ตอนที่ 521 อยากให้นางตาย
โจวกังเห็นดังนั้นก็รีบพูดไกล่เกลี่ย “แม่นางไป๋ จิ้นอ๋องให้ข้ากลับไปกับเจ้า ความจริงแล้วต้องการให้ข้าปกป้องเจ้าระหว่างทาง”
ไป๋จื่อย่อมรู้จุดประสงค์ของเขา เพียงแต่ตอนนี้นางอารมณ์ไม่ดี จึงไม่รู้ว่าต้องการพูดอะไรกับหูเฟิง
ระหว่างนั้นโจวกังไม่ยอมเงื้อแส้ขึ้น เพียงมองหูเฟิงด้วยความลำบากใจ “ท่านอ๋อง พวกข้าหลีกไปก่อนดีหรือไม่”
หูเฟิงส่ายหน้า “ไม่จำเป็นหรอก อีกไม่นานข้ากับนางก็จะได้พบกันอีก ถึงเวลานั้นค่อยอธิบายกับนาง พวกเจ้าไปเถอะ ระหว่างทางก็ระวังตัวด้วย” เขาไม่อาจวางใจให้นางกลับไปลำพัง แม้ระยะทางจะไม่นับว่าไกล แต่ถึงอย่างไรเสียนางก็เป็นสตรีที่ไม่มีอาวุธติดตัว มีโจวกังอยู่ด้วยเขาจึงวางใจได้มากกว่า
รถม้าออกตัวไป ดีดฝุ่นควันขึ้นตลบอบอวลในอากาศ เขาหรี่ตามอง พยายามจ้องไปที่รถม้า มองเด็กสาวคนนั้นค่อยๆ หายไปในกลุ่มฝุ่นดิน ก่อนจะไม่เห็นร่องรอยอีก
…
หมู่บ้านหวงถัว
“ท่านน้าหลาน ท่านกินข้าวสักคำเถอะเจ้าค่ะ หากอาจื่อกลับมาเห็นท่านผ่ายผอมเช่นนี้ นางคงเสียใจมากเป็นแน่” ซู่เอ๋อถือถ้วยโจ๊กพลางโน้มน้าว ใบหน้าของนางในตอนนี้มีแต่ความกังวล
จ้าวหลานส่ายหน้า “ข้าไม่อยากกิน กินไม่ลง” นางหยุดไปพักหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอีกว่า “หากนางเป็นห่วงข้าจริง จะไปค่ายทหารเพียงลำพังได้อย่างไร นางรู้หรือไม่ว่าที่นั่นคือสถานที่อะไร นางทำให้ข้าร้อนใจจะตายอยู่แล้ว!”
ไป๋จื่อไปได้สองสามวันแล้ว ส่วนตัวนางเองก็ป่วยมาสองสามวันเช่นกัน ผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด หากพวกอาอู่ไม่ได้ขวางนางเอาไว้ นางคงปรี่ไปยังค่ายทหารตั้งแต่แรกๆ เป็นตายอย่างไรก็ต้องนำบุตรสาวกลับมาให้จงได้
ซู่เอ๋อถอนหายใจเสียงหนึ่ง นางพูดเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านน้าหลาน เรื่องที่อาจื่อทำนั้นไม่ถูกต้อง แต่ที่นางทำเช่นนี้ก็เพราะนางมีเหตุผลของนาง คนที่ฉลาดเฉลียวและมีไหวพริบเช่นนั้น จะต้องปลอดภัยกลับมาแน่เจ้าค่ะ”
จ้าวหลานก็ปลอบใจตนเองเช่นนั้น แต่ไม่ว่าจะปลอบใจตนเองเช่นไรก็ไม่อาจขจัดความรู้สึกหวาดกลัวไปได้ ที่นั่นเป็นค่ายทหาร มีการต่อสู้ ไม่รู้ว่ามีคนตายมากเพียงใด นางกล้าไปที่นั่นได้อย่างไรกัน
ทันใดนั้นอาอู่ก็เดินเข้ามา เขาบอกกับจ้าวหลานว่า “ท่านน้าหลาน ยายเฒ่าสกุลไป๋กับสะใภ้ใหญ่ของนางมาขอรับ”
ซู่เอ๋อมุ่นคิ้วโดยพลัน “ไฉนพวกนางถึงมาที่นี่ วันๆ รู้จักแต่ก่อความวุ่นวาย พวกนางคิดจะทำอะไรกัน”
จ้าวหลานยิ้มขื่น “พวกนางจะอยากทำอะไรได้อีก? ก็ต้องอยากเห็นข้าตายอยู่แล้ว ตอนนี้ไป๋จื่อไม่อยู่ หากข้าตายไป แล้วพวกนางจะพลาดบ้านและที่นาไปได้หรือ”
“ถุย…หน้าไม่อาย ข้าจะไปไล่พวกนางเดี๋ยวนี้” อาอู่กล่าว
เขาเพิ่งจะหมุนตัว ยังไม่ทันได้เดินออกไป หญิงชราและหลิวซื่อก็ปรี่เข้ามาแล้ว
พวกนางเคยมาที่บ้านหลังนี้แล้วหลายครั้ง ทุกครั้งที่มาพวกนางไม่เคยได้ขึ้นไปชั้นบน เพียงมีคนคอยรับรองพวกนางอยู่ชั้นล่าง ส่วนจ้าวหลานก็ไม่ยอมลงมา อาอู่ไม่ยอมให้พวกนางขึ้นไปเช่นกัน แม้จะมาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้าของจ้าวหลานเลย
วันนี้พวกนางตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องพบจ้าวหลานให้ได้ ดูว่าแท้จริงแล้วนางป่วยจนมีสภาพเช่นไร จะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน
หลังจากพวกนางสองคนเข้าไปในเรือน ก็ถูกเครื่องเรือนที่สั่งทำมาอย่างดีดึงดูดสายตาทันที ข้าวของในภายในนี้ไม่นับว่ามาก แต่ทุกชิ้นล้วนประณีตงดงาม เป็นของที่พวกนางไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อคิดว่าหลังจากจ้าวหลานตายไปแล้ว สิ่งของเหล่านี้จะกลายมาเป็นของพวกนาง จิตใจของพวกนางก็หลงระเริงลอยไปจนถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว
“ใครให้พวกเจ้าเข้ามา ยังไม่รีบออกไปอีก!” อาอู่พูดด้วยความโมโห หากไม่ใช่เพราะสตรีสองคนนี้มีความสามารถในการเล่นละครตบตา เขาก็คงลงมือไปนานแล้ว
หลิวซื่อถลึงตามองกลับไป “จะดุดันไปไย พวกข้าไม่ได้มาหาเจ้า อย่าทำตัวเป็นเจ้าบ้านหน่อยเลย”
จ้าวหลานไม่มีกะใจจะต่อกรกับพวกนาง ตอนนี้นางคร้านแม้แต่จะพูดจา จึงหลับตานอนลง คิดเสียว่าพวกนางสองคนไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้
……….
ตอนที่ 522 เล่นลูกไม้
จ้าวซู่เอ๋อวางถ้วยโจ๊กในมือลง แล้วเดินไปถึงตรงหน้าของหญิงชราและหลิวซื่อ มุ่นคิ้วเอ่ยว่า “ท่านน้าหลานป่วย ต้องการพักผ่อน เชิญพวกเจ้ากลับไปเถอะ”
หญิงชรามองไปยังโจ๊กถ้วยนั้น พลันนึกถึงน้ำแกงข้าวที่ตนกินไปเมื่อเช้า พาให้ท้องร้องขึ้นมาสองเสียง นางไม่สนใจจ้าวซู่เอ๋อ คิดแต่จะนำโจ๊กถ้วยนั้นมา แต่ใครจะรู้ว่าหลิวซื่อพุ่งตัวไปเร็วกว่านางก้าวหนึ่ง คว้าถ้วยโจ๊กนั้นไว้ในมือ ก่อนจะหยิบช้อนในถ้วยตักปาก พูดทั้งๆ ที่เคี้ยวอาหารว่า “นางไม่อยากกินข้าจะกินให้เอง ข้าไม่รังเกียจหรอก”
หญิงชรามุ่นคิ้ว ลูกสะใภ้คนนี้ยังเห็นแม่สะใภ้คนนี้อยู่ในสายตาหรือไม่ นางควรจะได้กินโจ๊กถ้วยนี้ไม่ใช่หรือ
นางกระแอมอย่างแรงสองเสียง แต่หลิวซื่อทำเป็นไม่ได้ยิน เมื่ออาหารตกถึงท้องใครแล้วก็ย่อมเป็นของคนนั้น จะให้นางสนใจมารยาทในเวลานี้ แต่ตัวนางเองไม่ได้กินอะไรอย่างนั้นหรือ นางไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย
หญิงชรามองหลิวซื่อกินโจ๊กถ้วยนั้นใกล้หมดอย่างรวดเร็ว นางไม่สนใจเกียรติศักดิ์ศรีอะไรแล้ว ปรี่เข้าไปคว้าถ้วยโจ๊กในมือหลิวซื่อไว้ “ดีเหลือเกินนะหลิวกว้าหัว ข้าหมดความอดทนแล้ว!”
หลิวซื่อทำท่าทีว่าตนไม่เข้าใจ หัวเราะแห้งๆ เอ่ยว่า “ท่านแม่ก็อยากกินเหมือนกันหรือนี่ ก็บอกข้าเร็วหน่อยสิเจ้าคะ ข้าจะได้เหลือไว้ให้ท่านด้วย”
โจ๊กในถ้วยเหลือเพียงคำสุดท้ายเท่านั้น หญิงชราโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ทำอะไรหลิวซื่อไม่ได้ ทำได้เพียงกดข่มโทสะเอาไว้ แล้วกินโจ๊กที่เหลือในถ้วยจนเกลี้ยง
อาอู่ไม่ค่อยเข้าใจนัก คนดีเช่นน้าหลานและไป๋จื่ออยู่ร่วมบ้านกับคนตรงหน้านี้ได้อย่างไร แต่ก็คิดได้ทันทีว่าพวกนางสองแม่ลูกได้รับความลำบากเพราะพวกนางสองคนไม่น้อยเช่นกัน
“กินเสร็จแล้วก็รีบไป” เขาเอ่ยเสียงขรึม
หลิวซื่อยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดปาก กล่าวด้วยความเบิกบานใจว่า “ให้พวกข้าไป? เจ้ามีสิทธิ์อะไรไล่พวกข้า เจ้าเป็นใครกัน ข้าจะบอกเจ้าให้นะ คนที่ควรจะไปคือพวกเจ้า พวกข้าต่างหากที่เป็นครอบครัวของจ้าวหลาน ตอนนี้นางป่วย ก็ควรให้พวกข้าดูแลถึงจะถูก พวกเจ้าเป็นคนนอก รีบไปเสียตอนนี้เถอะ”
นี่เหมือนกับเป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิตที่อาอู่เคยได้ยิน “นี่คือเป้าหมายที่พวกเจ้ามาในวันนี้หรือ อยากไล่ให้พวกข้าไป? เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร” เขาเดินไปข้างหน้าสองก้าว ร่างสูงใหญ่กดดันหลิวซื่อ กลิ่นอายข่มขวัญสายหนึ่งทับนางจนแทบจะหายใจไม่ออก ทำให้นางต้องถอยหลังไปหลายก้าว ถึงจะรู้สึกสบายกายขึ้นมาหน่อย
หลิวซื่อเท้าเอวกล่าวว่า “เจ้าคิดจะทำอะไร อยากลงมืออกับข้าหรือ ข้าขอบอกเจ้าไว้เลยนะ ที่นี่คือหมู่บ้านหวงถัว ไม่ใช่ที่ที่คนนอกอย่างเจ้าจะมาวางอำนาจต่อหน้าข้าได้ เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าหากข้าออกไปตะโกนข้างนอก คนทั้งหมู่บ้านก็จะรีบเข้ามาช่วยเหลือทันที ถึงตอนนั้นเจ้าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายโดนไล่ออกไป”
อาอู่ไม่เชื่อ คนเช่นหลิวซื่อน่ะหรือจะมีคนมาช่วย คนสติดีที่ไหนจะมาช่วยนางกัน คนที่ช่วยนางหากสมองไม่ผิดปกติ ก็ต้องไม่มีความคิดแล้วละ
เขายิ้มเย็น “ข้าไม่เชื่อหรอก เจ้าลองออกไปตะโกนดูตอนนี้ดีหรือไม่”
หลิวซื่อก็แค่พูดจาให้น่ากลัวไปอย่างนั้น ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมีทีท่าแข็งกร้าวเช่นนี้ บัดนี้นางขี่หลังเสือแล้วลงยาก จึงรีบมองไปยังหญิงชรา
ตอนนี้หญิงชราไม่พอใจนางเป็นอย่างยิ่ง ผูกใจเจ็บเรื่องที่นางเพิ่งกินอาหารเพียงลำพัง เวลานี้จึงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก แต่ถึงอย่างไรพวกนางก็มากันสองคน แม้จะไม่พอใจเพียงไรก็ต้องช่วยนาง
“โจวอาอู่ เจ้าเล่นลูกไม้ให้น้อยหน่อยเถอะ ข้าไม่ติดกับเจ้าหรอก เจ้าเก่งจริงก็ลงมือเลยเถอะ เจ้าเก่งมากไม่ใช่หรือไร ต่อยพวกข้าให้ตายด้วยหมัดเดียวย่อมดีที่สุด เข้ามาสิ!” ในชีวิตนี้หญิงชราเคยเล่นลูกไม้มาแล้วนับไม่ถ้วน แล้วชายหนุ่มตรงหน้านี้จะชนะนางได้อย่างไร