แต่สิ่งที่ตอบ M01 กลับเป็นความเงียบงัน ถึงแม้ M01 ไม่เชื่อเรื่องผีสาง ทว่าเรื่องราวที่ไม่อาจใช้หลักเหตุผลมาคาดการณ์ได้ในตอนนี้ทำให้ในใจเขาตื่นตระหนกขึ้นมานิดหน่อยแล้วเหมือนกัน
“อ้าก...” เสียงร้องด้วยความหวาดหวั่นพลันดังขึ้นในช่องสื่อสารของทีม ทำให้หัวใจ M01 เต้นโครมคราม เขาหันหน้าไปทันที แต่แล้วเขาก็เห็นหนึ่งในลูกทีมที่เฝ้าระวังภัยสามคนกำลังชี้ไปยัง M05 ที่นอนอยู่บนพื้น…ต่อให้มองไม่เห็นสีหน้าของลูกทีม แต่ M01 ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวภายในจิตใจเขา
M01 รู้สึกได้ในใจว่าท่าจะไม่ดีอย่างมากแล้ว เนื่องจากจนถึงตอนนี้ M05 ยังไม่ได้ลุกขึ้นมา นี่ย่อมผิดปกติแน่นอน เขาก้าวขึ้นหน้าแล้วนั่งยองๆ ก่อนจะพลิกร่างหุ่นรบของ M05 ถึงค่อยพบว่า หุ่นรบที่ดูเหมือนสมบูรณ์ดี ความจริงแล้วห้องคนขับด้านหน้าถูกมีดคลื่นแม่เหล็กด้ามเล็กประสิทธิภาพสูงแทงตรงไปยังจุดสำคัญ
และเวลานี้เองก็มีรอยเลือดกำลังแผ่กระจายออกไปบนพื้นที่หุ่นรบนอนลงอยู่เมื่อสักครู่นี้ คาดว่าลูกทีมคนนั้นเห็นรอยเลือดค่อย ๆ รินไหลออกมาบนพื้นถึงได้ร้องตกใจกลัวขึ้นมา…
“บัดซบ ออกมาซะ!” M01 เห็นถึงตรงนี้แล้วยังมีอะไรไม่เข้าใจอีกล่ะ เขาลุกขึ้นฉับพลัน ตวาดเสียงดังใส่รอบๆ บริเวณที่เงียบกริบ ไม่มีผีสางอะไรทั้งนั้นแน่นอน ทั้งหมดนี้ต่างเป็นแผนการจงใจของศัตรู ในตอนที่ใช้สิ่งของพวกนั้นดึงดูดความสนใจของพวกเขา ก็ฉวยโอกาสโจมตีสังหาร M05 ที่ไม่มีการเตรียมตัวเลยสักนิดเดียว และทุกอย่างนี้เกิดขึ้นใต้จมูกของพวกเขา
จำเป็นต้องพูดว่า แผนการของศัตรูปราดเปรื่องมาก จนถึงตอนนี้ M01 ยังคิดไม่ออกว่า แท้จริงแล้วศัตรูใช้วิธีการอะไรทำให้ดาบแสงกับปืนลำแสงเกิดการตอบสนองของพลังงานได้ในเวลาที่กำหนดไว้ M01 รู้ดีว่าสถานที่สองแห่งนั้นไม่อาจมีคนไปเปิดสวิชต์พลังงานได้เลย ในเวลาเดียวกันก็ไม่มีการลอบติดตั้งอย่างอื่นด้วย แผนการที่ไม่อาจใช้หลักเหตุผลมาคาดคะเนแบบนี้กลับทำให้ความสนใจของพวกเขาเพ่งรวมกันไปที่นั่นได้สำเร็จ และมองข้าม M05 ที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันเลยสักนิดเดียว ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหาโอกาสสังหาร M05 อย่างไร้สุ้มไร้เสียงได้
ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อยว่า ศัตรูของพวกเขาคือนักลอบสังหารที่มีประสบการณ์เต็มเปี่ยม M01 สงสัยทันทีว่า คนผู้นี้ไม่ใช่ราชันสายฟ้าเฉียวถิงอย่างที่ M03 บอกข่าว พรสวรรค์ของเฉียวถิงอาจจะเป็นปีศาจอัจฉริยะมาก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ แต่ประสบการณ์ต่อสู้ที่โชกโชนแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนทหารสามารถมีได้
“เราติดกับแล้ว ดูท่าอีกฝ่ายใช้ราชันสายฟ้ามาเป็นเหยื่อ ล่อให้คนของเราเข้ามาแล้วสังหารทีละคน” M01 คิดถึงตรงนี้ก็อดกัดฟันกล่าวไม่ได้ แต่พริบตาเดียวเขาก็เอ่ยขัดแย้งตัวเองทันทีว่า “ไม่สิ พวกเขาไม่รู้ว่าเป้าหมายของพวกเราคือ ราชันสายฟ้าเฉียวถิง ไม่มีทางมีแผนการแบบนี้ นอกเสียจากแผนการของพวกเราเล็ดรอดออกไป…ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดเป็นหลุมพรางจริงๆ ละก็ พวกเขาไม่มีทางจัดเตรียมการซุ่มโจมตีแค่คนเดียวแน่นอน”
ถึงแม้ว่า M01 ตื่นตระหนกเล็กน้อยกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่เขายังคงรักษาความเยือกเย็นไว้มากพอ เขาเองก็มองออกว่า น่าจะมีศัตรูแค่คนเดียวที่ซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ เพียงแต่ศัตรูคนนี้แข็งแกร่งมากและอันตรายมาก
“นี่น่าจะเป็นความบังเอิญ…” ทันใดนั้นเอง M01 นึกถึงถังอวี้ อาจารย์ของราชันสายฟ้าเฉียวถิง อัจฉริยะที่ถูกยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญหุ่นรบไพ่ราชา หรือว่าจะเป็นเขา?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ M01 ก็อดหนาวสั่นไม่ได้ ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่มีประสบการณ์โชกโชนอย่างถังอวี้ไม่ใช่มือใหม่ตัวน้อยอย่างเฉียวถึง อาศัยแค่พวกเขาไปต่อกรกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่มีประสบการณ์มากมายย่อมเป็นการส่งตัวเองไปตายสถานเดียว เขารู้ว่าไม่อาจลังเลได้อีกต่อไป เลยรีบแจ้งข่าวว่าเฉียวถิงกับถังอวี้อาจจะอยู่ที่นี่ไปยังกองบัญชาการหลักทันที หวังว่าจะได้รับกำลังสนับสนุนจากกองบัญชาการโดยเร็วที่สุด
“ลูกพี่ ได้รับแหล่งสัญญาณของพวกเขาแล้ว…” หลิงหลานที่คอยซ่อนตัวอยู่ในที่ลับนิ่งเงียบราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังล่าเหยื่อโดยเตรียมตัวสังหารในครั้งเดียว จ้องมอง M01 ที่กำลังตะคอกอย่างรุนแรงอยู่ไม่ไกลด้วยความเย็นชา เมื่อเธอได้ยินเสี่ยวซื่อร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นในห้วงจิตใจ เธอก็อดกำหมัดของตัวเองไม่ได้ เธอรู้ว่าการรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว นับจากนี้ไปก็คือช่วงเวลาล่าเหยื่อ
ที่แท้หลิงหลานกับเสี่ยวซื่อทุ่มเทความคิดวางแผนทุกอย่างนี้ก็เพราะอยากได้แหล่งสัญญาณของฝ่ายตรงข้าม เสี่ยวซื่อกับหลิงหลานไม่เชื่อว่าศัตรูก็เป็นเหมือนกับพวกเขาที่ขาดการติดต่อกับโลกภายนอก เป็นดังที่คาดไว้จริงๆ แผนการนี้ทำให้ M01 ติดต่อกองบัญชาการหลักบนยานอวกาศในน่านฟ้าอวกาศทันทีท่ามกลางความตื่นตระหนก ทำให้เสี่ยวซื่อได้รับแหล่งสัญญาณของฝ่ายตรงข้าม
เสี่ยวซื่อที่ได้รับแหล่งสัญญาณแล้วไม่ได้ถูกปิดผนึกอยู่บนพื้นดินอีกต่อไป เขาถูกคลายผนึกโดยสิ้นเชิงแล้ว กลายเป็นราชาแห่งสัญญาณเสมือนจริงที่ทะยานบนเส้นขอบฟ้าอย่างอิสระเสรี
หลังจากที่ M01 ส่งข่าวสำเร็จแล้ว อารมณ์เพิ่งจะผ่อนคลายลง เขาก็สังเกตเห็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อพลังงานความร้อนที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นจุดหนึ่งในเรดาร์อีกครั้ง มือของ M01 ชะงักโดยพลัน ความหวาดระแวงแล่นวาบขึ้นในใจ หรือว่าฝ่ายตรงข้ามยังอยากหลอกล่อเขา ฉวยโอกาสตอนที่เขาจู่โจมใส่จุดที่ตอบสนองต่อพลังงานความร้อน ลอบโจมตีลูกทีมของเขาอีกครั้ง?
เมื่อในใจ M01 เกิดความสงสัยขึ้นมา การเคลื่อนไหวก็พลันหยุดชะงักลง ไม่ได้จู่โจมโดยไม่ลังเลใส่จุดที่ตอบสนองต่อพลังงานความร้อนเหมือนสองครั้งก่อนหน้านี้แล้ว และในชั่วพริบตานี้เอง ตำแหน่งที่เดิมทีปรากฏพลังงานความร้อนซึ่งก็คือด้านหลังป่าทึบทางด้านซ้ายของพวกเขา จู่ๆ ก็มีหุ่นรบตัวหนึ่งบินออกมา พริบตาเดียวก็มาถึงด้านหลังตัว M01…ใช่แล้ว เป้าหมายของอีกฝ่ายไม่ใช่ M01 หากแต่เป็นลูกทีมสามคนด้านหลังเขาซึ่งรับหน้าที่เฝ้าระวังในทิศทางที่แตกต่างกัน
เนื่องจากไม่มีการออกคำสั่งของ M01 ลูกทีมทั้งสามคนเลยไม่ได้ระวังจุดนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อสังเกตเห็นหุ่นรบตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างโหดเหี้ยม ปฏิกิริยาตอบสนองเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขาก็คือเหนี่ยวไกปืนลำแสงในมืออย่างสุดชีวิต พยายามใช้การกระหน่ำยิงอย่างครอบคลุมบีบให้อีกฝ่ายกลับไป…
แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเสียแรงเปล่า หุ่นรบตัวนั้นพุ่งกายฉับพลัน ทั่วทั้งร่างของหุ่นรบแล่นวาบออกเป็นภาพเบลอ กระสุนปืนที่พวกเขามองเห็นเหมือนกระหน่ำยิงถี่ยิบนั้นยิงโดนใส่แค่เงาเลือนรางสายหนึ่งของอีกฝ่ายเท่านั้น พริบตาเดียว หุ่นรบตัวนั้นก็มาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว
“ปังๆๆ!” เสียงกระทบกันอย่างรุนแรงสามเสียงทำให้จิตใจของ M01 สั่นไหว เสียงร้องโหยหวนสามเสียงดังติดต่อกันทันทีในช่องสื่อสารของทีม M01 เสียงร้องโหยหวนสามเสียงที่ดังขึ้นแทบจะพร้อมกันนี้ทำให้มือของ M01 ที่เล็งใส่ฝ่ายตรงข้ามหมายจะยิงโจมตีสั่นระริกโดยพลัน…
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการสั่นเทานี้หรือเปล่า การโจมตีที่แต่เดิมไม่เคยพลาดเป้าถึงได้ยิงเบี่ยงออกไป…หุ่นรบตัวนั้นโจมตีสำเร็จในครั้งเดียวแล้วก็กระโดดถอยหลังออกไปทันที ก่อนจะตกลงไปในป่าทึบด้านหลัง อันตรธานหายไปจากบนเรดาร์ของ M01 อย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง…
M01 จ้องมองตำแหน่งเบื้องหน้านี้ นอกจากมีเพียงเสียงสายลมรวมถึงเสียงกระสุนปืนใหญ่ที่ดังมาจากที่ไกลๆ แล้วก็ไม่มีเสียงอื่นใดในป่าทึบอีก เขารู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งร่าง ไอเย็นสายหนึ่งจู่โจมเข้าที่หัวใจ…ลูกทีมของเขาเริ่มตั้งแต่ M03 ได้นอนลงไปติดต่อกันอีกสี่คนในที่แห่งนี้ หน่วยรบที่เดิมทียังครบหกคน บัดนี้เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
เขาอดทอดสายตาไปยังลูกทีมสามคนที่เพิ่งพลีชีพไปไม่ได้ แววตาพลันหดลง ลูกทีมทั้งสามคนเสียชีวิตอย่างน่าอัดอั้นตันใจมากเหลือเกิน พวกเขาไม่มีสิ่งที่เรียกว่าโอกาสตอบโต้ก็ถูกอีกฝ่ายบดขยี้ทั้งเป็นด้วยพลังอันป่าเถื่อน เวลานี้ห้องคนขับของหุ่นรบสามตัวนั้นบุ๋มลึกเข้าไป M01 ไม่จำเป็นต้องมองให้ละเอียดก็รู้ว่า ตอนนี้คนด้านในอาจจะกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว ต่อให้ไม่ไปถึงขั้นนั้น พวกเขาก็เอาชีวิตรอดไม่ได้แน่นอน
วิธีการตายแบบนี้ยืนยันว่าฝ่ายตรงข้ามสังหารพวกเขา ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสูงอะไรเลย อาศัยแค่ความได้เปรียบของตัวหุ่นรบรวมถึงดาบยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวเล่มนั้นก็สามารถสังหารลูกทีมสามคนได้อย่างง่ายดาย เวลานี้ M01 มองเห็นชัดเจนแล้วว่า หุ่นรบตัวนั้นคือหุ่นรบไพ่ราชาจริงๆ ถึงแม้มันไม่ได้ปรับแต่งให้ทรงพลังจากกองทัพ หากแต่เป็นหุ่นรบฝึกหัดของโรงเรียนทหาร ทว่าเนื่องจากความเก่งกาจของผู้ควบคุม เขายังคงทำให้หุ่นรบไพ่ราชาที่มีเพียงการปรับแต่งพื้นฐานแสดงกำลังรบที่ยอดเยี่ยมออกมา—ราชาแห่งการเดิมพันชีวิตรบประชิดตัว แข็งแกร่งน่าหวาดกลัวมากอย่างที่คิดเอาไว้เลย ทำให้หัวใจของเขาเกิดความขลาดเขลาขึ้นมา
ความต่างของพลังพวกเขากับหุ่นรบไพ่ราชาตัวนั้นมากเกินไปจริงๆ ความเจ็บปวดขมขื่นปรากฏขึ้นในใจ M01 เขารู้ดีว่า หากอีกฝ่ายอยากสังหารเขา ขอแค่ดึงดันโจมตีเขาสองครั้งก็ได้แล้ว เมื่อถูกอีกฝ่ายประชิดตัว เขาย่อมไม่มีความหวังในการรอดชีวิตแล้ว
M01 มองเรดาร์ที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ในใจก็เพ้อฝัน หวังว่าผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาคนนั้นจะออกไปจากที่นี่แล้ว…นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความคิดขี้ขลาดแบบนี้ในสนามรบ เมื่อก่อนต่อให้สนามรบอันตรายอีกสักแค่ไหน เขาก็ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวเลย M01 รู้ว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว หากต่อกรกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาคนนั้นอีก เกรงว่าเขาจะไม่มีความกล้าที่จะตัดสินใจต่อสู้จนตัวตาย ต่อให้ตอนนี้เขามีความปรารถนาที่อยากจะหนีไป ทว่าความหยิ่งในศักดิ์ศรีของนักรบทำให้เขายังคงอยู่ที่นี่ รอคอยผลลัพธ์ในตอนสุดท้าย
“เจาะสัญญาณของอีกฝ่ายแล้วหรือยัง?” หลิงหลานที่ซุ่มโจมตีอีกครั้งมองเหยื่อที่สูญเสียความเยือกเย็นคนนั้นด้วยความใจเย็น พลางเอ่ยถามเสี่ยวซื่อในห้วงจิตใจ
“เจาะแล้ว!” เสี่ยวซื่อชูสองมือด้วยความตื่นเต้นบ่งบอกถึงความกระตือรือร้นของเขา “เขานึกว่าลูกพี่คือถังอวี้ อาจารย์หุ่นรบไพ่ราชา…คิดว่าเฉียวถิงก็อยู่ที่นี่ด้วย เลยยื่นคำขอกำลังสนับสนุนไปที่กองบัญชาการแล้ว”
เมื่อได้ยินชื่อถังอวี้ ในสมองของหลิงหลานก็อดผุดภาพอาจารย์ที่เป็นกรรมการตัดสินบนสนามประลองที่ลอบเข้าข้างพวกเธอคนนั้นไม่ได้ เขาไม่ได้เข้าข้างกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงเพราะว่าเป็นอาจารย์ของราชันสายฟ้าเฉียวถิง ควรพูดว่า การที่กลุ่มนักเรียนใหม่ของพวกเธอสามารถได้รับชัยชนะ ส่วนใหญ่แล้วก็มีสาเหตุมาจากการดูแลคอยเป็นหูเป็นตาของเขา
“นี่หมายความว่าฝ่ายตรงข้ามจะส่งยอดฝีมือมาใช่หรือเปล่า?” สีหน้าของหลิงหลานเคร่งขรึมขึ้นมา เธออยากประมือกับยอดฝีมืออย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดยอดฝีมือมาเป็นกลุ่ม เธอก็ไม่สามารถทำตามแผนการเดิม อยู่เฝ้าต้นไม้รอกระต่าย[1]ที่นี่ได้แล้ว
“แน่อยู่แล้วสิ แต่ฉันได้รับแหล่งสัญญาณติดต่อของพวกเขามาแล้ว ฉันจะคอยเฝ้าตรวจตราอีกฝ่ายเอาไว้ รู้ได้ชัดเจนแน่นอนว่าอีกฝ่ายส่งคนมาเท่าไหร่” เสี่ยวซื่อตอบด้วยความมั่นใจ เขาไม่มีทางให้ลูกพี่ของเขาตกอยู่ในอันตรายหรอกนะ
“งั้นก็ดี ในเมื่อจัดการทุกอย่างแล้ว ฉันก็จะกำจัดหมอนี่ล่ะ” คำตอบของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานวางใจ ในเมื่อได้รับคำตอบที่เธอต้องการแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บศัตรูที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดตรงหน้าเธออีกต่อไป…หลิงหลานกวัดแกว่งดาบยักษ์โดยไม่ลังเล เล็งใส่ศัตรูที่กำลังพยายามหาตัวเธอผู้นั้น
M01 จ้องเรดาร์ของตัวเองด้วยความรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าตัวเองคาดหวังให้มีปฏิกิริยาสักเล็กน้อยบนเรดาร์หรือไม่ ในตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีการตอบสนองของพลังงานปรากฏขึ้นบนเรดาร์หลายจุดพร้อมกัน ตำแหน่งหลายจุดอยู่ใกล้เขามาก ถึงขนาดที่มีสามจุดอยู่ข้างกายเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เขาชูปืนสองกระบอกขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เล็งไปยังตำแหน่งทั้งหลายนั้นก่อนจะยิงสองมือ สาดพลังงานลำแสงในปืนพกออกไปอย่างบ้าคลั่ง…
———————
[1] หมายถึง การได้ผลประโยชน์โดยไม่คิดไม่ฝันหรือได้มาโดยที่ไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย