ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 149 หยางต้าหยา

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่ 149 หยางต้าหยา

“สือโถว เหรินเหรินมาหา ออกมาเล่นกับน้องสิจ๊ะ”

หลังไปล้างสตรอเบอรี่ให้หลาน สะใภ้รองซูก็เรียกลูกชายให้ออกมาที่ลานบ้าน

ไม่นานซูจิ้นตั๋งก็อุ้มสือโถวออกมา เขาเพิ่งจะได้นอนหลังจากออกไปเก็บผักแต่เช้า ก่อนจะไปช่วยภรรยาดูแลงานตอนเช้าต่อ ซึ่งปกติเวลานี้จะเป็นช่วงที่เขานอนชดเชย

สือโถวเองก็จะเข้านอนไปพร้อมกับพ่อ

เมื่อเขาออกมาก็พบว่าเหรินเหรินกำลังนั่งกินสตรอเบอรี่อยู่ ในขณะที่ซูตานหงกับภรรยากำลังคุยกัน ซูตานหงเห็นดังนั้นก็เอ่ยขึ้น “ไม่เห็นต้องเรียกพี่รองเลยนี่คะ ให้เขาหลับอีกหน่อยดีกว่า ฉันมาหาพี่ได้ทุกวันอยู่แล้วค่ะ”

“พี่นอนพอแล้วล่ะ” ซูจิ้นตั๋งยิ้มก่อนบอกกลับ และหันไปบอกลูกชาย “ทักทายคุณอาสิลูก”

“สวัสดีครับ คุณอา” สือโถวกล่าวทักทายซูตานหง

“สวัสดีจ้ะ” ซูตานหงส่งยิ้มให้ขณะมองหลานชายที่หน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะ อีกทั้งแม่ก็ยังดูแลเป็นอย่างดี ดูท่าทางเฉลียวฉลาดไม่น้อย

“นี่พี่เหรินเหรินที่พ่อเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ไงล่ะครับ” ซูจิ้นตั๋งแนะนำเหรินเหรินให้ลูกรู้จัก

“น้องสือโถว” เหรินเหรินเป็นฝ่ายทักก่อนและยื่นสตรอเบอรี่ให้กิน

สือโถวรับเอาไว้และเรียกเขาว่าพี่ชาย

สองพี่น้องเพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่พวกเขาก็เข้ากันดีจนสนิทสนมกันได้ในเวลาไม่นาน และเหรินเหรินยังแนะนำน้องชายตัวเองให้รู้จักอีกด้วย

“น้องยังเด็กมากอยู่เลย” สือโถวเดินมามองด้วยท่าทีแปลกใจ

“ใช่ ตอนนี้น้องยังเด็กมากเลยเอาแต่นอนทั้งวัน” เหรินเหรินบอก

“แล้วน้องเล่นด้วยได้ไหม” สือโถวถาม

“ยังไม่ได้หรอก ผมเลยไปเล่นกับเพื่อนบนเขาแทน” เหรินเหรินตอบ

สีหน้าสือโถวฉายแววอิจฉาขึ้นมา

“น้องสือโถว ถ้านายมาที่บ้านฉัน เดี๋ยวฉันจะแนะนำเพื่อน ๆ ให้รู้จักเอง” เหรินเหรินบอกอย่างใจดี “พวกพี่ ๆ เล่าอะไรให้ฟังหลายเรื่องเลย”

มันชวนให้สือโถวนึกอยากไปขึ้นมา

สองพี่น้องคุยไปพลางกินสตรอเบอรี่ไปพลาง ขณะที่ซูตานหงก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับพี่รองกับพี่สะใภ้ แต่เพราะมีลูกค้าเข้าอย่างต่อเนื่อง สะใภ้รองซูจึงต้องแยกตัวออกไปดูแลร้าน

“ดูท่าจะขายดีนะคะ” ซูตานหงบอก

“ไม่ได้เป็นแบบนี้ตลอดหรอก ลูกค้าจะแน่นแค่ช่วงเช้าเท่านั้นแหละ” ซูจิ้นตั๋งหัวเราะ

หลังจากต้อนรับลูกค้าเสร็จ สะใภ้รองซูก็กลับเข้ามาก่อนบอก “ฉันควรหาใครมาช่วยดีไหมนะ? ถ้าได้เด็กสาวสักคนมาช่วยทำงานบ้านก็คงจะสบายขึ้น”

“แล้วจะให้เงินเดือนเท่าไหร่ล่ะคะ?” ซูตานหงถาม

“ว่าจะให้สัก 15 หยวน แต่ว่ามีที่พักกับอาหารให้ด้วย” อีกฝ่ายตอบ

“งั้นก็ลองให้พี่รองไปถามในหมู่บ้านดูสิคะ หรือจะให้ฉันไปถามกับคุณป้าหยางดูก็ได้นะคะ” เธอเสนอ

เงินเดือน 15 หยวนแถมมีที่พักและอาหารให้ เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย

“หลัก ๆ ก็เป็นพี่เลี้ยงสือโถวแล้วก็ทำงานบ้าน ส่วนอย่างอื่นไม่จำเป็นต้องทำก็ได้” สะใภ้รองซูเอ่ย

ตอนนี้กิจการกำลังไปได้สวย เดือนหนึ่งมีกำไรถึง 150 หยวน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขายผลไม้อีกเกือบ 200 หยวน ซึ่งถือเป็นรายได้ก้อนโต

หากแต่ยิ่งมีรายได้มากขึ้นก็ยิ่งทำให้งานยุ่ง หล่อนจึงตัดสินใจเช่นนี้

อันที่จริงครอบครัวฝั่งหล่อนก็บอกให้เอาหลานมาช่วย แต่หล่อนกลับไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้คนจากครอบครัวตัวเองมาก้าวก่ายกิจการของตน

ส่วนด้านแม่สามีก็คงไม่ต้องการให้หล่อนทำแบบนั้นเช่นกัน อีกทั้งหล่อนยังเชื่อมือซูตานหงมากกว่าใคร ถึงได้ขอให้ช่วยหาคนให้

ซูตานหงไม่ได้ปฏิเสธ ด้วยไม่ใช่เรื่องหนักหนาสำหรับเธอ “เดี๋ยวกลับไปฉันจะให้คุณป้าหยางช่วยหาคนให้นะคะ แล้วพี่รองกับพี่ค่อยแวะมาดูอีกทีว่าจะตกลงจ้างหรือเปล่า”

แม้จะว่าอย่างนั้น แต่ซูตานหงเองก็มีคนที่เลือกไว้ในใจอยู่แล้ว

ซูจิ้นตั๋งขับรถมาส่งสามแม่ลูกถึงบ้าน

“สวัสดีค่ะ คุณน้า” เมื่อเห็นสามแม่ลูกกลับมาบ้าน หยางต้าหยาซึ่งเอาเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จมาให้คุณลุงกับคุณป้าหยางก็เอ่ยทักทาย

“แม่หนูนี่เอง เอาเสื้อผ้าคุณย่าไปซักมาเหรอจ๊ะ?” ซูตานหงไม่ได้รีบกลับเข้าบ้านและส่งยิ้มให้

“หนูเองก็ไม่ได้มีอะไรทำอยู่แล้ว เสื้อผ้าคุณย่าก็ไม่ได้ซักยากด้วยค่ะ” เด็กสาวพยักหน้ารับ

“เข้าบ้านไปด้วยกันเถอะ น้าเองก็มีเรื่องคุยกับคุณป้าหยางเหมือนกันจ้ะ” เธอบอก

เดิมทีซูตานหงว่าจะเอาฉีฉีเข้านอนก่อน แต่พอเห็นว่าลูกยังไม่ง่วงก็คิดว่าเจ้าตัวคงไม่ยอมหลับง่าย ๆ แน่

หยางต้าหยาพยักหน้า

“ตานหงมาหาเหรอ?” คุณป้าหยางยิ้มให้

“พาเหรินเหรินกับฉีฉีมาทักทายคุณย่าหยางอย่างไรคะ” ซูตานหงยิ้มตอบ

“ขอบใจมากจ้ะ” นางมีสีหน้ายินดี

ระหว่างที่นางไปล้างมะเขือเทศมาให้เหรินเหริน หยางต้าหยาก็ตากผ้าเสร็จพอดี และมาลากลับบ้านของตนเองไป

“ต้าหยาขี้อายไปหน่อยแต่ก็ขยันขันแข็งดีนะคะเนี่ย” ซูตานหงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“หลานคนนี้กตัญญูกว่าแม่หล่อนซะอีก” คุณป้าหยางเอ่ย

หยางต้าหยาเป็นหลานสาวคนโตของนาง แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ได้ด้วยตนเองแต่หล่อนก็จะคอยแวะมาเอาเสื้อผ้าไปซักให้ตั้งแต่เล็ก ๆ จนตอนนี้อายุได้ 13 ปีแล้วก็ยังหมั่นมาช่วยงานหลังเลิกเรียนตลอด

“พอดีวันนี้ฉันไปร้านของพี่รองมา แล้วก็ได้ยินพี่สะใภ้บอกว่ากำลังหาเด็กที่ไว้ใจได้มาช่วยดูแลลูกกับทำงานบ้านอยู่น่ะค่ะ” ซูตานหงเล่า

ดวงตาคุณป้าหยางเป็นประกายขึ้นมาทันทีก่อนรีบบอก “ตานหง ให้แม่หนูนี่ไปลองทำได้หรือเปล่า? หล่อนช่วยได้เยอะเลยนะ ในบรรดาหลานทั้งหมดหล่อนเป็นคนที่เอาการเอางานที่สุดแล้ว ป้ารับรองได้เลย”

“คุณป้าฟังฉันก่อนค่ะ เงินเดือนไม่ได้สูงมากนะคะ” ซูตานหงเอ่ย

“อายุเท่านี้ไม่ต้องให้เงินเยอะมากก็ได้จ้ะ” นางพูดโพล่งขึ้น

“มีเงินเดือน 15 หยวนกับพี่พักและอาหารให้ หรือถ้าอยากอยู่บ้านจะไปกลับก็ได้ค่ะ ไม่ได้ห้ามอะไร แต่จริง ๆ แล้วก็มีห้องส่วนตัวที่นั่น ฉันว่าให้อยู่ทางนั้นน่าจะสะดวกกว่านะคะ” ซูตานหงกล่าว

“มีที่พักกับอาหารให้แล้วยังให้เงินเดือนตั้ง 15 หยวนก็นับว่าไม่น้อยแล้วล่ะ” คุณป้าหยางเอ่ยขึ้น

“ยังไงคุณป้าไปคุยกับต้าหยาดูนะคะ ถ้าหล่อนตกลงก็ให้เก็บของ แล้วเดี๋ยวจะให้พี่รองแวะมารับไปด้วยกันเย็นนี้เลย พอดีเขาต้องมาเอาไก่กับไข่ไปขายที่ร้านในเมืองอยู่แล้วน่ะค่ะ” ซูตานหงบอก

“ได้เลยจ้ะ” คุณป้าหยางรับคำ นางมีท่าทางยินดีไม่น้อย

เพราะหลานคนนี้กตัญญูมาก นางจึงไม่ได้สนใจคนอื่น ๆ นอกจากหล่อน นางไม่ได้สนิทสนมกับลูกสะใภ้คนโตมากนัก และอีกฝ่ายก็ไม่ได้คิดจะมาช่วยนางซักผ้า จึงมีแต่ต้าหยาที่อาสามาช่วยทำให้

ด้วยเหตุนี้ในฐานะย่า นางจึงหวังให้หลานสาวคนนี้มีอนาคตสดใส

เมื่อเห็นว่าหล่อนมีโอกาสไปทำงานที่ร้านในเมืองของจิ้นตั๋งก็เบาใจ ด้วยคิดว่าต่อไปอนาคตก็คงไม่ลำบากแล้ว

นางจึงแวะมาบ้านลูกชายคนโตทันทีหลังซูตานหงกลับไป

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

กิจการพี่รองซูดีสุด ๆ จนต้องหาพี่เลี้ยงเลยทีเดียว หวังว่าต้าหยาจะไปช่วยงานได้นะคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท