เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมของตนระเบิดตัวตาย หุ่นรบระดับพิเศษที่เหลืออยู่ตัวนั้นก็คลุ้มคลั่งในที่สุด ดวงตาสองข้างของเขาแดงฉาน จ้องมองหุ่นรบระดับสูงสามตัวนี้ที่คอยก่อกวนเขา ไม่ให้เขาไปช่วยเหลือ จิตสังหารในใจพุ่งไปถึงขีดสุด เขาจะต้องฆ่าพวกสวะเหล่านี้เพื่อล้างแค้นให้กับเพื่อนร่วมรบของเขาให้จงได้!
ความโกรธเกรี้ยวทำให้คนเราเกิดผลลัพธ์สองแบบ หนึ่งคือสูญเสียความเยือกเย็นเพราะความโกรธ ทำให้ไม่สามารถแสดงพลังรบแต่เดิมได้ตามปกติ ความโกรธประเภทนี้เป็นพลังด้านลบ เป็นสิ่งที่ผู้ควบคุมหุ่นรบต้องหลีกเลี่ยงอย่างสุดความสามารถ แต่อีกประเภทกลับทำให้พลังรบของตัวเองเพิ่มขึ้นสองเท่าเพราะความโกรธ ความโกรธประเภทนี้ถูกเรียกว่า การระเบิดพลัง เมื่อผู้ควบคุมหุ่นรบเลื่อนขั้นไปถึงผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ พวกเขาจะต้องทำการฝึกปรือการระเบิดพลังแบบนี้…
ดังนั้น พลังรบของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนี้เลยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของเขา นี่ทำให้หลี่ซื่ออวี๋ หานจี้จวินและหลินจงชิงสามคนที่เดิมทีอยู่ในสภาพเสียเปรียบยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากกว่าเดิม…
“ระวังนะ หลี่ซื่ออวี๋…” เมื่อเห็นหานจี้จวินถูกฝ่ายตรงข้ามซัดกระเด็น หลี่ซื่ออวี๋เพิ่งจะเตรียมตัวไปสนับสนุนก็ได้ยินหลินจงชิงตะโกนด้วยความหวาดหวั่นอยู่ด้านข้าง
หลี่ซื่ออวี๋เพิ่งสังเกตเห็นว่า หุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นมาถึงเบื้องหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางทีอาจเป็นเพราะเมื่อสักครู่นี้ความสนใจของเขาอยู่ที่หานจี้จวิน เลยไม่ทันได้สังเกตเห็นจุดนี้ แม้ว่าหลินจงชิงจะเตือนเสียงดัง และเขาก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกัน ทว่าเขาไม่มีเวลาหลบแล้ว…
หลี่ซื่ออวี๋กัดฟัน เปิดใช้งานโล่แสงของหุ่นรบจนถึงค่าสูงสุด เตรียมฝืนรับการโจมตีของอีกฝ่ายในครั้งนี้…
‘โครม’ หลี่ซื่ออวี๋รู้สึกได้เพียงหุ่นรบของตนถูกพลังมหาศาลสายหนึ่งกระแทกใส่ ร่างของเขากระเด็นลอยออกด้านข้าง หุ่นรบที่โดนการกระแทกจนสูญเสียความสมดุล ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของหลี่ซื่ออวี๋เกิดภาวะมืดมัวไปชั่วขณะ
ทว่าหลายปีมานี้หลี่ซื่ออวี๋แอบฉีดยายีนดัดแปลงให้ตัวเอง ถึงแม้คุณสมบัติร่างกายจะเทียบกับสัตว์ประหลาดอย่างฉีหลงไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับคนที่มีพรสวรรค์ด้านร่างกายทั่วไปแล้ว เขาไม่ได้ด้อยกว่าที่ไหนเลย เวลาครึ่งวินาทีก็กลับคืนเป็นปกติ หลี่ซื่ออวี๋ที่สูญเสียสมดุลไม่ได้แตกตื่นลนลาน เขาโบกสะบัดนิ้วมืออย่างเยือกเย็น บังคับหุ่นรบ พยายามควบคุมหุ่นรบด้วยความเร็วสูงสุด
หลี่ซื่ออวี๋รู้ดีว่า มีเพียงควบคุมหุ่นรบได้เท่านั้น เขาถึงจะมีโอกาสโต้กลับ ขณะที่หลี่ซื่ออวี๋เพ่งสมาธิกับการควบคุมด้วยความใจเย็นนั้น เขาไม่ลืมใช้หางตาเหลือบมองสถานการณ์รอบตัวหุ่นรบ เขาจำเป็นต้องรู้สถานการณ์ด้านนอก รวมถึงศัตรูของเขาว่าบุกโจมตีตามมาหรือเปล่า…
มือของเขาพลันหยุดชะงักภายใต้การเหลือบมองแวบหนึ่ง ดวงตาสองข้างที่เดิมทีเยือกเย็นเปลี่ยนเป็นแดงในพริบตา กระบอกตาฉ่ำรื้นขึ้นมา ที่แท้มีหุ่นรบตัวหนึ่งกำลังยกดาบแสงขัดขวางหุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นไว้…
หลี่หลานเฟิง! เขายังมีชีวิตอยู่! ดีเหลือเกิน! นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ซื่ออวี๋รู้สึกว่า ความสุขช่างเรียบง่ายจริงๆ!
บนพื้นดินเวลานี้เอง ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่โดนโจมตีอย่างหนักหน่วงตรงแผ่นหลัง ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของเขาส่งเสียงแจ้งเตือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง “คำเตือน ระบบขับเคลื่อนหลักของหุ่นรบพังเสียหายหกสิบเปอร์เซ็นต์ อันตราย อันตราย โปรดล่าถอยทันที โปรดล่าถอยทันที!”
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ยินเสียงเตือนของออปติคัลคอมพิวเตอร์ เขาก็ทุบแผงควบคุมเบื้องหน้าด้วยความเดือดดาล ในตอนนี้เอง หัวใจของเขากระตุกขึ้นฉับพลัน สัมผัสถึงวิกฤติที่ไม่เคยมีมาก่อนสายหนึ่งจู่โจมเข้าที่หัวใจ หน้าผากหลั่งเหงื่อเย็นๆ ออกมาในชั่วพริบตา บางทีอาจเป็นเพราะอยู่ภายใต้ช่วงเวลาความเป็นความตาย อัตราการโบกสะบัดของนิ้วมือเขาในเวลานั้นจึงเหนือกว่าขีดจำกัดเดิมของเขาแล้ว…
หุ่นรบไพ่ราชาที่นอนล้มอยู่บนพื้นกลิ้งตัวออกไปฉับพลัน ดาบยักษ์ที่หลิงหลานแทงลงไปอย่างแรงพลาดเป้าทันที ดาบยักษ์เสียบเข้าไปในพื้นลึกสองเมตรอย่างง่ายดาย นี่ยังคงเป็นผลจากการที่หลิงหลานเก็บเรี่ยวแรงในพริบตา ไม่เช่นนั้นมันอาจจะเสียบไปจนถึงด้ามดาบก็เป็นไปได้เหมือนกัน
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่โชคดีหลบวิกฤติไปได้หนึ่งครั้งเห็นว่าบนฟ้าเหลือหุ่นรบระดับพิเศษแค่ตัวเดียวเท่านั้น เขาก็รู้ว่าหุ่นรบอีกตัวน่าจะประสบความโชคร้ายแล้ว เขายิ้มฝืดเฝื่อนกล่าวว่า “นายรู้แต่แรกแล้วสินะว่า ลำแสงสองนัดนั้นไม่ได้โดนนักเรียนของนาย” ไม่เช่นนั้น อีกฝ่ายไม่มีทางใจเย็นแบบนี้ แต่ตอนนั้นเขากลับหละหลวม นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่เขาพ่ายแพ้ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็รู้สึกเสียใจไม่หยุด ถ้าเกิดตอนนั้นเขาใจเย็นได้เหมือนกันละก็ บางทีผลลัพธ์อาจไม่เหมือนเดิม
จนกระทั่งตอนนี้ ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชายังคงคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือถังอวี้ ไพ่ราชาชั้นยอดของสหพันธรัฐ และคนที่อยู่ในหุ่นรบระดับสูงตัวนั้นคือ เฉียวถิง
หลิงหลานไม่ตอบ เธอแค่ชักดาบยักษ์ออกมาจากพื้น ในขณะที่ทำการเคลื่อนไหวนี้ สายตาเย็นเยียบของเธอไม่ได้เบนออกไปจากหุ่นรบไพ่ราชาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้นตัวนั้น หากยังไม่ได้ทำลายอีกฝ่ายจนราบคาบ หลิงหลานไม่มีทางคลายความระมัดระวัง เธอไม่มีทางทำผิดพลาดระดับต่ำเหมือนอีกฝ่ายได้
“นักเรียนของนายไม่เลวเลยจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าร่วมมือกันแค่สามคนก็เอาชนะลูกทีมของฉันได้แล้ว นั่นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเลยนะ เหนือกว่านักเรียนของนายหนึ่งระดับ…แต่ฉันเองก็พ่ายแพ้ในเงื้อมมือนายด้วยเหมือนกัน นายสมกับที่เป็นไพ่ราชาชั้นยอดของสหพันธรัฐจริงๆ ฉันสู้ไม่ได้เลย” ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาไม่สนใจความเย็นชาของหลิงหลานเลย เขากล่าวต่อไป ดูเหมือนกับละทิ้งการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายไปแล้ว และยอมจำนนแต่โดยดี
หลิงหลานเห็นดังนั้น ในใจอดผุดความคิดหนึ่งไม่ได้ เธอวางดาบยักษ์ในมือขวาลงบนพื้น ขณะเดียวกันมือซ้ายก็วางอยู่บนด้ามดาบ ทำท่าเหมือนกับกำลังค้ำยันไม้เท้า ราวกับประกาศว่าเธอเองก็ไม่มีเจตนาต่อสู้แล้วเช่นกัน…
บรรยากาศตึงเครียดแต่เดิมหายวับไปเพราะการกระทำของหลิงหลาน ไม่นึกเลยว่าเวลานี้เอง หุ่นรบไพ่ราชาพลันดีดตัวขึ้นมา กระโจนเข้าใส่หลิงหลานอย่างอำมหิต...ที่แท้คำพูดที่เขากล่าวเมื่อสักครู่นี้ ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมาล้วนทำเพื่อให้หลิงหลานคลายความระมัดระวัง ในเมื่อพวกเขาเข้าร่วมการบุกโจมตีดาวซินสิง พวกเขาก็เตรียมตัวพลีชีพเพื่อชาติมาแต่แรกแล้ว ต่อให้เขาพ่ายแพ้ ก็จะต้องลากให้ตายตกตามกัน ไม่มีทางยอมจำนนแต่โดยดี
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามบุกจู่โจมอย่างกะทันหัน หลิงหลานก็ไม่ได้ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกเลยสักนิดเดียว การกระทำที่ดูเหมือนผ่อนคลายแต่เดิมของเธอ ความจริงเธอแค่ให้ความร่วมมือกับการแสดงของอีกฝ่าย เธอไม่เคยคิดจะปล่อยศัตรูเหล่านี้ไปตั้งแต่แรกแล้ว…ศัตรูหน้าไหนที่คิดจะทำร้ายเพื่อนของเธอ เธอไม่มีทางใจอ่อนทั้งนั้น
จากนั้นก็เห็นสองมือของเธอที่เดิมทีกุมด้ามดาบยักษ์พลันกวัดแกว่งขึ้นทีหนึ่ง ดาบยักษ์ปะทะกับหุ่นรบอย่างดุเดือดใหม่อีกรอบ ส่งเสียงดังสนั่น หลังจากที่ทั้งคู่ยื้อยุดกันอยู่หลายวินาที ทันใดนั้นพวกเขาก็ดีดตัวออกจากกันอีกครั้ง…
ไม่สิ ควรจะเป็นหุ่นรบถูกดาบยักษ์เหวี่ยงกลับไปอย่างรุนแรง ส่วนหุ่นรบของหลิงหลานถอยหลังไปอย่างรวดเร็วภายใต้แรงเครื่องยนต์ไอพ่นของหุ่นรบ พริบตาเดียวก็เว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายหลายสิบเมตร...
‘ตูม!’ เสียงระเบิดมหึมาดังขึ้น หุ่นรบไพ่ราชาที่ถูกหลิงหลานเหวี่ยงออกไประเบิดเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน กระเด็นลอยออกไป
ที่แท้ฝ่ายตรงข้ามรู้ดีว่า เขาไม่มีแผนการใดที่เอาชนะได้แล้ว แต่เขาก็ไม่อยากถูกอีกฝ่ายฆ่าตายไปเฉยๆ ดังนั้นเขาจึงเลือกระเบิดตัวเอง อยากลากหลิงหลานให้ตายตกตามกัน โชคดีที่หลิงหลานสัมผัสได้ถึงอันตรายทันที ในเวลาเดียวกันเธอก็เหวี่ยงอีกฝ่ายออกไป ก่อนจะติดเครื่องยนต์ไอพ่นถอยหลังอย่างรีบเร่ง หลบเภทภัยในครั้งนี้
ทว่าพลังระเบิดตัวเองของหุ่นรบไพ่ราชาไม่ใช่สิ่งที่หุ่นรบทั่วไปเทียบเทียมได้ ถึงแม้หลิงหลานจะถอยหลังอย่างรวดเร็ว เว้นระยะห่างทันที หนีพ้นจากบริเวณที่อันตรายที่สุด แต่หลิงหลานไม่ได้หลุดพ้นจากระยะการระเบิดโดยสมบูรณ์ แรงระเบิดยังคงทำให้หลิงหลานได้รับบาดเจ็บ เธอรู้สึกว่าหน้าอกของตัวเองเหมือนกับโดนก้อนหินขนาดใหญ่กระแทกใส่ รสชาติหวานคาวพุ่งออกมาตรงลำคอ หลิงหลานอดอ้าปากกระอักเลือดหนึ่งคำไม่ได้ ย้อมหน้าจอที่ส่องแสงกระพริบตรงหน้าเธอเป็นสีแดง…
“ลูกพี่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม” พอเห็นหลิงหลานได้รับบาดเจ็บ เสี่ยวซื่อก็ร้องขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
หลิงหลานรีบโคจรเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกาย ความรู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอกหายไปอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งร่างสบายขึ้นแล้ว เธอรู้ว่าได้รับบาดเจ็บภายในนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ร้ายแรงมาก ดังนั้นเลยปลอบเสี่ยวซื่อว่า “ไม่เป็นไร แค่โดนลูกหลงนิดหน่อย พอกระอักเลือดออกมาแล้วกลับสบายขึ้นมาเลย”
เมื่อได้ยินคำตอบของหลิงหลาน เสี่ยวซื่อพลันวางใจ หลิงหลานสงบสติแล้วถึงค่อยเงยหน้ามองไปบนฟ้า…
“พวกฉีหลงไม่เป็นไรสินะ” หลิงหลานย่อมรู้ว่าพวกฉีหลงสามคนถูกระเบิดกระเด็นลอยออกไปเพราะการระเบิดตัวเองของหุ่นรบระดับพิเศษ แม้ว่าตอนนั้นเสี่ยวซื่อรายงานว่า พวกฉีหลงไม่เป็นไร แต่ในใจหลิงหลานยังคงกังวลอยู่บ้าง เพียงแต่เวลานั้นเธอกำลังต่อสู้กับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา ไม่อาจสอบถามเสี่ยวซื่ออย่างละเอียด ทว่าเวลานี้ ในที่สุดเธอก็มีเวลาแล้ว
“ไม่เป็นไร แค่ถูกอัดจนมึนเท่านั้น…” เสี่ยวซื่อเข้าไปในหุ่นรบของพวกเขาและตรวจสอบสถานการณ์ของพวกฉีหลงสามคนแล้ว เซี่ยอี๋อาการย่ำแย่มากที่สุด แต่ว่าทุกคนแค่บาดเจ็บ ไม่ได้ล้มตาย ดังนั้นเสี่ยวซื่อเลยไม่ใส่ใจพวกเขาสามคน ตอนนี้คนที่ทำให้เสี่ยวซื่อสนใจก็คือหลี่หลานเฟิงที่กำลังต่อสู้อยู่กลางอากาศ “ลูกพี่ ดูเหมือนชีตาห์ของเธอจะเลื่อนระดับแล้วนะ”
อะไรคือของเธอของฉันฮะ? หลิงหลานเหลือบมองอย่างเย็นชา เตือนเสี่ยวซื่อว่าอย่าพูดมั่วซั่ว แต่น่าเสียดายที่บางครั้งเสี่ยวซื่อเชื่องช้ามากจริงๆ ไม่รู้สึกถึงสายตาเย็นเยียบราวกับมีดของหลิงหลานเลยสักนิดเดียว เขากล่าวต่อด้วยใบหน้าโง่งมว่า “ความสามารถในการควบคุมของเขาตอนนี้ร้ายกาจกว่าเมื่อตะกี้แล้ว ดูท่าชีตาห์ของเธอจะกระตุ้นพลังแฝงเลื่อนขั้นสำเร็จในช่วงเวลาความเป็นความตาย อย่างที่คิดไว้เลย เขาเหมือนกับลูกพี่จริงๆ ด้วย เป็นตัวประหลาดทั้งนั้น ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันไม่เข้าบ้านเดียวกัน[1]สินะ” เสี่ยวซื่อถอนหายใจ
คนที่สามารถกระตุ้นพลังแฝงเลื่อนระดับได้อย่างราบรื่นเพราะช่วงเวลาความเป็นความตายล้วนเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ระดับปีศาจอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย การเลื่อนขั้นประเภทนี้ยากยิ่งกว่าการเลื่อนขั้นธรรมดา สิ่งที่เขารู้แจ้งได้ก็ลึกล้ำมากกว่าการเลื่อนระดับทั่วไป พูดได้ว่าโดยพื้นฐานแล้ว คนที่รู้แจ้งและเลื่อนระดับระหว่างความเป็นความตายต่างเลื่อนขึ้นไปยังระดับต่อไปได้อย่างราบรื่น หรือพูดอีกอย่างก็คือ ขอเพียงสั่งสมประสบการณ์มากพอ หลี่หลานเฟิงสามารถกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้แน่นอน นี่ทำให้เหล่าผู้ควบคุมหุ่นรบที่ติดอยู่ในร่องหลุมบนเส้นทางของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาตลอดทั้งชีวิตอิจฉามากเท่าไหร่กันนะ…
เดิมทีหลิงหลานได้ยินว่าหลี่หลานเฟิงเลื่อนระดับก็ดีใจมาก แต่คำพูดประโยคสุดท้ายของเสี่ยวซื่อกลับทำให้เธอโมโหอยู่บ้าง หลิงหลานดีดหน้าผากเสี่ยวซื่อทีหนึ่งโดยไม่เกรงใจเลยสักนิดเดียว เอ่ยอย่างรังเกียจว่า “นายสรรหาคำพูดเหลวไหลแบบนี้มาจากที่ไหน?” เจ้าเด็กนี่ไม่รู้หรือไงว่า คำพูดนี้เดิมทีหมายถึงสามีภรรยา?
เสี่ยวซื่อโดนดีดอย่างกะทันหัน เขาลูบหน้าผากด้วยความน้อยใจอย่างยิ่ง ดวงตาโตกระพริบปริบๆ ไม่รู้ว่าลูกพี่ตนใช้กำลังในครอบครัวกับเขาอีกทำไม?
สีหน้าโง่งมของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานหมดคำพูดไม่ต่างกัน ได้ โมโหเจ้าเด็กนี่ไปก็ไร้ประโยชน์ คาดว่าเขาคงจะเห็นคำพูดประโยคนี้จากหนังสือโบราณเล่มไหนก็ไม่รู้ แล้วก็หยิบมาใช้มั่วๆ โดยที่เข้าใจแค่คร่าวๆ….
หลิงหลานตัดสินใจไม่ลดตัวไปทะเลาะกับเสี่ยวซื่อ เธอดูการต่อสู้บนฟ้าของหลี่หลานเฟิงกับหุ่นรบระดับพิเศษในหน้าจอหุ่นรบอย่างจริงจัง หลังจากที่เห็นพวกเขาปะทะกันหลายยก ก็เอ่ยอย่างยอมรับว่า “เสี่ยวซื่อ นายพูดถูก เขาเลื่อนขั้นสำเร็จในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเมื่อตะกี้จริงๆ บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เขาหนีจากลำแสงสองนัดนั้นได้อย่างราบรื่น…น่าเสียดายจริงๆ ถ้าเกิดหุ่นรบที่เขาขับตอนนี้คือหุ่นรบระดับพิเศษละก็ สถานการณ์คงไม่ได้เป็นเหมือนอย่างในตอนนี้แล้ว” ถึงแม้หลี่หลานเฟิงจะต้านทานการบุกจู่โจมของหุ่นรบระดับพิเศษได้ แต่ความห่างชั้นของหุ่นรบยังคงทำให้หลี่หลานเฟิงตกเป็นอยู่ในสภาพเสียเปรียบ ได้แต่เป็นฝ่ายป้องกันเท่านั้น
———————-
[1] หมายถึง คนแบบเดียวกันต้องอยู่ด้วยกัน ขณะเดียวกันก็สื่อถึง คู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันเพราะมีนิสัยใกล้เคียงกัน หรือคู่สามีภรรยาที่มีพรหมลิขิตบันดาลให้แต่งงานกัน