ถ้าหากคนที่เผชิญหน้าด้วยคือผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีทักษะการควบคุมทั่วไป หรือว่าเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่ขาดประสบการณ์ละก็ บางทีเขาอาจจะกอบกู้สถานการณ์ได้ ทว่าศัตรูของเขาไม่ใช่ทั้งสองแบบ หลิงหลานมีทักษะที่เธอปรารถนา ถ้าเป็นเรื่องประสบการณ์ หลังจากการทรมานเคี่ยวกรำอยู่หลายปีของมิติการเรียนรู้ ต่อให้เป็นมือใหม่ด้านหุ่นรบที่อ่อนหัดอีกสักแค่ไหน ก็เปลี่ยนเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีประสบการณ์โชกโชนได้
ในตอนที่ผู้ควบคุมหุ่นรบเพิ่งจะให้หุ่นรบดีดตัวขึ้นมา แผ่นหลังของเขาก็โดนโจมตีอย่างแรงอีกครั้ง การโจมตีในครั้งนี้ยังทรงพลังมากกว่าเมื่อสักครู่นี้ ซัดหุ่นรบจนล้มลงไปที่พื้นอย่างหนักหน่วงทันที ไม่ให้อีกฝ่ายมีโอกาสลุกขึ้นมาอีก
‘ตูม’ ร่างมหึมาของหุ่นรบกระแทกลงกับพื้น ฝุ่นละอองกระเซ็นขึ้นมานับไม่ถ้วน…เสียงที่ดังสนั่นนี้ดึงดูดความสนใจของหุ่นรบหลายตัวที่กำลังต่อสู้บนฟ้า พวกเขาเห็นสถานการณ์การรบด้านล่าง หุ่นรบระดับพิเศษทั้งสองตัวก็เซ่อซ่าไปทันที พวกเขาอดร้องตกใจขึ้นมาไม่ได้ว่า “หัวหน้า!” การเคลื่อนไหวต่อสู้ช้าลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่าเพิ่งพูดถึงหลี่ซื่ออวี๋ หานจี้จวินและหลินจงชิงสามคนที่ต่อสู้กับหุ่นรบระดับพิเศษหนึ่งในนั้น ฉีหลง ลั่วล่างและเซี่ยอี๋ที่ร่วมมืออย่างรู้ใจกันสามคนเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเฉื่อยลงก็แทบจะตระหนักได้พร้อมกันว่าโอกาสของพวกเขามาแล้ว…
คนที่มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมากที่สุดคือฉีหลง เจ้าหมอนี่ที่ครอบครองพรสวรรค์สัญชาตญาณสัตว์ป่าแทบจะสังเกตเห็นช่องโหว่ของคู่ต่อสู้ได้ทันที เขาพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก ดาบแสงโจมตีใส่ดาบแสงที่อืดอาดลงของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากเบนความสนใจไปยังจุดอื่น ดาบแสงของหุ่นรบระดับพิเศษถูกการฟันที่เตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ของฉีหลงผลักออกไปทันที ในตอนที่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ทันมีปฏิกิริยากลับมา ดาบแสงของฉีหลงก็ฟันอย่างรุนแรงไปยังหน้าอกของหุ่นรบที่เปิดกว้าง…
‘ซี่…’ เสียงเสียดแทงหูพลันดังขึ้น นี่เป็นเสียงดาบแสงกับโล่แสงหุ่นรบผลาญพลังงานของกันและกัน ประกายไฟกระเซ็นสาดออกไปทั่วตรงจุดที่ทั้งสองฝ่ายสัมผัสกัน
หุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปในพริบตาที่ถูกโจมตี ในใจตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่พอเห็นโล่แสงหุ่นรบแสดงผลการป้องกันขึ้นมาก็ใจเย็นลงทันใด เขาเห็นอีกฝ่ายพยายามกดดาบแสงลงอย่างสุดชีวิต พยายามผลาญพลังงานหุ่นรบของเขา เขาก็รู้ว่าโอกาสโต้กลับของตัวเองมาถึงแล้ว แววตามีความอำมหิตพาดผ่าน ก่อนจะบังคับมือขวาของหุ่นรบ กุมดาบแสงฟันใส่อีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม….
‘ตูม’ ดาบแสงยังไม่ทันได้เหวี่ยงมาถึงเบื้องหน้าก็ถูกสกัดไว้กลางทาง ไม่นึกเลยว่าหุ่นรบอีกตัวก็พุ่งเข้ามาเช่นกัน ใช้ดาบแสงของเขาขวางดาบแสงของตนไว้ ไม่เพียงแค่นั้น อีกฝ่ายชูมืออีกข้างเล็งมาที่ห้องคนขับของเขาในเวลาเดียวกัน ปืนลำแสงที่เดิมทีเขาไม่เห็นอยู่ในสายตากระบอกนั้น เวลานี้ดูใหญ่มหึมาน่าสะพรึงกลัว
ปากกระบอกปืนเบ่งบานรัศมีแสงสีขาว ยิงใส่หุ่นรบของเขาอย่างหนักหน่วง ถึงแม้โล่แสงของหุ่นรบผู้ควบคุมระดับพิเศษจะแข็งแกร่งกว่าลำแสงที่มาจากหุ่นรบระดับสูง ลำแสงหนึ่งสายไม่อาจทำให้หุ่นรบของเขาได้รับความเสียหาย แต่เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ยิงลำแสงมาแค่ครั้งเดียว ถ้าหากเขาไม่สามารถสลัดสองคนนี้ได้พ้นละก็ ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมต้องเป็นพลังงานของโล่แสงถูกผลาญจนหมด เขาถูกยิงจนเสียชีวิตแน่นอน
ไม่มีใครอยากตาย เขาเองก็ไม่อยากเหมือนกัน เขารู้ว่ามีเพียงเร่งความเร็วถอยหลัง สลัดหลุดจากการติดตามของพวกเขาถึงจะมีโอกาสรอด ดังนั้นเขาจึงเปิดใช้งานเครื่องยนต์ไอพ่นทั้งหมด ดันความเร็วไปจนถึงขีดสุด ขอแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น เขาก็สามารถหลุดพ้นจากการโจมตีของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว…ขณะที่ตัวชี้บอกความเร็วของหุ่นรบย้ายไปจนถึงขีดสุด หุ่นรบก็ทะยานไปข้างหลังทันใด…เขาเห็นหุ่นรบของตนหนีพ้นจากดาบแสงของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ต่อให้พวกเขาเปิดใช้งานเครื่องยนต์ไอพ่นสุดความสามารถ แต่ระดับของหุ่นรบทำให้พวกเขาไล่ตามความเร็วของเขาไม่ทัน
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษโล่งใจในที่สุด เขารู้ว่าภัยอันตรายของเขากำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว ขอเพียงเขาหนีวิกฤติครั้งนี้ไปได้ เขาจะต้องสังหารไอ้ระยำพวกนี้ให้ได้…ในตอนนี้เอง แผ่นหลังของหุ่นรบเขาพลันถูกพลังมหาศาลสายหนึ่งกระแทกใส่ หุ่นรบที่กำลังถอยหลังอย่างรวดเร็วสุดขีดหยุดชะงักลงทันที เวลานี้เอง ดาบแสงที่เพิ่งจะสลัดหลุดออกก็ฟันโดนหุ่นรบของเขาอีกรอบ และปืนลำแสงอีกกระบอกก็เหนี่ยวไกอีกครั้งโดยไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย…
“เยี่ยมมาก เซี่ยอี๋!” ฉีหลงอดตะโกนเสียงดังขึ้นมาไม่ได้ ที่แท้เซี่ยอี๋ขับหุ่นรบจู่โจมจากทางด้านหลัง ทันใดนั้นเขาพบว่าอีกฝ่ายถอยหลังด้วยความไวสุดขีด เขาก็เปลี่ยนการเคลื่อนไหวโดยพลัน เอาลำตัวด้านข้างกระแทกใส่หุ่นรบระดับพิเศษจนชะงักงันทันที…
โจมตีจากทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ต่อให้พลังงานของโล่แสงหุ่นรบระดับพิเศษมีเยอะอีกแค่ไหน ก็ทนรับการโจมตีอย่างบ้าคลั่งจากดาบแสงและปืนลำแสงของคนทั้งสามไม่ไหวเหมือนกัน ในที่สุดแสงเรืองรองของโล่แสงหุ่นรบก็สลัวลง ท้ายที่สุดก็หายไปอย่างสิ้นเชิง…
ฉีหลงทิ้งดาบแสงของตัวเองที่เปลี่ยนเป็นมืดสนิทสิ้นแสงเช่นเดียวกันลงไปโดยไม่ลังเล ขณะเดียวกันก็ชักมีดคลื่นแม่เหล็กออกมาสองเล่มจากต้นขาทั้งสองข้างของหุ่นรบ ฉีหลงกุมไว้อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เสียบมีดคลื่นแม่เหล็กสองเล่มเข้าไปในห้องคนขับของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง…
ห้องคนขับที่ไม่มีโล่แสงป้องกันแล้ว ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นหุ่นรบระดับพิเศษ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการแทงเข้าไปของมีดคลื่นแม่เหล็กได้…
“อ้าก...” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษร้องโหยหวน ฉีหลงเลือกตำแหน่งได้แม่นยำมาก แทงตรงไปที่จุดสำคัญของอีกฝ่าย ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษรู้ว่าตัวเองน่าจะรอดพ้นได้ยากแล้ว เขายิ้มอย่างปวดร้าวใจ ก่อนจะดึงระบบระเบิดตัวเองอย่างอำมหิต...
สัญชาตญาณสัตว์ป่าของฉีหลงเฉียบไวมาก เมื่ออีกฝ่ายดึงระบบระเบิดตัวเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงวิกฤติ รีบตะโกนดังลั่นว่า “หลบเร็วเข้า!”
ทั้งสามคนบินออกไปยังคนละทิศทางพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พวกเขาเพิ่งจะบินออกไปได้ไม่กี่เมตร หุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นก็ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ การระเบิดตัวเองของหุ่นรบระดับพิเศษไม่เหมือนกับระดับการระเบิดตัวเองของหุ่นรบทั่วไป ถึงแม้ทั้งสามคนจะกางโล่แสงให้เปิดใช้งานจนถึงค่าป้องกันสูงสุดในชั่วพริบตาแล้วก็ตาม ทว่ามันไม่อาจหักล้างพลังงานจากการระเบิดเหล่านี้ได้ทั้งหมดอยู่ดี หุ่นรบทั้งสามตัวพลันสูญเสียการควบคุม ก่อนจะตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรงในท้ายที่สุด
คนที่ย่ำแย่กว่าใครเพื่อนคือเซี่ยอี๋ เนื่องจากเขาต้องยันอีกฝ่ายเอาไว้ เวลาในการหลบหนีจึงช้าที่สุด แรงระเบิดที่ได้รับเลยมากที่สุดด้วย เขาถูกพลังสายนี้ดีดกระเด็นเข้าไปในป่าทึบทันที ก่อนจะชนกับต้นไม้ติดต่อกันหลายต้น ถึงค่อยร่วงลงพื้น…
แม้ว่าฉีหลง ลั่วล่างและเซี่ยอี๋ใช้วิธีการบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่ายมาจัดการหุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้น แต่พวกเขาก็จัดการหุ่นรบตัวนั้นได้ในที่สุด อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อไม่มีหลี่หลานเฟิง เหลือเพียงแต่หลี่ซื่ออวี๋ หลินจงชิงกับหานจี้จวินโจมตีขนาบข้างหุ่นรบระดับพิเศษอีกตัว สถานการณ์ของพวกเขาจึงยากลำบากมาก ถึงขนาดท่าไม่ดีอยู่บ้าง ถ้าหากไม่ใช่เพราะหลิงหลานล้มผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา ทำให้หุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นตกตะลึงจนหยุดชะงักการโจมตีในมือ คุมเชิงกับพวกหลี่ซื่ออวี๋กลางอากาศละก็ พวกเขาคงไม่สามารถได้รับโอกาสพักหอบหายใจช่วงเวลาสั้นๆ
และการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ทำให้พวกเขาสามคนรู้ว่าพวกเขาห่างชั้นกับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่มีประสบการณ์โชกโชนมาก เริ่มแรกหากไม่ได้การปกป้องอย่างสุดชีวิตของหลี่หลานเฟิงละก็ บางทีในหมู่พวกเขาสามคนอาจจะมีคนถอนตัวออกจากสนามรบไปแล้ว ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ หลี่หลานเฟิงที่รับหน้าที่เป็นผู้โจมตีหลักมาโดยตลอดก็ยังถูกสอยร่วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี…
หลี่ซื่ออวี๋จ้องมองหุ่นรบระดับพิเศษตรงหน้า ในใจลอบเคืองแค้นที่ตนเองไร้ความสามารถ เขาช่วยเหลือญาติผู้พี่คนโตของเขาไม่ได้แล้ว และก็ช่วยหลี่หลานเฟิงลูกหลานตระกูลหลี่เหมือนกันไม่ได้ด้วย ถ้าหากความสามารถในการควบคุมหุ่นรบของเขาเก่งกาจกว่านี้อีกหน่อย หลี่หลานเฟิงก็คงไม่ต้องปกป้องพวกเขาจนถูก...หลี่ซื่ออวี๋หวังเพียงอย่างเดียวว่า ลำแสงสองสายในตอนสุดท้ายนั้นจะยิงไม่โดนหลี่หลานเฟิง ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าความหวังที่เกินตัวเช่นนี้แทบจะเป็นไปได้น้อยเหลือเกิน…
เช่นเดียวกัน ขณะที่หานจี้จวินที่หอบหายใจแรงในห้องคนขับได้พักผ่อนระยะเวลาสั้นๆ ในใจเขาตอนนี้กำลังเคียดแค้นตัวเอง พูดตามตรง หลี่หลานเฟิงทำเพื่อช่วยเหลือเขา เดิมทีคนที่ถูกโจมตีจนร่วงลงพื้นควรจะเป็นเขา ลำแสงสองสายในตอนสุดท้ายนั้นก็ควรเป็นเขาที่ได้รับ แต่ทุกอย่างนี้กลับให้หลี่หลานเฟิงรับแทน หากบอกว่าตอนแรกหานจี้จวินยังสงสัยว่าหลี่หลานเฟิงเข้าร่วมกลุ่มนักเรียนใหม่จะมีแผนการร้ายอะไรหรือเปล่า เวลานี้เขาไม่คิดแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ลองคิดดูสิ ไอ้โง่หน้าไหนจะโง่เง่าแฝงตัวอยู่ในกลุ่มศัตรูแล้วยังเสียสละตัวเองตายแทนได้อีกล่ะ? เขาเข้าใจหลี่หลานเฟิงผิดจริงๆ หานจี้จวินคิดอย่างนึกเสียใจ
ส่วนหลินจงชิงก็จ้องเขม็งไปที่หุ่นรบระดับพิเศษ ตอนที่เขาฟื้นฟูพลังกายนั้น เขากลับถามตัวเองเงียบๆ ว่า ถ้าหากเขาเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาจะทำอย่างที่หลี่หลานเฟิงเลือกเช่นนี้ได้หรือเปล่า?
หลินจงชิงพบว่าเขาไม่สามารถตอบได้อย่างเด็ดขาด นี่ทำให้เขาละอายใจอยู่บ้าง หลี่หลานเฟิงเพิ่งจะเข้าร่วมทีมก็สามารถเห็นเพื่อนร่วมทีมเป็นพี่น้องของตัวเองได้ ปกป้องพวกเขาโดยไม่เสียดายชีวิตตัวเอง ส่วนเขาติดตามลูกพี่หลาน เข้าร่วมทีมมานานขนาดนี้กลับไม่แน่ใจว่าตัวเองสามารถทำได้…นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างเขากับหลี่หลานเฟิงใช่ไหม? อีกฝ่ายเป็นคนที่เสียสละจริงใจต่อผู้อื่น สดใส เป็นกันเองเหมือนกับรอยยิ้มของเขา ไม่ใช่คนที่จิตใจต่ำช้า มีอุบายนับไม่ถ้วน ออกมาจากห้องทดลองที่ชั่วร้ายอย่างเขาสามารถเทียบได้เลย…
น่าอิจฉาเสียจริง!
หลินจงชิงคิดพลางยิ้มขื่น ความรู้สึกที่หลี่หลานเฟิงมอบให้คนอื่นนั้นแตกต่างจากลูกพี่หลานอย่างสิ้นเชิง ลูกพี่หลาน แค่นั่งเฉยๆ ไม่พูดจาก็มีพลังอำนาจแล้ว ทอดมองครั้งเดียวก็ทำให้คนเกิดความหวาดกลัว ทรงอำนาจเด็ดขาดอย่างไม่เป็นสองรองใคร เขาทำให้ผู้ที่ติดตามเขาเกิดความรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องเกรงกลัว ไม่ต้องถอยหนี ไม่ต้องลังเลใจ และยิ่งไม่ต้องสับสน เขาเป็นเหมือนกับเสาค้ำสมุทร เมื่ออยู่ข้างกายเขาไม่ต้องหวาดกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไร ขอเพียงติดตามเขาอย่างแน่วแน่ ลูกพี่หลานก็สามารถพาพวกเขาเดินไปยังโลกใบใหม่ที่ยิ่งใหญ่ นี่ก็คือความสามารถของผู้ครองอำนาจ ทำให้คนอดเชื่อมั่น ฝากความหวัง เดินตามรอยเท้าของเขาไม่ได้
แต่หลี่หลานเฟิงเห็นครั้งแรกเหมือนกับพี่ชายข้างบ้าน อบอุ่นเป็นกันเองทำให้คนไม่อาจปฏิเสธได้ เขาที่ต้อนรับด้วยรอยยิ้มตลอดกาลทำให้คนอดเกิดความรู้สึกดีๆ ไม่ได้ เขาได้รับความเชื่อใจของคุณอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว เห็นเขาเป็นเพื่อนและคนใกล้ชิดที่สำคัญ….ก็เหมือนกับตอนนี้ กระทั่งเขาที่ไม่ได้นับว่ามีปฏิสัมพันธ์กับหลี่หลานเฟิงมากนัก ในใจเขาก็ยอมรับอีกฝ่ายจนหมดแล้ว แน่นอนว่าการกระทำทั้งหมดของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่มีคำพูดอะไรจะเอ่ยได้จริงๆ
บางคนมีความสามารถทำให้ผู้อื่นชื่นชอบโดยธรรมชาติ ก็เหมือนกับหลี่หลานเฟิงคนนี้!
ความคิดเหล่านี้แค่แล่นวาบขึ้นในสมองของหลินจงชิงเท่านั้น และการพักหอบหายใจสั้นๆ ก็สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกฉีหลงสามคนเริ่มเปิดฉากโจมตีผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษอย่างดุเดือด ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่คุมเชิงกับพวกหลี่ซื่ออวี๋เห็นสถานการณ์ของเพื่อนร่วมรบดูท่าจะไม่ดี ก็คิดจะไปช่วยเหลือ แต่พวกหลี่ซื่ออวี๋จะให้อีกฝ่ายบรรลุความปรารถนาได้อย่างไร เมื่อเห็นอีกฝ่ายคิดจะช่วยเหลือผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษอีกคน พวกเขาก็พุ่งเข้าไปทันทีโดยไม่ใคร่ครวญเลยสักนิดเดียว แล้วขัดขวางหุ่นรบระดับพิเศษตัวนี้ไว้…
พวกหลี่ซื่ออวี๋สามคนทุ่มกำลังสุดความสามารถ ในที่สุดก็สกัดหุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นได้หลายสิบวินาที และช่วงเวลาหลายสิบวินาทีนี้กลับประกาศจุดจบของหุ่นรบระดับพิเศษอีกตัว