ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 186 เนื้อแกะแสนอร่อย

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่ 186 เนื้อแกะแสนอร่อย

  

ผลจากการกลับมาร่ำรวยคือจี้เจี้ยนอวิ๋นไปสั่งเรืออีก 1 ลำ พร้อมทั้งจ่ายเงินมัดจำ

ส่วนค่าทำสัญญาอ่างเก็บน้ำ 2,200 หยวนที่ยังค้างจ่ายนั้นยังไม่ต้องรีบร้อน เขาบอกว่าจะจ่ายคืนในปีหน้าก็ต้องจ่ายในปีหน้า ไม่อย่างนั้นทุกคนอาจจะคิดว่าเขาทำสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว

ส่วนเรือนั้นไม่จำเป็นต้องสร้างเสร็จเร็วนัก เพราะตอนนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นยังไม่มีอะไรให้ทำ

เป็นเพราะทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เขาจึงสามารถพักผ่อนรอวันปีใหม่ที่จะมาถึงได้

แต่ตอนนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นยังมีหนี้นอกระบบอีกมาก เขาจึงไม่อาจอยู่เฉยได้

ในช่วงที่ไม่มีอะไรทำ เขาจึงได้ชวนคุณแม่จี้ดองไข่เค็มจำนวนหนึ่ง

ขณะที่ดองไข่เค็ม คุณแม่จี้ก็คุยกับเขา “ถ้าถึงเวลาเชือดหมูแล้วจะให้พ่อค้าเนื้อหลี่มาทำให้ไหม?”

“ได้ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้า

เขารู้ว่าแม่ของเขากำลังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวให้แน่นแฟ้นกันมากขึ้น และต้องการทำให้อวิ๋นอวิ๋นน้องสาวของเขาเป็นที่น่าประทับใจ

ท้ายที่สุด พี่น้องในครอบครัวก็นับเป็นคะแนนพิเศษสำหรับการนัดดูตัวเช่นนี้

แม้ว่าแม่ของเขาจะไม่ออกปาก เขาก็ตั้งใจจะไปหาพ่อค้าเนื้อหลี่อยู่แล้ว เนื่องจากชายผู้นี้เป็นพ่อค้าเนื้อที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้ และเป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้วที่หาเจอ

“ถึงตอนนั้นหลี่จื้อก็จะตามมาด้วย แกช่วยดูด้วยล่ะ” คุณแม่จี้พูดด้วยรอยยิ้ม

หลี่จื้อเป็นลูกชายคนที่สองของพ่อค้าเนื้อหลี่ ดูเหมือนว่าเขากำลังจะกลายมาเป็นลูกเขยของบ้านนี้

“ถ้าแม่คิดว่าดีก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้มให้แม่ของเขา

ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นว่าที่ลูกเขยของแม่เขา จะไม่ดูดีได้อย่างไร?

“แม่ดูแล้ว แต่แกเป็นพี่ชายก็ต้องช่วยแม่ดูด้วย” คุณแม่จี้ยิ้ม

“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้า “ผมพอจะรู้จักหลี่จื้อ เขาเป็นคนซื่อสัตย์ หน้าที่การงานดี อาชีพครูเหมาะกับเขามาก น่าจะเข้ากันได้ดี”

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ค่อนข้างกังวลเรื่องน้องสาวของเขาอยู่เล็กน้อย นับวันหล่อนยิ่งก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่เมื่อก่อนหล่อนเป็นเด็กดีมาก เพราะอะไรถึงได้ดื้อรั้นขนาดนี้?

ทว่าเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของคนเป็นแม่ เขาจึงไม่อยากขัด

ตอนนี้ไข่ที่ดองไว้เกือบจะมีสภาพเหมือนไข่เค็มชุดแรกแล้ว เมื่อผ่านไปครึ่งเดือน จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงให้พี่ชายคนรองของเขาขนส่งออกไป

ที่ดองไข่เค็มไว้ไม่มากเพราะยังไม่เป็นที่รู้จักของตลาด จึงมีไข่เค็มเพียงสามตะกร้า แต่รวมทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว

ถ้าไข่เค็มขายดีก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากนอกจากดองไข่ต่อไป เพราะยังมีไข่ไก่จากฟาร์มไก่ทั้งสองแห่ง ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่มีไข่พอขาย

อย่างไรก็ตาม จี้เจี้ยนอวิ๋นประเมินสินค้าของครอบครัวเขาต่ำเกินไป

ทันทีที่ได้ยินว่าไข่เค็มเหล่านี้เป็นครอบครัวของเขาดองเอง ไข่เค็มทั้งตะกร้าก็ถึงกับไม่พอขาย

วันที่สองจี้เจี้ยนอวิ๋นจึงนำไข่เค็มออกมาเพิ่มอีก 2 ตะกร้า แต่ก็ยังขายหมดอย่างรวดเร็ว

ไข่เค็มต้องดองไว้เป็นเวลานาน ตอนนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นแล้ว ดังนั้นหากดองเก็บไว้ก็เข้าปีใหม่พอดี ยิ่งหลังปีใหม่บรรยากาศยิ่งคึกคัก บรรดาลูกหลานต่างกลับมาเยี่ยมบ้าน จึงต้องกักตุนไข่เค็มเอาไว้

ดังนั้นลุงเกาและลูกค้าคนอื่น ๆ จึงไปขอให้เหอเจี่ยกับซุนต้าซานมาพูดกับเขาว่าให้ทำไข่เค็มเพิ่ม ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะไม่มีไข่เค็มเพียงพอสำหรับกินในช่วงวันปีใหม่

จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงพาคุณแม่จี้ดองไข่เค็มอีกเป็นจำนวนมาก ชุดนี้สำหรับคนที่จองไว้ในวันส่งท้ายปีเก่า เมื่อถึงตอนนั้น ไข่เค็มจะส่งกลิ่นหอมกำลังดี

นอกจากไข่เค็มแล้ว ยังขายลูกพลับแห้งที่มีชั้นน้ำตาลหนา ๆ อีกด้วย

เขาเก็บบางส่วนไว้กินเอง และนำส่วนที่เหลือไปขายที่ร้านค้าในเมืองมหาวิทยาลัย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกพลับแห้งคุณภาพสูงชุดนี้จะขายดีเป็นอย่างมาก

เมื่อจี้เจี้ยนเยี่ยกลับมาในวันนั้น เขาก็พูดอย่างยิ้มแย้ม “ทุกคนบอกว่าตอนนี้ที่ร้านมีของขายมากขึ้นเรื่อย ๆ และธุรกิจของแกก็ใหญ่โตมากขึ้นแล้วนะ”

ตอนแรกในร้านมีสินค้าอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ตอนนี้มีเยอะมากขึ้น เริ่มจากมีปลาขาย ต่อมาก็ไข่เค็ม แม้ว่าลูกพลับแห้งจะหาได้ไม่ยากนัก แต่ก็มีขายแค่ปีละครั้ง ทั้งยังเก็บไว้ได้นานถึงช่วงปีใหม่

และจี้เจี้ยนอวิ๋นก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เมื่อเข้าสู่เดือน 12 เขาก็ออกมาประกาศ

“แกะโตพอที่จะเชือดได้แล้ว”

เขาไม่ได้เลี้ยงแกะมากนัก ดังนั้นจึงเก็บลูกแกะและแม่แกะที่กำลังตั้งครรภ์เอาไว้ ส่วนตัวอื่น ๆ นำออกมาชำแหละขาย

เหล่าฉินและซูจิ้นตั๋งสั่งเนื้อแกะกันไปคนละ 5 ตัว และขายหมดในทุก ๆ วัน ส่วนที่เหลือจี้เจี้ยนอวิ๋นส่งไปขายในเมืองมหาวิทยาลัย อันที่จริงเขาสามารถหาเงินได้มากขึ้นหากส่งไปขายที่เมืองมหาวิทยาลัยโดยตรง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก เมื่อเหล่าฉินและซูจิ้นตั๋งมารับสินค้า เขาก็แบ่งให้ไปขาย

เนื้อแกะชุดนี้แทบจะถูกแย่งชิงกันที่ร้านค้าในเมืองมหาวิทยาลัย

ครอบครัวของพวกเขาได้กินเนื้อแกะเมื่อนานมาแล้ว การดื่มซุป 1 ชามในตอนกลางคืน ทำให้มือและเท้าของผู้สูงวัยอบอุ่นขึ้น ทั้งยังช่วยบำรุงเลือดลมได้ดียิ่ง

และเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ผู้คนจึงไม่เสียดายที่จะซื้อเนื้อแกะในจำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงรีบซื้อในทันที

โชคดีที่จี้เจี้ยนอวิ๋นได้โทรศัพท์พูดคุยกับจี้เจี้ยนเยี่ยแล้วว่าไม่ให้ซื้อมากเกินไป คนหนึ่งสามารถซื้อได้สูงสุด 3 ชั่ง ถ้าอยากได้เพิ่มอีกให้มาซื้อในวันถัดไป ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะไม่สามารถซื้อได้ และพวกเขาจะไม่ได้ลิ้มรสเนื้อแกะของจี้เจี้ยนอวิ๋นอีก

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้ไม่สามารถยับยั้งความต้องการเนื้อแกะของบรรดาลูกค้าได้

เนื้อแกะชุดนี้ถูกขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่วันและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ชื่อของเขาคือจี้เจี้ยนอวิ๋น และเขาคือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง

แต่การหาเงินก็คือการหาเงิน เขายังไม่ลืมว่าควรมีอาหารกินเองด้วย

และสิ่งที่เขาเก็บไว้คือแกะตัวอ้วนพี

เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติ อากาศหนาวเย็นเป็นอย่างมาก แม้ว่าหิมะจะยังไม่โปรยปรายลงมา แต่ก็สามารถมองเห็นน้ำค้างแข็งตามพื้นในยามเช้า จึงเป็นเรื่องง่ายต่อการจัดการเนื้อ เพียงแค่นำไปแขวนไว้ใต้ชายคา

จี้เจี้ยนอวิ๋นได้ให้เนื้อแกะแก่แม่ยายของเขาจำนวน 1 ใน 4 ส่วน และให้พ่อแม่ของเขาในปริมาณที่เท่ากัน อีก 2 ส่วนที่เหลือเก็บไว้กินกันภายในครอบครัว

นอกจากนั้นก็ไม่มีใครแล้ว

เนื้อแกะเหล่านี้จะแบ่งได้สักเท่าไหร่กัน? ครั้งหน้าที่เชือดหมูต้องแบ่งหัวหมูและเครื่องในให้ด้วย ตอนนี้เขาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหนอีกแล้วนอกจากพ่อแม่และแม่ยายของเขา

เนื้อแกะที่ซูตานหงเป็นคนตุ๋นมีรสชาติยอดเยี่ยมมาก มันอร่อยจนเขาแทบจะกลืนลิ้นลงไปด้วย

“อร่อยไหมคะ?” ซูตานหงดื่มน้ำซุปไปหนึ่งถ้วยตามที่สามีคะยั้นคะยอ ก่อนจะกินเนื้อไปอีกสองชิ้นและไม่กินต่อ

“อร่อยมาก!” จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้ม

“เหรินเหรินล่ะ?” ซูตานหงยิ้มให้ลูกชายคนโต

“อร่อยที่สุดเลยครับ” ดวงตาของเหรินเหรินเปล่งประกาย

“แอ้ ๆ ” ฉีฉีคว้าเนื้อแกะชิ้นโตเอาไว้ในมือ แม้ว่าเขาจะยังกินได้ไม่มากนัก แต่ก็รู้ว่ามันอร่อยมาก

จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้ม ปีนี้เขาติดหนี้นอกระบบเยอะมาก จึงชำระไปส่วนหนึ่งและเหลือไว้อีกส่วนหนึ่ง หรือควรจะชำระให้หมดในปีหน้าดี?

ซูตานหงรับรู้ได้ถึงความคิดของเขาในทันที “เหลือไว้อีกครึ่งหนึ่งก็พอแล้วค่ะ ถ้าจ่ายเยอะเกินไปจะเหนื่อยเอาได้”

“ได้ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นตกลงโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

เมื่อคุณลุงจี้กลับถึงบ้านในวันนั้น ก็ได้ยินป้าหลี่พูดจาถากถาง

“ถึงยังไงเขาก็เป็นหลายชาย โชคดีที่แค่ไหนแล้วที่ได้คุณคอยทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ในสวนให้เขาทั้งวัน เชือดแกะไปตั้งหลายตัว แต่คุณกลับไม่ได้ขนมาสักเส้น เป็นหลายชายที่ดีจริง ๆ!” ป้าหลี่บ่นอย่างไม่พอใจ

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท