ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 280 คลอดลูกที่ 3

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่​ 280 คลอดลูก​ที่​ 3

สมาชิก​ใน​ครอบครัว​แวะ​มาเยี่ยมเยือน​ วัน​คืน​ที่​น่าตื่นเต้น​ดำเนิน​ไป​พร้อม​ปี​เก่า​ที่​พ้น​ผ่าน​

เมื่อ​เข้า​ปีใหม่​ ย่อม​เป็นการ​เริ่มต้น​การผลิต​รอบ​ใหม่​

เมื่อปีก่อน​จี้เจี้ยนอวิ๋น​เลี้ยง​หมู​ไว้​ 10 ตัว​ แต่​ปี​นี้​เขา​เลี้ยง​ไว้​เป็น​จำนวน​ค่อน​ข้างมาก​ เขา​นำ​ลูก​หมู​ 30 ตัว​มาเลี้ยง​ใน​สวน​แห่ง​ที่​ 2 และ​สั่งให้​ลุง​จี้ช่วยดูแล​ให้​

นอกจากนี้​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ยัง​นำ​หมู​อีก​ 5 ตัว​ไป​เลี้ยง​ที่​อ่างเก็บน้ำ​อีกด้วย​ คอก​หมู​แห่ง​ใหม่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ที่นั่น​ ซึ่งใช้สำหรับ​การ​เลี้ยง​หมู​

เขา​นำ​ไป​ไม่มาก​นัก​ เพียงแค่​ 5 ตัว​

จำนวน​หมู​ทั้งหมด​มีไม่มาก​นัก​ โดยรวม​แล้ว​มี 35 ตัว​

เดิมที​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ต้องการ​เลี้ยง​มากกว่า​นี้​ ทว่า​ไม่มีพื้นที่​ให้​เลี้ยง​ แต่​นี่​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​น่าเสียดาย​มาก​นัก​

เมื่อปีก่อน​เนื้อหมู​ราคาตก​มาก​ เรียก​ได้​ว่า​หลาย​คน​ไม่สามารถ​ทำกำไร​ได้​ด้วยซ้ำ​ ต่อให้​พวกเขา​ไม่มีกำไร​ แต่​อย่าง​น้อย​ก็​ควร​คืนทุน​ที่​ทุ่มเท​ไป​ทั้งปี​

ราคา​ลูก​หมู​เมื่อปีก่อน​ถึงได้​แพง​หูฉี่​ ปี​นี้​ราคา​ถูก​ลง​มาก​ ลูก​หมู​ตัว​หนึ่ง​ตก​ราคา​ 6 หรือ​ 7 หยวน​เท่านั้น​ หาก​แต่​ยัง​ขาย​ไม่ดี​นัก​ เนื่องจาก​คน​จำนวนมาก​ไม่สนใจ​เลี้ยง​อีกต่อไป​แล้ว​

ใน​หมู่บ้าน​ของ​พวกเขา​ หลาย​คน​ขาดทุน​ไป​เมื่อปีก่อน​เสีย​ยับเยิน​ ปี​นี้​เมื่อ​เห็น​จี้เจี้ยนอวิ๋น​เลี้ยง​จำนวนมาก​ บางคน​ก็​หยุด​เลี้ยง​ ในขณะที่​บางคน​มาถามถึงสถานการณ์​ ถึงอย่างไร​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ก็​ขาย​ได้​ทันเวลา​ และ​ขาย​ออก​ไป​เสียแต่​เนิ่น ๆ​ เขา​จะไม่ได้​กำไร​บ้าง​เลย​เหรอ​? พวกเขา​เอาแต่​รอเวลา​จึงไม่ได้​นำ​ออกมา​ขาย​ และ​ก็​ต้อง​เสียใจ​ใน​ท้ายที่สุด​

จี้เจี้ยนอวิ๋น​ยิ้ม​ “ผม​จะไป​รู้​ว่า​ปี​นี้​ราคา​เนื้อหมู​จะดี​หรือเปล่า​ได้​ยังไง​ล่ะ​ครับ​?”

“ปีก่อน​เธอ​ก็​เลี้ยง​หมู​แค่​ 10 ตัว​ เพราะ​รู้​ว่า​ราคา​จะตก​ไม่ใช่เหรอ​?” ชาวบ้าน​เอ่ย​กับ​เขา​

“ปีก่อน​ผม​แค่​ไม่มีเวลา​และ​ไม่มีแรง​เหลือ​น่ะ​ครับ​ ร้าน​ที่​เมือง​มหาวิทยาลัย​ก็​ยุ่ง​มาก​ และ​ยังมี​ปลา​ที่​อ่างเก็บน้ำ​อีก​ สวน​อีก​ 2 ที่​ก็​เพิ่งจะ​ตั้งตัว​ได้​ เลย​ไม่มีเวลา​มาดูแล​พวก​มัน​น่ะ​ครับ​” จี้เจี้ยนอวิ๋น​บอก​

“ไม่ใช่เพราะว่า​เธอ​รู้​ว่า​ราคา​เนื้อหมู​จะตก​หรอก​เหรอ​?” ชาวบ้าน​ตะล่อม​ถาม

“ผม​จะรู้​ได้​ยังไง​ครับ​ ปีก่อน​ผม​เอง​ก็ได้​กำไร​จาก​การ​ขาย​หมู​ ใคร​จะคิด​ว่า​จะราคาตก​ได้​ละ​ครับ​?” จี้เจี้ยนอวิ๋น​บอก​

“ปี​นี้​เธอ​ก็​เลย​เลี้ยง​ไว้​เยอะ​เพราะ​มีเวลาว่าง​แล้ว​น่ะ​เหรอ​? ฉัน​ว่า​เธอ​น่าจะ​มีเรื่อง​ต้อง​ดูแล​เยอะ​อยู่​นะ​” ชาน​สูงวัย​เอ่ย​

“ปี​นี้​พอ​จะมีเวลาว่าง​แล้ว​ครับ​” จี้เจี้ยนอวิ๋น​ตอบ​ “ถ้าไม่เลี้ยง​หมู​ ผม​ก็​คง​ไม่มีงาน​ต้อง​ทำ​มาก​ เดือน​หนึ่ง​ผม​ต้อง​จ่ายเงินเดือน​ไม่น้อย​ ผม​จะจ่าย​ไป​ทำไม​ล่ะ​ครับ​?”

ชาวบ้าน​ไม่ได้​คำตอบ​ที่​ชัดเจน​นัก​จาก​เขา​ บางคน​ยังคง​เลี้ยง​ตาม​เขา​ ในขณะที่​บางคน​ไม่คิด​สนใจ​

จี้เจี้ยนอวิ๋น​ไม่ได้ใจ​เรื่อง​นี้​ พวกเขา​ต้อง​หาทาง​กันเอา​เอง​ เขา​จะไป​ช่วยเหลือ​อะไร​พวกเขา​ได้​

ไม่ต้อง​พูดถึง​พวกเขา​ แม้แต่​เขา​เอง​ยังคง​ไม่มั่นใจ​ แต่​เขา​ยัง​พึ่งพา​ภรรยา​ให้​ทำ​หมู​แดดเดียว​หอม​อร่อย​ได้​ไม่ใช่เหรอ​? หาก​เนื้อหมู​ขาย​ได้ราคา​ไม่ดี​นัก​ ก็​ยัง​สามารถ​นำ​ไป​ทำ​หมู​แดดเดียว​ขาย​ได้​

ในขณะเดียวกัน​ เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​พูดโกหก​ออก​ไป​

ตอนนี้​สวน​แห่ง​ที่​ 3 เข้าที่เข้าทาง​ดีแล้ว​ น้องชาย​ของ​เขา​ ไช่จ้าน​กั๋ว​ และ​จี้กวงซง​มีหน้าที่​ดูแล​สวน​แห่ง​นี้​ พร้อมทั้ง​เล้า​ไก่​ที่​สวน​ หลัง​พ้น​ฤดูหนาว​ไป​เล้า​ไก่​ก็​เป็นปกติ​ดี​ แต่​ตอนนี้​อากาศ​ยังคง​หนาว​อยู่​บ้าง​ คง​ใช้เวลา​ราว​ 1 ถึง 2 เดือน​กว่า​จะเป็นปกติ​ได้​อย่าง​แท้จริง​

หาก​แต่​หลังจาก​ทั้ง​ 3 คน​ง่วน​กับ​การ​จัด​การงาน​เหล่านี้​ ทำให้​งาน​ที่​เหลือ​ไม่หนัก​มาก​นัก​

บ่อยครั้ง​จี้เจี้ยนอวิ๋น​จึงสั่งให้​พวกเขา​ลง​จาก​สวน​ไป​ทำงาน​ที่​ไร่​ ส่วน​เล้า​ไก่​ที่​สวน​ใช้คนงาน​ 1 คน​ก็​เพียง​พอแล้ว​ หาก​ช่วง​ไหน​งาน​ยุ่ง​ เขา​จะให้​ 2 คน​อยู่​ทำงาน​ ส่วน​อีก​ 1 คน​ลง​ไป​ทำงาน​ด้านล่าง​

มีคนงาน​อีก​คน​ที่​มัก​ลง​ไป​ทำงาน​ที่​ไร่​ นั่น​ก็​คือ​ซูจิ้น​จวิน​นั่นเอง​

สวน​แห่ง​แรก​มีคนงาน​จำนวนมาก​ ทั้ง​มีจี้หง​จวิน​กับ​สวี่​อ้าย​ตั๋ง​ประจำ​อยู่​ที่นั่น​ และ​ยังมี​คุณพ่อ​กับ​คุณแม่​จี้คอย​ดูแล​อยู่​ เล้า​ไก่​ก็​ไม่ใหญ่โต​มาก​นัก​ นับว่า​มีจำนวน​คนงาน​มาก​ไป​ไม่ใช่เหรอ​?

เขา​เลี้ยง​แพะ​เอาไว้​ด้วย​ พ่อ​ของ​เขา​มัก​เป็น​ผู้ดูแล​ใน​ส่วน​นี้​ ในขณะที่​คุณแม่​จี้รับหน้า​ที่เก็บ​ไข่ไก่​เป็นส่วนใหญ่​ ยาม​ที่​ซูจิ้น​จวิน​ว่าง​จาก​งาน​สวน​ก็​มัก​ลง​ไป​ทำงาน​ที่​ไร่​

ยังมี​สวน​แห่ง​ที่​ 2 แม้จะมีหมู​ถึง 30 ตัว​ หาก​แต่​ลูก​หมู​ยัง​ตัวเล็ก​อยู่​ ทำให้​ไม่ต้อง​ยุ่ง​กับ​การ​ดูแล​มาก​นัก​ เมื่อ​พวก​มัน​โต​ขึ้น​ คง​ต้อง​ใช้คน​ดูแล​มากยิ่งขึ้น​

แต่​ตอนนี้​ยัง​พอ​แบ่ง​คน​ไป​ช่วย​งาน​ด้านล่าง​ได้​

เป้าหมาย​ของ​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ใน​ปี​นี้​คือ​การ​ซื้อ​รถบรรทุก​คัน​ใหญ่​อีก​คัน​ นอกจากนี้​ลูก​คน​ที่​ 3 ของ​เขา​ยัง​กำลังจะ​ลืมตา​ดู​โลก​ เขา​จึงต้อง​เตรียม​ค่าปรับ​ไว้​ถึง 4,000 หยวน​!

ด้วยเหตุนี้​คนงาน​ทั้งหมด​จึงถูก​แบ่งงาน​เป็น​อย่าง​ดี​ ปี​นี้​เขา​ยังคง​ขึ้นเงินเดือน​ให้​คนงาน​ อีก​ทั้งปี​นี้​ยัง​ขึ้น​ให้​มาก​ โดย​ปรับ​เงินเดือน​ให้​เป็น​ 50 หยวน​

ปี​นี้​ค่าแรง​ที่อื่น​เพิ่มขึ้น​ แต่​ถึงจะเป็น​เช่นนั้น​ เงินเดือน​ที่​จี้เจี้ยนอวิ๋น​ให้​ก็​นับว่า​สูงมาก​ทีเดียว​

ดังนั้น​คนงาน​จึงไม่ได้​ถามไถ่เรื่อง​นี้​แต่อย่างใด​ หาก​เป็น​เรื่องจริง​ก็​นับว่า​เป็น​ผลพลอยได้​ของ​พวกเขา​ แต่​ใน​สถานการณ์​ปกติ​ จี้เจี้ยนอวิ๋น​มัก​ไม่เรียก​ใช้งานหนัก​เกินไป​อยู่แล้ว​ หาก​ทำงาน​ที่​สวน​เสร็จสิ้น​แล้ว​ พวกเขา​ก็​สามารถ​กลับ​ไป​ทำงาน​ส่วนตัว​ได้​

แม้งาน​ใน​แต่ละวัน​จะยุ่ง​มาก​ แต่​จี้เจี้ยนอวิ๋น​กลับ​มีความสุข​ใน​ทุกวัน​ จนกระทั่ง​ถึงปลายเดือน​เมษายน​ ลูก​คน​ที่​ 3 ของ​ ซูตาน​หง​ก็ได้​คลอด​ออกมา​อย่าง​ปลอดภัย​ที่​โรงพยาบาล​

“เป็น​ลูกชาย​อีกแล้ว​เหรอ​ครับ​?” หลังจาก​มาเยี่ยม​ภรรยา​ จี้เจี้ยนอวิ๋น​ก้ม​มอง​ลูก​คน​ที่​ 3 ด้วย​ท่าทาง​อารมณ์ดี​ เขา​ตัว​ขาวผ่อง​และ​เนียน​นุ่ม​ตั้งแต่​แรกเกิด​ ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​จะน่าเอ็นดู​เพียง​ไหน​ หาก​แต่​จี้เจี้ยนอวิ๋น​กลับ​มีท่าทาง​ไม่ตื่นเต้น​มาก​นัก​

เขา​มีลูกชาย​ 2 คน​แล้ว​ ครั้งนี้​เขา​อยากได้​ลูกสาว​!

“ลูกชาย​แล้ว​มัน​ยังไง​กัน​ ใคร ๆ​ ก็​อยาก​มีลูกชาย​หลาย​คน​กัน​ทั้งนั้น​ไม่ใช่เหรอ​?” คุณแม่​จี้ออก​อาการ​ไม่ดี​นัก​ ก่อนที่​นาง​จะอุ้ม​หลานชาย​อย่าง​นึก​เอ็นดู​

อย่าง​ที่​รู้กัน​ การ​มีหลานชาย​คน​นี้​ต้อง​แลก​กับ​ค่าปรับ​ถึง 4,000 หยวน​ แน่นอน​ว่า​นาง​ย่อม​อยากได้​หลานชาย​

ซูตาน​หง​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​นี้​นัก​ เธอ​รู้สึก​เพลีย​ และ​ผล็อย​หลับ​ไป​ทันที​

แม้ว่า​จี้เจี้ยนอวิ๋น​จะรู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ แต่​เขา​ก็​ยัง​ชอบ​ลูกชาย​ตัว​น้อย​ที่​เพิ่ง​เกิด​มา เขา​มีลูก​มาถึง 2 คน​แล้ว​ เขา​จึงมีประสบการณ์​ใน​การ​อุ้ม​เด็ก​ ถึงได้รับ​ลูก​ไป​อุ้ม​เอง​

เห​ริน​เห​ริน​ตาม​คุณ​ลุง​รอง​ของ​เขา​ไป​ใน​เมือง​เพื่อ​ไป​เล่น​กับ​สือ​โถว​ผู้​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ ในขณะที่​ฉีฉีตาม​กลุ่ม​เด็ก​ใน​หมู่บ้าน​ไป​เล่น​อย่าง​ไม่มีที่​ไป​

เห​ริน​เห​ริน​กิน​อาหาร​เที่ยง​ใน​เมือง​ ส่วน​ฉีฉีขึ้น​เขา​ไป​กิน​มื้อ​กลางวัน​กับ​คุณปู่​ของ​เขา​

สอง​พี่น้อง​ไม่ได้​นึกถึง​แม่ จนกระทั่ง​พวกเขา​กลับ​ถึงบ้าน​ตอนกลางคืน​

จี้เจี้ยนอวิ๋น​พา​พวกเขา​ไป​โรงพยาบาล​ เห​ริน​เห​ริน​กับ​ฉีฉีจึงได้​เห็น​หน้า​น้องชาย​คน​สุดท้อง​

“นี่​น้องชาย​เหรอ​ครับ​?” ฉีฉีขมวดคิ้ว​

“น้องชาย​เรา​เอง​ไง” เห​ริน​เห​ริน​พยักหน้า​รับ​

“ผม​ไม่อยากได้​นี่​ ผม​อยากได้​น้องสาว​!” ฉีฉีโพล่ง​ขึ้น​ทันที​ ด้วย​ผิดหวัง​ที่​เห็น​น้องชาย​

เห​ริน​เห​ริน​เอ่ย​ปราม​ “มีน้องชาย​ก็ดี​ออก​ ถ้านาย​อยากได้​น้องสาว​ รอ​ให้​แม่มีน้อง​คน​ต่อไป​ก็ได้​นี่​นา​”

“แต่​ผม​ก็​ไม่อยากได้​น้องชาย​เหมือนกัน​ ผม​ไม่ชอบ​ ทุกอย่าง​ต้อง​เป็น​ของ​ผม​สิ” ฉีฉีมุ่น​คิ้ว​

“ทำไม​ล่ะ​?” จี้เจี้ยนอวิ๋น​ถามลูกชาย​ขึ้น​

“ผม​คิด​ว่า​น้องชาย​จะมาแย่ง​ของ​ไป​จาก​ผม​ เขา​ต้องการ​ทุกอย่าง​ที่​ผม​มี” ฉีฉีบอก​

“อย่างนั้น​อะไร​ที่​พี่ชาย​ลูก​มี ลูก​ก็​อยาก​จะแย่ง​มาเหมือนกัน​เหรอ​?” จี้เจี้ยนอวิ๋น​ส่งยิ้ม​

“พี่​เป็น​คน​ให้​ผม​มาต่างหาก​!” ฉีฉีตอบ​

“งั้น​ลูก​เป็น​พี่ชาย​แล้ว​ ลูก​ก็​ควร​ยก​ให้​น้อง​บ้าง​เหมือนกัน​ใช่ไหม​ครับ​?” จี้เจี้ยนอวิ๋น​เอ่ย​

“ผม​จะพยายาม​ครับ​!” ฉีฉีลังเลใจ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะฝืนใจ​ตอบ​

จี้เจี้ยนอวิ๋น​อุ้ม​เขา​ขึ้น​ขี่​คอ​ เขา​คลาย​คิ้ว​ที่​ขมวด​มุ่น​ และ​จับ​ศีรษะ​พ่อ​ไว้​ ก่อน​ตะโกน​ออกมา​ “สูงอีก​ สูงอีก​ครับ​!”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สาร​จาก​ผู้แปล​

ไม่เป็นไร​นะคะ​ฉีฉี คุณแม่​ยัง​สาว​ ยังมี​น้องสาว​ให้​หนู​ได้​อยู่​ค่ะ​

ไหหม่า​(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท