คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา – ตอนที่ 479 โรคกลัวเลือด (2) ตอนที่ 480 มู่หยางบาดเจ็บหนัก

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่​ 479 โรค​กลัว​เลือด​ (2)

ต้วนเฉิง​ได้ยิน​อย่าง​ชัดเจน​ เขา​รีบ​ถาม “อะไร​คือ​โรค​กลัว​เลือด​” เดิมที​เขา​คิด​ว่า​ตนเอง​เป็น​คน​แปลกประหลาด​ และ​คิด​ว่า​บน​โลก​นี้​ไม่มีใคร​เหมือนกับ​เขา​ แต่​แท้จริง​แล้ว​โลก​นี้​มีโรค​ที่​เรียก​ว่า​โรค​กลัว​เลือด​ด้วย​หรือ​นี่​

หมอ​เฉิน​ก็​เข้ามา​ใกล้​เช่นกัน​ ก่อน​จะเอ่ย​ถามบ้าง​ “เจ้าเคย​พบ​คน​เช่นเดียวกับ​เขา​หรือ​”

ไป๋​จื่อ​พยักหน้า​ “เคย​พบ​ขอรับ​ ข้า​รู้จัก​โรค​นี้​ด้วย​ ที่จริง​มัน​ไม่นับว่า​เป็นโรค​ แต่​เป็น​เพียง​อาการ​อย่างหนึ่ง​เท่านั้น​ มัน​เป็น​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ตาม​สัญชาตญาณ​ของ​ร่างกาย​ เนื่องจาก​ได้​สัมผัส​ มองเห็น​ ไป​จนถึง​ได้กลิ่น​เลือด​ หาก​จะบอ​กว่า​เป็นโรค​ ก็​พูด​ได้​ว่า​เป็นโรค​ทางจิตใจ​ขอรับ​”

นาง​มอง​ต้วนเฉิง​ที่​ตกอยู่ในภวังค์​ “ข้า​เดา​ว่า​เจ้าเคย​ผ่าน​เรื่อง​อะไร​บางอย่าง​ตอนที่​ยัง​เป็น​เด็ก​แน่ๆ​ อย่าง​น้อย​เจ้าได้​เห็น​เลือด​ใน​เรื่องราว​นั้น​ และ​เลือด​ที่​เจ้าเห็น​ในเวลานั้น​ทำให้​เจ้าหวาดผวา​ ทำให้​เจ้าหวาดกลัว​ และ​ความ​หวาดผวา​และ​หวาดกลัว​นี้​ฝังอยู่​ใน​ความทรงจำ​ส่วนลึก​ของ​เจ้า ติดตาม​เจ้ามาจน​เติบใหญ่​ ทุกครั้งที่​เจ้าเห็น​เลือด​ ร่างกาย​ของ​เจ้าจึงเกิดปฏิกิริยา​ตอบสนอง​”

ต้วนเฉิง​มีสีหน้า​มึนงง​ “ข้า​จำเรื่องราว​เมื่อ​ครั้ง​ยัง​เป็น​เด็ก​ไม่ได้​แล้ว​ หรือ​จะเป็น​อย่าง​ที่​เจ้าว่า​ ข้า​เคย​ได้รับ​แรงกระตุ้น​ใด​เมื่อ​ตอน​เด็ก​ๆ กระมัง​”

สีหน้า​ของ​หมอ​เฉิน​ไม่ค่อย​สู้ดี​นัก​ เขา​กล่าว​เสียงทุ้ม​ “เอาละ​ๆ ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​พูด​เรื่อง​เหล่านี้​ รีบ​ทำงาน​เถอะ​ เดี๋ยว​จะมีผู้ป่วย​ถูก​ส่งมาอีก​”

ไป๋​จื่อ​กวาดสายตา​มอง​สีหน้า​ของ​หมอ​เฉิน​ เขา​ไม่อยาก​ให้​ต้วนเฉิง​ขุด​ลึก​ลง​ไป​ใน​จิตใจ​อย่าง​เห็นได้ชัด​ ต้วนเฉิง​บอ​กว่า​จำเรื่องราว​ใน​วัยเด็ก​ไม่ได้​ เช่นนั้น​แล้ว​หมอ​เฉิน​จะต้อง​รู้​อะไร​บางอย่าง​แน่ๆ​

ดูท่าทาง​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พวกเขา​สอง​คน​ คง​ไม่ได้​เรียบง่าย​เช่น​ศิษย์​อาจารย์​ทั่วไป​

ทั้ง​สามคน​ต่าง​ก็​ทำงาน​ของ​ตนเอง​ หมอ​เฉิน​และ​ไป๋​จื่อ​ทำ​การรักษา​ผู้ป่วย​ ส่วน​ต้วนเฉิน​เป็น​ลูกมือ​คอย​ส่งข้าวของ​ให้​พวกเขา​

เมื่อ​มีคน​มาช่วย​เพิ่ม​ ความ​รวดเร็ว​ย่อม​เพิ่ม​เป็น​เท่าตัว​ กระโจม​หน่วย​แพทย์​ใน​วันนี้​จึงเป็นระบบ​ระเบียบ​กว่า​แต่ก่อน​มาก​

“เร็ว​เข้า​ เร็ว​ ท่าน​นี้​คือ​นาย​กอง​มู่แห่ง​กอง​ทหารม้า​หุ้ม​เกราะ​ รีบ​ช่วย​เขา​หน่อย​เถอะ​ รีบ​นำ​คน​มาช่วย​เขา​ที​” นายทหาร​ที่​นำ​ผู้บาดเจ็บ​มาส่งขอบตา​แดงก่ำ​ สีหน้า​ดู​ร้อนใจ​มาก​ บน​ใบหน้า​มีคราบ​น้ำตา​อยู่​ด้วย​

เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​กอง​ทหารม้า​หุ้ม​เกราะ​ หัวใจ​ของ​ไป๋​จื่อ​ก็​พลัน​หนักอึ้ง​

หมอ​เฉิน​ปรี่​เข้าไป​ตรวจสอบ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​มู่หยาง​ ธนู​ดอก​หนึ่ง​แทง​ทะลุ​ทรวงอก​ข้าง​ซ้าย​ของ​เชา ขณะนี้​เขา​หมดสติ​ไป​แล้ว​ ทว่า​ยังคง​มีลมหายใจ​อยู่​

หมอ​เฉิน​จับชีพจร​ของ​มู่หยาง​ดู​ พบ​ว่า​ชีพจร​อ่อนแรง​จน​แทบ​ไม่เหลือ​

เขา​เคย​เห็น​อาการ​บาดเจ็บ​เช่นนี้​มามาก​ เพราะ​พบเห็น​ได้​บ่อยครั้ง​ใน​สมรภูมิ​ จึงเรียก​ได้​ว่า​ไม่อาจ​รอด​ได้​แล้ว​

หมอ​เฉิน​โบกมือ​ครั้งหนึ่ง​ ถอนใจ​กล่าวว่า​ “ขอโทษ​ด้วย​ ข้า​รักษา​เขา​ไม่ได้​”

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​คุกเข่า​ลง​ตรงหน้า​หมอ​เฉิน​ โขก​ศีรษะ​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ “ท่าน​หมอ​ ท่าน​ได้​โปรด​ช่วย​เขา​ด้วย​ นาย​กอง​มู่เป็น​คนดี​ขอรับ​ เขา​ได้รับบาดเจ็บ​เช่นนี้​เพราะ​ช่วย​ข้า​ หาก​จะตาย​ก็​น่าจะเป็น​ข้า​ต่างหาก​ ไม่ควรจะเป็น​เขา​เลย​ ท่าน​หมอ​ ข้า​ขอร้อง​ท่าน​ขอรับ​”

หมอ​เฉิน​เอง​ก็​รู้สึก​เศร้าใจ​มาก​ เพราะ​เขา​ไม่อยาก​ทน​มอง​คน​ผู้​นี้​ตาย​ไป​ต่อหน้าต่อตา​เช่นกัน​ แต่​เขา​จะทำ​อย่างไร​ได้​ หาก​ดึง​ลูกธนู​ออกมา​ นาย​กอง​มู่อาจจะ​ตาย​ในทันที​ หาก​ไม่ดึง​ออกมา​ อย่าง​มาก​ก็​มีชีวิตรอด​ได้​อีก​หนึ่ง​ถึงสอง​วัน​ นับว่า​ยื้อ​ชีวิต​ไว้​โดย​เปล่าประโยชน์​

ไป๋​จื่อ​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ หลังจาก​ตรวจสอบ​บาดแผล​อย่าง​ละเอียด​แล้ว​ นาง​ก็​พูดโพล่ง​ออก​ไป​ว่า​ “ลูกธนู​เจาะทะลุ​ไป​ถึงปอด​ข้าง​ซ้าย​ ทำให้​ผนัง​เส้นเลือด​ใน​ปอด​ฉีด​ขาด​ ลมหายใจ​รั่ว​ แต่​โชค​ยัง​ดี​ที่​ไม่ได้​บาดเจ็บ​ไป​จนถึง​เส้นเลือด​ใหญ่​และ​หัวใจ​ ไม่เช่นนั้น​ตอนนี้​เขา​คง​ตาย​ไป​แล้ว​”

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​ไม่เข้าใจ​ที่​นาง​พูด​ เพียงแต่​รู้​ได้​รางๆ​ ว่า​เด็กหนุ่ม​ตรงหน้า​คน​นี้​ คล้าย​กับ​มีวิธี​ช่วยชีวิต​มู่หยาง​แล้ว​

“หมอ​หนุ่ม​ผู้​นี้​ เจ้ารักษา​เขา​ได้​ใช่หรือไม่​” ชายหนุ่ม​ย้าย​ร่างกาย​ใน​ท่า​คุกเข่า​ไป​ถึงตรงหน้า​ไป๋​จื่อ​

ไป๋​จื่อ​ประคอง​เขา​ลุกขึ้น​ “ข้า​จะพยายาม​อย่าง​สุดความสามารถ​ แต่​ไม่อาจ​รับรอง​ผลลัพธ์​ได้​ หวัง​ว่า​เจ้าจะเข้าใจ​”

……….

ตอนที่​ 480 มู่หยาง​บาดเจ็บ​หนัก​

นาง​หวัง​ว่า​นาย​กอง​มู่ผู้​นี้​จะรอดไป​ได้​มากกว่า​ใครๆ​ เพราะ​เขา​เป็น​ความหวัง​ของ​หู​เฟิงเชียว​นะ​!

หมอ​เฉิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ ก็​พลัน​หน้า​เปลี่ยนสี​ รีบ​กล่าวว่า​ “ไป๋​จื่อ​ เจ้าอย่า​ได้​แกล้ง​โง่ บาดเจ็บ​ถึงขั้น​นี้​แล้ว​ ยัง​จะมีโอกาส​รอด​ได้​อีก​หรือ​ไร​”

ไป๋​จื่อ​ถอนใจ​ “นี่​เป็น​ผลลัพธ์​ที่​เลวร้าย​ที่สุด​แล้ว​ ยัง​จะมีผลลัพธ์​ใด​เลวร้าย​กว่า​นี้​ได้​อีก​เล่า​ หาก​ไม่พยายาม​สักหน่อย​แล้ว​จะรู้​ได้​อย่างไร​ ว่า​จะคว้า​โอกาส​สุดท้ายนี้​ไว้​ได้​หรือไม่​”

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​คุกเข่า​ลง​อีกครั้ง​ โขก​ศีรษะ​ต่อหน้า​ไป๋​จื่อ​เสียงดัง​ “หมอ​หนุ่ม​ผู้​นี้​ เจ้าได้​โปรด​ช่วย​เขา​ให้ได้​ ต้อง​รักษา​เขา​ให้​หาย​ให้จงได้​!”

นาง​มอง​มู่หยาง​ที่​นอนหงาย​อยู่​บน​ไม้กระดาน​ สถานการณ์​ตอนนี้​สุ่มเสี่ยง​เป็น​อย่างยิ่ง​ นาง​ไม่อยาก​สนใจ​อะไร​มาก​แล้ว​ จึงกล่าว​ไป​ตรงๆ​ ว่า​ “ข้า​ไม่สะดวก​จะรักษา​เขา​ที่นี่​ นำ​เขา​ไป​ที่​กระโจม​เล็ก​ข้างๆ​ เถอะ​”

ชายหนุ่ม​สอง​คน​ยก​มู่หยาง​ไป​ที่​กระโจม​หลัง​เล็ก​ข้างๆ​ ทันที​ ส่วน​นาง​ถือ​กระเป๋า​ผ้า​ที่อยู่​บน​พื้น​ กล่าว​กับ​หมอ​เฉิน​ว่า​ “ข้า​อยาก​ลอง​รักษา​ดู​ หาก​ท่าน​พอ​มีเวลาว่าง​ ก็​มาช่วย​ข้า​หน่อย​นะ​ขอรับ​” หลังจาก​กล่าว​จบ​ นาง​ก็​หมุน​กาย​เดิน​ไป​

หมอ​เฉิน​ไม่ได้​กล่าว​อะไร​ มีเพียง​ต้วนเฉิง​ที่อยู่​ข้างๆ​ รู้สึก​ร้อนรน​ “อาจารย์​ ท่าน​ก็​ไป​ช่วย​ไป๋​จื่อ​เถอะ​”

ในที่สุด​หมอ​เฉิน​ก็​พยักหน้า​ เขา​ถอนหายใจ​ “ก็ดี​เหมือนกัน​ ข้า​อยาก​จะดู​ว่า​เขา​มีวิธีการ​พิเศษ​อะไร​” เขา​ผิน​หน้า​ไป​กำชับ​กับ​ต้วนเฉิง​ “เจ้าคอย​อยู่​ที่นี่​แล้วกัน​”

ต้วนเฉิง​รับคำ​ ส่วน​หมอ​เฉิงออก​ไป​จาก​กระโจม​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​กระโจม​เล็ก​ที่อยู่​ติดกัน​

มู่หยาง​ถูก​จัดวาง​ไว้​บน​เตียง​ตาม​คำ​บอก​ของ​ไป๋​จื่อ​ ภายใน​กระโจม​มีแสงสว่าง​ไม่เพียงพอ​ นาง​จึงให้​นายทหาร​เปิดช่อง​แสง ถึงทำให้​ภายใน​กระโจม​สว่าง​ขึ้น​มาถนัดตา​

ไป๋​จื่อ​กล่าว​กับ​สอง​คน​นั้น​ว่า​ “นาย​กอง​มู่เสีย​เลือด​ไป​มาก​แล้ว​ อีก​เดี๋ยว​จะต้อง​ให้​เลือด​ขณะ​ทำ​การรักษา​ พวก​เจ้ายินดี​ให้​เลือด​เขา​หรือไม่​”

พวกเขา​ไม่รู้​ว่าการ​ให้​เลือด​คือ​อะไร​ เพียง​รู้​ว่า​ขอให้​รักษา​ชีวิต​นาย​กอง​มู่ไว้​ได้​ จะให้​พวกเขา​ทำ​อะไร​ก็​ยอม​ทั้งนั้น​

“อย่า​ว่าแต่​เลือด​เลย​ ถึงแม้จะเป็น​หัวใจ​ของ​ข้า​ ข้า​ก็​จะควัก​ออกมา​ให้​เจ้าเดี๋ยวนี้​ ขอ​เพียง​เจ้าช่วยชีวิต​นาย​กอง​มู่ไว้​ได้​ก็​พอแล้ว​”

ไป๋​จื่อ​ส่ายหน้า​ “ไม่จำเป็นต้อง​ควัก​หัวใจ​หรอก​ ข้า​ต้องการ​แค่​เลือด​เท่านั้น​ ไม่ได้​จะเอาชีวิต​ของ​พวก​เจ้าเสียหน่อย​” นาง​หยิบ​แผ่น​ทดสอบ​เลือด​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ ก่อน​จะเก็บ​ตัวอย่าง​เลือด​ของ​มู่หยาง​เป็น​คน​แรก​ เขา​เลือด​กรุ๊ป​ B จากนั้น​จึงค่อย​เก็บ​ตัวอย่าง​เลือด​ของ​นายทหาร​ทั้งสอง​ และ​โชคดี​ที่หนึ่ง​คนใน​นั้น​มีเลือด​กรุ๊ป​ B เช่นเดียวกัน​

ตนเอง​ก็​เลือด​กรุ๊ป​ B เช่นกัน​ แม้นายทหาร​คน​นี้​จะแข็งแรง​ แต่​ก็​ไม่อาจ​นำ​เลือด​จาก​เขา​มากเกินไป​ใน​คราว​เดียว​

นาง​ให้​นายทหาร​นั่งลง​ แล้ว​หยิบ​ถุงเลือด​ที่​ใช้สำหรับ​เก็บ​เลือด​ออกมา​ ก่อน​จะแทง​ปลาย​เข็ม​เข้าไป​ที่​เส้น​เลือดดำ​ของ​ชายหนุ่ม​ เลือด​สีแดงสด​ไหลผ่าน​หลอด​โปร่งแสง​เส้น​บาง​ไป​สู่ถุงเลือด​ นายทหาร​ทั้งสอง​คน​เห็น​แล้วก็​อ้า​ปาก​ตาค้าง​ เพราะ​พวกเขา​ไม่เคย​เห็น​ของ​พรรค์​นี้​มาก่อน​ ยิ่ง​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​ต้อง​ปล่อย​ให้​เลือด​ไหล​ก่อน​จะช่วยชีวิต​คน​ด้วย​…

ทว่า​เมื่อ​เห็น​หมอ​หนุ่ม​ตรงหน้า​แทง​เข็ม​ใส่ตนเอง​ ปล่อย​ให้​เลือด​ไหล​บ้าง​เช่นกัน​ พวกเขา​ถึงจะขจัด​ความสงสัย​ทิ้ง​ไป​

ชายหนุ่ม​อีก​คน​หนึ่ง​ถามขึ้น​ “เหตุใด​ไม่แทง​เข็ม​ให้​ข้า​บ้าง​ ข้า​เอง​ก็​มีเลือด​เช่นกัน​ แทง​เข็ม​ให้​ข้า​ด้วย​เถอะ​”

ไป๋​จื่อ​ส่ายหน้า​ “เลือด​ของ​เจ้าไม่เหมือนกับ​นาย​กอง​มู่ แทง​เข็ม​ใส่เจ้าไป​ก็​ไร้ประโยชน์​ โชคดี​ที่​เลือด​ของ​ข้า​เหมือนกับ​เขา​ ข้า​จึงให้​เลือด​เขา​ได้​เช่นกัน​ ไม่เช่นนั้น​เกรง​ว่า​เลือด​น้อย​นิด​ของ​เขา​คงจะ​ไม่พอ​”

เมื่อ​หมอ​เฉิน​เข้ามา​ เขา​เห็นภาพ​ฉาก​นี้​เข้า​พอดี​ จึงตกอกตกใจ​จน​แทบจะ​ยืน​ไม่อยู่​

“พวก​เจ้า นี่​พวก​เจ้ากำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​” นี่​มัน​คือ​อะไร​กัน​ เขา​ชี้ไป​ยัง​ถุงเลือด​ รวมถึง​เข็ม​และ​หลอด​สำหรับ​ให้​เลือด​ด้วย​

“หมอ​เฉิน​ ข้า​รู้​ว่า​ตอนนี้​ท่าน​ตกใจ​มาก​ แต่​ข้า​ไม่สามารถ​อธิบาย​อะไร​ให้​ท่าน​รู้​ในทันที​ สิ่งที่​ข้า​กำลัง​ทำ​ใน​ตอนนี้​ เป็นหนึ่ง​ใน​หน้าที่​โดย​ตาม​สัญชาตญาณ​ของ​หมอ​ ช่วย​ผู้ป่วย​ทุกคน​ที่​ช่วย​ได้​” ไป๋​จื่อ​กล่าว​

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Status: Ongoing
จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็นครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อแต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้วให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อเพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อหญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วยแต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดีแต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท