34 เตรียมการขั้นสุดท้าย แล้วไปกันเลย!
“อะ ขอโทษที ฉันลืมของบางอย่าง ช่วยรออยู่ที่นี่ก่อนนะ”
หลังจากที่ส่งประธานจูเลียน ลูซิด้า และชาโรออกไปแล้ว
ต่อจากนี้ฉันจะไปเจอกับคุณปู่ และเริ่มเที่ยวชมเมืองหลวงด้วยกัน
“ลืมอะไรงั้นหรือคะ?”
ก่อนที่ฉันจะออกจากโรงแรมเพื่อไปหาคุณปู่พร้อมกับริโนกิส ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง
ใช่แล้ว――การยืนยันคำสัญญาไงล่ะ
แต่ก่อนหน้านั้น ฉันต้องสลัดการตามติดของริโนกิสให้ได้ก่อน เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวตามลำพังได้ ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จอย่างรวดเร็วโดยให้พ้นจากสายตาของเธอ
ตอนนี้พวกเราลงมาที่ล็อบบี้โรงแรมแล้ว
นี่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการแยกตัว
“ลืมอะไรงั้นหรือคะ?”
เอ๊ะ เธอถามซ้ำ?
“…..เอ๊ะโตะ กระเป๋าเงิน?”
ฉันไม่ได้คาดหวังให้ริโนกิสตอบสนองอะไรนอกจาก “เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะรอที่นี่” สำหรับตอนนี้ฉันต้องหยิบยกสิ่งของจำเป็นบางอย่างที่ไม่มีอยู่กับตัวเพื่อสร้างโอกาสให้หลบออกไปได้
“คุณหนูคะ คุณไม่ได้จำเป็นต้องมีกระเป๋าเงินมาตั้งแต่แล้วไม่ใช่หรือคะ? เพราะมีอยู่ที่ดิฉัน”
นั่นสินะ
ริโนกิสคือผู้รับผิดชอบในการจัดการใช้เงินของฉัน
ยังไงก็ตาม ตั้งแต่แล้วโอกาสที่ฉันจะใช้เงินตัวเอง ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการซื้อของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ จากสถานที่ที่ฉันไป「เยี่ยมชมธุรกิจ」
ฉันได้รับเงินค่าขนมมาจำนวนหนึ่ง แต่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงินในกระเป๋าเงินของฉันมีอยู่เท่าไหร่
การที่คนที่อยู่ห่างไกลจากกระเป๋าเงินอย่างฉันมากังวลเกี่ยวกับกระเป๋าเงินนั้นดูผิดธรรมชาติอย่างมาก ฉันเองยังคิดได้เลย
“จ๊า งั้นเอ่อ……ผ้าเช็ดหน้า?”
“นั่นดิฉันก็มีเหมือนกันค่ะ”
“……….”
ก็นั่นสินะ
อย่างแรกเลย ฉันไม่เคยเอาอะไรติดตัวไปด้วยเลยเวลาออกไปข้างนอก ฉันฝากทุกอย่างไว้กับริโนกิส
แย่แล้ว นึกอะไรไม่ออกเลย
“…..คุณหนู กำลังวางแผนอะไรอยู่งั้นหรือคะ?”
การมากังวลเรื่องกระเป๋าเงินหรือผ้าเช็ตหน้าที่ไม่เคยสนใจมาก่อน ทั้งยังจนคำพูด ความสงสัยจึงปรากฎขึ้นบนใบหน้าของริโนกิส
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร ริโนกิสคงไม่มีทางทิ้งฉันไว้ตามลำพังแน่ ๆ
―― งั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันต้องการเหตุผลสำหรับหลบออกไปที่ต่างออกไปจากนั้น
“พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย ห้องน้ำไง”
“อ้า เช่นนั้นหรือคะ งั้นดิฉันจะไปด้วยค่ะ”
“แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก ฉันจะไปเข้าห้องน้ำคนเดียว”
“……เอ๊ะ? หรือว่าอยู่ในช่วงวัยต่อต้านกันคะ?”
ไม่ใช่หรอก รู้สึกผิดขึ้นมาแล้วสิ ……แต่ก็ดีเหมือนกัน เรียกว่าวัยต่อต้านสินะ
“ใช่แล้ว!วัยต่อต้านล่ะ!”
ฉันพูดโดยไม่ลังเล แต่เธอกลับมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาเหมือนจับได้ว่ากำลังโกหกซึ่ง ๆ หน้า
” ――ดูตั้งใจดีจังนะคะ”
ริโนกิส…..ผู้หญิงคนนี้ ทำเหมือนฉันเป็นลูกไก่ในกำมือ จะบอกว่าฉันเป็นของเล่นของเธองั้นเรอะ
“โดยทั่วไปแล้ว ดิฉันคิดว่าไม่มีใครที่ไหนเรียกตัวเองว่าอยู่ในวัยต่อต้านหรอกนะคะ และอาการต่อต้านในวัยต่อต้านก็เป็นเหมือนอาการดือรั้นจากจิตใจที่ไม่มีเหตุผล”
……พูดตามตรง การประกาศตัวว่าอยู่ในวัยต่อต้านก็เป็นเรื่องโกหกจากก้นบึ้งของหัวใจฉันเหมือนกันน่ะ
ยังไงก็ตาม ความสงสัยยังไม่หายไปสินะ งั้นก็คงไม่ต้องเลือกวิธีแล้ว
“ฉันจะอยู่ที่นั่นสักพัก ออกจะน่าอายไปหน่อย เพราะงั้นฉันจะไปห้องน้ำคนเดียว”
“เข้าใจแล้วค่ะ ――แต่หากนานเกินไป ดิฉันจะไปรับทันทีนะคะ”
ชิ เป็นคำเตือนสินะ……แต่จะไม่มีการประนีประนอมอีกต่อไป
งั้นก็ช่วยไม่ได้ คงต้องเร่งมือสักหน่อย
ฉันเข้าห้องน้ำรวมในล็อบบี้ และหนีออกไปทางหน้าต่าง
เป็นหน้าต่างบานเล็กสำหรับระบายอากาศในระดับสูงพอสมควร แต่เป็นสรีระของเด็กจึงไม่มีปัญหา วิ่งขึ้นกำแพง กระโดดไปที่หน้าต่าง บิดตัวแล้วไถลออกไป
หลังกระโดดลงสู่พื้นจากความสูงพอสมควร ―― ก็เริ่มออกวิ่งทันที
ยังไงก็ตามไม่มีเวลาแล้ว
ฉันต้องรีบจัดการให้เสร็จ และกลับไปก่อนที่ริโนกิสจะมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนอื่นเลย ฉันตัดสินใจไปที่ที่ชาโรถูกจับซึ่งเป็นจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น
ฉันแสดงพลังออกมาเต็มที่ในตรอกด้านหลังที่ห่างไกลจากสายตาของผู้คน ทั้งสลัวและไม่เด่น
เป็นสถานที่เงียบสงบและมืดซึ่งเหมาะสำหรับการทะเลาะเบาะแว้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ―― แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น
ฉันรู้สึกต้องรีบขึ้นอีก
สำหรับฉันตอนนี้ ริโนกิสยุ่งยากยิ่งกว่าสัตว์อสูรชั้นหนึ่ง
ในกรณีนี้ ฉันลองวิ่งสุ่มไปตามตรอกซอกซอยด้านหลังและมองหาพวกอันธพาล
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉันก็วิ่งไปรอบ ๆ ―― จนพบเข้ากับชายสามคนที่ดูน่าจะใช้ได้ในทันที
ไม่มีเวลาแล้ว
ต้องจัดการให้เร็ว
“ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ?”
“อะ?”
ชายสามคนที่เดินไปมาในตรอกด้านหลังหันกลับมา ――หื~ม ดูอ่อนแอ แต่ก็เป็นแหล่งข้อมูลที่ดี
” ――ช่วยบอกฉันเกี่ยวกับตราสัญลักษณ์นี่หน่อยได้ไหมคะ? อีกอย่าง ฉันมีเวลาไม่มากนัก ถ้ามัวแต่ชักช้า ฉันจะเสียมารยาทเอานะคะ แล้วก็ช่วยตอบให้ชัด ๆ ด้วย”
และจากนั้น ฉันก็แสดงตราที่ขโมยมาจากอันธพาลในวันนั้น
“ห๊า?”
“นังเด็กนี้มันอะไรว่ะ”
“เดี๋ยวก่อน ข้าเคยเห็นอะ ――อ๊อก!?”
ไม่มีเวลามาให้อ้อยอิ่งแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชายทางซ้ายซึ่งดูเหมือนจะรู้จักฉัน ฉันเตะเข้าที่ท้อง แล้วใช้ท้องของเขาเป็นบันไดเพื่อเตะเข่าเข้าที่ใบหน้า มัวแต่ชักช้าในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เวลาของฉันก็ยิ่งเหลือน้อย
“ทะ ทำอะไรของแกกันว――ค๊อก!?”
ในเวลาเดียวกันกับที่ลงสู่พื้น ฉันก็ปัดขาข้างหนึ่งของชายที่อยู่ตรงกลางซึ่งตอบสนองอย่างเชื่องช้าออก และผลักร่างของเขาให้กลิ้งลงไปกับพื้น――
“คุ!?”
สำหรับคนทางขวาที่ปฏิกิริยาตอบสนองช้าเกินไป เมื่อโดนฉันใช้มือแทงทะลวงเข้าไปราวกับจะควักเครื่องในออกจากใต้ซี่โครง เขาก็ล้มลงคุกเข่า ――ความเจ็บปวดนั้นต้องมากเกินไปสำหรับเขาจนพูดอะไรไม่ได้ และสลบไปด้วยความทรมาน
“เกิดบ้าอะไรขึ้นก――อ๊อก!?”
ก่อนที่ชายตรงกลางซึ่งกลิ้งไปกับพื้นจะพยายามลุกขึ้นยืน ฉันก็ยื่นสัญลักษณ์ไปอยู่ด้านหน้าของเขา
“รู้จักใ? ไม่รู้จัก? เพื่อนของนายหลับสนิทกันไปแล้ว อยากจะลงไปนอนด้วยสักหน่อยไหม? แต่รอบนี้ฉันไม่ยอกให้ลงไปหลับสบาย ๆ หรอกนะ”
“กะ แกมันตัวบ้าอะไรว่ะ” แกคิดว่าพวกเราเป็นใคร!?”
“ฉันไม่รู้และไม่สนใจ ถ้าไม่ยอมบอกข้อมูลที่ฉันต้องการมาให้เร็ว ๆ ฉันจะเริ่มเลาะกระดูกมือและเท้า――นี่ไม่ใช่คำขู่ เข้าใจไหม?”
“…………”
ผู้ชายคนนี้น่าจะสัมผัสได้ถึงความเอาจริงภายใต้รูปร่างหน้าตาแบบนี้ของฉันแล้ว ใบหน้าจึงชักกระตุกพูดออกมาเสียงสั่น
――เพราะเหตุนี้เอง ฉันจึงได้ข้อมูลตามที่ต้องการ และขอให้พวกเขารับฝากข้อความของฉันไปด้วยว่า「ฉันจะไปที่นั่นคืนนี้」 แล้วรีบกลับโรงแรม
ผลลัพธ์คือ――แทบไม่ทัน
อันตราย
ฉันเจอริโนกิสทันทีที่ฉันออกจากห้องน้ำ อันตรายจริง ๆ
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน
ไปเจอคุณปู่ เที่ยวชมเมืองหลวง
เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีเรื่องราวให้หยิบยกออกมาแป็นพิเศษ ――มีเพียงเรื่องน่าสนใจที่ได้ยินจากคุณปู่
เมื่อวานนี้ เจ้าหญิงฮิลเดโทร่า เจ้าหญิงลำดับที่สามแห่งอาณาจักรอาร์ตัวร์ ได้มาชมการแสดงรอบสุดท้ายของ『หญิงสาวในห้วงรัก』และเหมือนว่าเธอต้องการจะทักทายฉัน เป็นเรื่องที่ได้ยินมากจากคุณนายไลม์อีกที
ฉันยังไม่เคยเห็นเจ้าหญิงตัวเป็น ๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมและโด่งดังอย่างมากบนเมจิกวิชั่น
ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้สนใจฉัน แต่……ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปเจอ ฉันไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ม๊า ถ้าช่วยนำไปสู่การทำงานใหม่ ๆ บางทีพวกเราก็น่าจะพบกัน
ในตอนบ่าย พี่นีล และลินเนตต์ สาวใช้ส่วนตัวของพี่ชาย ก็เข้ามาสมทบ ก่อนไปเยี่ยมชมอู่ต่อเรือเหาะ และพาไปดูภายในสถานีออกอากาศของเมืองหลวง
สุดท้ายก็ทานอาหารวเย็น และแยกย้ายกลับโรงแรม
เช้าตรู่พรุ่งนี้ มีกำหนดการไปจากเมืองหลวงพร้อมกันกับคุณปู่
หรือก็คือ ฉันมีเวลาเคลื่อนไหวแค่ในคืนนี้เท่านั้น
และการเตรียมการก็เสร็จสิ้นในตอนเช้าไปแล้ว――ในที่สุดก็ได้เวลาสนุกแล้วสิ