ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] – ตอนที่ 295 เก็บข้าวของแล้วไสหัวไปซะ!

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ตอนที่​ 295 เก็บ​ข้าวของ​แล้ว​ไสหัวไป​ซะ!

จี้เจี้ยนอวิ๋น​ไม่อาจ​รับปาก​ได้​

ลุง​เกา​มีท่าทาง​ผิดหวัง​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่อาจ​รับปาก​ได้​ “ทำไม​เธอ​ไม่ทำ​ล่ะ​? ปีก่อน​เธอ​ขายดิบขายดี​ และ​หลาน​ ๆ ของ​ฉัน​ก็​แย่ง​กัน​กิน​ใหญ่​เลย​ พวกเขา​เพิ่ง​บอก​ฉัน​ไม่กี่​วันก่อน​ บอ​กว่า​อย่า​ลืม​ซื้อ​หมู​แดดเดียว​มาด้วย​”

จี้เจี้ยนอวิ๋น​ไม่รู้​จะหัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ “อย่างนั้น​ผม​จะไป​ถามภรรยา​ให้​นะ​ครับ​ ดู​ว่า​หล่อน​จะทำได้​หรือเปล่า​ ทั้งหมด​เป็น​ฝีมือ​หล่อน​น่ะ​ครับ​”

“ได้​สิ เธอ​ลอง​ไป​ถามดู​นะ​ ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ไม่ใช้โอกาส​นี้​หาเงิน​นี่​ ใช่ไหม​?” ลุง​เกา​เอ่ย​

“ภรรยา​ผม​ไม่ค่อย​สนใจ​เรื่อง​เงิน​นัก​หรอก​ครับ​” จี้เจี้ยนอวิ๋น​บอก​

หลังเขา​กลับมา​ เขา​ได้​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ซูตาน​หง​ ซูตาน​หง​ยิ้ม​และ​กล่าว​ “ใน​เมื่อ​ขายดี​ งั้น​ก็​ซื้อ​มาทำ​สักหน่อย​สิคะ​”

หมู​แดดเดียว​ที่​ทำ​เมื่อปีก่อน​ขายดี​ไม่น้อย​ แม้จะไม่ใช่เงิน​จำนวนมาก​ แต่​ก็ได้​หลาย​สิบ​หยวน​

เนื่องจาก​เธอ​ไม่ได้​นำ​ไป​ขาย​เป็น​จำนวนมาก​ ส่วนใหญ่​ถูก​นำ​ไป​ให้​คนอื่น​ และ​เธอ​ยัง​เก็บ​ไว้​กิน​เอง​อีก​มาก​

หาก​แต่​ช่วงนี้​ไม่เหมาะกับ​การ​ทำ​หมู​แดดเดียว​ หลัง​ผ่าน​วัน​เสี่ยว​เสวี่ย*​ไป​ ซูตาน​หง​จึงเริ่ม​หมัก​เนื้อหมู​กับ​หวัง​หง​ฮวา​และ​ห​ลี่​อวี้ซุ่ย​

*ช่วง​หิมะ​ตก​เล็กน้อย​ตาม​ปฏิทิน​สุริยคติ​จีน​ ตรง​กับ​ช่วง​วันที่​ 22-23 พฤศจิกายน​

หมู​แดดเดียว​ฝีมือ​เธอ​มีรสชาติ​อร่อย​และ​นุ่ม​ลิ้น​ ปกติ​หลังจาก​ทำ​เสร็จ​ เธอ​จะแบ่ง​เป็น​ชิ้น​ ๆ ให้​ครอบครัว​พวก​หล่อน​ทั้งสอง​ไป​แขวน​ไว้​กินที่​บ้าน​

ปี​นี้​เป็น​เหมือนกับ​ปีก่อน​ เพียงแค่​เพิ่ม​ใน​ส่วน​ที่จะ​นำ​ไป​ขาย​ที่​ร้านค้า​ แต่​เธอ​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะขาย​เป็น​สินค้าหลัก​ แค่​เป็น​สินค้า​เพิ่มเติม​เพื่อ​เพิ่ม​ยอดขาย​

ทั้งหมด​เป็น​เนื้อหมู​ที่​ซื้อ​มาจาก​เจ้าอื่น​ พวก​มัน​มีคุณภาพดี​ ส่วน​หมู​ใน​ส่วน​ของ​ตน​นั้น​ ซูตาน​หง​ยัง​ไม่มีแผน​นำมาใช้​ เนื่องจาก​ยัง​ไม่ถึงเวลา​เชือด​จนกว่า​จะถึงวันที่​ 20

เมื่อ​ถึงวันที่​ 20 หมู​แดดเดียว​ก็​ถูก​หมัก​เป็นที่​เรียบร้อย​

แม้จะเป็นงาน​ที่​วุ่นวาย​ แต่กลับ​ทำให้​รู้สึก​มีชีวิตชีวา​

บรรดา​หมู​แดดเดียว​ถูก​แขวน​เรียง​ไว้​ที่​ด้าน​หลังบ้าน​

เห​ริน​เห​ริน​กับ​ฉีฉีเคย​กิน​มาก่อน​ พวกเขา​จึงอยาก​กิน​อีก​ หมู​แดดเดียว​ตรงหน้า​นั้น​ช่างน่าอร่อย​ หลัง​ผ่าน​ไป​ไม่กี่​วัน​หมู​จะส่งกลิ่นหอม​ พวกเขา​ยัง​จำได้ดี​มาถึงทุกวันนี้​!

ฉีฉีเริ่ม​เห็นใจ​น้องชาย​ เพราะ​ตอนนี้​น้องชาย​กิน​ได้​เพียง​นม​แม่ แน่นอน​ว่า​แม่ของ​เขา​ป้อน​อาหาร​อื่น​ด้วย​ แต่​ก็​เป็น​อาหาร​จืดชืด​ เขา​ลอง​กิน​ไป​ครั้งหนึ่ง​และ​ไม่ชอบ​แม้แต่น้อย​

“แอ๊”​ ตอนนี้​เสียง​เสียง​อายุ​ได้​ 6 เดือน​ เจ้าตัว​น้อย​โต​วัน​โต​คืน​และ​ลุก​นั่ง​ได้​เอง​แล้ว​ ผิวพรรณ​ของ​เขา​ช่างขาวผ่อง​และ​นุ่มนิ่ม​ ยาม​ที่นั่ง​อยู่​เฉย ๆ​ ดู​น่ารัก​อย่าง​ถึงที่สุด​

ซูตาน​หง​เอา​นม​ให้​เขา​ และ​ปล่อย​ให้​ถือ​ขวด​ดื่ม​เอง​

ฉีฉีชะโงก​หน้า​มาหา​ “น้องชาย​ ขอ​พี่​ดื่ม​ด้วย​หน่อย​ได้​ไหม​?”

เสียง​เสียง​มองหน้า​เขา​และ​ดูดนม​ต่อ​ เขา​สงบนิ่ง​และ​ไม่นึก​สนใจ​พี่ชาย​

“น้อง​โต​แล้ว​ เขา​ต้อง​หวง​ของกิน​แน่​” ฉีฉีบอก​

“ไม่ใช่แค่​น้อง​สาม นาย​เอง​ก็​เป็น​เหมือนกัน​” เห​ริน​เห​ริน​เอ่ย​

“ผม​ไม่ได้​เป็น​แบบ​นั้น​สักหน่อย​ ผม​แบ่ง​ของ​ให้​พี่​ตั้ง​ครึ่ง​!” ฉีฉีเถียง​กลับ​ทันที​

ขนาด​พลับ​แห้ง​ที่​กิน​วันนี้​ เขา​ยัง​แบ่ง​ให้​พี่ชาย​ตั้ง​ครึ่งหนึ่ง​

“ตอนนี้​นาย​รู้เรื่อง​แล้ว​ต่างหาก​ ตอนที่​ยัง​ไม่รู้ความ​ก่อนหน้านี้​ พี่​กัด​ขนม​ของ​นาย​ไป​แค่​คำ​เดียว​ นาย​ยัง​เอา​ของ​พี่​ไป​ซะเยอะ​เลย​” เห​ริน​เห​ริน​ท้วง​

ฉีฉียิ้มเยาะ​ “ใคร​บอก​ให้​มากิน​ขนม​ของ​ผม​ล่ะ​ พี่​ก็​ต้อง​แบ่ง​ให้​น้อง​กิน​สิ ถ้าไม่ให้​ผม​ก็​คง​ไม่กิน​ของ​พี่​หรอก​”

“พี่​จะขึ้น​ไปดู​หมู​ที่​สวน​ จะไป​ด้วยกัน​ไหม​?” เห​ริน​เห​ริน​ถาม

“ไป​สิ!” ฉีฉีขานรับ​

พ่อ​ของ​เขา​บอก​เอาไว้​ ว่า​ถ้าขาย​หมู​ได้​ เขา​จะซื้อ​โทรทัศน์​ให้​ พวกเขา​จะได้​มีไว้​ดู​กัน​

สอง​พี่น้อง​ออก​ไป​ข้างนอก​ ซูตาน​หง​ไม่ได้​สนใจ​มาก​นัก​ ขอ​เพียง​พวกเขา​ไม่ป่วย​กลับมา​เป็น​พอ​ จึงทำ​เพียง​กำชับ​ “อย่า​ลืม​กลับ​ลงมา​กินข้าว​เร็ว ๆ​ นะ​ ไม่อย่างนั้น​มัน​จะหาย​ร้อน​แล้ว​เย็นชืด​หมด​”

“ครับผม​” ทั้งสอง​ออก​ไป​ด้วยกัน​หลัง​รับคำ​เสร็จ​

อวิ๋น​ลี่​ลี่​กับ​จี้เจี้ยน​เห​วิน​กลับมา​พร้อมกับ​เยียน​เอ๋อร์​ โดย​มีจี้อวิ๋นอวิ๋น​ติด​ตามมา​ด้วย​ ชาวบ้าน​หลาย​คน​ต่าง​เห็น​จี้อวิ๋นอวิ๋น​อยู่​ใน​ชุด​เสื้อผ้า​ล้ำสมัย​ ทั้ง​กางเกง​ขา​กระดิ่ง​และ​ทรงผม​ทรง​ใหม่​ ใบหน้า​ของหล่อน​ถูก​ตบแต่ง​ด้วย​เครื่องสำอาง​บาง​ ๆ ส่งให้​หล่อน​ดู​สง่างามขึ้น​มาก​

หาก​แต่​มีชาวบ้าน​คน​ไหน​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​จี้อวิ๋นอวิ๋น​คบชู้​? หล่อน​ยัง​กล้า​แบกหน้า​กลับมา​ได้​อีก​เหรอ​?

พวกเขา​แค่​เห็นแก่หน้า​จี้เจี้ยนอวิ๋น​รวมถึง​คุณพ่อ​และ​คุณแม่​จี้เท่านั้น​ จึงไม่ได้​แสดงออก​อย่าง​โจ่งแจ้ง ทำ​เพียง​ทักทาย​จี้เจี้ยน​เห​วิน​กับ​อวิ๋น​ลี่​ลี่​ โดย​มองข้าม​จี้อวิ๋นอวิ๋น​ไป​

จี้อวิ๋นอวิ๋น​ไม่ได้​สนใจ​พวกเขา​ ตอนนี้​หล่อน​เป็น​คน​ใหม่​แล้ว​ และ​มีหลาย​สิ่งที่จะ​ต้อง​จัดการ​ ไม่มีประโยชน์​ที่จะ​สนใจ​บรรดา​แม่ ๆ ป้า​ ๆ เหล่านี้​!

เมื่อ​กลับ​ถึงบ้าน​ เยียน​เอ๋อร์​รีบ​หยิบ​คุ้กกี้​ 2 กล่อง​ที่​เธอ​ซื้อ​กลับมา​ และ​บอก​ “หนู​จะไปหา​น้อง​นะคะ​!”

“จำทางได้​เหรอ​?” อวิ๋น​ลี่​ลี่​ถามขึ้น​

“จำได้​ค่ะ​!” เยียน​เอ๋อร์​วิ่ง​ออก​ไป​หลัง​ว่า​จบ​

อวิ๋น​ลี่​ลี่​และ​คนอื่น​ ๆ ทำความสะอาด​บ้าน​ เพราะว่า​ไม่มีคน​อยู่​ที่​บ้าน​หลัง​นี้​มานาน​แล้ว​ จึงต้อง​ปัดกวาด​เช็ดถู​กัน​เสีย​ก่อน​

“พี่สะใภ้​สี่คะ​ ฉัน​จะขึ้น​ไปหา​พ่อแม่​ที่​สวน​นะคะ​” จี้อวิ๋นอวิ๋น​บอก​

“ตอนนี้​เลย​เหรอ​?” อวิ๋น​ลี่​ลี่​มุ่น​คิ้ว​น้อย​ ๆ

“ค่ะ​ ไป​ตอนนี้​เลย​ ฉัน​จะไป​ยอมรับผิด​กับ​คุณพ่อ​คุณแม่​” จี้อวิ๋นอวิ๋น​เม้มริมฝีปาก​แน่น​

“เจี้ยน​เห​วิน​ พา​อวิ๋นอวิ๋น​ขึ้นไป​หน่อย​สิ” อวิ๋น​ลี่​ลี่​กล่าว​พร้อม​ถอนหายใจ​

จี้เจี้ยน​เห​วิน​บอก​ “พี่​จะขึ้นไป​บอก​พ่อแม่​ก่อน​ เธอ​อยู่​ช่วย​พี่สะใภ้​สี่ทำงานบ้าน​ก่อน​เถอะ​”

เรื่อง​การหย่า​ของ​น้องสาว​ของ​เขา​ พ่อแม่​ยัง​ไม่รู้เรื่อง​นี้​ แน่นอน​ว่า​คง​ต้อง​ใช้เวลา​เสียหน่อย​ หาก​อยู่ ๆ​ หล่อน​โผล่​หน้า​ไป​ให้​ทั้งสอง​เห็น​ คง​ไม่มีใคร​ต้อนรับ​หรือ​ให้อภัย​หล่อน​

ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ ว่า​เมื่อปีก่อน​แม่ของ​เขา​โมโห​เสีย​จน​ต้อง​นอน​โรงพยาบาล​ไป​หลาย​วัน​!

จี้เจี้ยน​เห​วิน​ขึ้นไป​ที่​สวน​ ซูตาน​หง​เห็น​ว่า​เยียน​เอ๋อร์​มาหา​ เพียง​เท่านั้น​ก็​รู้​ว่า​อวิ๋น​ลี่​ลี่​กับ​จี้เจี้ยน​เห​วิน​กลับมา​แล้ว​

“คืนนี้​เรียก​พ่อแม่​หนู​มาสิ มากิน​ข้าวเย็น​ที่​บ้าน​ของ​คุณนาย​สามด้วยกัน​ดี​ไหม​?” ซูตาน​หง​บอก​พร้อม​รอยยิ้ม​

“อา​ของ​หนู​กลับมา​ด้วย​ค่ะ​ หนู​เกรง​ว่า​ตัวเอง​คง​กินไม่ลง​” เยียน​เอ๋อร์​ขมวดคิ้ว​

“อา​ของ​หนู​กลับมา​เหรอ​?” ซูตาน​หง​เลิกคิ้ว​

“ค่ะ​ หล่อน​มาอยู่​ที่​บ้าน​หนู​นาน​แล้ว​” เยียน​เอ๋อร์​มุ่ย​หน้า​ เธอ​ไม่ชอบ​อา​คน​นี้​แม้แต่น้อย​ ไม่มีทาง​ชอบ​ได้​ลง​เลย​

“นี่​เป็นเรื่อง​ของ​ผู้ใหญ่​ หนู​ไม่ต้อง​สนใจ​หรอก​นะ​ มาดู​น้องชาย​ของ​หนู​สิ” ซูตาน​หง​รู้อยู่แก่ใจ​ เพียงแต่​ไม่อาจ​พูด​กับ​เยียน​เอ๋อร์​ไป​มากกว่า​นี้​ได้​ ทำ​เพียง​บอก​เช่นนั้น​ไป​

“น้อง​สามเหมือน​น้อง​รอง​เลย​ค่ะ​” เยียน​เอ๋อร์​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​นั้น​อีก​ เธอ​มองหน้า​เสียง​เสียง​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ “แล้ว​เห​ริน​เห​ริน​กับ​ฉีฉีล่ะ​คะ​? ทำไม​ไม่อยู่​ล่ะ​คะ​?”

“พวกเขา​ขึ้น​ไปดู​หมู​ที่​สวน​น่ะ​ เดี๋ยว​ก็​ลงมา​แล้ว​ล่ะ​ รอ​เจอ​พวกเขา​ที่​บ้าน​ก็ได้​นะ​ อยาก​กิน​ลูก​พลับ​แห้ง​ไหม​จ๊ะ” ซูตาน​หง​เอ่ย​

“ค่ะ​!” เยียน​เอ๋อร์​ขานรับ​

เยียน​เอ๋อร์​นั่ง​รอ​ที่​ลานบ้าน​ จนกระทั่ง​เห​ริน​เห​ริน​กับ​ฉีฉีก​ลับ​มา พี่น้อง​ต่าง​รักใคร่​กัน​ดี​ เธอ​นำ​คุ้กกี้​มาฝาก​สอง​พี่น้อง​ เป็น​ของ​ที่​อร่อย​มาก​!

เห​ริน​เห​ริน​กับ​ฉีฉีต่าง​ถูกใจ​ และ​ขอบคุณ​เธอ​ยกใหญ่​

บรรยากาศ​กลาง​ลานบ้าน​ครึกครื้น​ ผิด​กับ​สถานการณ์​ที่​สวน​

คุณพ่อ​กับ​คุณแม่​จี้มีสีหน้า​ไม่สู้ดี​นัก​ พวกเขา​ไม่น่า​มีลูกสาว​แบบนี้​เลย​!

“หล่อน​มาทาง​ไหน​ก็​ให้​กลับ​ไป​ทาง​นั้น​เถอะ​ พ่อแม่​อย่าง​เรา​ป่าวประกาศ​ไป​นาน​แล้ว​ว่า​เรา​ไม่มีลูกสาว​แบบ​จี้อวิ๋นอวิ๋น​อีก​ ให้​หล่อน​เก็บ​ข้าวของ​แล้ว​ไสหัวไป​ซะ!” คุณพ่อ​จี้กล่าว​ด้วย​สีหน้า​บึ้งตึง​

คุณแม่​จี้เงียบสนิท​เช่นกัน​ สำหรับ​ลูกสาว​คน​นี้​ นาง​นึก​ปลง​เสียแล้ว​ แล้​วจะ​ต้อง​สนใจ​สิ่งใด​อีก​กัน​?

“ผม​ว่า​อวิ๋นอวิ๋นคง​สำนึกผิด​แล้ว​ล่ะ​ครับ​ ไม่อย่างนั้น​ผม​คง​ไม่พา​หล่อน​กลับมา​ด้วย​ หล่อน​อยาก​จะขึ้น​มาที่​สวน​ และ​ขอขมา​พ่อ​กับ​แม่ด้วย​นะ​ครับ​” จี้เจี้ยน​เห​วิน​คิด​ไว้​แล้ว​ว่า​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​ จึงได้​แต่​จนใจ​

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]

Status: Ongoing
คุณหนูซูผู้มีชีวิตอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมมาตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่ทันจะได้ออกเรือนนำเกียรติมาให้วงศ์ตระกูลกลับจับไข้สิ้นลมกลางสายฝนยามสารทฤดู และมาเกิดใหม่ในปี 1980 นางไม่คิดเลยว่าวิถีกุลสตรีในชาติที่แล้วของตนจะกลายเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในยุคนี้ เนื่องจากเจ้าของร่างเดิม ซูตานหง ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกินยาฆ่าแมลงตายคนนี้ นอกจากนามสกุลเดียวกันแล้วก็ไม่มีอะไรดีเหมือนนางเลยสักด้าน ถึงอย่างนั้นคุณหนูซูก็ไม่สนใจ นางคิดเพียงว่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่มาสร้างเงินทอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้มีค่า เย็บปักถักร้อยวาดภาพภูเขาสายน้ำอันงดงาม ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้เรียบง่ายสุขสบายตามอัตภาพเท่านั้นและนี่ก็คือเรื่องราวของคุณหนูสูงศักดิ์จากยุคโบราณผู้มาเกิดใหม่ในร่างหญิงสาวยุค 80 เพื่อทำสวนทำไร่และให้กำเนิดบุตร นางจะเอาชีวิตรอดในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไรบ้าง เอาใจช่วยคุณหนูซูไปพร้อมๆ กันได้ในเรื่องนี้เลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท