ตอนที่ 259 ใจร้าย
ทันทีที่เขาเล่าจบ คุณแม่จี้ก็ถึงกับตกใจ และมองหน้าลูกเขยก่อนบอก “อวิ๋นอวิ๋นไม่ยอมให้นมลูกงั้นเหรอ?”
“หล่อนบอกว่าจะออกไปทำงานนอกบ้านน่ะครับ” หลี่จื้อถอนหายใจ
หากไม่ใช่เพราะการเข้าเมืองมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องยุ่งยาก และเมืองมหาวิทยาลัยก็เป็นที่เดียวที่มีนมผงขาย เขาคงไม่ถ่อมารบกวนอีกฝ่ายถึงที่นี่
หากออกเดินทางเข้าเมืองมหาวิทยาลัยในตอนเช้า กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็คงเย็นย่ำค่ำมืดแล้ว
ให้ลูกน้องของพี่สามขับรถไปย่อมเร็วกว่าอยู่แล้ว
เขาจึงมาถึงที่นี่และรบกวนให้แวะซื้อมาให้ ส่วนเขาต้องกลับไปดูแลลูกสาว เพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้เป็นแม่เด็กนั้นจะช่วยอะไรได้
เมื่อคุณแม่จี้ได้ยินเช่นนั้น ความกรุ่นโกรธก็ปะทุขึ้นในใจของนาง นางไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าตนเองเลี้ยงลูกสาวคนนี้มาผิดพลาดตรงไหน เหตุใดจึงได้โตมามีนิสัยแบบนี้กัน?
ตอนนี้หลานสาวของนางอายุเพียงเท่าไร? เพิ่งจะครบเดือนได้ไม่นาน แต่หล่อนกลับจะให้ลูกหย่านมแม่ และให้กินนมผงแทนอย่างนั้นหรือ?
“แม่จะช่วยเรื่องนี้เอง ส่วนอวิ๋นอวิ๋น แม่ช่วยไม่ได้จริง ๆ” คุณแม่จี้ถอนหายใจ
“คุณแม่ครับ อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ” หลี่จื้อส่ายหน้า
“ถ้าอวิ๋นอวิ๋นไปทำงานนอกบ้าน แล้วเรื่องหลานจะเอายังไงล่ะ? เธอก็ต้องกลับไปสอนหนังสือด้วย” คุณแม่จี้ถามขึ้น
“โรงเรียนเปิดเทอมวันที่ 1 กันยายนครับ ผมน่าจะช่วยดูแลได้สัก 2 เดือน ตอนนั้นลูกคงจะอายุได้ 3 เดือนแล้ว พอต้องกลับไปทำงาน เดี๋ยวผมจะพาลูกไปให้แม่ผมช่วยดูแลครับ” หลี่จื้อบอก
คุณแม่จี้พยักหน้า “ถ้าแม่เธอไม่ว่างก็เอามาให้ทางนี้ช่วยดูแลก็ได้นะ”
“ครับ” เดิมทีหลี่จื้ออยากจะปฏิเสธ แต่หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้ เขาก็ยอมรับความหวังดี
เขาเห็นว่าลูก ๆ ของพี่สามและพี่สี่เติบโตมาอย่างดี เขาเองต้องการให้ลูกสาวถูกเลี้ยงดูที่นี่เช่นกัน หากแต่เขาไม่กล้ารบกวนถึงเพียงนั้น เขายังมีพ่อแม่อยู่ที่บ้าน จะมีหน้ามาขอให้แม่ยายเลี้ยงลูกให้ได้อย่างไรกัน?
จึงทำเพียงยอมรับความหวังดีเอาไว้
หลังจากหลี่จื้อกลับไป คุณแม่จี้ก็ถอนหายใจกับคุณพ่อจี้ “ลูกสาวเรานี่มันเหลือเกินจริง ๆ นะคะ”
หากไม่ได้เป็นลูกสาวตัวเอง นางคงแนะนำให้หลี่จื้อหย่าไปแล้ว หากแต่จะให้ทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ลูกสาวของนางทั้งคน นางจะทำอย่างไรได้กัน?
คุณพ่อจี้ไม่ได้ออกความเห็น ทำเพียงเงียบ ก่อนจะเอ่ยขึ้นในท้ายที่สุด “ถ้าหลี่จื้อเอาลูกไปเลี้ยงเอง ก็ช่วยเขาหน่อยแล้วกัน”
คุณแม่จี้เงียบไป จะทำอย่างไรได้นอกจากนี้กันล่ะ?
นางนึกเอือมระอากับลูกสาวคนนี้เหลือเกิน
“ไม่รู้เลยว่าแม่สามีหล่อนจะมีท่าทางยังไงถ้ารู้เรื่องนี้เข้า” คุณแม่จี้ว่าขึ้นเพียงเท่านั้น
คุณพ่อจี้ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
หลี่จื้อแวะมาที่บ้านพี่สามและบอกลา ซูตานหงอยู่รอเขา แม้เธอจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น หากแต่เธอก็คาดว่าตนเดาไม่ผิด คงหนีไม่พ้นเรื่องของจี้อวิ๋นอวิ๋นตัวแสบ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ต้องการฝากซื้อนมผงหรอก
ราคานมผงตอนนี้ไม่ใช่ถูก ๆ โดยเฉพาะยี่ห้อนำเข้า หากแต่เธอก็ยอมซื้อให้เหรินเหรินกับฉีฉีได้กิน ชนิดที่ว่าต่อให้อวิ๋นลี่ลี่รักเยียนเอ๋อร์แค่ไหน อีกฝ่ายคงทำใจซื้อไม่ลงแน่
ครั้งนี้คงเป็นเพราะจี้อวิ๋นอวิ๋นต้องการให้ลูกหย่านมแม่ ซูตานหงส่ายหน้าและพูดอะไรไม่ออก
อย่างไรก็ตามเมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นกลับมาในช่วงเที่ยง ซูตานหงก็เล่าให้ฟังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จี้เจี้ยนอวิ๋นไม่คาดหวังกับน้องสาวคนนี้อีกแล้ว หล่อนทำให้คนใจดีอย่างเขารู้สึกได้ถึงขนาดนี้ ทำให้เห็นว่าน้องสาวทำให้เขาผิดหวังมากเพียงไหน
เมื่อก่อนตอนที่เกิดเรื่องนมของฉีฉีขึ้น เขาเองรู้ดีทั้งหมด เพราะว่าฉีฉีเป็นคนมาฟ้องเขาเอง และซูตานหงไม่เคยสอนให้เขาทำเช่นนี้ เด็กน้อยผู้คิดมากคนนี้บ่นออกมาเอง ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน
หากแต่ด้วยคำบ่นที่หาฟังได้ยาก เขาก็สื่อสารกับพ่อรู้เรื่องว่าไม่ชอบคุณอาคนนี้
ต่อให้ไม่ชอบเพียงไหน ตอนนี้จี้อวิ๋นอวิ๋นก็มีลูกแล้ว จี้เจี้ยนอวิ๋นเองมีลูกถึง 2 คน เขาจึงคิดว่าเมื่อมีลูกแล้วหล่อนจะนิสัยดีขึ้นบ้าง กลับคาดไม่ถึงว่าจะแย่ลงกว่าเดิมเสียอีก
จี้เจี้ยนอวิ๋นเงียบไป เขาไม่ได้ออกความเห็น แต่ซูตานหงยังสัมผัสได้ว่าสามีกำลังไม่พอใจ
เธอไม่ได้มีเจตนาให้เป็นเช่นนั้น เธอนึกเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ในขณะที่สามีงานยุ่ง แต่ซูตานหงก็ไม่สบายใจและปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้ ว่าหากต่อไปมีเรื่องของจี้อวิ๋นอวิ๋นอีก เธอจะไม่เอามาพูดในบ้านโดยเด็ดขาด
กระทั่งสวี่เหอซานกลับมาในช่วงบ่าย จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงหิ้วนมผง 3 กระป๋องมาให้ และถือโอกาสแวะเยี่ยมหลานสาวด้วย
เขาเพียงแค่แวะมาหา และไม่ได้เอ่ยอะไร
“พี่ นมผง 3 กระป๋องนี้ราคาเท่าไหร่คะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยพร้อมกลอกตาไปมา
“มันเป็นของนำเข้าเลยแพงกว่าปกติ 5 หยวนต่อกระป๋องได้” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
“แพงขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นอดจะพูดออกมาไม่ได้
“พี่สามครับ นี่ 15 หยวนครับ” หลี่จื้อยื่นเงิน 15 หยวนให้โดยไม่พูดมากความ
จี้อวิ๋นอวิ๋นมีท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนบอก “พี่คะ นมผง 3 กระป๋องน่าจะถือเป็นของรับขวัญหลานสาวไม่ใช่เหรอคะ?”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก!” หลี่จื้อโพล่งออกมาทันที
จี้เจี้ยนอวิ๋นส่งยิ้มให้หลี่จื้อ “ไม่เป็นไรหรอก ครั้งนี้พี่ถือว่าให้หลานสาว ครั้งหน้านายค่อยจ่ายให้แล้วกัน”
“พี่สาม อย่าเลยครับ” หลี่จื้อรีบบอก
“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่ซื้อนมให้หลานสาวจะเป็นอะไรไปล่ะ? ถ้านายมีเวลาก็พาหลานไปเยี่ยมฉันบ้างแล้วกัน” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ย
“ได้ครับ” หลี่จื้อพยักหน้า เขาเก็บเงิน 15 หยวนกลับไป และไม่ได้ทักท้วงอีก
จี้เจี้ยนอวิ๋นอยู่เล่นกันหลานสาวครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินทางกลับ
“ถ้าครั้งหน้าคุณทำอย่างนี้อีก อย่าหาว่าผมไม่ไว้หน้าคุณนะ!” ทันทีที่จี้เจี้ยนอวิ๋นกลับไป หลี่จื้อก็ต่อว่าจี้อวิ๋นอวิ๋น
จี้อวิ๋นอวิ๋นจ้องเขม็ง “หลี่จื้อ คุณจะมาอารมณ์เสียอะไรกันคะ? ฉันทำอย่างนี้เพื่อใครกันล่ะ ไม่ใช่เพราะช่วยคุณประหยัดเงินหรอกเหรอ!”
“ให้ตายเถอะ คุณก็แค่เอาเปรียบคนอื่น คิดว่าคนอื่นไม่รู้ความคิดของคุณเหรอครับ?” หลี่จื้อว่าเสียงเรียบ
“นี่คุณหาเรื่องทะเลาะกับฉันเหรอ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นขึ้นเสียงอย่างเกรี้ยวกราด
“ถ้าคุณอยากไปทำงานก็เชิญเลย” หลี่จื้อไม่ได้พูดกับหล่อนไปมากกว่านี้ เขาบอกเพียงเท่านั้น
“ฉันจะออกไปทำงาน แล้วก็ตั้งใจจะอยู่หอพักด้วย จะไม่กลับมาอยู่ที่นี่อีกแล้ว!” จี้อวิ๋นอวิ๋นสวนกลับ
“จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ” หลี่จื้อแสดงท่าทางเฉยเมย
จี้อวิ๋นอวิ๋นโมโหเสียจนไม่ยอมอยู่ที่นี่อีกต่อไป ปล่อยให้เขาอยู่กับลูกสาวตามลำพังไปแล้วกัน!
หลี่จื้อไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ได้นมผงมาแล้ว จี้อวิ๋นอวิ๋นจึงให้ลูกหย่านมแม่ทันที วันต่อมาหลี่จื้อจึงเริ่มให้ลูกสาวกินนมผง
เนื่องจากเขาคอยดูแลภรรยาอย่างดีตั้งแต่ตอนตั้งท้อง ลูกสาวจึงลืมตามาดูโลกอย่างแข็งแรง หลังพ้นช่วงอยู่ไฟ เด็กน้อยจึงมีผิวพรรณทั้งขาวผ่องและเนียนนุ่ม เป็นที่น่าปลาบปลื้มใจไม่น้อย
เพราะเป็นช่วงวันหยุด หลี่จื้อจึงกลับบ้านพ่อแม่พร้อมกับลูกสาว และถามจี้อวิ๋นอวิ๋นว่าจะกลับไปด้วยกันหรือไม่ หากหล่อนไม่ไปด้วย ก็ปล่อยให้หล่อนอยู่บ้านคนเดียว เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว
เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาว มันจึงทำให้เขากลายเป็นคนใจร้ายและเฉยชากับภรรยาไป
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ใส่ใจสิ่งใดเลย หากไม่เห็นแก่หน้าครอบครัวของเจ้าหล่อน เขาคงหย่ากับหล่อนไปแล้ว
ด้านจี้เจี้ยนอวิ๋น เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็บอกกับภรรยา “หวังว่าหลานจะเหมือนหลี่จื้อ ไม่ใช่คนเป็นแม่นะ”
ความพึงพอใจแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขา เขาเองชอบเด็กผู้หญิง แต่เพราะว่ามีลูกชาย 2 คนติด เขาจึงทำได้เพียงมองหลานสาวด้วยสายตาเอ็นดู
ซูตานหงยกยิ้ม ไม่ได้ตอบรับอะไร ทำเพียงแตะหน้าท้องตัวเอง “หวังว่าลูกคนนี้จะเป็นลูกสาวนะคะ”
“จะเป็นลูกสาวหรือลูกชายก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอกทันที
เขาไม่ต้องการให้ภรรยารู้สึกกดดัน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
มหกรรมเทกระหน่ำซัมเมอร์เซลมาแล้วจ้า ล่าสุดหลี่จื้อของผู้แปลก็จะพ้นกรรมจากยัยสองอวิ๋นแล้ว
ไหหม่า(海馬)