คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา – ตอนที่ 495 ตอนที่ 496 ย่อมขอให้เป็นเช่นนั้น

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่​ 495

หลังจาก​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​กิน​น้ำแกง​หมด​ถ้วย​ เขา​ก็​ยก​ถ้วย​กลับมา​คืน​ ก่อน​จะกล่าว​ขอบคุณ​ไป๋​จื่อ​อยู่​หลาย​เสียง​

ไป๋​จื่อ​จำเขา​ได้​ “เจ้ายัง​เจ็บ​แผล​อยู่​หรือไม่​” นาง​เพิ่ง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​หลาย​วันก่อน​เย็บแผล​ให้​เขา​ไป​ สอง​วัน​ผ่าน​ไป​ไว​เหมือน​โกหก​ ทำให้​นาง​ลืม​ผู้บาดเจ็บ​คน​นี้​ไป​เสีย​สนิท​

ชายหนุ่ม​ยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า​ “ไม่เจ็บ​แล้ว​ ดีขึ้น​มาก​”

นาง​ให้​เขา​นั่งลง​ แล้ว​เลิก​เสื้อ​บน​ตัว​ของ​เขา​ขึ้น​ เพื่อ​ตรวจสอบ​แผล​ที่​ตน​เย็บ​เอาไว้​ นาง​เย็บแผล​ได้​ไม่เลว​ และ​โชคดี​ที่สอง​วัน​ที่ผ่านมา​นี้​เขา​ไม่ได้​ออกจาก​ที่นี่​ ไม่เช่นนั้น​หาก​บาดแผล​นี้​ของ​เขา​ติดเชื้อ​ขึ้น​มา ก็​ย่อม​เกิด​การ​อักเสบ​ได้​ง่าย​มาก​

“เจ้ารอ​ข้า​อยู่​ตรงนี้​ ข้า​ไป​นำ​เหล้า​มาเช็ด​แผล​ให้​เจ้าสักหน่อย​” นาง​วาง​น้ำแกง​งูข้น​ที่​เพิ่ง​ยก​มา

ชายหนุ่ม​รีบ​กล่าว​ “ข้า​ไม่เป็นอะไร​แล้ว​ หมอ​หนุ่ม​กิน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​จัดการ​ให้​ข้า​ก็ได้​”

ไป๋​จื่อ​โบกมือ​ “ไม่ได้​ อีก​เดี๋ยว​หาก​มีเรื่อง​อื่น​แทรก​เข้ามา​ เช่นนั้น​ก็​ต้อง​ล่าช้า​ออก​ไป​อีก​ ข้า​จัดการ​ให้​เจ้าตอนนี้​เลย​ดีกว่า​”

หมอ​เฉิน​กิน​น้ำแกง​ใน​ถ้วย​ของ​ตนเอง​หมด​แล้ว​ เห็น​ใน​หม้อ​ยังมี​เหลืออยู่​เล็กน้อย​ จึงเติม​ใส่ถ้วย​ของ​ตัวเอง​อีก​ “ไป๋​จื่อ​ เจ้ายัง​จะกิน​อีก​หรือไม่​ หาก​ไม่กิน​ข้า​จะกิน​ให้​หมด​”

“ไม่กิน​แล้ว​ขอรับ​ ท่าน​กิน​เถอะ​” ไป๋​จื่อ​กล่าวตอบ​โดย​ไม่หันไป​มอง​

หมอ​เฉิน​กำลังจะ​ลงมือ​ตัก​ ทว่า​ต้วนเฉิง​ที่อยู่​ข้างๆ​ กลับ​กระแอม​ขึ้น​

“คอ​เจ้าเป็น​อะไร​” หมอ​เฉิน​ถาม

สีหน้า​ของ​ต้วนเฉิง​ดู​แปลก​ๆ ไป​ ก่อนที่​เขา​จะเหลือบมอง​ถ้วย​ใน​มือ​ของ​ผู้​เป็น​อาจารย์​ครั้งหนึ่ง​ กล่าว​เสียงเล็กเสียงน้อย​ว่า​ “อาจารย์​ ข้า​ยัง​ไม่ได้​กิน​ข้าวเย็น​เลย​นะ​ขอรับ​!”

“แล้ว​มัน​แปลก​หรือ​ ใน​ค่ายทหาร​แห่ง​นี้​ คน​ที่​ไม่ได้​กิน​ข้าวเย็น​มีเพียง​เจ้าคนเดียว​หรือ​ไร​ แล้ว​มัน​น่า​น้อยใจ​ตรงไหน​กัน​ อีก​อย่าง​ เจ้าก็​ไม่ได้​อยาก​กิน​น้ำแกง​งูข้น​เสียหน่อย​” หมอ​เฉิน​พูด​

ต้วนเฉิง​กลืนน้ำลาย​ เสียงอ่อน​ยิ่งกว่า​เดิม​ “นั่น​เพราะ​ข้า​คิดไม่ถึง​ว่า​มัน​จะหอมหวน​เช่นนี้​”

ไป๋​จื่อ​เช็ด​แผล​ให้​ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​แล้วเสร็จ​ นาง​เก็บ​ข้าวของ​เรียบร้อย​ ก่อน​จะหมุน​กาย​ไป​หยิบ​ถ้วย​ใบ​หนึ่ง​ ตัก​น้ำแกง​งูข้น​ใน​ถ้วย​ของ​ตนเอง​ออกมา​ครึ่งหนึ่ง​ แล้ว​ส่งไป​ให้​ต้วนเฉิง​ “ลอง​ชิมดู​สิ หาก​เจ้าคิด​ว่า​อร่อย​ มีเวลาว่าง​ก็​เข้า​ป่า​ไป​จับ​งูมาให​เข้า​ แล้ว​ข้า​ค่อย​ทำให้​พวก​เจ้ากิน​อี​กรอบ​”

ต้วนเฉิง​รู้สึก​เกรงใจ​อยู่​บ้าง​ เดิมที​ใน​ถ้วย​ของ​ไป๋​จื่อ​ก็​มีน้ำแกง​ข้น​เพียง​ครึ่งหนึ่ง​ บัดนี้​ตัก​ให้​เขา​ครึ่งหนึ่ง​ ส่วน​ของ​นาง​เอง​จึงเหลือ​ไม่กี่​คำ​เท่านั้น​

นาง​เห็น​เขา​ไม่ยอมรับ​ไป​ จึงพูด​อี​กว่า​ “วันนี้​ข้า​ไม่ค่อย​หิว​ เดิมที​ก็​ไม่อยาก​กิน​อยู่แล้ว​ เจ้าอย่า​พลาดโอกาส​นี้​เลย​ เพราะ​ครั้งหน้า​ข้า​จะไม่ยอมให้​เจ้าอีกแล้ว​”

ในที่สุด​ต้วนเฉิง​ก็​รับ​ไว้​ ใน​ใจมีความอบอุ่น​สาย​หนึ่ง​พาด​ผ่าน​ ไป๋​จื่อ​ผู้​นี้​ไม่เหมือนกับ​สหาย​คนใด​ที่​เขา​เคย​รู้จัก​ใน​อดีต​ เขา​มองเห็น​ว่า​ตนเอง​มีข้อด้อย​มาก​เท่าไร​จาก​ไป๋​จื่อ​ เมื่อ​เปรียบเทียบ​กัน​ดู​แล้ว​ ตัว​เขา​แทบจะ​เรียก​ได้​ว่า​ไร้ประโยชน์​

รสชาติ​สด​อร่อย​ของ​น้ำแกง​งูข้น​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​ นี่​แทบจะ​เป็น​อาหาร​ที่​อร่อย​ที่สุด​ที่​เขา​เคย​กินใน​ชีวิต​นี้​เลย​ทีเดียว​

แต่​น่าเสียดาย​ที่​มัน​มีแค่​ไม่กี่​คำ​เท่านั้น​ เขา​เพิ่งจะ​ล้ม​รสชาติ​ของ​มัน​ได้​ ถ้วย​ก็​กลับมา​ว่างเปล่า​ดังเดิม​แล้ว​

“พรุ่งนี้​พวกเรา​เข้า​ป่า​กัน​อีกครั้ง​เถอะ​ จับ​งูกลับมา​สัก​สอง​ตัว​” ต้วนเฉิง​วาง​ถ้วย​ลง​พลาง​กล่าว​

ไป๋​จื่อ​ส่ายหน้า​ “ไม่ได้​ วันนี้​นับว่า​เจ้าโชคดี​รอด​กลับมา​ได้​ แต่​เข้า​ป่า​ไม่ได้​อีก​ ถ้าเกิด​ปัญหา​อะไร​ขึ้น​มาอีก​ ข้า​เกรง​ว่า​จะรับมือ​ไม่ไหว​” นาง​ไม่กลัว​เรื่อง​อื่น​ จะกลัว​ก็​แต่​เขา​หา​ถ้ำแห่ง​นั้น​พบ​ และ​พบ​คน​ที่​ไม่ควร​เห็น​เข้า​

ทันใดนั้น​ ชายหนุ่ม​ที่พัก​อยู่​ข้างๆ​ ก็​กล่าว​ต่อ​ “บ้านเกิด​ของ​ข้า​มีกรง​จับ​งูอยู่​ชนิด​หนึ่ง​ ขอ​เพียง​วาง​กรง​นี้​ไว้​ข้างนอก​ ใส่เหยื่อ​ล่อ​เข้าไป​ใน​กรง​สัก​เล็กน้อย​ งูก็​จะเลื้อย​เข้าไป​เอง​ กรง​นี้​สาน​ไว้​พิเศษ​มาก​ เมื่อ​งูเข้าไป​แล้วก็​จะออกมา​ไม่ได้​อีก​ ถึงเวลา​นั้น​พวกเรา​ค่อย​ไป​เก็บ​กลับมา​ก็​ใช้ได้​ บางครั้ง​โชค​ดีมาก​ จับ​งูได้​หลาย​ตัว​ใน​คืน​เดียว​”

ต้วนเฉิง​มีสีหน้า​ผิดหวัง​ “แต่​พวกเรา​ไม่มีกรง​จับ​งูชนิด​นั้น​เสียหน่อย​!”

……….

ตอนที่​ 496 ย่อม​ขอให้​เป็น​เช่นนั้น​

ชายหนุ่ม​ที่พัก​อยู่​ข้างๆ​ รีบ​กล่าว​ “ใน​ค่าย​ของ​พวกเรา​มีไม้ไผ่​กระดอง​เต่า​อยู่​ ด้านหลัง​ค่าย​บูรพา​ที่​เจ็ด​มีป่าไผ่​อยู่​ผืน​หนึ่ง​ ก่อนหน้านี้​เพื่อ​ล้อม​พื้นที่​ตั้งค่าย​บูรพา​ที่​เจ็ด​ ก็​ทำลาย​ต้น​ไผ่​ไป​ไม่น้อย​ ทว่า​ยัง​เหลืออยู่​บ้าง​”

ต้วนเฉิง​กล่าว​ทันที​ว่า​ “ข้า​จะไปหา​ไม้ไผ่​กระดอง​เต่า​มาเดี๋ยวนี้​ พวก​เจ้ารอ​อยู่​ที่​นี่แหละ​”

หมอ​เฉิน​เห็น​ลูกศิษย์​จากไป​รวดเร็ว​ราวกับ​สายลม​ จึงถอนใจ​พลาง​ส่ายหน้า​ “เด็ก​คน​นี้​นี่​นะ​ หาก​เขา​กระตือรือร้น​เช่นนี้​ใน​ตอนที่​ต้ม​ยา​ก็ดี​สิ”

ไป๋​จื่อ​เก็บ​ถ้วย​และ​หม้อ​เรียบร้อย​แล้ว​ นาง​กลับ​ไป​ที่​หน่วย​เสบียง​ ระหว่างทาง​กลับ​ไป​ที่​หน่วย​แพทย์​ จู่ๆ ก็​มีลม​กรรโชก​พัดผ่าน​มาระลอก​หนึ่ง​ นาง​เพียง​รู้สึก​หนาวสะท้าน​ไป​ทั่ว​ร่าง​ ก่อนที่จะ​พบ​ว่า​พระจันทร์เต็มดวง​อีกครั้ง​โดยที่​ไม่รู้ตัว​แล้ว​

จาก​ฤดูใบไม้ผลิ​สู่ฤดูใบไม้ร่วง​ จาก​ฤดูใบไม้ร่วง​สู่ฤดูหนาว​ เพียง​พริบตาเดียว​ นาง​ก็​มาอยู่​ที่​โลก​ใบ​นี้​นาน​ถึงเพียงนี้​แล้ว​หรือ​นี่​

คืน​พระจันทร์เต็มดวง​คราวนี้​ นาง​จะได้​เจอ​กับ​อะไร​นะ​

ว่า​กัน​ว่า​ชีวิต​ก็​เหมือนกับ​การผจญภัย​ที่​ไม่อาจ​หยั่งรู้​ได้​ ไม่ว่า​วันนี้​จะทำดี​มากมาย​เท่าไร​ ก็​ไม่มีทาง​รู้​ได้​อยู่ดี​ว่า​พรุ่งนี้​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​!

เมื่อ​กลับ​ไป​ที่​กระโจม​หน่วย​แพทย์​ หมอ​เฉิน​กำลัง​ตรวจ​บาดแผล​ของ​ผู้​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​ คน​หนึ่ง​คือ​คน​ที่​นาง​เย็บแผล​ให้​ ส่วน​อีก​คน​คือ​คน​ที่​เขา​ใส่ยา​และ​พัน​แผล​ให้​

ชายหนุ่ม​ที่​ไป๋​จื่อ​เย็บแผล​ให้​ สามารถ​เดินเหิน​ภายใน​กระโจม​ได้​ตามใจ​ชอบแล้ว​ แผล​สมาน​ดีมาก​ อีก​ทั้ง​ไม่ได้​รู้สึก​ไม่สบายกาย​ตรงไหน​ กระปรี้กระเปร่า​ทีเดียว​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​หมอ​เฉิน​และ​ไป๋​จื่อ​พนัน​กัน​ไว้​ เขา​น่าจะ​ต้อง​กลับ​ไป​พัก​รักษาตัว​ที่​กระโจม​ของ​ตนเอง​

ส่วน​คน​ที่​หมอ​เฉิน​ทำ​การรักษา​ให้​ แม้ปาก​แผล​จะสมาน​กัน​แล้ว​ แต่​ผู้บาดเจ็บ​กลับ​ยังคง​รู้สึก​เจ็บปวด​อย่างยิ่งยวด​ และ​ไม่กล้า​ขยับตัว​เรื่อยเปื่อย​ ทำได้​เพียง​ขยับ​ร่าง​เบา​ๆ มีโอกาส​ที่​ปาก​แผล​จะปริ​แตก​อยู่​

และ​ผู้บาดเจ็บ​คน​นี้​มีอาการ​ไข้​ขึ้น​ใน​ทุกคืน​ ตอนนี้​ไข้​ขึ้น​อีกครั้ง​แล้ว​ สีหน้า​ดู​ไม่ค่อย​ดี​เลย​จริงๆ​

ครั้น​เห็น​ไป๋​จื่อ​เข้ามา​ หมอ​เฉิน​ก็​กล่าวว่า​ “ไม่ต้อง​รอ​ถึงเจ็บ​วัน​ให้หลัง​แล้ว​ ตอนนี้​ผล​แพ้ชนะ​ชัดเจน​ เจ้าชนะ​แล้ว​ละ​”

ไป๋​จื่อ​ไม่รู้สึก​แปลกใจ​เลย​สักนิด​ แน่นอน​ว่า​นาง​รู้​ว่า​ตนเอง​จะชนะ​ เพียงแต่​นาง​ไม่คาดคิด​เลย​ ว่า​หมอ​เฉิน​จะยอมแพ้​เร็ว​เช่นนี้​

“ท่าน​พูด​เช่นนี้​ หมายความว่า​ข้า​อยู่​ต่อ​ได้​ใช่หรือไม่​” นาง​ยิ้ม​ถาม

หมอ​เฉิน​ก็​ยิ้ม​เช่นกัน​ “ข้า​ย่อม​ขอให้​เป็น​เช่นนั้น​”

“พรุ่งนี้​ข้า​จะหา​คน​ทำ​ป้าย​ประจำตัว​ให้​เจ้า ต่อไป​ถือว่า​เจ้าเป็น​หมอ​ทหาร​ที่นี่​ ทุก​เดือน​จะได้รับ​ค่าจ้าง​สิบ​ตำลึง​เงิน​ แม้จะไม่มากมาย​เท่าไร​ แต่​ก็​ไม่ถือว่า​ไม่น้อย​เช่นกัน​”

ไป๋​จื่อ​โบกมือ​ “ข้า​ไม่ต้องการ​ค่าจ้าง​ และ​ไม่ต้องการ​ตำแหน่ง​หมอ​ทหาร​ ท่าน​เห็น​ข้า​เป็น​ศิษย์​ของ​ท่าน​ก็​พอแล้ว​ ข้า​อยู่​ที่นี่​นาน​ไม่ได้​ อีก​สักพัก​หนึ่ง​ข้า​ก็​ต้อง​กลับบ้าน​แล้ว​ ที่​บ้าน​ข้า​ยังมี​งาน​ให้​ทำ​อีก​เป็นกอง​”

“เจ้าไม่ได้มา​ที่นี่​เพื่อ​เป็น​หมอ​ทหาร​หรือ​” หมอ​เฉิน​มีสีหน้า​ฉงน​

“ข้า​เพียง​อยาก​มาฝึกฝน​ และ​ถือโอกาส​เรียน​วิชาแพทย์​จาก​ท่าน​ด้วย​” ไป๋​จื่อ​กล่าว​

หมอ​เฉิน​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​ “พูด​เช่นนี้​แล้ว​ เจ้าน่าจะ​ผิดหวัง​กระมัง​ วิชาแพทย์​เก่า​คร่ำครึ​ของ​ข้า​ เทียบ​ไม่ได้​แม้สัก​เสี้ยว​เดียว​ของ​ความรู้​ที่​เจ้ามี”

ไป๋​จื่อ​ส่ายหน้า​ “วิชาแพทย์​ที่​ใช้รักษา​อาการ​เจ็บป่วย​และ​รักษา​บาดแผล​มีมากมาย​หลาย​แขนง​ ขอ​เพียง​รักษา​ผู้ป่วย​จน​หาย​ ขจัด​ความเจ็บปวด​ให้​พวกเขา​ได้​ ก็​ถือว่า​เป็น​วิชาแพทย์​ที่​ดีแล้ว​ ไม่มีแบ่งแยก​สูงต่ำ​ และ​ข้า​อยาก​เรียน​มัน​ทุก​แขนง​เลย​ขอรับ​”

หมอ​เฉิน​มอง​เด็กหนุ่ม​ตรงหน้า​ หาก​ไม่ได้​เห็นด้วย​ตา​ตัวเอง​ ไม่ได้ยิน​ด้วย​หู​ตัวเอง​ ไม่ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่มีทาง​เชื่อ​ ว่า​คำพูด​เหล่านี้​จะออก​มาจาก​ปาก​ของ​เด็กหนุ่ม​ที่​มีอายุ​เพียง​สิบ​สามปี​คน​หนึ่ง​

ตอน​อายุ​สิบ​สาม เขา​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ ขณะนั้น​ติดตาม​อาจารย์​เรียน​วิชาแพทย์​ แต่กลับ​ยัง​ท่อง​ชื่อ​สมุนไพร​ให้ได้​โดย​สมบูรณ์​ไม่ได้​

ตอน​อายุ​สิบ​สาม ต้วนเฉิง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ เห็น​เลือด​ก็​เป็นลม​ เห็น​เข็ม​ก็​เป็นลม​เช่นกัน​…

ทว่า​เด็กหนุ่ม​อายุ​สิบ​สามเบื้องหน้า​ผู้​นี้​ ทั้ง​คำพูด​ การกระทำ​ รวมถึง​มารยาท​ ล้วน​แตกต่าง​กับ​คน​อายุ​รุ่นราวคราวเดียวกัน​อย่างยิ่ง​ ราวกับว่า​…ราวกับว่า​ใน​เปลือกนอก​ของ​เด็กหนุ่ม​ผู้​นี้​ ใส่วิญญาณ​ของ​ผู้ใหญ่​คน​หนึ่ง​เอาไว้​

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

Status: Ongoing
จู่ๆ แพทย์หญิงยอดฝีมือจากยุคปัจจุบัน ดันตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กสาวชาวบ้านยุคโบราณที่ถูกย่าและป้าสะใภ้ตีจนตายทั้งเป็นครั้นรอดชีวิตมาได้ ก็ถูกโขกสับไม่ต่างกับสาวใช้ในบ้าน ทั้งยังจะถูกจับขายแลกเงินให้แต่งกับบุรุษอายุคราวพ่อแต่ไป๋จื่อคนใหม่นี้จะไม่ปล่อยให้พวกนางใช้งานข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอีกต่อไปแล้วให้ตายอย่างไรก็ต้องออกจากบ้านที่เหมือนกับขุมนรกแห่งนี้ไปให้ได้ จึงตัดสินใจสร้างอุบายทำให้ตนเองเสียชื่อเพื่อแยกบ้านกับเหล่าคนสกุลไป๋ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อให้มีข้าวกินอิ่มท้องสักมื้อหญิงสาวที่เคยมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งประเทศในยุคปัจจุบันต้องถกแขนเสื้อทำไร่ทำนา ใช้วิชาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาคนไข้และจัดการกับเหล่าคนในหมู่บ้านที่เข้ามาเอารัดเอาเปรียบนางด้วยแต่ขณะเดียวกัน… ก็ต้องรักษาโรคความจำเสื่อมให้ชายหนุ่มกล้ามโตขี้น้อยใจอีก!เดิมทีคิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หาเช้ากินค่ำ เลี้ยงชีพให้ตนและท่านแม่มีชีวิตที่ดีแต่ความหวังพรรค์นั้นน่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้ หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเอาเสียเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท