน่นๆ

 

“ไม่ล่ะค่ะ หนูยังมีอะไรที่ต้องให้ทำอีกเยอะเพราะงั้นหนูจะอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะงั้นคุณแม่เองก็ต้องช่วยส่วนนั้นด้วยนะคะ!”

 

“หืม.. แน่นอน แน่นอนอยู่แล้วล่ะ เพราะแม่เป็นแม่ของลูกนี่หน่า!”

 

ฉันรู้สึกว่าหัวใจของเราทั้งสองได้เชื่อมต่อกัน และฉันเหมือนเห็นน้ำตาที่อยู่ในดวงตาของเธอด้วย

 

เธอได้ใช้นิ้วของเธอปัดน้ำตาออกไปและถามออกมา “พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว” แม่ก็ได้พูดขึ้น “ลูกคิดยังไงกับมันหรอ?”

 

 

“มันเป็นโรงเรียนแบบไหนหรอที่ลูกโชว์ให้แม่ดู แม่รู้แค่ว่ามันใกล้บ้านและคะแนนของโรงเรียนเองก็ดี”

 

“มันเป็นโรงเรียนขั้นสูงอ่ะค่ะ กฎของโรงเรียนหลวมมาก! และที่หนูรู้คือมันก็มีหลายๆโรงเรียนที่ระบบการศึกษาสูงแต่กฎของโรงเรียนค่อนข้างน้อย แต่โรงเรียนนี้น้อยสุดๆเลยล่ะค่ะ ขอแค่ทำได้เกรดดีมากๆ พวกเขาก็จะไม่โกรธถึงแม้ฉันจะดูสตรีมตอนที่สอนอยู่ก็ตาม”

 

ฉันปลดการป้องการออก และพูดออกไปโดยที่ไม่คิด

 

ฉันพูดออกมา

 

“แล้วก็หนูจำได้ด้วยว่าหนูต้องมีเรื่องที่ต้องทำ เพราะงั้นหนูกลับบ้านก่อนแล้วนะ เพราะงั้นปล่อยมือเถอะค่าาาาาา”

 

“อิ โร ฮะ จ๊ะ”

 

“เอ่อ..”

 

“แม่ขอรายละเอียดมากกว่านี้หน่อยสิจ๊ะ!”

 

“ม่ายยยยย”

 

หลังจากนั้นพวกเราก็โดนดุไปตามระเบียบ

 

“ที่นี่คือโรงพยาบาลนะคะ โปรดเงียบกันด้วยเถอะค่ะ!!”

 

ขอโทษค่ะ

 

* * *

 

และแล้ววันหยุดฤดูร้อนก็ได้จบลง

 

เทอมใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น และ วันนี้เองก็เป็นวันแรกของการเปิดเทอม

 

แต่แล้วนี่มันอะไรล่ะ เสียงโหวกเหวกน่ารำคาญสุดๆ

 

มันไม่ใช่เพราะว่าวันหยุดยาวได้จบลง

 

ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองและเห็นคุณครูโฮมรูมที่เข้ามาสาย และเธอเองได้ได้เคลียร์คอของเธอแล้วพูดขึ้น

 

ในตอนที่เธอได้พูดออกมาทั้งห้องได้เงียบลง เธอได้พูดออกมาว่า

 

“วันนี้เป็นวันแรกของเทอมใหม่แล้วก็มีคนที่มาใหม่ด้วย เข้ามาแนะนำตัวได้เลย”

 

ชิ่งงงง

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

แล้วคุณครูก็พูดออกมา “อ่ะ จริงด้วย” แล้วเดินไปเปิดประตูห้อง

 

มันเป็นนักเรียนหญิงที่ฉันไม่รู้จัก เธอได้เดินเข้ามาตามที่คุณครูบอก

 

“ทุกคน เธอเป็นเด็กที่ย้ายมาเรียนกับเราในวันนี้ แนะนำตัวเองหน่อยได้ไหม?”

 

นักเรียนคนนั้นได้พยักหน้าและก้าวมาด้านหน้า

 

เธอได้พูดชื่อของตัวเองด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบตะกุกตะกัก และประโยคสุดท้ายนั้น

 

“ฉันมาจากยูเครนค่ะ” (btw ประโยคนี้น้องพูดไม่ชัด)

 

สายลมที่มาจากทางหน้าต่างได้ทำให้ผมสีเงินของเธอปลิวไสว

 

และแล้ว เทอมที่ 2 ของ ประถมศึกษาที่ 6 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

 

 

 

เปิดตัวฮาเร็มคนใหม่ของอิโรฮะ! ????

ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ

ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ

Status: Ongoing
“นี่เธอไปเรียนภาษานั้นตอนไหนกัน!?” “ตอนนี้นี่แหละค่ะ.” โอตาคุวีทูบเบอร์เกิดใหม่เป็นโลลิ และดันเก่งภาษาอังกฤษระดับ fluent (คล่องแคล่ว) ซะได้ และตอนนี้เธอก็จะเดบิวต์เป็นวีทูบเบอร์..! นี่เป็นเรื่องราวของสาว น้อย..? ที่จะปกป้องโลก..? ด้วยความสามารถอันแสนจะโกงของเธอ. — “นี่นายจะไม่มาเป็นวีทูบเบอร์หรอ..?” ( M : กาวฝุดๆ )

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท