ตอนที่ 81 ไป๋จื่อให้กำเนิดลูกไม่ได้?
“มารดาสิ ช่างกล้าทีเดียว แม้แต่เงินของหยางซื่อเกินอย่างข้าก็กล้าหลอกหรือนี่? คิดจะนำไก่ที่ออกไข่ไม่ได้มาต้มข้าหรือ? คอยดูแล้วกันว่าข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” สองวันนี้เขากลัดกลุ้มอยู่ตลอด ว่าเด็กสาวบริสุทธิ์อายุสิบสอง ตกลงแต่งให้พ่อหม้ายอายุสี่สิบต้นๆ อย่างเขาได้อย่างไร
ที่แท้ภายในมีเรื่องเช่นนี้อยู่ ดีที่ยังไม่ได้รับเด็กสาวผู้นั้นมา เกือบจะตกหลุมพรางของสกุลไป๋แล้ว
หยางซื่อเกินตะโกนเรียกบุรุษในหมู่บ้านเดียวกันหลายคน แต่ละคนรูปร่างสูงใหญ่ เพียงแค่พวกเขาถกแขนเสื้อขึ้น ไม่ต้องส่งเสียงก็พอจะทำให้ใครๆ หวาดกลัวได้แล้ว
ทั้งหมดเจ็ดแปดคนตรงไปยังหมู่บ้านหวงถัวโดยตรง เมื่อสอบถามคนในหมู่บ้านจนได้ความแล้วว่าจะไปสกุลไป๋ได้อย่างไรแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังสกุลไป๋ทันที
คนในหมู่บ้านเห็นท่าทางดุดันของชายชาตรีเหล่านี้ ในใจรู้ดีว่าสกุลไป๋ต้องไปหาเรื่องอะไรเข้า จึงรีบรวมตัวกันมุ่งหน้าไปยังสกุลไป๋บ้าง
ช่วงนี้สกุลไป๋คึกคักนัก มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งยังแตกต่างกันในทุกวัน
ช่างเติมเต็มชีวิตหลังทำงานที่ลำบากยากแค้นของพวกเขาในหมู่บ้านอย่างยิ่งพอดิบพอดี
หยางซื่อเกินพาคนมาถึงนอกลานบ้านสกุลไป๋ ครั้นเห็นหลิวซื่อที่มาเป็นแม่สื่อถึงหมู่บ้านไป๋หยาง เขาก็ถีบประตูรั้วลานบ้านในทันที
หลิวซื่อตกใจจนสะดุ้งโหยง บุรุษแปลกหน้าเจ็ดแปดคน เหตุใดล้อมเข้ามาเช่นนี้?
นางตั้งใจมองอยู่ครู่หนึ่ง คนที่เดินนำหน้าไม่ใช่หยางซื่อเกินที่นางพบในหมู่บ้านไป๋หยางในวันนั้น ทั้งนางยังนำเงินสิบตำลึงเงินของเขากลับมาหรอกหรือ?
หยางซื่อเกินเห็นท่าทางตะลึงงันของนางแล้ว จึงหัวเราะเสียงเย็น “เป็นอย่างไร? ไม่เจอหน้ากันสองวัน เจ้าจำข้าไม่ได้แล้วหรือ?”
หลิวซื่อจมวดคิ้ว เหตุใดหยางซื่อเกินผู้นี้ถึงได้หยาบคายและไร้มารยาทเช่นนี้ ที่นี่คือสกุลไป๋ สามี บุตรชาย และแม่สามีล้วนอยู่ที่นี่ คำพูดคำจาของเขาเช่นนี้ คนที่ได้ยินเข้าอาจจะเข้าใจผิดได้ง่าย ราวกับว่าพวกเขาสนิทกันมากอย่างไรอย่างนั้น
“พี่หยาง ท่านมาได้อย่างไร ไม่ใช่ตกลงกันว่าสามวันหรือ พรุ่งนี้ต่างหากถึงจะเป็นวันที่สาม!” หลิวซื่อเห็นพวกเขาคนเยอะ แม้ในใจจะไม่รู้สึกสบายใจเท่าไรนัก ทว่าก็ไม่กล้าผิดใจกับเขา
เสียงของหยางซื่อเกินดังกังวานนัก เสียงนี้อย่าว่าแต่คนในลานบ้านและในเรือนเลย ชาวบ้านที่มาดูความคึกคักอยู่ข้างนอก ล้วนได้ยินชัดเจนทุกคน
หลิวซื่อไม่เข้าใจ “ท่านหมายความว่าอย่างไร แม่ไก่น้อยที่ออกไข่ไม่ได้อะไรกัน หรือท่านจะเข้าใจผิดอะไรอยู่”
“เข้าใจผิด? เจ้าเห็นว่าข้า หยางซื่อเกินเป็นคนโง่หรือหูหนวกสินะ? ไป๋จื่อของพวกเจ้า ก่อนหน้านี้พวกเจ้าตีนางจนบาดเจ็บ ต่อไปนางให้กำเนิดลูกไม่ได้แล้ว เรื่องนี้คนทั่วทั้งหมู่บ้านหวงถัวล้วนรู้ เจ้าจะบอกว่าเข้าใจผิดหรือ?” สีหน้าของหยางซื่อเกินดูดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังตามขึ้นมาเช่นกัน
ชาวบ้านที่ดูความคึกคักอยู่ข้างนอกฟังถึงตรงนี้ ไหนเลยจะไม่เข้าใจเหตุผลของเรื่องราว ชัดเจนว่าคนสกุลไป๋ลอบขายไป๋จื่อให้ผู้อื่น ซึ่งคนผู้นั้นก็คือหยางซื่อเกินที่อยู่ตรงหน้านี้
ไป๋จื่อยังอายุไม่ถึงสิบสามปีเต็ม แต่หยางซื่อเกินกลับเป็นพ่อหม้ายแก่ที่ตีภรรยาตายไปแล้วสามคน ให้ไป๋จื่อแต่งไป ไม่เท่ากับส่งนางไปตายหรอกหรือ?
ทุกคนพากันส่ายหน้า ทั้งแอบต่อว่าว่าคนสกุลไป๋ว่าช่างไร้ศีลธรรมเสียจริงๆ เรื่องโหดร้ายเช่นนี้ก็ทำออกมาได้
หญิงชราสกุลไป๋ เจ้ารอง และคนอื่นๆ ที่อยู่ในเรือนได้ยินเข้า ก็พากันเดินออกมา
ฝ่ายหญิงชราขมวดคิ้ว พลางกวาดสายตามองผู้ชายในลานบ้านเหล่านั้นครั้งหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาเป็นใครกัน”
หลิวซื่อกระซิบอยู่ข้างหูหญิงชราสองสามคำ เพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดเสียรอบหนึ่ง
แม่สามีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที แล้วกล่าวในทันที “เป็นไปไม่ได้ ใครบอกว่าไป๋จื่อของพวกข้าให้กำเนิดลูกไม่ได้ ผู้ใดเป็นคนพูด? ให้เขามาเผชิญหน้ากับพวกข้า”
……….
ตอนที่ 82 ออกจากทะเลแห่งความทุกข์ทน
หยางซื่อเกินกล่าว “ใครเป็นคนพูด? เรื่องนี้คนหมู่บ้านหวงถัวของพวกเจ้าล้วนลือกันไปทั่ว ทั้งยังลือไปถึงหมู่บ้านไป๋หยางของพวกข้าแล้วด้วย เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ? เห็นข้าหยางซื่อเกินเป็นคนที่รังแกง่ายหรืออย่างไร?” เขาพูดพลางถกแขนเสื้อข้างซ้ายและขวาขึ้น เผยให้เห็นแขนแข็งแรงของเขา
เขาเป็นช่างก่ออิฐ ปกติแล้วเขาจะขึ้นโครงสิ่งก่อสร้างให้กับผู้อื่น ทำงานหนักใช้แรงทั้งวัน มักจะถกแขนเสื้อขึ้นเสมอ พอจะมองออกได้ว่าเขามีพลังกำลังมากทีเดียว
หญิงชราสกุลไป๋มีชีวิตมาจนถึงป่านนี้ ก็ไม่ได้อยู่ไปวันๆ เช่นกัน ไหนเลยจะตกใจกลัวเพราะหยางซื่อเกินได้ง่ายๆ นางขึ้นเสียงกล่าวว่า “เจ้าช่างทำให้ข้าหวาดกลัวเสียเหลือเกินนะ ที่นี่คือหมู่บ้านหวงถัว ไม่ใช่หมู่บ้านไป๋หยางของพวกเจ้า พวกเจ้าจะมาใช้กำลังป่าเถื่อนที่นี่ไม่ได้”
“ข้ามาใช้กำลังป่าเถื่อน? ดี ข้าหยางซื่อเกิน วันนี้จะทำให้เจ้ารู้สักหน่อย ว่าอะไรเรียกว่าใช้กำลังป่าเถื่อน” เขาโมโหเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน แม้จะเคยถูกหลอกมาแล้วหลายครั้ง ทว่าครั้งนี้นับเป็นการตีแสกหน้าเขาโดยแท้
“พี่น้องทั้งหลาย ทุบทำลาย” เขาถือกระบองพุ่งเข้าไปในเรือนก่อน เห็นข้าวของเข้าก็ทุบ ไม่ปล่อยสิ่งใดเหลือไว้
ตามมาด้วยชายอกสามศอกอีกเจ็ดแปดคน พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ยกกระบองขึ้นทุบทำลายในเรือนไปทั่ว แม้แต่ประตูใหญ่ก็ไม่เว้น ดึงลงมาทุบจนไม่เหลือซาก
หญิงชราร้อนใจจนต้องกระทืบเท้า นางไม่กล้าเข้าไปใกล้ ในมือคนเหล่านี้ล้วนถืออาวุธ หากนางบุ่มบ่ามเข้าไป คงจะต้องถูกตีอย่างหนักเป็นแน่
นางกล่าวกับไป๋เสี่ยวเฟิงที่ตะลึงลานอยู่ข้างๆ “เสี่ยวเฟิง เร็วเขา ไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมา บอกว่ามีอันธพาลจากนอกหมู่บ้านมาฆ่าคนเผาไฟแล้ว”
ไป๋เสี่ยวเฟิงพยักหน้ารับ ก่อนจะพุ่งตัวออกไป แม้เจ้ารองและเจ้าใหญ่จะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ทว่าคนหนึ่งมือหักทั้งสองข้าง คนหนึ่งปอดแหกเสียยิ่งกว่าอะไร ไหนเลยจะกล้าเข้าไปพูดจาด้วยเหตุผล ทำได้เพียงยืนมองอยู่ข้างๆ เท่านั้น ในปากพูดพร่ำบอกให้พวกเขาค่อยพูดค่อยจา อย่าได้ทำลายข้าวของอีกเลย แต่เสียงเหล่านี้กลับถูกกลบด้วยเสียงดังลั่นของการทุบข้าวของเสียหมด
จ้าวหลานคิดจะออกไปดูสถานการณ์ ทว่าไป๋จื่อกลับรั้งไว้ “ท่านแม่ ตอนนี้พวกเราออกไปไม่ได้นะเจ้าคะ ยายแก่นั่นอาจจะพูดอะไรไม่น่าฟังอีกก็ได้ รออีกหน่อย อีกเดี๋ยวนางก็จะเรียกพวกเราออกไปเอง หากไม่เหนือความคาดหมาย วันนี้พวกเราจะได้ออกจากทะเลแห่งความทุกข์ทนเสียที”
“เจ้าพูดจริงหรือ?” จ้าวหลานตาเป็นประกาย
ไป๋จื่อยิ้มพลางพยักหน้า “จริงแท้แน่นอนเจ้าค่ะ ข้าเคยหลอกท่านตั้งแต่เมื่อใดกัน”
ผู้เป็นแม่คิดดูอย่างละเอียดแล้วก็เป็นจริงดังว่า เรื่องราววุ่นวายถึงขนาดนี้แล้ว ทั้งหมู่บ้านล้วนรู้ว่าในอนาคตไป๋จื่อไม่อาจให้กำเนิดลูกได้ อีกทั้งตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไป๋จื่อกับพวกเขาก็ย่ำแย่นัก มือของตนเองก็ทำงานไม่ได้ ขอเพียงท่านหมอลู่ยอมช่วยพวกนางสองแม่ลูกพูดเรื่องเหล่านี้ ด้วยนิสัยของคนสกุลไป๋แล้ว ย่อมไม่ยอมเลี้ยงคนสองคนที่ไม่มีประโยชน์และเอาแต่กินกับนอนเป็นแน่
แยกบ้านคราวนี้ เกรงว่าจะเป็นพวกเขาที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง
ครั้นคิดถึงตรงนี้ นางก็รู้สึกดีขึ้นมาก กลับไปนั่งลงที่ข้างเตียงอย่างสบายใจ รอเพียงคนสกุลไป๋เรียกพวกนางสองแม่ลูก
เมื่อไป๋เสี่ยวเฟิงเชิญหัวหน้าหมู่บ้านมา ข้าวของในเรือนพังเสียหายไปพอสมควรแล้ว แม้แต่โอ่งน้ำขนาดใหญ่หลังลานบ้าน ไปจนถึงเพิงที่ไป๋เสี่ยวเฟิงใช้อ่านเขียน อีกทั้งหม้อ ชาม กะละมัง ไฟในห้องครัวก็เละเทะไม่เป็นท่า
หญิงชรานั่งร้องไห้อยู่บนพื้นไม่ยอมหยุด ในปากเอาแต่ก่นด่าวาจาหยาบคายออกมา
“หยุดเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าเป็นใครกัน? มีสิทธิ์อะไรมาพังข้าวของที่นี่?” แม้หัวหน้าหมู่บ้านจะอายุมากแล้ว ทว่าก็เป็นหัวหน้าหมู่บ้านมาหลายปี ความน่าเกรงขามบนตัวเข้มข้นยิ่งนัก ครั้นเขาตวาดลั่น ก็หยุดหยางซื่อเกินและคนอื่นได้จริงๆ
หยางซื่อเกินเดินออกมาพร้อมกระบองไม้ในมือ ก่อนจะถามหัวหน้าหมู่บ้าน “เจ้าเป็นใคร เป็นคนสกุลไป๋หรือ”
“ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านหวงถัว ข้าขอถามเจ้า เหตุใดเจ้าถึงมาทำลายบ้านผู้อื่นโดยที่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้”
Related