43 ชีวิตที่มีแค่เราสองคน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการเริ่มต้นใช่ชีวิตร่วมกัน
“――สำหรับนักเรียนใหม่ กรุณาไปที่แผนกต้อนรับก่อนค่ะ”
ผู้ใหญ่ที่สวมปลอกแขนปักตราสถาบันตะโกนเรียกผู้คนที่มารวมตัวกันที่หน้าประตูสถาบัน แน่นอนว่าฉันกับริโนกิสก็รวมอยู่ในนั้น
“จ๊า เนีย ต่อจากนี้พี่จะยุ่งกับการเตรียมตัวเหมือนกัน ดังนั้นคงต้องขอแยกตัวกันตรงนี้เลยนะ”
หลังพูด พี่นีลและลินเนตต์ก็จากไปอย่างรวดเร็ว พิจารณาจากสิ่งต่าง ๆ แล้ว เช่น จัดข้าวของ และเตรียมตัว ――จากนี้ไปพวกเราจะได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน ดังนั้นจึงมีโอกาสมากมายที่จะได้เจอกับพี่ชาย
หลังมองส่งพี่ชายไปจนลับสายตาโดยไม่ได้เรียกให้อยู่ด้วยกัน ฉันก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่นำทางที่สวมปลอกแขนที่ยืนอยู่ที่นี่ที่นั่น ส่วนเรเลียเรดดูเหมือนจะไปที่แผนกต้อนรับก่อนแล้ว
อาจเป็นเพราะอากาศดี แผนกต้อนรับจึงตั้งอยู่กลางแจ้ง
ดูเหมือนว่าแค่นำโต๊ะและสิ่งอื่น ๆ มาจัดเรียงอยู่ใต้เต็นท์ แผนกต้อนรับก็เสร็จสิ้น
ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เมื่อฉันเขียนชื่อตัวเองลงในเอกสารก็เสร็จแล้ว
จากนั้นฉันก็ได้รับป้ายไม้มา
“――กรุณาไปที่หอพักสำหรับขุนนางนะคะ”
พอลองนึกดูแล้ว ฉันได้ยินมาว่าขุนนางและสามัญชนจะได้นั่งเรียนด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าหอพักที่ได้อยู่จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ลูกหลานขุนนางได้รับอนุญาตให้พานรับใช้มาเพื่อดูแลตัวเองได้หนึ่งคน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพาริโนกิสมาด้วย และพี่นีลก็มีลินเนตต์อยู่ด้วย
เห็นว่าที่พักสำหรับขุนนางจะประกอบด้วยห้องส่วนตัว และห้องสำหรับข้ารับใช้อยู่ติดกัน
สถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์มีพื้นที่กว้างขวาง แต่ดูเหมือนว่าจะมีอาคารเรียนและหอพักของแผนกมัธยมต้นและแผนกมัธยมปลายอยู่ในบริเวณเดียวกัน
ยังไงก็ตาม ดูเหมือนที่ตั้งจะอยู่ค่อนข้างไกลพอสมควร ดังนั้นหากไม่ออกไปหา หรือไม่มาหาถึงที่นี่เอง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เจอกันง่าย ๆ
สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าสนามเด็กเล่นในร่มและกลางแจ้ง สนามฝึกซ้อม และห้องเรียนพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน แต่ฝั่งอาจารย์สามารถปรับให้เหมาะสมได้เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน
และแล้วฉันก็มาถึงหอพักหญิงสำหรับขุนนางในแผนกประถม
เมื่อเข้าไปด้านใน สิ่งแรกที่เห็นคือพื้นที่พักผ่อนพร้อมเก้าอี้และโต๊ะ ดูเหมือนว่าจะมีห้องรับประทานอาหารแยกต่างหาก ดังนั้นน่าจะไม่มีใครมาทานอาหารที่นี่ ม๊า ให้ความรู้สึกเหมือนล็อบบี้โรงแรมเลย
ดูเหมือนจะมีเด็กที่เป็นบุตรีขุนนางไม่มากเท่าไหร่
ถ้าจำไม่ผิด ระยะเวลาของเรียนคือหกปี
ตอนนี้ฉันอายุหกขวบ และจะมีอายุสิบสองปีเมื่อเรียนจบ
――หกปีสำหรับเด็กนั้นยาวนาน และมีความหมายมาก
ตอนนี้ฉันยังเป็นเด็กเล็กตัวเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ในตอนที่ขึ้นระดับชั้นสูงสุดตอนอายุสิบสองปี ขนาดร่างกายและใบหน้าก็จะแตกต่างออกไปอย่างมาก
ม๊า ขอแค่ชนะไปเรื่อย ๆ ก็จะไม่มีช่วงเวลาที่ยากลำบากแล้ว
ฉันแข็งแกร่งอย่างท่วมท้นและไร้เทียมทาน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นความแตกต่างของอายุ
“――คุณหนูคะ คนทางนั้นน่าจะเป็นผู้ดูแลหรือเปล่าคะ?”
ริโนกิสชี้ไปยังผู้ใหญ่ที่อยู่ในวงล้อมของเด็ก ๆ ที่นั่งเก้าอี้
ดูเป็นผู้หญิงที่ยังสาวอยู่ แต่เธอไม่ได้สังเกตเห็นฉัน และกำลังดูอะไรบางอย่างกับพวกเด็ก ๆ
“คุณเป็นผู้ดูแลหรือเปล่าคะ?”
ฉันเข้าไปใกล้และเรียกเธอ ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
พวกเขากำลังดูเมจิกวิชั่นกัน
เหนืออื่นใด ที่ฉายอยู่คือ 「การเยี่ยมชมธุรกิจของเนีย・ลิสตัน」ในตอนที่ฉันออกไปจับแมลงในฤดูร้อนที่แล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า……ม๊า ฉันคิดว่าออกอากาศซ้ำบ่อยมาก
“เอ๊ะ? ……เอ๊ะ?”
ทั้งเหล่าเด็กทั้งผู้ดูแลต่างดูสับสนเล็กน้อย มองมาที่ฉันกลับไปกลับมากับเมจิกวิชั่น
ก็นั่นสินะ เพราะมองไปมาก็เห็นฉันอยู่ทั้งคู่ ทำให้รู้สึกแปลกประหลาดไม่น้อย พอเห็นตัวเองบนภาพสะท้อนที่โดนมองกลับไปกลับมาแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกอายนิดหน่อยเหมือนกัน
“……เนีย・ลิสตันซัง?”
“ใช่ค่ะ นับจากวันนี้หนูจะอยู่ภายใต้การดูแลของคุณค่ะ”
“”เอออออออออออออออออ๋!?””
――ไม่เอาสิ ไม่เห็นต้องแปลกใจขนาดนั้นเลย ทั้งผู้ดูแล ทั้งพวกเด็ก ๆ ยังไงฉันก็ยังเป็นลูกหลานขุนนางแห่งอาณาจักรอาร์ตัวร์เหมือนกัน ดังนั้นฉันก็ต้องมาอยู่ที่หอพักนี่อยู่แล้ว เป็นหน้าที่ตามบ้านเกิด
“ขะ ขะ ของจริง! ตัวจริง! ตะ ตัวจริงล่ะ!”
“ผมสีขาวของจริงด้วย!”
“ม๊ายหว๊ายแล้วน่ารักจริง ๆ ! น่าร๊าก!”
อย่างที่คาดไว้?
พวกเด็ก ๆ ของจริงมาแล้ว
แต่ในเรื่องความงาม พี่ชายของฉันยังคงกินขาด
――เมื่อเห็นปฏิกิริยาแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกตระหนักได้ว่าฉันมีชื่อเสียงมากทีเดียว
ฉันมอบป้ายไม้ให้กับผู้ดูแล――ผู้ดูแลหอพักคาร์เม และได้รับกุญแตห้องกลับมา
“เนียจังอายุหกขวบแล้วสินะคะ วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน……”
ผู้ดูแลหอพัก……จะว่าไปแล้วที่นี่คือเมืองหลวงของอาณาจักรอาร์ตัวร์ พูดอีกอย่างคือ บ้านของราชวงศ์
ต้องขอบคุณการติดตั้งเมจิกวิชั่นแต่เนิ่น ๆ ทำให้ตั้งแต่ผู้ดูแลหอพักไปจนถึงนักเรียกรุ่นพี่หลายคนได้ดูเรื่องของฉันตั้งแต่การประกาศหายจากอาการป่วยแล้ว
เป็นเวลาประมาณหนึ่งปีครึ่งแล้วนับตั้งแต่วันที่ฉันปรากฏตัวครั้งแรกในเมจิกวิชั่น
ฉันพึ่งตระหนักได้ว่าเวลาผ่านมานานมากขนาดนั้นแล้ว
ถึงจะไม่ใช่ผู้ดูแลหอพัก แต่ฉันก็อยากจะพูดแบบนั้นเหมือนกัน
ผ่านมาปีกว่าแล้ว และฉันได้พยายามอย่างเต็มกำลังที่สุดแล้ว
“หนูมีความคิดว่าจะไปถ่ายทำพร้อมกับเรียนไปด้วย อาจจะสร้างความลำบากให้กับคุณมากมาย แต่จากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“ค่ะ ฮิลเดโทร่าซามะเองก็เคยกล่าวแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นหากมีปัญหาอะไรสามารถปรึกษาดิฉันได้ทันทีเลยนะคะ”
มือของฮิลเดโทร่ายื่นเข้ามาแล้วยังงั้นเหรอ ม๊า คำพูดของราชวงศ์ย่อมมีผลมากกว่า「คำพูดขอฝากเนื้อฝากตัว」ของฉัน
“――อะ หมายความว่า คนที่เพิ่งมาก็คือเลเลียจังสินะคะ”
ดูเหมือนว่าผู้ดูแลหอพักจะไม่ได้สังเกตเห็นเรเลียเรด
ม๊า เทียบกันแล้ว ฉันทำงานนี้มามากกว่าหนึ่งปี ส่วนเธอยังไม่ทันถึงครึ่งปีเลย
ความแตกต่างของเวลาที่ปรากฎบนภาพสะท้อน ฉันเดาว่าสร้างความแตกต่างในการเป็นที่รู้จักด้วยเช่นกัน
……แต่ยังไงก็ตามผู้ดูแลหอพักคนนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง
เธออาจเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันเคยเห็น
――ม๊า ถึงอย่างงั้น ฉันก็ยังสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย การถอนวัชพืชในสวนยังยากกว่าเป็นไหน ๆ
“คุณหนู จากนี้ไปชีวิตคู่ของเราจะเริ่มต้นขึ้นแล้วนะคะ”
“นั่นสินะ”
“พูดอีกอย่างคือ เริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ของเราค่ะ”
“ทำไมถึงพูดสับไปสับมาล่ะ?”
“ก่อนอื่นจะนอนเลยไหมคะ? ด้วยกัน”
“ไม่เป็นไร รีบไปเก็บสัมภาระของเธอเร็วเข้า”
ในขณะที่คุยเรื่องพวกนี้อาจจะดีกว่านี้ถ้าถามเธออีกครั้งว่าหมายความว่ายังไงกันแน่ จากนั้นฉันก็จัดการกับสัมภาระที่ริโนกิสนำมาจากตระกูลลิสตัน
ตามความรู้สึกของฉัน ห้องไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
ม๊า ก็ยังเพียงพอสำหรับการฝึกท่วงท่าอยู่ แต่ก็น่าสงสัยว่าอาจจะแคบไปสักหน่อยสำหรับการจับคู่ซ้อม
แต่ฉันค่อนข้างพอใจที่มีอ่างอาบน้ำและห้องสุขาขนาดเล็กส่วนตัว ฉันชอบเป็นพิเศษที่มีอ่างอาบน้ำให้
ด้วยสิ่งนี้ ฉันสามารถฝึกฝนได้ตลอดเวลา
“――ขอบพระคุณมากค่ะ มีแค่ในหอพักสำหรับขุนนางเท่านั้นที่มีของสำหรับใช้งานส่วนตัว ตอนที่ดิฉันใช้เวลาอยู่ในหอพักของสามัญชนนั้นต้องใช้ห้องอาบน้ำรวมค่ะ”
เมื่อฉันบอกริโนกิสว่าเธอสามารถใช้ที่นี่ได้ เธอก็ตอบกลับมาด้วยคำขอบคุณดังกล่าว
“แล้วจากนี้จะทำอะไรต่อดีคะ? นอน? ด้วยกันใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าจะต้องไปซื้อของจำเป็นมาไม่ใช่หรือไง? แล้วก็เครื่องแบบด้วย”
ฉันนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนมากมาย แต่ฉันวางแผนที่จะซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเมืองหลวง
แล้วก็ต้องไปรับเครื่องแบบจากช่างตัดเสื้อด้วย
และถูกบอกมาว่าจะมีการวัดร่างกายในตอนบ่าย
แต่ก็ถูกบอกมาว่าฉันจะควรเข้าร่วมในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากมีส่วนร่วมด้วยตอนนี้
ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เพราะฉันได้ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำแล้ว