“ลูกพี่ เอายังไงดี? รอให้จบลงหรือว่าอ้อมผ่านไปดี?” ลั่วล่างกำลังมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอยู่ไกลๆ ในขณะเดียวกันก็ติดต่อผ่านทางช่องสื่อสารของทีม
หลิงหลานไม่ได้ตัดสินใจทันที หากแต่เอ่ยถามฉีหลงว่า “เก๋อโต้ว นายคิดว่าไง?”
ฉีหลงที่เป็นพวกบ้าการต่อสู้อึดอัดกับวันเวลาที่เงียบสงบหลายวันนี้มานานแล้ว เมื่อได้ยินลูกพี่ถามก็รีบตอบกลับว่า “พวกเราเข้าไปตรงๆ ถ้าเกิดมีใครกล้าปล้นพวกเราอย่างไม่ลืมหูลืมตาก็กำจัดพวกเขาเลย” คำพูดนี้ฟังดูเป็นอันธพาล แต่ก็เป็นความคิดที่แท้จริงของฉีหลง
“ฉันคิดว่าจำเป็นต้องขัดเกลาดาบของพวกเราก่อนล่วงหน้า” ในฐานะที่หานจี้จวินเป็นเพื่อนสนิท เขาย่อมอยากช่วยสนับสนุนความคิดของฉีหลง กอปรกับเขาเองก็คิดว่าทำการต่อสู้สักครั้งสามารถทำให้ทีมของพวกเขาคุ้นเคยซึ่งกันและกัน ถึงอย่างไรก็มีคนเพิ่มขึ้นมาสามคน จำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อทำงานเข้าขากันกับความสามารถของอีกฝ่าย หานจี้จวินชอบควบคุมเรื่องทุกอย่างไว้ในมือมากๆ
จีอู๋ปู้ซิวไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความคิดของหลี่หลานเฟิงเหมือนกับหานจี้จวิน ดังนั้นเลยเอ่ยสนับสนุนว่า “ซ่วนผานพูดไว้ไม่ผิด ถึงยังไงพวกเราก็ตั้งทีมร่วมมือกันเป็นครั้งแรก ต้องการโอกาสในการต่อสู้จริงสักครั้งอย่างแท้จริง ถ้าเกิดมีปัญหาอะไร ยังปรับแก้ให้เรียบร้อยได้ก่อนที่จะเข้าลึกลงไปในภารกิจ นี่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของทีมพวกเราอย่างยิ่งยวด”
หลินจงชิงไม่ได้ตอบว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เขาเพียงบอกลูกพี่ของตนว่า พลังงานที่เขาสำรองไว้เพียงพอที่จะยืนหยัดในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาบ่งบอกทางอ้อมว่าเขาก็เห็นพ้องเรื่องต่อสู้สักครั้งด้วยเหมือนกัน
ในเมื่อทุกคนต่างปรารถนาที่จะต่อสู้ หลิงหลานย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงสั่งพวกลั่วล่างสามคนที่ซุ่มเฝ้าสังเกตกาณ์อยู่ไกลๆ ว่า “เจียนเตา รอพวกเราไปถึงแล้วค่อยเคลื่อนไหวด้วยกัน”
หลิงหลานกลัวว่าลั่วล่างจะหุนพันพลันแล่น ต่อให้อีกฝ่ายเป็นกลุ่มนักผจญภัยพลเรือนที่มีพลังรบทั่วไป แต่จำนวนคนของพวกเขากลับไม่น้อยเลย ขบวนของลั่วล่างที่มีเพียงสามคนเท่านั้นไปต่อกรกับพวกเขา ยังคงอันตรายมากอยู่ดี
“เข้าใจแล้ว ลูกพี่” ลั่วล่างตอบกลับอย่างเด็ดขาด เขาให้ความสำคัญกับคำสั่งของหลิงหลานมากกว่าฉีหลง ฉีหลงยังสามารถหน้าไหว้หลังหลอกได้ แต่ลั่วล่างรับปากเรื่องอะไรแล้ว เขาย่อมไม่ฝ่าฝืนเป็นอันขาด
ไม่นาน หลิงหลานพาบรรดาสมาชิกทีมมาถึงข้างกายลั่วล่าง จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนมุ่งหน้าต่อตามรูปแบบขบวนเดิม เข้าไปใกล้ใจกลางการต่อสู้โดยที่ทำเป็นเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร แต่ทุกคนแอบทำการเตรียมพร้อมต่อสู้ให้ดี เมื่อพบว่าหัวลูกศรของอีกฝ่ายตรงมาที่พวกเขา ให้กำจัดอีกฝ่ายราวกับสายฟ้าฟาดโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ทันตั้งตัว
“หัวหน้า มีหุ่นรบมาหนึ่งทีม” ทันทีที่ลูกทีมรับหน้าที่เฝ้าระวังสังเกตเห็นขบวนรบของลั่วล่างสามคนก็รีบรายงานให้หัวหน้าทีมที่อยู่ใจกลางการต่อสู้
“กี่คน?” หัวหน้าทีมที่กำลังยิงปืนปราบปรามศัตรูอดนิ่วหน้าไม่ได้ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา
ทีมห้าคนที่ถูกพวกเขาโจมตีจนยับเยินตรงหน้าทำได้เพียงต่อต้านอย่างไร้ประโยชน์ ความจริงอีกฝ่ายโดนพวกเขาเล็งเอาไว้นานแล้ว เนื่องจากตอนที่ฝ่ายตรงข้ามเก็บแหล่งพลังงานที่ล้ำค่าหายากได้ก้อนหนึ่งก็ถูกคนของทีมพวกเขาสังเกตเห็น หัวหน้าทีมรู้ดีว่าแหล่งพลังงานหมายถึงอะไร ขอเพียงพวกเขาครอบครองแหล่งพลังงานก้อนนี้ได้ เมื่อพวกเขามอบให้กับทางกองทัพก็สามารถร่ำรวยในชั่วข้ามคืน ดังนั้นพวกเขาถึงได้ดักซุ่มอยู่ที่นี่มานาน เตรียมตัวสังหารอีกฝ่าย แย่งชิงแหล่งพลังงานที่ ล้ำค่าหายากก้อนนี้
เดิมทีคิดว่าพวกเขาสิบห้าคนล้อมอีกฝ่ายไว้จะต้องทำให้ห้าคนนี้มอบมันออกมาแต่โดยดี ไม่นึกเลยว่าห้าคนนี้กลับหัวแข็งไม่ยอมจำนน เลือกที่จะพินาศไปด้วยกัน ใช้อาวุธร้อนจู่โจมก่อนก้าวหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายโชคร้ายไม่สามารถระเบิดไฮโดรเจนและคลอรีนในอากาศได้ละก็ มีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาจะวอดวายจนหมดแล้ว
แต่ตอนนี้นอกจากคนแรกในหมู่พวกเขาที่ถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถอนตัวออกจากแนวรบไปแล้ว สมาชิกทีมคนอื่นๆ ต่างมีปฏิกิริยาตอบสนองเฉียบไว สังหารทิ้งไปสามคนอย่างรวดเร็วภายใต้การโจมตีอย่างบ้าระห่ำของอีกฝ่าย สองคนที่เหลือรอดคาดว่าน่าจะกำจัดทิ้งได้ในอีกสองสามนาที…
ไม่นึกเลยว่ากำลังจะคว้าชัยชนะมาได้แล้ว กลับมีแขกที่ไม่คาดคิดมาด้วย นี่ทำให้หัวหน้าทีมคนนี้อารมณ์เสียมาก ถึงขนาดที่มีเจตนาชั่วร้าย อยากทำลายทีมหุ่นรบที่เพิ่มปัญหานี้ให้สิ้นซากทันที
“เป็นขบวนรบสามคน” ไม่รู้ว่าลูกทีมเฝ้าระวังทำไมถึงไม่สังเกตเห็นหุ่นรบอีกหกตัวที่อยู่สองฝั่งด้านหลังของลั่วล่าง ดังนั้นเขาจึงรายงานแค่พวกลั่วล่างสามคนเท่านั้น
“เหอะ สามคน? แม่งรนหาที่ตายจริงๆ! ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ถึงเจอกับพวกเรา?” หัวหน้าทีมแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง ตัดสินใจแล้วว่าจะรั้งหุ่นรบที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำสามตัวนี้ไว้ บางที่อาจจะยังได้ทรัพยากรบางอย่างมาด้วยก็ได้
“คาดว่าอีกประมาณหนึ่งนาที” คนที่เฝ้าระวังประเมินจากความเร็วของพวกลั่วล่าง
“ได้ อย่าขวางล่ะ ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาแบบนี้แหละ…” หัวหน้าทีมกัดฟันสั่งการ หลังจากนั้นก็สั่งพวกลูกทีมที่กำลังโจมตีว่า “ทุกคนโจมตีแรงๆ เอาชนะพวกเขาให้ได้ในหนึ่งนาที เหยื่อตัวใหม่ของเรามาแล้ว”
“โอ้ว!” “เข้าใจแล้ว!” “ดี!” “คอยดูฉันเถอะ…” เสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งดังเอะอะขึ้นมาในช่องสื่อสารของทีม เห็นได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มีระเบียบวินัยเข้มงวดอะไร
ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ใคร่ครวญเรื่องปัญหาพลังงานอีกกระหน่ำปืนลำแสงเย็นในมืออย่างรุนแรง ลำแสงเย็นสาดออกไปอย่างบ้าคลั่งตกคลุมศีรษะของสองคนที่เหลืออยู่ เนื่องจากกลัวว่าปืนใหญ่ความร้อนจะระเบิดพลังงานธาตุในอากาศ พวกเขาทุกคนจึงเลือกใช้อาวุธประเภทลำแสงเย็นแบบนี้ การโจมตีที่บ้าคลั่งนี้ทำให้หุ่นรบสองตัวที่เหลืออยู่ไม่มีโอกาสตอบโต้อีกต่อไป ทำได้เพียงเปิดโล่แสงอย่างเต็มกำลัง ต้านทานการโจมตีเหล่านี้ไว้
พวกเขาสองคนรู้ว่าผลสรุปที่กำลังรอคอยพวกเขาคืออะไร ขอเพียงใช้พลังงานของหุ่นรบหมดก็ไม่สามารถปล่อยโล่แสงออกมาได้ พวกเขาจะต้องโดนลำแสงเย็นเหล่านี้โจมตีใส่จนแหลกเป็นเสี่ยงๆ ตายอยู่ที่นี่แน่นอน บทลงโทษการเสียชีวิตในโลกหุ่นรบโหดร้ายอย่างยิ่งยวด เมื่อกลับมาอีกครั้ง หุ่นรบไม่เพียงชำรุดจนหมดแล้ว ยังหักคะแนนสะสมเป็นจำนวนมหาศาลเช่นกัน ผู้ควบคุมหุ่นรบมากมายที่ไม่มีคะแนนเพียงพอ ถึงขนาดต้องเปลี่ยนจากหุ่นรบระดับสูงมาเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับต่ำทันที…
“พี่ใหญ่ ฉันยันพวกเขาไว้เอง นายรีบไปหาคนพวกนั้นแล้วขอความช่วยเหลือเถอะ” สองคนนี้รู้ว่ามีทีมหุ่นรบที่เข้ามาใกล้โดยไม่คาดคิดจากการเตือนของหุ่นรบ หุ่นรบหนึ่งในนั้นรีบตะโกนบอกหุ่นรบอีกตัวทันที
“พวกมันล้อมไว้ทุกด้าน ไม่คิดจะให้พวกเราหลบหนีเลย น้องรอง ต่อให้พวกเราตายก็ต้องตายด้วยกัน ไปด้วยกันกับพี่น้องคนอื่นๆ” พี่ใหญ่ยิ้มด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นทั่วทั้งใบหน้าเขาก็บิดเบี้ยว เอ่ยว่า “แต่ฉันไม่มีทางให้พวกมันบรรลุความต้องการได้” เขาลูบแหล่งพลังงานหายากที่พวกเขาค้นพบในกระเป๋าหุ่นรบ ความคิดบ้าบิ่นผุดขึ้นมาในใจ
พี่ใหญ่พลันถุยน้ำลาย เอ่ยอย่างโหดเหี้ยมว่า “น้องรอง เดิมพันกับฉันสักครั้ง เราต้องยืนหยัดต่อไปให้ได้จนกว่าคนพวกนั้นจะมาถึง…” แววตาของพี่ใหญ่ดำทะมึน ในนั้นแฝงความบ้าคลั่งอยู่ด้วย
ตอนนี้ร่างเงาของขบวนรบลั่วล่างสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแล้ว ในตอนที่ต่างฝ่ายสามารถมองเห็นซึ่งกันและกัน เวลานี้พลังงานของหุ่นรบสองตัวที่เหลืออยู่ในวงล้อมก็อยู่ในสภาพปริ่มจะใช้จนหมดแล้ว
“ยังขาดเวลาอีกนิดหน่อย ขอแค่สิบกว่าวินาทีเท่านั้นก็ได้แล้ว” พี่ใหญ่ตะโกนด้วยความโศกเศร้าโหยหวน เขาไม่ยอมตายอยู่ที่นี่แบบนี้
เวลานี้เอง น้องรองที่ต้านทานลำแสงอยู่ด้านข้างด้วยกันกับเขาพลันกางร่างหุ่นรบออกมา โอบกอดพี่ใหญ่ที่อยู่ข้างกายไว้ ก่อนจะกดหุ่นรบของอีกฝ่ายไว้ใต้ร่างหุ่นรบของเขา ลำแสงเย็นทั้งหมดในตอนนี้มุ่งมาที่หุ่นรบของน้องรอง ผ่านไปสองวินาทีโล่แสงที่เห็นรางๆ ก็แตกออกอย่างรวดเร็ว ลำแสงเย็นทั้งหมดยิงใส่หุ่นรบของเขา
“พี่ใหญ่ ต้องล้างแค้นให้พวกเรานะ!” น้องรองอาศัยความสามารถในการต้านทานของร่างหุ่นรบฝืนยันเอาไว้ได้เกือบสิบวินาทีท่ามกลางเสียงคำรามโหยหวน ท้ายที่สุดหุ่นรบของเขาก็กลายเป็นเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนท่ามกลางลำแสงเย็นที่สาดลงมา
หุ่นรบของพี่ใหญ่ถูกเผยตัวออกมาในที่สุด ขณะเดียวกัน โล่แสงที่เดิมทีดับไปก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และเขาก็เตรียมพร้อมสำหรับการเดิมพันครั้งสุดท้ายแล้วเช่นกัน
“ให้ตายสิวะ โดนมันถ่วงเวลาไปสิบเอ็ดวินาที” หัวหน้าทีมอดโพล่งคำสบถออกมาไม่ได้ และตอนนี้หุ่นรบสามตัวของขบวนรบลั่วล่างก็เข้าสู่ขอบเขตการยิงของแต่ละฝ่ายในวินาทีถัดมา
“เหล่าลู่ พาสองทีมไปจัดการหุ่นรบสามตัวนั้น ทิ้งหุ่นรบสี่ตัวให้ฉันก็ได้แล้ว” หัวหน้าทีมรู้ว่าตัวเองไม่อาจลังเลได้อีกต่อไป ถ้าหากโดนอีกฝ่ายยิงโจมตีขึ้นมา ต่อให้พวกเขาจัดการหุ่นรบสามตัวลงได้ก็จะได้รับความเสียหายเช่นกัน และเขาไม่อยากปล้นแค่ทีมหุ่นรบสองกลุ่มนี้เท่านั้น เขาอยากได้รับมากกว่านี้
ขณะที่เหล่าลู่เพิ่งจะย้ายหุ่นรบสองทีม พี่ใหญ่ที่ฝืนประคับประคองอย่างยากลำบากมาตลอดก็เปิดใช้งานเครื่องยนต์ฉับพลัน เสียงดังสนั่นของเครื่องยนต์ทำให้ทุกคนหน้าเปลี่ยนสี ในเวลานี้เอง พี่ใหญ่ก็บังคับหุ่นรบให้พุ่งออกมาฉับพลัน ดันความเร็วให้ถึงขีดสุดทันที ก่อนจะแล่นไปเผชิญหน้ากับขบวนรบของลั่วล่างอย่างรวดเร็ว
ฉากที่ไม่คาดฝันนี้ทำให้ทีมที่ปล้นพวกเขาอึ้งไป เมื่อตระหนักขึ้นได้ อีกฝ่ายก็ฝ่าออกจากวงล้อมของพวกเขาแล้ว
“สมควรตาย จัดการมันซะ!” หัวหน้าทีมตะโกนอย่างอำมหิต การกระทำของอีกฝ่ายกระตุ้นโทสะเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้เขาอยากจัดการหุ่นรบน่ารังเกียจตรงหน้านี้ก่อนเท่านั้น
หุ่นรบที่หลบหนีไม่ได้เปิดใช้โล่แสงมากินพลังงานที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เขาเพียงแต่เปิดใช้งานเครื่องยนต์สำรองของหุ่นรบทั้งหมดให้ถึงขีดสุด เขาแล่นไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต การกระทำเช่นนี้เป็นการฆ่าตัวตายอย่างหนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงว่าความร้อนของเครื่องยนต์จะระเบิดพลังงานในอากาศได้ ผลสุดท้ายหุ่นรบก็จะระเบิดตัวเอง ตายอยู่ตรงนั้น แต่ในใจของพี่ใหญ่ วิธีการตายแบบนี้ดีกว่าตายในเงื้อมมือของฝ่ายตรงข้ามมากนัก
บางทีสวรรค์อาจจะสงสารเขา เครื่องยนต์ไม่ได้ระเบิดขึ้นมาตลอดทางที่ไป แต่ปืนลำแสงเย็นที่ยิงไล่หลังก็โดนหุ่นรบของเขาตรงๆ ลำแสงระเบิดหุ่นรบจากไหล่ไปจนถึงมือขวาจนแตกละเอียด โชคดีที่การโจมตีพวกนี้ไม่ได้โดนห้องคนขับ ไม่อย่างนั้นเขาคงตายคาที่แล้ว
ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ หุ่นรบของพี่ใหญ่ยังคงเข้าใกล้ขบวนรบของลั่วล่างได้สำเร็จ
“รับไว้ นี่คือแหล่งพลังงานล้ำค่าที่พวกเราหาเจอ ได้โปรดแก้แค้นให้พวกเราด้วย” พี่ใหญ่ตะโกนเสียงดังด้วยความโศกเศร้าในช่องสื่อสารสาธารณะของหุ่นรบ ใช้มือซ้ายของหุ่นรบที่เหลือเพียงข้างเดียวหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าหุ่นรบแล้วโยนไปที่ลั่วล่างอย่างสุดกำลัง
ของบินไปหาลั่วล่างราวกับกระสุนปืนใหญ่ก็ไม่ปาน ลั่วล่างรับมันตามปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ ยังไม่ทันได้มองดู ลำแสงเย็นที่ไล่ยิงตามหลังมาก็ยิงใส่หุ่นรบของพี่ใหญ่อีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่อาจหลบหนีได้พ้น โดนยิงใส่ห้องคนขับของเขาโดยตรง
หุ่นรบระเบิดเสียงดังตูม กลายเป็นกองซากร่วงอยู่ด้านหน้าลั่วล่าง ทำให้คิ้วของลั่วล่างขมวดขึ้นมา
—————————–