ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 150 หม่าฮุ่ย

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่ 150 หม่าฮุ่ย

“อ้าวคุณแม่นี่เอง” หม่าฮุ่ย ภรรยาของหยางอ้ายมู่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคุณป้าหยาง

“อ้ายมู่ล่ะ?” นางถาม

“ไม่อยู่บ้านค่ะ” หล่อนตอบอย่างเฉยชา พูดจบก็คว้าตะกร้าไปเก็บถั่วพุ่มหน้าบ้านโดยไม่ได้ถามอะไรนาง

ถั่วพุ่มหน้าบ้านของหล่อนเจริญเติบโตได้ดีมาก หากแต่ก็ไม่เคยเห็นสะใภ้คนนี้เอาไปฝากสักครั้ง แน่นอนว่านางเองก็ปลูกทั้งมะเขือเทศและถั่วพุ่มที่แปลงผักของตนเช่นกัน จึงดูออกว่าผลผลิตเป็นอย่างไร

“งั้นก็รอให้เขากลับมาแล้วพาลูกไปส่งเองก็แล้วกัน” คุณป้าหยางบอก นางเองก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่นานนัก

สิ้นคำนางก็กลับบ้านทันที

หยางต้าหยาที่มาจากหลังบ้านเมื่อไม่เห็นย่าก็ถาม “แม่คะ เหมือนเมื่อกี้หนูจะได้ยินเสียงย่าอยู่นะ”

“ย่าแกมาแล้ว และก็ไปแล้ว” หม่าฮุ่ยเอ่ยขึ้น

“ทำไมไม่ชวนย่านั่งพักสักหน่อยล่ะคะ?” หยางต้าหยาท้วง

หม่าฮุ่ยขึ้นเสียง “ชวนนั่งอะไรกันล่ะ เมื่อก่อนย่าแกลำเอียงยังไงก็ไม่เปลี่ยนไปเลย แกไม่เห็นหรือยังไงว่าท่านแนะนำลุงสามจนได้เป็นคนงานประจำที่สวนจี้เจี้ยนอวิ๋น แล้วทำไมถึงไม่แนะนำพ่อแกบ้างล่ะ? ถ้าได้เป็นคนงานที่นั่นครอบครัวของเราก็คงสุขสบายกว่านี้ ฉันก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องส่งน้องชายแกเรียนด้วย!”

“พ่อจะไปทำงานให้ลุงเจี้ยนอวิ๋นได้ยังไงล่ะคะ? ที่บ้านเราก็มีเยอะแยะ ถ้าพ่อไปทำงานที่นั่น แล้วที่ของเราจะทำยังไงล่ะคะ?” หยางต้าหยาแย้ง “อีกอย่างที่บ้านลุงสามก็เล็กนิดเดียวด้วยค่ะ”

“เจ้าลูกไม่รักดีนี่ ช่วยพูดอะไรให้มันมีประโยชน์หน่อยได้ไหม?” หม่าฮุ่ยเอ็ดหล่อนเข้าให้ “แล้ววันนี้แกไปช่วยซักเสื้อผ้าอีกแล้วใช่ไหม?”

“ค่ะ” หยางต้าหยาพยักหน้ารับ

“ต่อไปนี้ห้ามไปอีกเด็ดขาด ให้พวกเขาซักเองบ้าง ไม่ได้แก่จนขยับตัวไม่ได้สักหน่อยนี่!” คนเป็นแม่ออกปากห้ามทันที

หยางต้าหยามุ่นคิ้วแต่ไม่ได้เถียงออกมา ตอนนี้แม่กำลังโกรธ พูดอะไรไปก็คงไม่ยอมฟังอยู่ดี

หยางอ้ายมู่กลับมาถึงบ้านช่วงเที่ยง หม่าฮุ่ยจงใจปิดบังไม่ให้เขารู้ว่าแม่สามีมาหา หากแต่เป็นลูกสาวที่แอบกระซิบบอก “พ่อคะ เมื่อเช้าย่ามาหาด้วยค่ะ แต่ว่าหนูรั้งไว้ไม่ทัน น่าจะมีธุระจะคุยด้วยนะคะ พ่อแวะไปหาท่านหน่อยเถอะ”

หยางอ้ายมู่จึงทำตามคำลูกสาว

เขามาถึงบ้านของแม่ในช่วงบ่าย

“กินอะไรมาหรือยังล่ะ?” คุณป้าหยางเห็นลูกชายคนโตมาหาก็เอ่ยถามขึ้น

“ได้ยินต้าหยาบอกว่าแวะไปหาที่บ้านเหรอครับ?” เขาพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกว่ากินมาแล้วก่อนถามกลับ

“ใช่ ว่าแต่คนบอกไม่ใช่หม่าฮุ่ยแต่เป็นต้าหยาหรอกเหรอ?” นางว่า

เขาเอ่ย “แม่อย่าเอานิสัยของหล่อนมาใส่ใจนักเลยครับ ช่วงนี้พ่อแม่เป็นยังไงบ้างครับ?”

“พวกเราไม่เป็นไรหรอก!” คุณป้าหยางนึกหงุดหงิดขึ้นมา จึงไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเขาและพูดธุระทันที “พอดีตานหงมาหาแล้วก็บอกว่าร้านในเมืองของจิ้นตั๋งกำลังขาดพี้เลี้ยงเด็กกับคนทำงานบ้าน เลยมาถามเผื่อว่าต้าหยาสนใจจะทำ มีเงินเดือนให้ 15 หยวน พร้อมที่พักกับอาหารด้วยนะ!”

ได้ยินดังนั้นเขาก็พลันอึ้งไปก่อนบอก “ให้ต้าหยาทำเหรอครับ? ลูกจะทำได้เหรอ?”

“ต้าหยาเองก็จะขึ้นม.สองแล้ว หล่อนทำไหวอยู่แล้วล่ะ ให้หล่อนไปขายของยังได้เลย แล้วแกล่ะจะยอมให้หล่อนไปหรือเปล่า?” นางเอ่ย

“แน่นอนสิครับ ผมไม่ขัดอยู่แล้ว ถ้าหล่อนได้ไปทำงานในเมืองก็อาจจะได้แต่งงานกับใครสักคนที่นั่นก็ได้นะครับ” เขาตอบ

“อย่าคิดไปไกลนักเลย ต้าหยาเพิ่งจะอายุสิบสามปีแล้วมันก็เร็วเกินไปด้วย ถ้าแกตกลงให้หล่อนไปก็ดี แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าอย่าให้หล่อนก่อเรื่องเด็ดขาด ถึงฉันจะเชื่อใจในตัวหลานก็อย่าทำให้ต้องเสียหน้า ไม่อย่างนั้นถ้าตานหงมีอะไรดี ๆ ก็อย่าหวังว่าจะได้อานิสงส์ด้วยอีกเลย!”

“เรื่องนั้นไม่ต้องบอกผมก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ? เดี๋ยวผมจะกลับไปกำชับให้หล่อนตั้งใจทำงาน ห้ามทำเรื่องเสียหายเด็ดขาด!” เขารีบบอก

“ดี แกกลับไปได้แล้วล่ะ” หญิงชราออกปากไล่

เมื่อหยางอ้ายมู่กลับถึงบ้านก็พบหม่าฮุ่ยยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่ “คุณไปบ้านพ่อแม่มาเหรอคะ?”

“ผมบอกแล้วไงว่าคุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ แต่ท่านเป็นพ่อแม่ผม เป็นคนที่เลี้ยงดูผมมาไม่ใช่เหรอ?” เขาเอ่ย

“คุณดูแลพวกท่านอย่างดี แต่พอมีเรื่องดี ๆ กลับไม่เคยนึกถึงคุณสักครั้งเดียวนี่คะ!” หล่อนโวยวายอย่างหัวเสีย

มีชาวบ้านมากมายแค่ไหนที่จ้องจะไปทำงานให้กับผู้อาวุโสจี้? ซึ่งหล่อนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ได้เงินเดือนตั้ง 30 หยวน ปีหนึ่งจะได้มากแค่ไหนกันล่ะ? พอถึงหน้าเทศกาลต่าง ๆ ก็ได้ของขวัญกลับมามากมาย ดูอย่างสวี่อ้ายตั๋งกับจี้หงจวินสิ ทั้งตะกร้ามีแต่ของดี ๆ ทั้งนั้น!

จี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหงเองก็สนิทสนมกับพ่อแม่สามีหล่อน ได้ยินมาว่าเอาของดี ๆ มาฝากตั้งมากมาย หากแต่ก็ไม่เคยเห็นเอามาแบ่งปันสักครั้ง หล่อนเป็นถึงแม่ของหลานชายพวกเขา ด้านครอบครัวของหยางอ้ายหลินก็มีลูกชายกับลูกสาวอย่างละคนเหมือนกัน แต่หยางอ้ายเซินผู้เป็นน้องสามกลับมีแค่ลูกสาวคนเดียว

มิหนำซ้ำยังเป็นตำแหน่งคนงานประจำที่ควรจะแนะนำให้ครอบครัวหล่อนด้วย ไม่ว่าจะลำเอียงขนาดไหน อย่างน้อยยกให้ครอบครัวน้องรองก็ยังพอรับได้ แต่นางกลับไปช่วยครอบครัวน้องสามที่หล่อนห่างเหินด้วยมากที่สุดเสียอย่างนั้น

มีลูกสาวแค่คนเดียวจะต้องใช้เงินมากเท่าไรกันเชียว? ไม่ได้ขัดสนอะไรเสียหน่อย!

พวกท่านเข้าข้างน้องสามเกินไปแล้ว!

“ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่บอกว่าร้านของซูจิ้นตั๋งในเมืองกำลังขาดสาวใช้ ท่านคิดว่าต้าหยาน่าจะทำได้เลยแนะนำไปน่ะ”

เพียงแค่หนึ่งประโยคก็ทำให้หม่าฮุ่ยชะงักไปทันที “ว่ายังไงนะคะ?”

“แม่แนะนำให้ลูกเราไปทำงานในเมือง ได้เงินเดือน 15 หยวน พร้อมที่พักกับอาหาร คุณรู้จักซูจิ้นตั๋งหรือเปล่าล่ะ? พี่เขยของจี้เจี้ยนอวิ๋นไง” หยางอ้ายมู่บอก

“แน่นอนสิคะ จะไม่รู้จักได้ยังไงล่ะ? ว่าแต่ถ้าลูกไปทำงานที่นั่นจะได้เงินเดือนถึง 15 หยวน แถมมีที่พักกับอาหารให้จริงเหรอคะ?” หม่าฮุ่ยเอ่ยด้วยท่าทางปิติยินดี

“ใช่ แต่ต้องบอกเอาไว้ก่อนนะ ว่าถ้าไปก่อเรื่องวุ่นวายพวกเขาได้ส่งตัวกลับมาแน่ ๆ แล้วต่อไปคุณก็คงไม่กล้าสู้หน้าใครได้อีก” หยางอ้ายมู่บอก

“ลูกบ้านอื่นฉันก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าจะไปขโมยข้าวของหรือเปล่า? แต่ฉันเชื่อใจลูกสาวฉันค่ะ แล้วหล่อนต้องไปเมื่อไหร่เหรอคะ?” หม่าฮุ่ยถามซ้ำ

“เย็นนี้ซูจิ้นตั๋งจะมารับของไปขาย เขาน่าจะแวะมารับต้าหยาไปด้วยกันเลย”ผู้เป็นสามีตอบ

เขาเรียกลูกมาเล่าเรื่องให้ฟังก่อนจะถามอีกครั้ง “ต้าหยา ลูกอยากไปหรือเปล่า”

“ทำไมจะไม่อยากไปล่ะ? ได้เงินตั้ง 15 หยวน ครึ่งหนึ่งของที่ผู้ใหญ่ได้กันเลยนะ ลูกของซูจิ้นตั๋งเองก็ยังเด็ก มีเวลาทำงานตั้งสี่ห้าปีไม่ใช่เหรอ? พออายุ 18 ค่อยออกมาแต่งงานก็ได้!” หม่าฮุ่ยตอบพลางวางแผนไว้อย่างดิบดี

“แม่คะ เรื่องนั้นมันยังอีกนานค่ะ” หยางต้าหยาท้วงขึ้นพร้อมอาการเขินอาย ซึ่งหมายความว่าหล่อนเองก็ต้องการไปทำงานที่นั่น

“ไม่นานสักหน่อย ไปอยู่ที่นั่นก็ตั้งใจทำงานเข้าล่ะ อย่าทำเรื่องให้ขายหน้าเด็ดขาด แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าหมู่บ้านเราก็เล็กแค่นี้? ถ้าไปทำเรื่องฉาวโฉ่เข้าต่อไปคงไม่รู้จะไปสู้หน้าใครได้อีก” หม่าฮุ่ยกำชับเรื่องนี้กับลูกสาวคนโต

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ใจเย็น ๆ ก่อนสะใภ้ใหญ่หยาง เกือบพลาดเรื่องดี ๆ ไปแล้วไหมล่ะ ต่อให้ไม่ชอบอีกฝ่ายแค่ไหนก็ควรจะฟังให้จบก่อนเน้อ ด่วนสรุปไปเองแล้วเดี๋ยวจะมาเสียใจทีหลังไม่รู้นะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท