ตอนที่ 361 พบม่านน่าอีกแล้ว
“จื่อเอ๋อร์ เหตุใดเจ้ายังไม่นอน นี่มันกี่ยามแล้ว” จ้าวหลานหรี่ตาพลางลุกขึ้นนั่ง เห็นไป๋จื่อพิงหัวเตียงสัปหงก ไม่ยอมลงนอน
ไป๋จื่อหันศีรษะมองจันทร์กระจ่างข้างนอกหน้าต่าง ก่อนจะหาวเสียงดังครั้งหนึ่ง “ข้าไม่ง่วง ท่านนอนก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าก็จะนอนแล้ว” วันนี้เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำอีกครั้ง นางไม่กล้านอนหลับ ด้วยกลัวว่าหากนอนแล้วจะต้องกลับไปอยู่ในห้องผู้ป่วยที่น่าอึดอัดนั่น นางไม่รู้ว่าหลังจากกลับไปแล้วจะยังกลับมาได้หรือไม่ เพราะนางทิ้งทุกอย่างในตอนนี้ไปไม่ได้ โดยเฉพาะจ้าวหลานที่หวงแหนนางยิ่งชีพ นางจินตนาการไม่ออกเลยว่าหากจ้าวหลานเสียนางไปแล้ว ต่อไปจะมีชีวิตอยู่อย่างไร
ดังนั้นขอเพียงอดทนไว้ได้ อดทนผ่านคืนนี้ไปให้ได้ ก็คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
จ้าวหลานยื่นมือมาจับแขนของนาง ดึงให้นางนอนลง “เจ้าลืมตาแทบไม่ขึ้นแล้ว รีบนอนเถอะ”
เด็กสาวตื่นเช้านัก ตอนบ่ายก็ไม่ได้นอนพัก นางช่างมีจิตใจแน่วแน่นัก ถึงอดทนมาจนป่านนี้ได้ ตอนนี้ถูกจ้าวหลานดันกายลงนอน ศีรษะเพิ่งถึงหมอนเท่านั้น ความง่วงงุนอย่างสุดขีดก็เข้าครอบคลุมนางโดยสมบูรณ์ ราวกับเด็กทารกที่จมน้ำ ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากในน้ำได้เลย
…
เธอรู้สึกได้รางๆ ว่าตนเองกลับมาที่เตียงผู้ป่วยที่นุ่มนิ่ม ทว่าความง่วงรุนแรงทำให้เธอลืมตาไม่ขึ้น
เสียงแว่วๆ ดังเข้าหูของเธอตลอดเวลาหา มีคนตีใบหน้าของเธอ มีคนเรียกชื่อของเธอที่ข้างหู และยังมีคนใช้นิ้วมือพร้อมเล็บแหลมหยิกขาของเธอด้วย
เธออยากจะลืมตาขึ้น อยากจะลุกขึ้นนั่ง อยากจะผลักคนพวกนั้นออกไป ให้พวกเธอไสหัวไปให้หมด
แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ขยับตัวไม่ได้
เสียงฟ้าร้องกระหึ่มดังมาจากข้างนอกหน้าต่าง ลมคลั่งพัดผ้าม่านสีขาวให้กระพือขึ้น บดบังแจกันดอกไม้ที่อยู่ข้างหน้าต่าง
ในที่สุดเสียงแจกันแตกกระจายก็ทำให้คนที่รังแกเธอพวกนั้นหยุดมือ
หยดน้ำฝนเม็ดเป้งตกกระทบลงบนหน้าต่างบานใส ส่งเสียงน่ารำคาญใจยิ่งนัก
“พี่ม่านน่า หลินหยางใกล้จะผ่าตัดเสร็จแล้ว พวกเราไปกันดีกว่า ถ้าหลินหยางเห็นพวกเรามาที่นี่ เขาจะต้องไม่ปล่อยพวกเราไปแน่”
อวี๋ม่านน่าจ้องมองใบหน้าขาวซีดของไป๋จื่อด้วยสายตาเย็นชา ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เข้าใจ ทำไมไป๋จื่อที่เหมือนกับตายไปแล้วคนนี้ ถึงยังทำให้หลินหยางรักปักใจอยู่ได้ ทำไมในสายตาของหลินหยางถึงไม่เห็นเธอ อวี๋ม่านน่าคนนี้อยู่ในสายตาบ้าง
หรือมีแต่ไป๋จื่อตาย หลินหยางถึงจะลืมเธอได้หมดใจ แล้วตนเองถึงจะมีโอกาสบ้างสินะ
“พวกเธอไปก่อนเถอะ ไปรอฉันที่เคาท์เตอร์พยาบาล อีกเดี๋ยวฉันจะตามไป”
หญิงสาวทั้งสองคนมองหน้ากัน เพราะแววตาของอวี๋ม่านน่าในตอนนี้น่ากลัวนัก
พวกเธอรู้ว่าไม่ควรทิ้งม่านน่าไว้ที่นี่ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ทำได้แค่รีบร้อนออกจากห้องผู้ป่วยไป
อวี๋ม่านน่านั่งลงที่ข้างเตียง กระโปรงหนังสั้นๆ เลิกขึ้นมาจนถึงต้นขา แต่เธอกลับไม่สนใจเลยสักนิด เพราะนอกจากคนตายคนหนึ่งแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีใครอื่นอีก เธอไม่จำเป็นต้องสนใจภาพลักษณ์พวกนั้นอยู่แล้ว
เธอเปิดกระเป๋าถือใบเล็กจ้อย นำบุหรี่สำหรับผู้หญิงออกมากล่องหนึ่ง “ไป๋จื่อเอ๋ยไป๋จื่อ เธอต้องไม่คาดคิดแน่ๆ ว่าจะมีวันนี้”
เมื่อจุดบุหรี่แล้ว เธอก็พ่นควันสีขาวหลานสายออกมาจากริมฝีปากสีแดงฉานราวกับถูกไฟเผา บนใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างดีปรากฎความเหนื่อยล้า “ไป๋จื่อ ฉันรอไม่ไหวแล้ว ฉันไม่อยากเห็นหลินหยางเฝ้าเธอทุกวันอีกต่อไป ขอแค่เธอตายไปได้ หลินหยางถึงจะตาสว่าง ขอแค่เธอหายจากโลกนี้ไปโดยสิ้นเชิง หลินหยางถึงจะเห็นฉันอยู่ในสายตา”
เสียงหยดน้ำฝนกระทบหน้าต่างค่อยๆ จางหายไป ลมโหมหยุดลง ดวงจันทร์ที่ถูกเมฆดำบดบังค่อยๆ เผยให้เห็นแสงสว่างไสว
นิ้วมือของไป๋จื่อขยับได้แล้ว อัตราการเต้นของหัวใจที่ปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์เริ่มเปลี่ยนแปลง
……….
ตอนที่ 362 ฆาตกร
แต่อวี๋ม่านน่ามองไม่เห็น เธอผุดลุกขึ้น โยนบุหรี่ที่สูบไปแล้วครึ่งหนึ่งออกไปข้างนอกหน้าต่าง ก่อนจะหมุนตัวเดินมาที่หน้าเตียงของไป๋จื่อ แล้วหยิบหมอนอิงนุ่มๆ จากเก้าอี้ข้างเตียงขึ้นมากดลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย
สติสัมปชัญญะของไป๋จื่อกลืบมามากกว่าครึ่งแล้ว เธอไม่คาดคิดเลยว่าอวี๋ม่านน่าจะเป็นฆาตกรที่ทำร้ายเธอจริงๆ สิ่งที่หลินหยางสงสัยเป็นความจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งหลินหยาง อวี๋ม่านน่าไม่รังเกียจที่ตนเองจะกลายเป็นฆาตกรเลยด้วยซ้ำ
ครั้งก่อนเธอทำร้ายไป๋จื่อจนกลายเป็นผัก แต่ครั้งนี้เธออยากให้ไป๋จื่อตาย ต้องการให้ไป๋จื่อหายไปตลอดกาล
ไป๋จื่อพลันยกมือขึ้น ดันอวี๋ม่านน่าที่แทบจะโถมใส่ตัวเธอออกทันที อวี๋ม่านน่าถอยกรูดไปหลายก้าวเพราะแรงดันที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เธอมองไป๋จื่อที่ดวงตาเต็มไปด้วยโทสะด้วยความตื่นตะลึง เพราะเธอคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ ไป๋จื่อที่เหมือนตายไปแล้วจะฟื้นขึ้นมาแบบนี้
เธอตกใจจนหน้าซีดเผือด หมอนอิงในมือตกลงบนพื้น ร่างกายยังคงถอยหลังอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งหลังของเธอชนเข้ากับผนัง “เธอ เป็นไปได้ยังไง…” นิ้วเรียวของเธอค่อยๆ ชี้ไปที่ไป๋จื่อที่เริ่มลุกขึ้นนั่ง
ไป๋จื่อมองเธอ สายตาเย็นเยียบและแหลมคม “ฉันตื่นได้ยังไงน่ะเหรอ เธอคงไม่อยากให้ฉันตื่นงั้นสินะ”
ใบหน้าซีดขาวของอวี๋ม่านน่าปรากฏรอยยิ้มที่ไม่น่ามองเสียยิ่งกว่าเวลาร้องไห้ “ไม่ ไม่ใช่อย่างงั้น เธอตื่นขึ้นมาได้ ฉันต้องดีใจอยู่แล้ว”
“จริงเหรอ?” ไป๋จื่อยิ้มเย็น เธอเลิกผ้าห่มบนตัวออก คิดจะลงจากเตียง แต่กลับพบว่าสองขาช่างไม่เชื่อฟังคำสั่งเอาเสียเลย
นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานขนาดนั้น ยังมีสติครบถ้วนได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว ดูท่าทางหลินหยางจะดูแลเธอดีทีเดียว
เธอไม่ได้รีบร้อนลงจากเตียง ยังคงนั่งอยู่บนเตียงต่อไป สายตาเย็นชาราวกับกำลังเชือดเฉือนใบหน้าของอวี๋ม่านน่าอย่างไรอย่างนั้น
“อวี๋ม่านน่า พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ถึงจะไม่นับว่าสนิมสนมอะไรกัน แต่ฉันก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรไม่ดีกับเธอ เพื่อผู้ชายแค่คนเดียว เธอถึงกับไม่สนใจกฎหมาย ลงมือฆ่าฉันเลยเหรอเนี่ย เธอเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าวันนี้ฉันตายอยู่ที่นี่ วันพรุ่งนี้เธอจะต้องไปอยู่ที่ไหน”
อวี๋ม่านน่าพลันหัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะบาดหูทีเดียว “ไป๋จื่อ เธอยังเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ หรือว่าเธอไม่รู้ว่าที่กฎหมายควบคุมได้ ก็มีแต่คนน่าสงสารแบบเธอเท่านั้นแหละ ส่วนฉันอวี๋ม่านน่าไม่เหมือนกับเธอ ฆ่าคนแบบเธอก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่ายุงตัวหนึ่ง ใครจะออกหน้าขอความยุติธรรมแทนเธอกัน เธอมีพ่อแม่เหรอ หรือเธอมีพี่น้องด้วย? เธอไม่มีแม้แต่เพื่อนที่จริงใจกับเธอสักคน ฉันว่าต่อให้เธอตายไปก็คงไม่มีคนรับศพหรอก”
ไป๋จื่อก็หัวเราะเช่นกัน “เธอพูดถูกต้อง ฉันไม่มีพ่อแม่ ไม่มีญาติหรือเพื่อน แต่เธอน่าจะลืมไปมั้งว่าฉันมีหลินหยาง! เธอก็น่าจะเห็นแล้วนี่ ว่าต่อให้ฉันกลายเป็นผัก แต่หลินหยางก็ยังไม่ห่างจากฉันไปไหนอยู่ดี เขาดูแลฉันอย่างดีด้วยซ้ำไป แถมยังสัญญาว่าจะตามหาฆาตกรที่ทำร้ายฉันให้ได้ ฉันมีเขาก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”
รอยยิ้มลำพองใจบนใบหน้าของอวี๋ม่านน่ากลับกลายเป็นความขมขื่น ไป๋จื่อจึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง หากอยากจะทำร้ายจิตใจใครสักคน ความจริงแล้วเป็นเรื่องง่ายมาก
อวี๋ม่านน่าพลันเงยหน้าขึ้น เธอชี้ไป๋จื่อพลางกล่าวว่า “เป็นเพราะเธอนั่นแหละ ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ยังไงหลินหยางก็ต้องยอมมองฉันบ้าง ขอแค่เธอตายๆ ไปซะ หลินหยางก็จะเป็นของฉัน เขาจะเป็นของฉันอวี๋ม่านน่าแค่คนเดียว”
“งั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าหลินหยางมีแต่จะเกลียดเธอมากขึ้น ถึงฉันตายไป หลินหยางก็ไม่มีทางมองเธอไปมากกว่านี้ อวี๋ม่านน่า เธอไม่คู่ควรกับเขาหรอก”