ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 20 ทำแบบนี้เพื่ออะไร

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่ 20 ทำแบบนี้เพื่ออะไร?

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับภรรยา คุณ…ดูเปลี่ยนไปมาก ผมแทบจำคุณไม่ได้เลย” จี้เจี้ยนอวิ๋นกลั้นใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะพรั่งพรูคำพูดทั้งหมดออกมาในประโยคเดียว

“ยังไงเหรอคะ…ฉันดูน่าเกลียดมากเหรอ?” ซูตานหงเลิกคิ้ว

“ไม่..ผมว่าคุณดูดี ดูดีมากทีเดียว!” จี้เจี้ยนอวิ๋นมองภรรยาและเอ่ยตอบ

“ฉันจะให้คุณมองทั้งปีทั้งชาติเลยล่ะค่ะ หวังว่าคุณจะไม่เบื่อเสียก่อน มากินเกี๊ยวก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวมันเย็นแล้วจะไม่อร่อย” ซูตานหงคลี่ยิ้มเห็นไรฟันและนั่งข้าง ๆ เขา

“คุณไม่กินด้วยเหรอ?” จี้เจี้ยนอวิ๋นถาม

“ฉันกินเรียบร้อยแล้วค่ะ” ซูตานหงพูด “คุณรีบกินเถอะ”

จี้เจี้ยนอวิ๋นเริ่มลงมือกิน เกี๊ยวนี้มีรสชาติดีมากเหลือเกิน ทั้งแป้งบางและไส้แน่นแสนจะอร่อยยิ่งนัก ดูเหมือนภรรยาของเขาจะมีทักษะการทำอาหารที่พัฒนาขึ้นแล้ว

เขากินเกี๊ยวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมองภรรยาผู้ดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยไปด้วย

ซูตานหงนั่งให้เขามองอยู่ตรงนั้น เกี๊ยวชามใหญ่ถูกกินจนหมดอย่างรวดเร็ว และจี้เจี้ยนอวิ๋นก็รู้สึกมีกำลังวังชามากขึ้น

“น้ำในหม้อได้ที่แล้ว ฉันจะตักมาให้คุณแช่เท้านะคะ” ซูตานหงเอ่ยพลางตักน้ำอุ่นบางส่วนออกมาล้างชามและตะเกียบ

“เดี๋ยวผมทำเอง” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ยในทันที

ซูตานหงยิ้มแล้วตอบกลับ “งั้นคุณก็มาตักเองนะคะ ฉันขอกลับเข้าห้องก่อน คุณตักน้ำอุ่นแบ่งกลับไปแช่เท้าในห้องนะคะ มาแช่ตรงนี้มันเปลืองน้ำ”

จากนั้นเธอก็ไม่สนใจผู้ชายทึ่มและเดินกลับเข้าห้องไปก่อน จี้เจี้ยนอวิ๋นมองตามแผ่นหลังของเธอ ก่อนจะตักแบ่งน้ำอุ่นมาใส่ถังแล้วยกกลับเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุผลอะไรไม่อาจทราบได้ ตอนนี้เขารู้สึกไม่มั่นคงเหลือเกิน ราวกับว่าภรรยาของเขาจะบินหนีไปได้เพียงชั่วพริบตาเดียว

เมื่อเขากลับมาที่ห้อง ซูตานหงก็ให้ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่และชุดนอนชุดใหม่กับเขา

จี้เจี้ยนอวิ๋นเช็ดตัวและจัดการแช่เท้าอีกครั้ง หลังสวมชุดนอนชุดใหม่แล้ว เขาก็รู้สึกสดชื่นสบายตัวขึ้นมาก

“ภรรยา” จี้เจี้ยนอวิ๋นเรียก

“มีอะไรเหรอคะ” ซูตานหงหันไปหาเขา

ภายใต้แสงไฟนวลจาง ใบหน้ารูปไข่ของซูตานหงนั้นดูอ่อนโยนและบอบบางเป็นพิเศษ ดวงตาสุกใสกระจ่างของเธอรับกับโครงหน้า อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็ดูนุ่มนวลงดงาม สมกับเป็นนางในฝันของเขาเมื่อครั้งยังเป็นเด็กหนุ่ม

ยิ่งมอง เขาก็ยิ่งรู้สึกใจเต้นแรง

“ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ วันพรุ่งค่อยไปหาคุณพ่อคุณแม่” ซูตานหงบอก

“ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้ารับ

เขาดับตะเกียงก่อนขึ้นไปนอนบนเตียงเตา ซึ่งตอนแรกเขาก็รู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย เพราะภรรยาของเขาดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว

แต่เมื่อขึ้นมานอนบนเตียงเตาได้ ความรู้สึกไม่คุ้นชินก็ได้อันตรธานหายไป

โดยแทบจะไม่ลังเล เขาคร่อมตัวเหนือร่างภรรยาในทันที

“เจี้ยนอวิ๋น คุณเพิ่งจะกลับมาเหนื่อย ๆ ตลอดทางนะคะ นอนพักผ่อนเถอะค่ะ” ภายใต้ความมืด ใบหน้าของซูตานหงก็ขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมกับหัวใจเต้นระรัว

“ภรรยา ครั้งนี้ครั้งเดียวนะครับ ผมจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” จี้เจี้ยนอวิ๋นออดอ้อน

ซูตานหงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็ปล่อยให้เขากระทำตามใจชอบ

เมื่อทุกอย่างสงบลง ซูตานหงก็เหนื่อยอ่อนและหมดแรงเกินกว่าจะขยับร่างกายได้ กำลังกายของเธอไม่อาจต้านทานต่อหมาป่าหิวโหยตัวนี้ได้เลย

จี้เจี้ยนอวิ๋นที่ได้นอนกอดภรรยาในคืนนี้ก็หลับไปด้วยความพึงพอใจ

วันรุ่งขึ้นซูตานหงตื่นสายอย่างเห็นได้ชัด เมื่อตื่นขึ้นมาได้ เธอก็ได้ยินเสียงของคุณป้าหยางกับจี้เจี้ยนอวิ๋นคุยกันด้านนอกแล้ว

หญิงสาวที่ยังนอนอยู่บนเตียงเกิดอาการหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ขณะเดียวกันในใจของเธอก็เปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกหวานล้ำและเปี่ยมสุข

เธอสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าชายผู้นี้ชมชอบในตัวเธอ

ส่วนด้านนอกห้องนั้น คุณป้าหยางกำลังรั้งตัวจี้เจี้ยนอวิ๋นไว้และสนทนากับเขาอย่างออกรส

“เจี้ยนอวิ๋น เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ตานหงกลายเป็นคนกตัญญูมากขนาดไหน ทุกวันนี้คนอื่นล้วนพูดกันให้แซด ว่าในบรรดาสะใภ้ที่แต่งเข้ามามากมายในหมู่บ้านแห่งนี้ กลับไม่มีใครกตัญญูได้เท่ากับหล่อนเลย เธอต้องดีกับหล่อนให้มาก ๆ นะ หากเธอกล้ารังแกหล่อนแล้วล่ะก็ ป้าจะเป็นคนแรกที่ตีเธอ!” คุณป้าหยางพูดพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“คุณป้าหยาง ภรรยาผมตื่นสายเพราะดูแลผมอยู่ ผมจะรังแกหล่อนได้ยังไงครับ?” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ยละล่ำละลัก

“ดีแล้วล่ะ ตานหงเป็นเด็กดี เธอไปดูที่ครัวก็ได้ พอหล่อนรู้ว่าเธอจะกลับมา หล่อนก็เข้าครัวทำอาหารเตรียมไว้มากมายรอเธอกลับมากินเลยล่ะ” คุณป้าหยางพูด

จี้เจี้ยนอวิ๋นได้เข้าไปสำรวจห้องครัวมาแล้ว เมื่อคืนเขาใช้พลังงานไปกับภรรยามากเหลือเกิน ทำให้เช้าวันนี้เขารู้สึกหิวมากจนต้องเข้าครัวเพื่อหาอะไรมาอุ่นรับประทาน

เขากินลูกชิ้นไปหลายลูกพร้อมกับเกี๊ยวชามใหญ่ นอกจากนี้เขายังกินซี่โครงหมูทอดไปอีกหลายชิ้น ส่วนกระดูกนั้นเขาให้เสี่ยวเฮยเอาไปแทะเล่น

คุณป้าหยางคุยกับจี้เจี้ยนอวิ๋นอยู่พักใหญ่ ในที่สุดนางก็ไม่รบกวนเขาอีก

เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นกลับมาที่ห้อง เขาก็เห็นภรรยาของเขาตื่นขึ้นแล้ว จึงโน้มตัวลงไปพูดว่า “ภรรยา คุณอยากนอนต่อไหม?”

ซูตานหงมองค้อนใส่เขา ทันทีที่เขากลับมาเธอก็นอน ถ้าบ้านใหญ่รู้เข้าจะว่าอย่างไร? คงจะต้องหัวเราะขบขันเธอแน่ ๆ

แต่เป็นเพราะเธอดื่มน้ำพุวิเศษมาตลอด สุขภาพร่างกายจึงยังแข็งแรงอยู่ ดังนั้นอย่าดูถูกเธอไป

“เฮ้ ๆ” จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้มอย่างรู้ตัวว่าเมื่อคืนเขาทำกับเธอสาหัสเกินไปหน่อย เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะลุกจากเตียง เขาก็รีบเข้าไปประคองทันที

ซูตานหงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล้างหน้าล้างตาก่อนเข้ามาในห้องครัว เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในห้องครัว เธอก็ถามขึ้น “คุณกินอะไรไปบ้างแล้วคะ?”

“กินเกี๊ยวไปชามหนึ่งแล้ว ที่ผมไม่ได้เรียกเพราะเห็นว่าคุณยังไม่ตื่นน่ะ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก “คุณทำให้ผมกินอีกชามก็ยังไหวนะ”

ซูตานหงจึงทำเกี๊ยวเนื้อสามชามและตักลูกชิ้นหมูใส่ลงไปหลายลูก แม้มันจะอร่อยกว่าเมื่อนำไปทอด แต่เมื่อต้มในน้ำซุปแล้วมันก็มีรสชาติไม่เลว

เกี๊ยวเนื้อสามชามพร้อมรับประทานแล้ว แต่ซูตานหงกินไปเพียงครึ่งชามก็อิ่ม จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงกินเกี๊ยวไปหนึ่งชามครึ่งแล้วให้เสี่ยวเฮยกินเกี๊ยวครึ่งชามที่เหลือ

“ผมว่าเสี่ยวเฮยโตขึ้นมากนะ ตอนที่คุณเขียนจดหมายหาผมมันยังเป็นแค่ลูกหมาอยู่ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ตัวใหญ่มากเลย แปลกมากนะที่มันตัวโตขนาดนี้ทั้งที่เลี้ยงได้ไม่นาน” จี้เจี้ยนอวิ๋นมองเสี่ยวเฮยแล้วก็เอ่ยขึ้นในทันที

“คุ้มแล้วละค่ะกับการเลี้ยงเสี่ยวเฮย” ซูตานหงเลิกคิ้วขึ้นตอบ

“ใช่..คุ้มมากจริง ๆ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อคืนนี้เสี่ยวเฮยตื่นตัวและแข็งแรงอย่างมาก มันแข็งแกร่งมากกว่าผู้ใหญ่ตัวโต ๆ คนหนึ่งเสียอีก โชคดีที่เมื่อคืนนี้เจี้ยนอวิ๋นไม่ถูกกัดเพราะฝึกทหารมาอย่างดี แต่สำหรับคนอื่นแล้วหากไม่ตายก็คงพิการเป็นแน่ สมกับเป็นสุนัขเฝ้าบ้านจริง ๆ!

ซูตานหงเอาอาหารมาให้เสี่ยวเฮย ซึ่งเจ้าสุนัขดำก็พอใจกับอาหารอย่างมาก มันกินอาหารอย่างรวดเร็วก่อนจะเลียปากแสดงให้รู้ว่ามันยังไม่อิ่ม ก่อนหันไปแทะที่กระดูกที่เจี้ยนอวิ๋นให้มันเมื่อเช้าต่อจากนั้น

แต่ซูตานหงก็ไม่ได้นำอาหารมามันเพิ่มอีก ถึงแม้ว่าเกี๊ยวที่มันกินจะเหลืออยู่ไม่มาก แต่แค่นั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นกลับมา เสี่ยวเฮยก็ยังคงถูกปล่อยให้วิ่งอย่างอิสระภายในรั้วบ้าน แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เสี่ยวเฮยก็ไม่เคยวิ่งออกไปนอกรั้วบ้านเลย มันยังคงทำหน้าที่เฝ้าบ้านอย่างแข็งขัน

เรื่องนี้ทำให้จี้เจี้ยนอวิ๋นพอใจเป็นอย่างมาก

ทั้งคู่มาที่บ้านใหญ่สกุลจี้หลังกินอาหารเช้าเสร็จพร้อมกับนำลูกชิ้นและซี่โครงหมูทอดมาด้วยอย่างละชาม

วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ไม่เพียงแต่ครอบครัวของพี่ใหญ่และพี่รองจะมาที่บ้านเท่านั้น แม้แต่ครอบครัวของบุตรชายคนที่สี่แห่งบ้านสกุลจี้ที่สอนหนังสืออยู่ในเมืองเจียงสุ่ยก็กลับมากินอาหารค่ำในคืนวันส่งท้ายปีเก่าด้วยกัน

เป็นกฎของตระกูลที่สมาชิกทุกคนจะกลับมากินอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตาในวันนี้

“โอ้ เอาของมาเยอะแยะขนาดนี้เชียว ทีพี่ชายสามไม่กลับมาไม่เห็นจะเอามาเยอะขนาดนี้เลย ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน!”

จี้อวิ๋นอวิ๋นออกมาจากห้องและมองพวกเขาทั้งคู่ พอเห็นลูกชิ้นและซี่โครงหมูทอดชามใหญ่แล้วหล่อนก็เอ่ยเยาะในทันที

……………………………………………………

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท