มู่หนานจือ – บทที่ 174 ปะปนกัน

มู่หนานจือ

ภูเขาวั่นโซ่วมียอดเขาที่สูงและอันตรายมากมาย ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มและเจริญงอกงามดี เหล่านางในที่สวมเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิที่บางเบากำลังผ่านเนินเขาที่มีหญ้าเขียวเป็นฟูกไปยังทางเดินแคบที่อยู่ข้างๆ ฝีเท้าที่ว่องไว ท่าทางที่มีชีวิตชีวา และบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิที่เต็มเปี่ยมมาปะทะหน้า

เฉาเซวียนยืนอยู่บนขั้นบันไดของตำหนักอี๋อวิ๋น เขามองทิวทัศน์ที่อยู่ไกลออกไปอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าพอคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเอ่ยกับเฉาไทเฮา ความรู้สึกกระวนกระวายกลับไม่อาจผ่อนคลายลงได้เลย

หมิ่นโจวออกมาต้อนรับ

ตั้งแต่เฉาไทเฮาส่งเฉิงเต๋อไห่ไปรับใช้คนสกุลฟาง ข้างกายก็ไม่มีขันทีที่มีความสามารถแล้ว หมิ่นโจวแสดงความสามารถออกมาทั้งหมด จึงได้รับความโปรดปรานจากนาง เวลานี้จึงเป็นหัวหน้าขันทีของภูเขาวั่นโซ่วระดับสี่แล้ว

เขาช่วยเลิกม่านให้เฉาเซวียนด้วยตนเองอย่างกระตือรือร้นและเอาใจใส่ แล้วเอ่ยว่า “ไทเฮาทรงทราบว่าท่านมาแล้ว ไม่รู้ว่าดีพระทัยแค่ไหน ยังสั่งให้ข้าล้างลูกพลัมให้ท่านจานหนึ่งโดยเฉพาะด้วยขอรับ”

เฉาเซวียนยิ้มให้เขา โดยไม่ได้ตอบอะไร และเดินตามเขาเข้าไปในตำหนักตะวันตกอย่างรวดเร็ว

เฉาไทเฮากำลังหลับตานอนตะแคงพักผ่อนอยู่บนเตียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าต่าง นางในที่อายุแปดเก้าขวบสองคนคุกเข่านวดบ่าให้นางอยู่ข้างๆ

พอได้ยินเสียงนางก็ลืมตา และเอ่ยว่า “มาแล้วหรือ”

สีหน้าเฉยชา

เฉาเซวียนชินกับเฉาไทเฮาที่ภายนอกดูเคร่งขรึมแต่ภายในคอยเป็นห่วงคนอื่นอยู่เสมอแบบนี้ตั้งนานแล้ว

เขาเข้าไปคารวะอย่างนอบน้อม แล้วนั่งลงบนเตียงอุ่นตรงข้ามเฉาไทเฮาเมื่อนางส่งสัญญาณให้ และถามถึงการใช้ชีวิตประจำวันของเฉาไทเฮาอย่างใส่ใจ “…ตอนนี้อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ภูเขาวั่นโซ่วมีดอกไม้และต้นไม้ทุกที่ แมลงก็เยอะเช่นกัน ไทเฮาก็อย่ามัวแต่รักษากฎในวังอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ ให้พวกขันทีจุดอ้ายเซียงเร็วหน่อยดีกว่า”

“ข้ารู้แล้ว” เฉาไทเฮาไม่ค่อยชินกับชีวิตประจำวันในครอบครัวแบบนี้ นางเอ่ยส่งๆ สองสามคำอย่างหงุดหงิด แล้วถามถึงหลี่เชียน “ครั้งก่อนข้าอ่านจดหมายที่เขาเขียนมา บอกว่าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และไปหาหูอี่เหลียงมาแล้วเช่นกัน เขาคิดว่าจะไปเสฉวนก่อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิสักเที่ยว เจ้าอยากไปกับเขาหรือไม่?”

ชนกลุ่มน้อยทางเหนือรุกรานเมืองหลวง ในสิบครั้งมีแปดครั้งเป็นเพราะอากาศไม่ดี เก็บเกี่ยวได้น้อย จึงไม่มีของกิน ทว่าหลังจากผ่านฤดูหนาวไปแล้ว ฤดูใบไม้ผลิที่ขาดแคลนผลผลิตทางการเกษตรชั่วคราวกลับเป็นเวลาที่พวกเขาอดทนได้ยากที่สุด และส่วนใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็เปิดศึกกันช่วงนั้น

เฉาเซวียนอึ้งไปเล็กน้อย

เขากำลังกลุ้มอยู่ว่าจะหาข้ออ้างอะไรเอ่ยถึงหลี่เชียน เฉาไทเฮาก็เอ่ยถึงหลี่เชียนขึ้นมาเอง นี่ถือว่าคิดสิ่งใดได้สิ่งนั้นหรือไม่

หมิ่นโจวยกชากับของว่างเข้ามาด้วยตนเอง

เฉาเซวียนมองลูกพลัมเกินครึ่งชามที่วางอยู่ในชามเครื่องเคลือบขาสูงสีขาวเล็กๆ แต่ละลูกขนาดเท่าจอกเหล้าเท่านั้น แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นลูกพลัมที่ซื้อกลับมาจากตลาดทั่วไป เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ของบรรณาการ และปกติเวลานี้ยังไม่ต้องพูดถึงลูกพลัม แค่อิงเถาวางอยู่บนโต๊ะ เขาก็อดที่จะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวและเศร้าใจมากไม่ได้ แล้วก็ตัดสินใจปิดบังเฉาไทเฮาเรื่องความสัมพันธ์ของตระกูลหลี่กับตระกูลเจียงได้อย่างแน่วแน่มากขึ้นเช่นกัน

เฉาเซวียนทบทวนสิ่งที่ตนเองจะพูดในสมองอีกครั้ง แล้วถึงเอ่ยว่า “เสด็จป้า กระหม่อมกำลังอยากคุยกับเสด็จป้าเรื่องหลี่เชียนอยู่พอดีเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

เฉาไทเฮาแปลกใจเล็กน้อย แต่กลับไม่รีบซักถาม ทว่ารอให้หมิ่นโจวสั่งให้นางในวางชากับของว่างอย่างลูกพลัมลงบนโต๊ะ และให้คนรับใช้ข้างกายออกไปแล้ว เฉาเซวียนถึงเอ่ยว่า “เสด็จป้า เจียหนานถูกหลี่เชียนลักพาตัวกลับไปซานซีแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าว่าอะไรนะ?” แม้จะเป็นคนที่ปกครองแคว้นได้อย่างเฉาไทเฮาได้ยินแล้วก็อดที่จะตกใจจนหน้าถอดสีไม่ได้เช่นกัน จึงโพล่งออกมาว่า “ตั้งแต่เมื่อไรกัน? หลี่เชียนลักพาตัวท่านหญิงเจียหนานไปได้อย่างไร? เจิ้นกั๋วกงรู้เรื่องนี้หรือไม่? เขาว่าอย่างไรบ้าง?”

เฉาเซวียนเผยท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟออกมาทันที และเอ่ยว่า “เสด็จป้า เสียแรงที่พวกเราดีกับเขาขนาดนั้น แต่เขาทำอะไรกลับไม่ห่วงตระกูลเฉาแม้แต่นิดเดียว อยากทำอะไรก็ทำ…” แล้วเขาก็เล่าให้เฉาไทเฮาฟังทีละเรื่องทั้งจินเซียวชวนพวกเขาไปเที่ยวที่หมู่บ้านอย่างไร เจียงเซี่ยนหายตัวไปอย่างไร เจียงเจิ้นหยวนพบว่าจินเซียวผิดปกติได้อย่างไร จินเซียวตอบอย่างไร รวมถึงการคาดการณ์ของไป๋ซู่

เฉาไทเฮาได้ยินแล้วก็เหงื่อตกทั้งตัว นานมากกว่าจะเอ่ยว่า “เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าเจียงเซี่ยนไม่ได้หนีตามหลี่เชียนไป?”

เฉาเซวียนดูทั้งเสียใจและเกลียดชัง เขาเอ่ยว่า “ตอนนั้นกระหม่อมก็คิดว่าฝ่าบาทเป็นคนลักพาตัวเจียหนานไปเช่นกัน คิดว่าหากเรื่องนี้เป็นฝีมือของฝ่าบาทจริงๆ ทำให้ตระกูลเจียงกับฝ่าบาทตัดขาดกัน พวกเรายืนดูเรื่องสนุกอยู่ข้างๆ ไม่แน่อาจจะจบลงด้วยดีก็ได้ จึงไม่ได้ทูลเสด็จป้า และไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

“จนกระทั่งตอนที่จินเซียวยืนกรานว่าเจียหนานหนีตามหลี่เชียนไป กระหม่อมถึงรู้สึกว่าผิดปกติ”

“หลี่เชียนได้รับความสำคัญจากเสด็จป้า ให้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการที่อารักขาภูเขาวั่นโซ่ว ช่วงนี้กระหม่อมก็ถือว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาเช่นกัน จึงค่อนข้างรู้นิสัยเขา”

“ปกติเขาเย่อหยิ่งและดื้อรั้น คนนิสัยดื้อรั้นนั้นแก้ยาก เพราะเจียหนานหักหน้าเขาที่ท่าเรือวารีเคียงพฤกษา เขาจึงคิดอยู่ในใจมาตลอด และเพื่อดึงเขามาเป็นพวก กระหม่อมก็ไม่ได้ห้ามเขาเช่นกัน บางครั้งก็จะเออออไปกับเขาบ้างตอนที่เขาโมโห กระทั่งทุกครั้งที่เขาเอ่ยถึงเรื่องนี้ก็จะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน และยังเคยประกาศว่าจะทำให้ตระกูลเจียงเสียหน้าด้วย”

“ครั้งนี้จินเซียวชวนพวกเราออกไปเที่ยวด้วยกัน บังเอิญองครักษ์คนหนึ่งของตระกูลหลี่รับคำสั่งจากหลี่เชียนให้ส่งของพื้นเมืองของซานซีมาให้กระหม่อมพอดี กระหม่อมก็พูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร ปรากฏว่าผ่านไปไม่กี่วัน เขาก็เขียนจดหมายมา ไม่เพียงแต่ถามถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ ยังถามกระหม่อมว่าจินเซียวชวนใครบ้าง และยังบอกว่าจินเซียวเป็นวีรบุรุษหนุ่ม บิดาเป็นแม่ทัพไท่หยวน ส่วนจินเซียวก็ดำรงตำแหน่งแม่ทัพโหยวจีที่กองบัญชาการอวี๋หลิน เป็นตระกูลที่คบหากับตระกูลเซ่าของแม่ทัพอวี๋หลินมาหลายชั่วอายุคน หากสามารถผูกมิตรกับจินเซียวได้ก็ดี ต่อไปมีอะไรก็จะได้มีคนประสานงานสักคน เสียดายที่เขาไม่อยู่เมืองหลวง ไม่อย่างนั้นการรวมตัวที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องมาร่วมด้วย แถมยังบอกว่า หากมีโอกาส ให้กระหม่อมแนะนำจินเซียวให้เขาด้วย”

“กระหม่อมจะรู้ได้อย่างไรว่าหมอนั่นกำลังหยั่งเชิงกระหม่อมล่ะพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมไม่เพียงแต่รับปากว่าจะแนะนำจินเซียวให้เขา ยังปลอบใจเขาว่านี่เป็นเพียงการรวมตัวกันธรรมดา และเพื่อประจบตระกูลเจียงกับจ้าวเซี่ยว จินเซียวยังชวนเจียงลวี่กับท่านหญิงเจียหนานด้วย…”

เฉาเซวียนก้มหน้าลงอย่างลำบากใจเล็กน้อย

“เสด็จป้า เรื่องนี้เป็นความผิดของกระหม่อมเอง เมื่อก่อนเสด็จป้าเคยเตือนกระหม่อมว่า ตระกูลหลี่เป็นเพียงอาวุธสังหารในมือของพวกเราเท่านั้น ดึงมาเป็นพวกก็พอ ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้ขนาดนั้น แต่กระหม่อม…กระหม่อมกลับคิดเพ้อเจ้อที่จะโน้มน้าวเขาด้วยความเป็นพี่น้อง ทำให้เขายอมเชื่อฟังกระหม่อมทุกอย่าง จึงปิดบังทุกอย่างให้เขาต่อหน้าพระพักตร์เสด็จป้า ทว่าสุดท้ายกลับก่อปัญหาใหญ่ขนาดนี้ให้เสด็จป้า” เขาพูดอยู่ จู่ๆ ก็ร้อนรนขึ้นมา สีหน้าก็ฉายแววตื่นตระหนกเพิ่มขึ้นมาตามธรรมชาติเช่นกัน และเอ่ยว่า “เสด็จป้า เจียงลวี่กับหวังจ้านรีบไปซานซีแล้ว และยังพกตราประทับกับเทียบขอพบของเจียงเจิ้นหยวนไปด้วย พอพวกเขาเจอกันก็จะรู้ว่าจินเซียวก็ถูกหลี่เชียนหลอกเหมือนกัน ถึงเวลานั้นพวกเราควรจะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? คนอื่นต่างรู้ว่าหลี่เชียนเป็นคนของพวกเรา เจียงเจิ้นหยวนจะคิดว่าหลี่เชียนได้รับคำสั่งจากพวกเราหรือไม่?”

เฉาไทเฮาก็รู้สึกหวาดหวั่นมากเช่นกัน

แต่ที่นางลนลานไม่ใช่เพราะหลี่เชียนก่อเรื่องใหญ่ให้นางลับหลังนาง ทว่ากังวลว่าเรื่องราวจะเป็นดังที่จินเซียวเอ่ย เจียงเซี่ยนหนีตามหลี่เชียนไปซานซีแล้ว

เช่นนั้นที่ตระกูลหลี่มาพึ่งพาอาศัยก็เป็นเรื่องตลกแล้ว

นางไม่เพียงแต่เชื่อใจคนผิด ทว่ายังไม่มีคนใช้งานได้ด้วย และกลายเป็นเนื้อชิ้นหนึ่งบนเขียงของตระกูลเจียง

เฉาไทเฮาพิงหมอนอิงใบใหญ่ที่อยู่ข้างหลังอย่างเหนื่อยล้า แล้วถึงพบว่าเสื้อชั้นในของตนเองเปียกชุ่มแล้ว

นางหลับตาลง ในสมองคิดแผนรับมืออยู่เหมือนพลิกหนังสือ

เฉาเซวียนมองเฉาไทเฮาอย่างกระวนกระวายใจ ไหว้พระโพธิสัตว์มากมายมารอบหนึ่งแล้ว ก็หวังเพียงว่าจะปิดบังป้าของเขาไม่ให้รู้ความสัมพันธ์ของตระกูลหลี่กับตระกูลเจียงได้

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท