คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา – ตอนที่ 223 กลับเมืองหลวงหลังจากฤดูใบไม้ร่วง ตอนที่ 224

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่ 223 กลับเมืองหลวงหลังจากฤดูใบไม้ร่วง

“เพราะเมื่อเจ้าปรากฏตัวอยู่ในครรลองสายตาของคู่แค้นผู้นั้นแล้ว เจ้าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายอีกครั้ง แม้กระทั่งไม่รู้ว่าผู้ใดต้องการทำร้ายเจ้า”

“เจ้าอยากรอให้ความทรงจำฟื้นกลับมาเสียก่อน ค่อยตามไปคิดบัญชีกับคนที่คิดร้ายกับเจ้าเหล่านั้น แต่เจ้าคิดไม่ถึงว่าการรอคอยนี้จะยาวนานถึงสามปี จนเจ้าเริ่มเกิดความกังวล ต้องการจะฟื้นความทรงจำกลับมาโดยเร็วที่สุด แต่ก็หาวิธีที่น่าเชื่อถือไม่ได้ กระนั้นการปรากฏตัวของข้า ก็เหมือนแสงสว่างจางๆ บนเส้นทางที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยความมืดมิดของเจ้า แม้ข้าอาจจะไม่ใช่แสงไฟที่สามารถส่องสว่างบนเส้นทางนั้นของเจ้าได้ ทว่าหากไม่ลองดูสักครั้ง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นหรือไม่”

เขามองนาง ดวงตาของนางหรี่ลงเพราะแสงอาทิตย์เจิดจ้า แต่เขาก็ยังเหมือนมองเห็นความเจิดจรัสของแสงดาวสุกสกาวเหนือทะเลสาบอันมืดมิด ในแววตาของนางอยู่ดี

ดูท่านางจะฉลาดกว่าที่เขาคิดไว้

“คำพูดเหล่านี้ เจ้าเคยพูดกับผู้ใดหรือไม่” ตอนที่เขาถาม เขาจับแส้ในมือแน่นทีเดียว

นางส่ายหน้า “ปากเป็นประตูของหม้อ ลิ้นเป็นมีดเฉือนกาย คำพูดเหล่านี้ ข้าจะพูดกับคนอื่นได้อย่างไร นอกจากเจ้าแล้ว นอกจากเราสองคนแล้ว ก็จะไม่มีใครได้ยินเรื่องเหล่านี้”

หูเฟิงพยักหน้า มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าชื่นชมและปลื้มใจอยู่ในที

“จำคำพูดของเจ้าไว้” เขากล่าวเสียงเบา

ไป๋จื่อยักไหล่ “แน่นอน พูดตามตรงแล้ว ข้าไม่อยากรู้และไม่อยากยุ่งเรื่องของเจ้า ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าเจ้าจะมีฐานะอะไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าเพียงต้องการมีชีวิตแสนสุขกับท่านแม่ของข้าที่หมู่บ้านนี้ เรื่องใหญ่ในใต้หล้าระดับอาณาจักร ช่างห่างไกลกับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกข้ายิ่งนัก”

คิ้วที่เพิ่งคลายของหูเฟิงขมวดเข้าหากันอีกครั้ง นางไม่อยากมีความเกี่ยวข้องใดกับเขาแล้วเช่นนี้ ในสายตาของนาง เขาไม่สำคัญถึงเพียงนี้เลยหรือ

เขากลับไปนั่งตรวจตรง จับแส้บังคับม้ากลับหมู่บ้าน โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก

สามวันหลังจากนั้น ในที่สุดราคาข้าวในเมืองก็ลดต่ำลง กลับสู่ราคาดั้งเดิมแล้ว ใต้เท้ากู้ตั้งซุ้มแจกโจ๊กทั้งด้านในและนอกเมือง ขณะเดียวกันก็จัดสรรเสบียงอาหาร คลายทุกข์ร้อนให้กับเหล่าชาวบ้าน มีเสียงร้องขอบคุณดังกึกก้องไปทั่วทั้งสี่ทิศ ยกย่องใต้เท้ากู้นี้จนสูงส่งเทียมฟ้า

เรื่องราวนี้ย่อมไปถึงเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ฝ่าบาทเอ่ยปากชื่นชมด้วยตนเอง ทั้งยังพระราชทานบำเหน็จให้แก่ใต้เท้ากู้และเมิ่งหนาน รวมถึงมีพระราชโองการให้เมิ่งหนานกลับเมืองหลวงหลังจากฤดูใบไม้ผลิด้วย

ส่วนเรื่องที่เสบียงอาหารถูกโจรปล้น แม้ฝ่าบาทจะส่งคนลงมาตรวจสอบ แต่กลับขาดหลักฐานสำคัญบางอย่าง จึงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรนัก

วันนี้เมิ่งหนานมีเวลาว่าง จึงมาที่หมู่บ้านหวงถัวกับจินเสี่ยวอัน

ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังบ้านของท่านลุงหูด้วยความคุ้นเคย แต่ยังไม่ทันเข้าไปในลานบ้าน ก็เห็นไป๋จื่อและหูเฟิงกำลังยืนพูดคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ บนที่ดินที่อยู่ไม่ไกลเบื้องหน้า

หูเฟิงกำลังกอดอกพิงต้นไม้ ตาทั้งสองข้างหรี่ลงอย่างอ่อนล้า แม้แววตาของเขาเหมือนจะดูเลื่อนลอย แต่จับจ้องที่ร่างของไป๋จื่อตลอด ไม่ยอมละสายตาไป

ไป๋จื่อเหมือนกับกำลังพูดเรื่องที่น่าสนใจบางอย่างกับหูเฟิง นางพูดเป็นน้ำไหลไฟดับ ออกท่าทางไม่หยุด

ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดขัดจังหวะ กลับตั้งใจฟังมากด้วยซ้ำ ตั้งใจขนาดที่แม้แต่พวกเขามาถึงแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ

ความสนใจของจินเสี่ยวอันกลับรวมศูนย์อยู่ที่อื่น เขาชี้ไปยังที่ดินข้างกายหูเฟิงและไป๋จื่อด้วยความประหลาดใจ “คุณชาย ท่านเคยเห็นบ้านเช่นนี้มาก่อนหรือไม่”

คราวนี้เมิ่งหนานถึงจะละสายตาจากไป๋จื่อ แล้วมองไปยังบ้านที่จินเสี่ยวอันชี้

บ้านที่สร้างขึ้นจากอิฐและกระเบื้องเบื้องหน้านี้ มีกำแพงสูงกว่าบ้านรูปแบบเดียวกันที่เขาเคยเห็นเสียอีก แต่คนงานที่ยืนอยู่บนกำแพงเหล่านั้น ก็ยังคงก่อกำแพงต่อไปเรื่อยๆ ดูเหมือนจะก่อกำแพงให้สูงขึ้นอีก

เมิ่งหนานเก็บสายตาพิจารณาบ้านกลับมา แล้วมองหูเฟิงกับไป๋จื่ออีกครั้ง แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเห็นพวกเขาสองคนพูดคุยกันอย่างจริงจังและเงียบสงบเช่นนี้ ตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ช่างเหมือนภาพวาดอย่างหาสิ่งใดเทียม หนึ่งบุรุษสูงใหญ่รูปงาม นิสัยแข็งนอกอ่อนใน หนึ่งสตรีร่างเล็กอรชร มีชีวิตชีวาและยิ้มแย้มแจ่มใส

……….

ตอนที่ 224 งานที่ผู้หญิงทำ

จินเสี่ยวอันมองไปยังหูเฟิงและไป๋จื่อเช่นกัน ก่อนที่จู่ๆ จะหัวเราะร่าขึ้นมา “พวกเขาสองคนช่างเหมาะสมกันจริงๆ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วต้องได้เกี่ยวดองกันแน่”

คิ้วได้รูปสวยของเมิ่งหนานขมวดเข้าหากันในทันที เขากันหน้าไปถลึงตาใส่จินเสี่ยวอันอย่างดุดัน กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เหมาะสมอะไร เหมาะสมตรงที่ใด ข้าไม่เห็นมองออกเลยสักนิด เจ้าพูดจาเพ้อเจ้อให้น้อยๆ หน่อยเถอะ”

องครักษ์จินทำหน้าตางงงัน คุณชายเป็นอะไรไป เขาเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น ไยต้องจริงจังถึงเพียงนั้นด้วย

เมิ่งหนานเดินไปหาไป๋จื่อและหูเฟิงพร้อมใบหน้าบึ้งตึง

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าอันเร่งร้อน หูเฟิงก็หันไปมอง เห็นเมิ่งหนานที่บัดนี้มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ กำลังส่งสายตาอันแปลกประหลาดสายหนึ่งมาให้เขา เขาจึงยกยิ้มขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ผีที่หิวโหยมาแล้ว รีบไปเตรียมทำอาหารเถอะ”

“เจ้าว่าใครเป็นผีที่หิวโหย” เมิ่งหนานกล่าวด้วยความพอใจมากยิ่งขึ้น

หูเฟิงยักไหล่ “ใครอยากจะรับก็รับไป”

เมิ่งหนานรู้สึกโมโหไม่น้อย เขาชี้ไปทางหูเฟิงด้วยความโกรธเกรี้ยว “บอกว่าข้าเป็นผีที่หิวโหย ข้าว่าเจ้าต่างหากที่เป็น มีครั้งไหนเจ้ากินแล้วไม่ต้องแย่งกับข้าบ้าง”

หูเฟิงเลิกคิ้ว แล้วกวาดสายตามองจินเสี่ยวอัน “เจ้าแน่ใจนะว่าคนที่แย่งอาหารกับเจ้าเป็นข้า ไม่ใช่เขา”

จินเสี่ยวอันหน้าแดง หัวเราะแห้งๆ พลางเกาหัว “ข้าแย่งจริงๆ นั่นแหละ ใครใช้ให้อาหารที่แม่นางไป๋รสเลิศถึงเพียงนั้น ข้าอดใจไม่ไหวหรอก”

เมิ่งหนานถลึงตาใส่เขา “เจ้าหุบปากไป”

ไป๋จื่อเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดีนัก จึงเข้าไปไกลเกลี่ย เอ่ยถามเมิ่งหนานว่า “พี่เมิ่ง ท่านมาหาข้าในเวลานี้ มีธุระอะไรหรือเจ้าคะ”

เมิ่งหนานพลันมีสีหน้าอ่อนระโหยโรยแรง มองไป๋จื่อด้วยแววตาโศกเศร้า “ข้าไม่มีธุระอะไรก็มาหาเจ้าไม่ได้หรือ”

บนใบงดงามขนาดเล็กจ้อยของไป๋จื่อเริ่มปรากฎความอึดอัด นางยิ้มจางๆ ตอบว่า “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ในเมื่อท่านมาแล้ว อยากดูบ้านใหม่ของข้าหรือไม่”

เมิ่งหนานชี้ไปยังบ้านที่กำลังสร้างอยู่ “เจ้าหมายถึงบ้านหลังนี้หรือ”

เด็กสาวพยักหน้า “ใช่เจ้าค่ะ ไม่อยากดูหน่อยหรือเจ้าคะ”

จินเสี่ยวอันรีบยกมือ “ข้าอยากดูๆ ก่อกำแพงด้านนอกสูงเช่นนี้ ข้าอยากดูว่าด้านในจะเป็นอย่างไร”

หูเฟิงดูไม่ค่อยอยากจะเข้าร่วมอย่างเห็นได้ชัด และเขาไม่อยากตีฝีปากกับเมิ่งหนานอีกต่อไปเช่นกัน “พวกเจ้าไปเถอะ ข้าจะกลับไปหุงข้าว”

“หุงข้าว? เจ้าหุงข้าวเป็นด้วยหรือ” เมิ่งหนานทำสีหน้าไม่อยากเชื่อ

หูเฟิงไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนกายจากไป

เมิ่งหนานดึงแขนเสื้อของไป๋จื่อ “เขาหุงข้าวเป็นจริงๆ หรือ”

ไป๋จื่อพยักหน้า “เป็นเจ้าค่ะ หุงข้าวสวยไม่ใช่เรื่องยาก ข้าสอนเขาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนี้เขาหุงข้าวเก่งเป็นอย่างยิ่ง”

“แต่เขาเป็นบุรุษ เหตุใด…เหตุใดเขาถึงยอมทำงานที่ผู้หญิงทำเล่า” เมิ่งหนานไม่เข้าใจ ในสายตาของเขา หูเฟิงไม่เหมือนกับบุรุษในหมู่บ้านตามป่าเขาทั่วๆ ไป

ไป๋จื่อเลิกคิ้ว “งานที่ผู้หญิงทำเป็นอย่างไรหรือเจ้าคะ ที่นี่สตรีทำงานเหมือนกับบุรุษ บางครั้งบุรุษก็ทำงานบ้านของสตรีบางอย่าง แล้วมีอะไรแปลกหรือ ขอเพียงไม่ใช่การให้กำเนิดบุตร ข้าคิดว่าไม่มีเรื่องใดที่ผู้ชายทำไม่ได้นะเจ้าคะ”

เมิ่งหนานคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ไป๋จื่อจะจริงจังขึ้นมา เขาเพียงถามไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น จึงหัวเราะแห้งๆ สองเสียง “เจ้าพูดถูก ไปเถอะ ไปดูบ้านใหม่ของเจ้าสักหน่อยเถอะ”

ไป๋จื่อไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงนำเมิ่งหนานและจินเสี่ยวอันเข้าไปในบ้านรูปแบบตะวันตก ที่สร้างขึ้นสูงถึงสองชั้นครึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บ้านไม่ใหญ่นัก บริเวณผนังด้านขวาของชั้นล่างมีบันไดไม้ ส่วนพื้นที่ที่เหลือล้วนว่างเปล่า นางวางแผนว่าจะแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นโถงรับแขก อีกส่วนหนึ่งเป็นห้องอาหาร ลานบ้านด้านหลังไม่ใหญ่มาก นอกจากพื้นที่ที่มีไว้ตากผ้าและปลูกผักสดแล้ว ที่เหลือทำเป็นห้องอาบน้ำและขับถ่ายที่เชื่อมถึงกันได้

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Status: Ongoing
จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็นครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อแต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้วให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อเพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อหญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วยแต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดีแต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท