ตอนที่ 275 หมูแดดเดียว
คำพูดของอวิ๋นลี่ลี่ทำให้หล่อนโมโหเช่นกัน
สิ่งที่อวิ๋นลี่ลี่พูดล้วนเป็นสิ่งที่ยึดถือกันในอดีต แต่ตอนนี้ก้าวเข้าสู่สังคมสมัยใหม่แล้ว หากมีผู้หญิงแบบนั้นอยู่ในครอบครัว ลูกสะใภ้อย่างอวิ๋นลี่ลี่จะไปเดือดร้อนอะไรด้วยล่ะ?
โดยเฉพาะอวิ๋นลี่ลี่ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเธอ!
“พวกพี่เอาแต่โทษฉัน ทำไมเอาแต่โทษฉันกันล่ะ? งั้นก็คิดถึงชีวิตของฉันที่ต้องอยู่กับหลี่จื้อบ้างสิ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยพร้อมตาแดงก่ำ
“เธอพูดอะไรของเธอ?” อวิ๋นลี่ลี่เอ่ยเหยียดเมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนยังไม่สำนึก และโทษว่าเป็นความผิดของหลี่จื้อ
ทุกคนต่างพูดกันได้ทั้งนั้นว่าชีวิตมันไม่ง่าย แต่มีเพียงจี้อวิ๋นอวิ๋นที่ไม่คู่ควรกับคำนั้น
ตอนที่ยังเป็นน้องสามีของหล่อนอยู่ ชีวิตของอีกฝ่ายก็ถือว่าดีมากแล้ว เมื่อแต่งงานออกไปแล้วก็ยิ่งดีขึ้นอีก!
หลังตามหลี่จื้อกลับไปอยู่แถบชานเมือง หล่อนได้กลับบ้านบ่อยสักเท่าไรเชียว? ยังไม่รวมถึงการที่ออกไปทำงานหาเงินข้างนอกบ้าน และทิ้งลูกที่เพิ่งเกิดมาให้อยู่ที่บ้าน หล่อนก็ยังไม่มีความสุขและกล้าคบชู้กับชายอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ?!
จี้อวิ๋นอวิ๋นอยากจะเถียงกลับ หากแต่หล่อนก็ไม่อาจพูดสิ่งใดได้ หล่อนคิดเพียงแค่ตนอยู่กับหลี่จื้อแล้วไม่มีความสุขเท่านั้น
“เอาล่ะ ในเมื่อเธอตัดขาดกับครอบครัวเราแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกันอีก ต่อไปเธอก็เอาตัวรอดเองแล้วกัน และไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่สะใภ้สี่ด้วย” อวิ๋นลี่ลี่ว่าจบแล้วก็หอบการบ้านกลับไป
จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่มีโอกาสได้เรียกหล่อนไล่หลังด้วยซ้ำ
หลังจากที่อวิ๋นลี่ลี่กลับถึงบ้าน หล่อนก็เล่าเรื่องนี้ให้จี้เจี้ยนเหวินฟัง
จี้เจี้ยนเหวินเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้หล่อนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวเราแล้ว ไม่ต้องใส่ใจเรื่องของหล่อนอีก!”
สำหรับน้องสาวคนนี้ เขาเองก็ย่อมเคยผิดหวังมาก่อน หากแต่นึกไม่ถึงว่าหล่อนจะกล้าทำถึงเพียงนี้!
หลังจากแต่งงานไปเมื่อก่อนหน้านี้ เขาก็ได้ยินว่าหล่อนทำตัวราวกับปีศาจ แม้เขาจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้นัก แต่กลับไม่เคยคาดคิดว่าหล่อนจะทำตัวผิดศีลธรรมพื้นฐานอย่างนี้ได้ลง!
มันทำให้เขาหมดความอดทน!
วันนั้นที่เขาตบหน้าหล่อนไปสองฉาด ยังนับว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
อวิ๋นลี่ลี่โทรไปเล่าเรื่องนี้ให้ซูตานหงฟังเช่นกัน แต่ซูตานหงไม่ได้เก็บมาใส่ใจนัก
จี้เจี้ยนอวิ๋นพาพ่อแม่และเหรินเหรินกับฉีฉีไปเที่ยวที่ปักกิ่ง ในขณะที่ซูตานหงคอยจัดการเรื่องสำคัญอยู่ที่บ้าน
การที่เธออยู่บ้านไม่ได้แปลว่าเธอไม่เข้าใจระบบการทำงาน สิ่งที่จี้เจี้ยนอวิ๋นเคยทำ บางครั้งเขาก็มาขอคำแนะนำจากเธอ
เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นไม่อยู่ ทักษะการจัดการของเธอจึงได้ฉายแววออกมา
การทำบัญชีต้องลงรายการไว้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับการจัดการสินค้าอื่น ๆ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อย เมื่อคุณแม่ซูเห็นเช่นนั้น นางก็รู้สึกว่าลูกสาวของตนนั้นเติบโตขึ้นมาก
เนื่องจากคุณพ่อกับคุณแม่จี้ไม่ได้อยู่ดูแลสวนแห่งแรก ช่วงนี้พวกเขาจึงเรียกจี้หงจวินและสวี่อ้ายตั๋งให้ขึ้นมาเฝ้าสวน
ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ
ไม่มีอะไรให้ต้องทำมาก เพราะก่อนหน้านี้สะสางเสร็จไปมากแล้ว งานทุกอย่างจึงเสร็จสิ้น เหลือเพียงพวกสัตว์ที่ต้องคอยดูแล
ตอนนี้ซูตานหงกังวลเรื่องเล้าไก่ในสวนแห่งที่ 3 พรุ่งนี้เธอจึงตั้งใจจะขึ้นไปให้น้ำพุวิเศษกับบรรดาไก่ทั้งหลาย
พวกมันได้ผลดีมาก บรรดาปศุสัตว์ที่สวนแห่งแรกและแห่งที่ 2 ต่างก็ดื่มน้ำนี้ทั้งนั้น ทำให้พวกมันไม่เคยป่วย อีกทั้งยังเติบโตได้ดี และเนื้อยังอร่อยมาก
เมื่อคุณแม่ซูกลับมาจากซื้อผักตอนเช้า นางก็พูดถึงราคาเนื้อหมู “ตอนนี้เดือนพฤศจิกายนแล้ว ราคาเนื้อหมูยังตกไม่มากไม่ใช่เหรอ?”
นางไปซื้อมาเมื่อเช้า ราคายังอยู่ที่ 1 หยวนต่อ 1 ชั่ง
“เดี๋ยวราคาจะตกมากกว่านี้อีกแน่นอนค่ะ” ซูตานหงบอก
ปีนี้มีคนเลี้ยงหมูจำนวนมาก เป็นธรรมดาที่จะราคาถูกลง
ในตอนเช้าที่เธอตื่นมา เธอได้เห็นว่ามีน้ำค้างแข็งอยู่ด้านนอก อีกทั้งอากาศยังค่อนข้างเย็น แต่ซูตานหงก็ยังรอให้อากาศเย็นกว่านี้ เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
ครั้งนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นพาพ่อแม่ไปเที่ยวเป็นเวลานาน กว่าจะกลับมาก็ราวกลางเดือนพฤศจิกายนได้
ตอนนี้ซูตานหงจึงได้เตรียมซื้อหมูสามชั้นมาทำหมูแดดเดียว
เธอเรียกให้หวังหงฮวาและหลี่อวี้ซุ่ยมาช่วย เนื่องจากลูกของทั้งคู่โตมากแล้ว และเล่นกันเองได้ พวกหล่อนไม่จำเป็นต้องคอยดูแลพวกเขา ทั้งสองจึงมีเวลาว่าง
ซูตานหงรับหน้าที่ออกคำสั่ง ถึงอย่างไรเธอก็พาหยวนหยวนติดไปด้วย
หากแต่หยวนหยวนก็ว่าง่ายดีมาก ส่วนใหญ่แล้วในทุกวันเธอจะไม่งอแงมากนัก ซึ่งแน่นอนว่าเธอกินเก่งและร่าเริงดี
ซูตานหงใช้น้ำพุวิเศษชงนมให้เธอกิน และยังมีของเล่นมากมายของเหรินเหรินกับฉีฉี ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีความสุขขนาดไหน อีกทั้งเธอยังดูสดใสมาก สุดสัปดาห์ที่แล้วหลี่จื้อได้กลับมาเยี่ยมและตรงขึ้นไปที่สวน หลังผ่านไป 2 วัน เขาก็มาขอบคุณซูตานหงก่อนกลับ
เขาเห็นว่าลูกสาวของตนถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดี และเนื่องจากไม่ได้เห็นหน้าพ่อมาสักพัก เธอก็แทบจะลืมเขา จึงไม่ค่อยยอมตามเขาไป เห็นได้ชัดว่าต้องการอยู่กับซูตานหงมากกว่า
หลี่จื้อเป็นคนออกเงินค่านมผงทั้งหมด โดยมีสวี่เหอซานกับคนอื่น ๆ ซื้อกลับมาจากเมืองมหาวิทยาลัยให้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วต้องใช้ประมาณ 3 กระป๋องต่อเดือน
แน่นอนว่าเป็นเพราะซูตานหงป้อนแต่อาหารที่มีประโยชน์ ไม่อย่างนั้นเธอคงขาดสารอาหารอื่น
เด็กหญิงจึงมีทั้งร่างกายจ้ำม้ำและน่ารัก
หวังหงฮวากับหลี่อวี้ซุ่ยมาช่วยงาน ซึ่งพวกหล่อนต่างก็ได้ค่าแรง แม้จะเป็นคนงานชั่วคราว แต่ค่าแรงที่ได้ก็ไม่น้อย โดยพวกหล่อนได้รับค่าแรงรายวันกันวันละ 5 หยวน แถมยังทำงานอย่างคล่องแคล่ว ครั้นได้เจอกับหยวนหยวน พวกหล่อนก็บอกว่าเธอต้องเลี้ยงได้ดีแน่
ไม่ต้องพูดถึงเหรินเหรินกับฉีฉี ก่อนหน้านี้ที่เลี้ยงเยียนเอ๋อร์ เด็กหญิงก็ถูกเลี้ยงดูที่นี่มาอย่างดีไม่ใช่เหรอ?
หยวนหยวนก็คงไม่ต่างกัน ดูท่าแล้วเธอคงจะเติบโตมาใช้ได้ทีเดียว
ทั้งสองไม่ได้พูดถึงจี้อวิ๋นอวิ๋น ตอนนี้ทั้งหมู่บ้านรู้เรื่องที่จี้อวิ๋นอวิ๋นคบชู้สู่ชายแล้ว พวกเขาต่างพูดกันลับหลัง แต่ต่อหน้ากลับไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้
คุณแม่ซูมาช่วยทำหมูแดดเดียวเช่นกัน นางซื้อเนื้อหมูมาทำหมูแดดเดียวเป็นจำนวนมาก เมื่อทำการหมักแล้วนางก็เอาไปแขวนไว้หลังบ้านเพื่อให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ
หลังจากง่วนทำมา 10 วัน บริเวณหลังบ้านก็เต็มไปด้วยหมูแดดเดียว อีกทั้งรสชาติยังอร่อยล้ำ ซึ่งพวกมันทั้งหมดถูกแขวนเอาไว้บนราวไม้ไผ่มากมาย
5 วันก่อนหน้านี้ จี้เจี้ยนอวิ๋นได้กลับมาพร้อมคุณพ่อกับคุณแม่จี้ และเหรินเหรินกับฉีฉี
ทั้งคุณพ่อกับคุณแม่จี้อยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่ แม้จะเป็นการไปเที่ยวช่วงสั้น ๆ แต่เห็นได้ว่าท่าทางของสองสามีภรรยาดูสบายใจขึ้น
เหรินเหรินกับฉีฉีไม่ได้เจอซูตานหงมานาน เมื่อกลับมาถึงจึงเอาแต่ออดอ้อนเธอ ยามที่สองพี่น้องเข้านอนตอนกลางคืน พวกเขายังมานอนด้วยกันกับเธอ ทำให้คุณพ่อผู้หิวกระหายและใจร้อนอยากจะทำเรื่องซุกซนไม่อาจทำสิ่งใดได้
เมื่อลูก ๆ นอนหลับ จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงหยิบสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำที่เขาซื้อมาให้ภรรยาออกมาจากกระเป๋า มันถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย แต่ซูตานหงกลับไม่ได้เอาออกมาใส่ เนื่องจากมันสะดุดตาเกินไป
“ผมยอมรับลุงจางเป็นพ่อบุญธรรมแล้วนะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอกเธอ
“หือ?” ซูตานหงฟังไม่ค่อยถนัดนัก “ทำไมกะทันหันจังล่ะคะ?”
เธอรู้ว่าลุงจางเป็นอาจารย์อาวุโส เป็นคนที่ขายบ้านให้จี้เจี้ยนอวิ๋น แต่ว่ากันตามตรงแล้ว เธอเองก็ลืมหน้าตาของเขาไปแล้วเช่นกัน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เสรีภาพในการไปแฮดกับใครก็ได้ มีชู้ทั้งที่ยังไม่หย่านะนังปอบอวิ๋น เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เอาแต่อ้างว่าเป็นสังคมสมัยใหม่แล้วอยู่นั่น
มีพ่อบุญธรรมอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว หนทางการเป็นเศรษฐีอยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ
ปล. แปลตอนนี้ทั้งที่ยังไม่ได้กินข้าว = หิวข้าว
ไหหม่า(海馬)