ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 80 หน้าหอภารกิจ

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บทที่ 80 หน้าหอภารกิจ

“อาจารย์… ศิษย์น้อง…”

ต่อหน้าอาจารย์ของตน กัวเหลียงที่ก้มหัวสำนึกผิดอยู่นั้น เมื่อได้เห็นข้อความจากกำไลสื่อสารแล้ว เขาได้เงยหน้าขึ้นมาและพูดด้วยเสียงอันดังลั่น แต่ยังไม่ทันได้พูดจบดีก็ถูกอาจารย์ของตนตบหัวในทันใด

“หุบปาก อย่าได้กล่าวถึงศิษย์น้องของเจ้าอีกในอนาคต”

กัวเหลียงในตอนนี้ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด เขาหัวเราะลั่น และนี่ทำให้ฮู่ต้าไฮ่รู้สึกเดือดดาลแบบสุดๆ

“ยังๆ ไอ้ศิษย์เวรตะไล นี่เจ้ายังกล้าหัวเราะอีกเรอะ”

ฮู่ต้าไฮ่ได้เตะไปที่กัวเหลียงอีกหนึ่งที

“ฮ่าฮ่าฮ่า โอย ฮ่าฮ่าฮ่า อาจารย์ มันเป็นเรื่องดีจริงๆนะ”

ฮู่ต้าไฮ่โกรธยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยิน

ถึงแม้ว่าศิษย์สำนักจะมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นไม่เว้นปี แต่ยังไงซะเฉินเฉียงก็เป็นศิษย์น้องของกัวเหลียง เขาไม่ควรจะมาบังเกิดความรู้สึกดีแบบนี้ยามที่อีกฝ่ายต้องตกตายไป

แต่ตอนนี้ ไม่เพียงไอ้เด็กนี่จะไม่รู้สำนึก ยังมีหน้ามาหัวเราะให้เขาได้เห็น นี่เขาฝึกศิษย์ของตนแบบเป็นมิตรไปรึไงกัน

กัวเหลียงผู้ซึ่งในตอนนี้กำลังแอบซ่อนตนเองอยู่ในห้องนั้น เขาอยากจะบอกทุกคนๆจริงๆว่าเฉินเฉียงกลับมาแล้ว แต่อาจารย์ของตนกลับไม่ให้โอกาสเขาเลย

โชคยังดีที่เฉินเฉียงนั้น เมื่อกลับมาถึงหอภารกิจ เขาก็ได้ส่งข้อความให้หลิวซวนเอ๋อด้วยเช่นเดียวกัน

“อาจารย์ฮู่ ศิษย์น้องเฉินกลับมาแล้ว”

หลิวซวนเอ๋อได้พูดออกมาด้วยความยินดีในทันทีที่เธอได้รับข้อความนี้

“ห้ะ เจ้าบอกว่าเฉินเฉียงกลับมาแล้ว” ฮู่ต้าไฮ่นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะหันไปมองกัวเหลียงและพูดออกมา “ไอ้ศิษย์เวรตะไล แล้วทำไมเจ้าไม่รีบบอกว่าศิษย์น้องของเจ้ากลับมาแล้ว เจ้าคิดจะรนหาที่ตายรึไงกัน”

“ไอ๊หยา ก็ท่านอาจารย์นั่นแหล่ะ เตะข้าเอาเตะข้าเอา แล้วจะให้ข้าบอกท่านตอนไหนกัน”

กัวเหลียงพูดในขณะที่ถูก้นของตัวเองอย่างโอดครวญ

“เออ เออ เออ รีบๆไปดูไอ้เด็กนั่นกันว่ามันเป็นยังไงบาง”

เมื่อพูดจบ ฮู่ต้าไฮ่ไม่ได้สนใจกัวเหลียงอีกต่อไปและออกจากห้องไปในทันที

“พวกเรามันก็ลูกศิษย์เหมือนกันนี่หว่า แล้วทำไมข้ารู้สึกว่าข้าเป็นศิษย์ที่ถูกเก็บมาเลี้ยงอีกทีฟะ” กัวเหลียงบ่นออกมาก่อนที่จะพุ่งตามไป

ในตอนนี้ ที่ด้านนอกหอภารกิจ มีศิษย์มากมายออกันที่อยู่หน้าหอ

“ข้าได้ยินมาว่าคนแล่เนื้อสูญหายไประหว่างทำภารกิจเมื่อสองวันก่อน แล้วทำไมอยู่ๆเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้กัน”

“นั่นสิ เมื่อวานข้าเองก็เห็นกัวเหลียงแห่งแผนกวิชายุทธพิเศษยังโดนอาจารย์ฮู่เล่นงานด้วยเรื่องนี้อยู่เลย”

“กัวเหลียงและหลิวซวนเอ๋อรายงานแล้วว่าภารกิจล้มเหลว แล้วคนแล่เนื้อจะมาที่นี่ทำไมกันอีกล่ะ”

“เขามารับรางวัลภารกิจน่ะสิ เมื่อกี้ข้าเห็นนะว่าเขานำร่างวานรเขี้ยววายุออกมาน่ะ อย่างน้อยๆระดับขั้นของมันคือนายพลวิญญาณขั้นต้นเลยนะ”

“จะเป็นไปได้ยังไงกัน ขนาดกัวเหลียงที่อยู่ในระดับนายพลวิญญาณยังทำอะไรมันไม่ได้ แต่นี่มันกลับถูกฆ่าตายโดยระดับทหารขั้นสูงเนี่ยนะ ระดับทหารนี่มันแข็งแกร่งกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“ถึงศิษย์พี่ไม่เชื่อข้า ท่านก็อย่าได้หลงลืมว่าเฉินเฉียงได้ชนะการต่อสู้กับจ้าวฮั่นมาไม่ใช่เหรอ หมอนั่นเองก็อยู่ในระดับนายพลวิญญาณเหมือนกันนะ”

“ชู่ววว เงียบเลยเอ็ง จ้าวฮั่นมาที่นี่แล้ว”

จ้าวฮั่นเมื่อมาถึงก็ได้ยินสิ่งที่ผู้คนกำลังพูดถึงเขาพอดี นี่ทำให้ใบหน้าของเขาแสดงออกมาอย่างน่าเกลียดน่ากลัว

หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ให้กับเฉินเฉียงไปแล้ว เขานั้นก็ยากที่จะออกมาให้ผู้คนได้พบเห็น เขานึกไม่ถึงว่าหลังจากหายหน้าไปนานแล้วกลับมาก็ยังมีคนพูดถึงเรื่องนี้อีก นี่เป็นเพราะความอัปยศอดสูที่เฉินเฉียงได้มอบให้เขาในวันนั้น

เมื่อทุกคนได้เห็นจ้าวฮั่นที่แสดงออกมาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง ทุกคนก็รีบเปิดทางให้ในทันที

หลายๆคนในที่นี้ถึงแม้จะมีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าจ้าวฮั่น แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าภายในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงระดับการบ่มเพาะเท่านั้นที่ทำให้ผู้คนทรงพลัง

ใครใช้ให้จ้าวฮั่นเป็นหลานรักของผู้ทรงอิทธิพลกันล่ะ

ด้วยการที่มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ จึงเป็นธรรมดาที่ต่อให้ตัวเองไม่ได้แข็งแกร่งอะไรแต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง

“ออกไปซะ ออกไปให้พ้นทางเดี๋ยวนี้”

หม่าหลิวได้เดินนำหน้าเพื่อเปิดทางให้ผู้คนไปยืนอยู่ข้างๆ แต่ในทันทีที่เขากำลังจะหันมาอีกทาง เขาก็โดนชนเข้าให้อย่างจัง

“แม่เอ๊ย ตาแกบอดรึไงว่ะ”

หม่าหลิวที่โดนชนถอยหลังจนเกือบล้มก็ได้อ้าปากเอ่ยคำด่าสบถออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เงยหน้าขึ้นมาดูว่าใครก็ถูกจับยกรอยขึ้นฟ้า

“หม่าหลิว แกจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว นี่แกไม่เห็นหัวอาจารย์ในสำนักเลยสินะ ถ้ายังไงก็ออกไปซะ”

หลังจากพูดจบ ฮู่ต้าไฮ่ก็ได้เขวี้ยงหม่าหลิวรอยออกไปไกล

เฉินเฉียงที่รอคอยกัวเหลียงและหลิวซวนเอ๋ออยู่ที่หอภารกิจ เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ของตนก็ได้รีบวิ่งออกมาดู

เมื่อได้เห็นท่าทางของอาจารย์ของตนแล้ว เขาก็ได้เข้าใจเหตุผลในทันที

ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาช้าเกินไปทำให้อาจารย์ของเขาโกรธ

เมื่อเขาเข้าใจได้อย่างนี้ เฉินเฉียงจึงได้รีบนำของบางสิ่งออกมายื่นให้ฮู่ต้าไฮ่พร้อมรอยยิ้ม

“ฮี่ฮี่ฮี่ ท่านอาจารย์ นี่คือของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่าน ท่านชอบหรือไม่”

ฮู่ต้าไฮ่ที่กำลังจะระเบิดความโกรธออกมานั้น เมื่อได้เห็นแก่นคริสตัลขนาดลูกปิงปองในมือเฉินเฉียง ความโกรธของเขาก็ได้ลดไปครึ่งหนึ่งและพูดออกมา “เฉินเฉียง นี่เจ้าแลกออกมาจากหอภารกิจรึ”

“ฮะ ท่านอาจารย์ สิ่งนี้คือสินสงครามที่ข้าได้มาระหว่างทำภารกิจ นี่คือแก่นคริสตัลของวานรเขี้ยววายุสองตัว”

หลิวซวนเอ๋อกับกัวเหลียงที่วิ่งตามมาทีหลัง เมื่อได้ยินก็รีบพูดออกมา “ไม่จริงน่า ในภารกิจก็บอกอยู่ชัดๆว่ามีวานรเขี้ยววายุตัวเดียว แล้วทำไมมันถึงมีสองตัวล่ะ”

เป็นตอนนี้ที่อาจารย์หอภารกิจที่ยืนอยู่ด้านหลังได้กระแอมออกมา

“หลิวซวนเอ๋อ สิ่งที่เฉินเฉียงกล่าวมาถูกต้องแล้ว หลังจากอาจารย์ประจำหอภารกิจได้ตรวจสอบดูแล้วก็พบว่ามันคือวานรเขี้ยววายุคู่ผัวเมีย จากร่างที่เฉินเฉียงนำกลับมานี้ได้บ่งบอกว่ามันอาศัยอยู่ด้วยกัน”

“หรืออีกในความหมายหนึ่งก็คือเป็นความผิดของทางหอภารกิจตั้งแต่ต้นที่มอบข้อมูลให้อย่างผิดๆ”

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้ทำให้ทางสำนึกตัดสินใจได้ว่าจะมอบรางวัลในภารกิจนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ข้าจึงให้เฉินเฉียงเรียกทุกคนที่รับภารกิจมารวมกันที่นี่

ด้วยคำพูดของผู้คุมหลิวนี้ทำให้ทุกคนเข้าใจได้ในทันทีว่าเฉินเฉียงไม่ได้โกหกแต่อย่างใด

“ไอ้ฉิบหาย ข้าเองเห็นว่าเฉินเฉียงเอาวานรเขี้ยววายุออกมาเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะเอาออกมาถึงสองตัว”

“เดี๋ยวนะ ถ้าดูที่พวกเขาพูดกันไม่ใช่ว่าเฉินเฉียงเป็นคนสังหารวานรเขี้ยววายุสองตัวนี้ด้วยตัวคนเดียวหรอกเหรอ นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อไปหน่อยรึไง กับอีแค่นักรับสายเลือดทหารขั้นสูงคนเดียวแต่กลับฆ่าสัตว์ประหลาดระดับนายพลวิญญาณได้ถึงสองตัว”

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คน หลิวซวนเอ๋อและพวกที่ติดตามได้เดินก้าวออกมาและพูดว่า “ศิษย์น้องเฉิน วานรเขี้ยววายุสองตัวนี้เป็นเจ้าที่สังหารมันคนเดียว พวกเราไม่ต้องการรับส่วนแบ่งนี้ เจ้าควรจะเก็บมันไว้กับตัวเจ้านั่นแหล่ะดีแล้ว”

“ถูกต้องแล้วศิษย์น้อง เป็นเพราะข้ายังขาดความสามารถและไม่ได้ดูแลเจ้าดีพอ ข้าเองก็ไม่กล้าหน้าด้านที่จะรับส่วนนี้ไว้เหมือนกัน ข้าขอยกส่วนแบ่งนี้ให้เจ้า” กัวเหลียงพูดออกมาพลางก้มหน้าก้มตา

“จะให้ข้ารับไว้ได้ยังไงกัน” เฉินเฉียงได้ส่ายหัวไปมาก่อนที่จะพูดออกมา “ศิษย์พี่กัว ศิษย์พี่หลิว หากไม่ใช่ว่าพวกท่านทำร้ายลิงยักษ์ตัวแรกนั่นจนบาดเจ็บสาหัส ข้าเองก็ไม่อาจจะทำภารกิจนี้ได้อย่างสมบูรณ์”

เมื่อพูดจบ เฉินเฉียงก็ได้ขอให้ผู้ควบคุมภารกิจหลิวมอบแต้มคะแนนให้กับกัวเหลียงและคนอื่นๆด้วยเช่นกัน

หลังจากได้แต้มคะแนนไปพันแต้มแล้ว กัวเหลียงก็ได้บังเกิดความรู้สึกเจ็บปวดหลังจากถูกนวดอาจารย์ของตนมามากมายหลายครั้งในทันที

“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงได้กลับมาช้านัก เจ้ารู้รึเปล่าว่าช่วงที่เจ้าไม่ได้กลับมานั้น อาจารย์และศิษย์พี่ต่างเป็นกังวลจนแทบจะออกจากสำนักไปค้นหาแล้ว”

เฉินเฉียงได้มองไปยังอาจารย์และศิษย์พี่ใหญ่ของตนด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอาณานิคมเขาอูฐแล้ว ทำให้เขาอดจะแสดงท่าทีโศกเศร้าไม่ได้

Related

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท