ตอนที่ 175 วันดี
เห็นเมิ่งหนานยอมพูดจาแล้ว กู้ซีจึงรีบเข้ามาใกล้ด้วยความดีใจ “พี่เมิ่ง ข้าได้ยินคนในครัวพูดกันว่าสองวันนี้ท่านไม่ค่อยกินข้าว จึงลงครัวทำอาหารติดมือมาให้ท่านสองสามอย่าง” นางกำชับสาวใช้ด้านหลังให้วางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะ ส่วนตนเองเข้าไปใกล้เมิ่งหนานอีก “พี่เมิ่ง ข้าว่าท่านได้รับบาดเจ็บคราวนี้ ใบหน้าดูซูบผอมลงไปมากเลยนะเจ้าคะ”
เมิ่งหนานพยักหน้า “ขอบคุณคุณหนูกู้ที่เป็นห่วง เช่นนั้นเจ้าวางอาหารไว้แล้วกลับไปก่อนเถิด เดี๋ยวข้าหิวจะกินเอง ตอนนี้ข้าอยากพักผ่อน”
เดิมทีกู้ซีอยากอยู่กับเขา มองดูเขากินอาหารสักหน่อย ทว่าเมิ่งหนานกล่าวส่งแขกเช่นนี้ นางก็ไม่อาจรั้งรอไม่ไปได้ ทำได้เพียงนำสาวใช้จากไปอย่างไม่เต็มใจ
องครักษ์จินมองกับข้าวสามอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร แล้วมองม้วนจีตั้นปิ่งที่อยู่ในมือ ยิ้มกล่าวว่า “คุณชาย ในเมื่อคุณหนูกู้นำน้ำใจมาให้ เช่นนั้นม้วนจีตั้นปิ่งนี้ให้ข้ากินดีกว่ากระมัง”
“ฝันไปเถอะ!” เมิ่งหนานลุกขึ้นไปแย่ง แต่ใครจะคิดว่าลุกขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ ตัวเขาเองจะสะดุดชายกางเกง ล้มลงบนพื้นอย่างแรง และที่น่าเวทนายิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อครู่ไป๋จื่อเข้ามาไม่ได้ถอดรองเท้า พื้นรองเท้าของนางไม่รู้ว่าเปื้อนอะไรมาบ้าง ทำให้มีรอยดำๆ อยู่บนพื้นเกลื่อนไปหมด ตอนนี้รอยพวกนั้นเปื้อนจมูกของเมิ่งหนานจนหมดสิ้น ครั้นดมดูแล้วก็มีกลิ่นคล้ายกับมูลวัว ‘สดใหม่’…
…
หลังจากไป๋จื่อออกจากที่ว่าการอำเภอ และกลับมาถึงหมู่บ้านหวงถัว นางก็ขังตนเองอยู่ในเรือน ขีดเขียนอยู่บนกระดาษไม่ยอมหยุด
สำหรับนางแล้ว เมิ่งหนานบาดเจ็บไม่สาหัสนัก เพียงต้องทำการผ่าตัดเชื่อมเอ็นข้อมืออย่างง่ายก็เท่านั้น หลังจากเย็บปิดบาดแผลแล้วพักฟื้นอย่างเหมาะสม เขามีความเป็นไปได้ที่จะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้จะไม่อาจสมบูรณ์เต็มที่ดังเดิม แต่อย่างน้อยก็ฟื้นคืนกลับมาได้แปดส่วน
นี่เป็นการผ่าตัดเล็ก ทว่าในสถานที่เช่นนี้ นางไม่มีอุปกรณ์ผ่าตัดใดที่สามารถใช้ได้ จึงไม่อาจดำเนินการเย็บแผลให้เมิ่งหนาน
นางวาดแบบอุปกรณ์ที่ต้องการบนกระดาษ แต่ไม่มั่นใจว่าในโลกนี้จะมีผู้ใดทำสิ่งที่นางต้องการได้
มีสุภาษิตว่าไว้ เงินหนึ่งเหวินสร้างความลำบากให้วีรบุรุษ[1]
ตอนนี้นางก็ถูกเข็มเย็บหนึ่งเล่ม และด้ายเย็บหนึ่งเส้นทำให้ลำบากเช่นกัน
เข็มเย็บนับว่าหาง่าย แต่ด้ายเย็บจะทำอย่างไรดี ใช่ว่าด้ายอะไรล้วนใช้ได้ หากไม่ระวังจนทำให้เกิดการติดเชื้อ เช่นนั้นก็นับเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งจัดการยากทีเดียว
หากนางนำกล่องปฐมพยาบาลที่ใช้ในโรงพยาบาลมาด้วยก็คงดี ภายในนั้นมีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครัน ทำการผ่าตัดขนาดเล็กได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไรแม้สักนิด
นางเป็นกังวลจนถึงกลางดึก แต่ก็ยังคงคิดวิธีจัดการเรื่องด้ายเย็บแผลไม่ได้
ลมยามค่ำคืนกลางฤดูร้อนพัดม่านผืนเล็กขึ้น ดวงจันทร์กลมโตลอยคว้างอยู่เหนือท้องฟ้าทางตะวันออกของหมู่บ้าน
ดูท่าวันนี้จะเป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำ!
ขึ้นสิบห้าค่ำ เป็นวันที่ดีจริงๆ นางพลันนึกถึงวันที่ตนเองเข้าสู่แคปซูลนอนหลับเพื่อเริ่มเดินทางด้วยจิต นั่นก็เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำเช่นกัน และเป็นวันที่พระจันทร์ลอยอยู่สูงที่สุด
ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นในศตวรรษที่ยี่สิบสาม เหตุใดจู่ๆ นางถึงมายังโลกใบนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนัก จนนางไม่ได้เตรียมใจเลยสักนิด
โชคดีที่นางชินกับชีวิตที่นี่แล้ว และนางมีครอบครัวที่ใส่ใจนางอย่างแท้จริง มีเพื่อน มีความหวังในชีวิต
นางค่อยๆ รู้สึกว่าตนเองพลันตกลงสู่เหวลึก ร่างกายจมดิ่งลงเบื้องล่างไม่ยอมหยุด ราวกับเข้าไปในหลุมดำที่ไร้จุดสิ้นสุด
จนกระทั่งมีเสียงดังโครม นางรู้สึกว่าตนเองตกถึงพื้นแล้ว หรือพูดได้ว่าตกลงบนเตียงนุ่มๆ หลังหนึ่ง
ครั้นลืมตาขึ้น แสงอาทิตย์แยงตาก็ทำให้นางต้องหลับตาลงอีกครั้ง
……….
ตอนที่ 176 ศตวรรษที่ 23 หลินหยาง
เธอกำลังฝันอย่างแน่นอน จะเป็นไปได้อย่างไร สิ่งที่เธอเพิ่งลืมตาขึ้นมาเห็น แท้จริงแล้วเป็นหลอดไฟเรียบๆ ที่คุ้นเคย มีเพียงศตรวรรษที่ยี่สิบสามถึงจะมีหลอดไฟเช่นนี้ไม่ใช่เหรอ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น เธอสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคพลันเข้าสู่โพรงจมูก นี้เป็นกลิ่นที่เธอคุ้นเคยที่สุด มีแต่ห้องพักคนไข้ในโรงพยาบาลถึงจะมีกลิ่นนี้
เธอต้องฝันอยู่แน่นอน แต่ความรู้สึกนี้สมจริงเหลือเกิน สมจริงจนกระทั่งเธอรู้สึกได้ถึงของเหลวที่กำลังไหลผ่านเข็มเย็นเยียบ เข้าสู่หลอดเลือดของเธอทีละหยด ทีละหยด
ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ราวกับกำลังเดินมาทางเธอ ทำเอาเธอไม่กล้าขยับ ด้วยกลัวว่าขยับแล้ว ความฝันที่สมจริงอย่างยิ่งนี้จะหายไป
“ศาสตราจารย์ไป๋ซวยจริงๆ เลย นี่เป็นโอกาสหนึ่งในหมื่นส่วนเชียวนะ ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับเธอได้” พยาบาลสาวร่างเล็กเดินมาถึงข้างเตียงคนไข้ของไป๋จื่อ มองหยดของเหลวที่กำลังจะหมดลง จากนั้นก็จดบันทึกลงบนสมุดในมือ
พยาบาลอีกคนหนึ่งพูดเสียงเบาว่า “แต่ฉันได้ยินมาว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ”
“ไม่ใช่อุบัติเหตุ? แล้วเป็นอะไรล่ะ” พยาบาลร่างเล็กหยุดจดบันทึก ก่อนจะเงยหน้ามองหญิงสาวข้างกาย
หญิงสาวมองซ้ายมองขวา ในห้องคนไข้ไม่มีคนอื่น แต่กลับยังคงใช้เสียงที่เบามากๆ พูดว่า “ฉันได้ยินมาว่ามีคนตัดสายออกซิเจนของแคปซูลนอนหลับ ทำให้ศาสตราจารย์ไป๋ขาดออกซิเจนระหว่างการเดินทางด้วยจิต”
“จริงเหรอ?! ใครช่างใจร้ายขนาดนั้น ศาสตราจารย์ไป๋เป็นคนดีมาก ถึงปกติจะดูดุอยู่บ้าง แต่เธอก็ดีกับทุกคน เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา แต่ไหนแต่ไรเธอก็เป็นคนแรกที่ออกหน้ารับผิดชอบ ถ้าเป็นศาสตราจารย์ที่เสแสร้งคนอื่น พวกเขาคงไม่ปกป้องพวกเราหรอก หนำซ้ำยังจะหาคนรับผิดแทนด้วยซ้ำไป”
“จริงของเธอ ศาสตราจารย์กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจจัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย”
“เธอปวดใจได้เท่าศาสตราจารย์หลินไหม ศาสตราจารย์หลินวิ่งวุ่นวันหนึ่งถึงสามรอบ ขอแค่ไม่ได้เข้ากะกลางคืน ส่วนใหญ่แล้วก็เอาแต่อยู่ที่นี่ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันเห็นเขาจับมือศาสตราจารย์ไป๋ แล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วย”
ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนบทสนทนากันไปมา จนกระทั่งมีอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก พวกเธอก็ปิดปากเงียบในทันที “ศาสตราจารย์หลิน ผ่าตัดเสร็จเร็วจังเลยนะคะ”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สวมแว่นตากรอบสีทองเดินเข้ามา เขาพยักหน้าให้พยาบาลสาวทั้งสองคน “อืม เพิ่งผ่าตัดเสร็จ” เขาตรงไปที่หน้าเตียงคนไข้ มองไป๋จื่อที่กำลัง ‘หลับใหลไม่ได้สติ’ อยู่บนเตียง จากนั้นก็วางกล่องปฐมพยาบาลในมือไว้บนตู้ข้างเตียง
“พวกคุณไปทำงานเถอะ ผมจะอยู่ที่นี่เอง” เขาพูดกับพยาบาลทั้งสองคน
พวกเธอรีบร้อนเดินออกไป ส่วนเขาหมุนตัวเดินไปอาบน้ำในห้องน้ำ ถอดเปลี่ยนชุดกาวน์สีขาว ใส่เสื้อแขนยาวสะอาดและเรียบร้อย ก่อนจะนั่งลงที่ข้างเตียงของไป๋จื่อ
ทีแรกไป๋จื่อไม่กล้าลืมตา ต่อมาถึงรู้ว่าตนเองลืมตาไม่ได้โดยสิ้นเชิง ถึงอยากขยับก็ขยับไม่ได้ แม้แต่อ้าปากก็ทำไม่ได้ ราวกับว่าทั้งร่างกายนี้ไม่ใช่ของเธอ
หลินหยางนำหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง เขานั่งมองอยู่ข้างเตียงสักพัก แล้วจู่ๆ ก็หันไปมองด้านนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์กลมโตที่เดิมทีส่องสว่างถูกเมฆดำบดบัง ต้นไม้ข้างทางก็ถูกลมกรรโชกพัดจนโงนเงน
เขาพึมพำ “ฝนจะตกแล้วเหรอ”
จากนั้นเขาก็หันไปมองไป๋จื่อ “คุณน่ะ ปกติแล้วเกลียดฝนตกเป็นที่สุด ผมจะไปปิดหน้าต่างให้ เสียงฝนจะได้ไม่กวนคุณ”
ชายหนุ่มเพิ่งลุกขึ้นยืน ก็พลันมีหมอหนุ่มคนหนึ่งถลันเข้ามาจากข้างนอก “ศาสตราจารย์หลิน เร็วเข้าครับ ผู้อำนวยการโรคหัวใจกำเริบ ต้องผ่าตัดด่วน และการผ่าตัดนี้มีแต่คุณที่ทำได้ ตอนนี้ห้องผ่าตัดเตรียมพร้อมแล้ว เร็วครับ!”
[1] เงินหนึ่งเหวินสร้างความลำบากให้วีรบุรุษ หมายถึง เป็นเพียงแค่ความลำบากเล็กน้อย แต่กลับทำให้ไม่อาจดำเนินงานต่อไปได้