ท่ามกลางความคึกคักของคอมเมนต์
หลินเยวียนและอิ่นตงต่างนั่งลงบนเก้าอี้ของตนเอง ทั้งสองไม่แสดงสีหน้าใด
คนแรกสีหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นที่เคยเป็นมา ส่วนคนหลังเป็นอัมพาตใบหน้าแต่กำเนิด
บนเวที
ซุนเหมิงเหมิงเริ่มต้นแสดง
เพลงนี้มีชื่อว่า ‘เพลงของกระต่าย’ เสียงประกอบซึ่งใช้ในการเริ่มต้นบทเพลงเป็นเสียงของเด็กผู้หญิงไร้เดียงสาคนหนึ่ง ถามว่า
“น้องกระต่ายน่ารักขนาดนี้ ทำไมถึงกินน้องกระต่าย”
ดนตรีดังขึ้น
ซุนเหมิงเหมิงเริ่มต้นการแสดง
เนื้อเพลงร่าเริงและซุกซน ทำให้ผู้ชมในห้องส่งสนุกสนานตามไปด้วย!
แม่เจ้า!
นี่มันเพลงที่อิ่นตงเขียนหรือนี่?
สไตล์ดนตรีโดยภาพรวมของอิ่นตงจะค่อนข้างจริงจัง ต่อให้เขียนเพลงรักก็จะเป็นเพลงเศร้าเป็นหลัก ทว่าเพลงในครั้งนี้ไม่จริงจังแม้แต่น้อย ตั้งแต่เนื้อเพลง ทำนอง ไปจนถึงการเรียบเรียงเพลงล้วนเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกซุกซน!
ซุนเหมิงเหมิงเหมาะกับเพลงนี้มาก
เสียงของเธอค่อนข้างหวาน ให้ความรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเข้ากับบทเพลงประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี
ทุกคนในห้องส่งได้ฟังเพลงนี้ต่างคลี่ยิ้มด้วยความเอ็นดู!
แม้แต่หลินเยวียนก็ยังอดยกยิ้มมุมปากไม่ได้
เพลงนี่ไม่ได้มีพลังทำลายล้าง ทำนองเพลงไม่ได้ถึงขั้นล้ำเลิศ
แต่หลายคนชื่นชอบเพลงน่ารักจนใจเจ็บประเภทนี้ กอปรกับความรู้สึกขวยเขินและงุนงนของซุนเหมิงเหมิง เข้ากับเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี!
รู้สึกราวกับอิ่นตงกำลังเล่นสนุก
แถมยังเล่นสนุกอย่างสร้างสรรค์
เจิ้งจิงกำลังแวะไปเยี่ยมเยียนหยางจงหมิง เมื่อได้ยินเพลงนี้ ก็หัวเราะจนตัวโยน “ฉันอยากเลือกซุนเหมิงเหมิง เสียงของเธอมีพื้นที่ให้ต่อยอดมากกว่าที่ฉันคิดไว้ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่พี่ตงเขียนเพลงสบายๆ ทำนองสนุกสนานแบบนี้สินะ?”
“โลดโผนเลยทีเดียว”
หลางจงหมิงเอ่ยราวกับกำลังตำหนิ ทว่าตนเองก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
บรรยากาศของเพลงประเภทนี้ ถ่ายทอดความสุขออกมาได้อย่างง่ายดาย
เห็นได้ชัด
เมื่อซุนเหมิงเหมิงร้องเพลงจบ ทั้งห้องส่งก็มีเสียงปรบมือดังสนั่น!
“ขำแทบตาย!”
“ซุนเหมิงเหมิงน่ารักจริงๆ !”
“เป็นนักร้องแถวหน้า อายุก็เกือบสามสิบ มาร้องเพลงน่ารักแบบนี้แล้วรู้สึกว่าย้อนวัยไปสมัยอายุสิบกว่า!”
“ฉันชอบเพลงนี้!”
“ฟังๆ ไปก็สนุกดีเหมือนกัน!”
“ตอนแรกรู้สึกว่าไม่เข้าท่าเอาซะเลย แต่พอฟังจบ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทางพ่อเพลงอวี๋เจองานยากอยู่แฮะ”
“อิ่งตงทำเซอร์ไพรส์ซะแล้ว?”
“เหมิงเหมิงน่ารักมาก!”
“เธอคือ ‘หน้ากากน่ารัก’!”
‘อาจารย์อิ่นตงดูดุ แต่กลับเขียนเพลงน่ารักแบบนี้ออกมา เหมือนจะโดนตกแล้ว!’
‘…’
เพลงนี้มีความสนุกสนาน
บางทีเพลงนี้อาจติดกระแสได้ไม่นาน
แต่หลายคนเมื่อได้ยินเพลงประเภทนี้ จะอดไม่ได้เปิดฟังหลายรอบ
เมื่อพิจารณาจากมุมมองของกลยุทธ์ นี่คือการซ่อนอาวุธลับ!
อันหงกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “ต่อจากนี้ ขอเชิญนักร้องเฉินจื้ออวี่…”
มือสองข้างของซุนเหมิงเหมิงดึงเชือกที่หมวกของตน ‘ใบหู’ ทั้งสองข้างตั้งขึ้น หลังจากนั้นจึงกระโดดลงจากเวที
ห้องส่งส่งเสียงเชียร์ดังสั่น!
เมื่อเฉินจื้ออวี่ขึ้นมาบนเวที หันหลังกลับไปมองหลินเยวียน หลินเยวียนพยักหน้าน้อยๆ
การรับเวทีต่อจากบทเพลงประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าเฉินจื้ออวี่จะรับไหวหรือไม่
แต่ถ้าเปรียบเทียบกันเรื่องเพลง ‘เพลงของเรา’ ไม่ได้เป็นรองอีกฝ่ายเลย
ในที่สุด
เสียงหัวเราะก็หยุดลง
เพลงดังขึ้น
เสียงของเฉินจื้ออวี่ ดังขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรี
“ฟังเพลงนับร้อยครั้ง
ฟังเท่าไหร่ไม่เคยเบื่อหน่าย
ฟังตอนเช้าจนตกกลางคืน
ยังคงมีเธออยู่ข้างกาย …”
ชื่อเพลงปรากฏขึ้นบนหน้าจอใหญ่ เขียนว่า…
เพลงของเรา!
ชั่วขณะนั้น ทุกคนต่างเผยสีหน้าประหลาดใจ
ชื่อเพลงของเราซะด้วย ชื่อเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋เหมือนกับชื่อรายการเลย!
“มาเหนือ!”
“ต้องเป็นเพลงที่เซี่ยนอวี๋เพิ่งเขียนขึ้นมาแน่ๆ !”
“มาตรงธีมรายการไปอีก!”
“จังหวะเร็วอยู่นะ…”
“สไตล์แอบคล้ายกับเพลงเปลี่ยนตัวเอง”
“…”
ระหว่างที่ผู้คนถกเถียงกัน
เฉินจื้ออวี่ยังคงร้องต่อไป “ถ้าโลกนี้มันอันตราย มีเพียงบทเพลงเป็นที่ปลอดภัย นำฉันท่องแดนฝันไม่จางหาย ให้เนื้อเพลงกลายเป็นความจริง…”
เอ๊ะ?
เนื้อเพลงนี้…
จู่ๆ ก็ฉุกคิดถึงสิ่งที่หลานหลิงอ๋องประสบพบเจอในรายการราชาหน้ากากนักร้อง
เพลงในครั้งนี้ของเซี่ยนอวี๋ เหมือนกับว่าจะถ่ายทอดมุมมองของตนเองผ่านดนตรีอีกแล้ว?
ทุกคนคุ้นชินกับสไตล์ของเซี่ยนอวี๋แล้ว…
ในรายการเซี่ยนอวี๋พูดน้อยมาก แต่บทเพลงของเขามักจะสื่อถึงบางอย่างอยู่เสมอ
ไม่ว่าใครได้เห็นเนื้อเพลงนี้ ย่อมเกิดความคิดเชื่อมโยงเช่นนี้โดยสัญชาตญาณ
“ใช้เพลงสื่อถึงตัวเองอีกแล้ว”
เจิ้งจิงคลี่ยิ้ม หยางจงหมิงซึ่งอยู่ด้านข้างพยักหน้า
โลกนี้มันอันตราย มีเพียงบทเพลงเป็นที่ปลอดภัย หมายถึงเรื่องที่หลานหลิงอ๋องถูกแอนตีบนโลกออนไลน์ไม่ใช่หรือ?
ในขณะนั้น
น้ำเสียงของเฉินจื้ออวี่ก็กลายเป็นแร็ปขึ้นมา
“ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ใจความรักของฉันไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่ว่าเซี่ยนอวี๋หรือว่าดนตรีความรักของฉันไม่เคยเปลี่ยนไป ทุกความทรงจำบันทึกไว้ข้างใน…”
การงับคำของเฉินจื้ออวี่นั้นชัดเจนมาก
เนื้อเพลงปรากฏบนหน้าจอ
ในบทเพลงเอ่ยถึงเซี่ยนอวี๋!
ผู้ชมสนุกขึ้นมา ปฏิสัมพันธ์เช่นนี้คือสิ่งที่ผู้ชมเพลิดเพลินที่สุด!
เฉินจื้ออวี่แร็ป ไม่มีความรู้สึกเลี่ยนเหมือนนักร้องแร็ปหลายคน แต่กลับให้ความรู้สึกสดชื่น
“เปลี่ยนตัวเอง ช่างลึกซึ้ง
เพลงของเรา ช่างจริงใจ
ไร้ขอบเขต ข้ามยุคสมัย
ไม่ต้องเรียกฉันว่าลูกคนรองตลอดกาลอีกต่อไป…”
ฮะ!
อะไรกันเนี่ย
เฮๆๆ !
ทุกคนครึกครื้นขึ้นมาแล้ว!
ทั้งห้องส่งพากันหัวเราครืน!
‘เปลี่ยนตัวเอง’ ในเนื้อเพลงคือเพลงที่เซี่ยนอวี๋เขียนให้เฉินจื้ออวี่ ในตอนนั้นเพลงนี้ได้รับการโปรโมตจากทางการ ทุกคนต่างบอกว่าเพลงนี้เรียกร้องให้ละทิ้งแนวคิดขอบเขตของทวีป!
‘ช่างลึกซึ้ง’ สามคำนี้ไม่มีปัญหา!
บลูสตาร์ผนวกรวม คือการก้าวข้ามยุคสมัยอย่างชัดเจน!
สิ่งที่ทำให้ผู้ชมกุมท้องหัวเราะยิ่งไปกว่านั้นก็คือ แม้แต่มุกตลกอย่าง ‘ลูกคนรองตลอดกาล’ ก็ถูกเฉินจื้ออวี่ใส่ไว้ในท่อนแร็ปของตนเองด้วย!
ประโยคนี้คือการเสียดสีตนเอง ‘ไม่ต้องเรียกฉันว่าลูกคนรองตลอดกาลอีกต่อไป…’ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกำลังระบายความอัดอั้นตันใจนั้นเหมาะกับสถานการณ์จริงๆ !
เพราะตั้งแต่เพลงนี้เป็นต้นมา เฟ่ยหยางก็เข้ามาเป็นลูกคนรองตลอดกาลคนใหม่ แทนที่เฉินจื้ออวี่
ในชั่วพริบตา!
ความบันเทิงก็พุ่งเต็มปรอท!
หลินเยวียนได้ฟังก็งุนงง เฉินจื้ออวี่บอกว่าจะปรับแก้เนื้อเพลงเล็กน้อย สรุปแล้วเขาปรับแก้เนื้อเพลงท่อนนี้เองหรอกหรือ?
นับว่า…
น่าสนใจมาก?
เมื่อใดที่ความคิดของคุณมีทิศทาง คุณจะเข้าใจถึงการมีและไม่มีอยู่ของสิ่งต่างๆ เมื่อเฉินจื้ออวี่ร้องถึงท่อนคอรัส ความคิดของผู้ชมจะตามบทเพลงไปอย่างง่ายดาย
“ทุกถ้อยคำซาบซึ้งกินใจ
คนรักมีพบพานลาจาก
แต่รักเรากลับแน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน
ความสุขของฉันไพเราะขึ้นมาเมื่อได้พบเธอ
ไม่ต้องมีบทเพลงใดอีก
ร้องเพลงของเราแบบนี้ต่อ
ให้ความรู้สึกนี้ตราตรึงใจไปแสนนาน…”
‘เพลงของเรา’ ในที่นี้หมายถึงเพลง ‘เปลี่ยนตัวเอง’ หรือว่าเพลงนี้ หรือหมายถึงเพลงของเซี่ยนอวี๋?
ทั้งหมดล้วนเป็นไปได้
ทว่าในเนื้อเพลงประโยคสุดท้าย ทุกคนฟังออกถึงสิ่งที่เฉินจื้ออวี่สื่อ
“ให้ความรู้สึกนี้ ตราตรึงใจไปแสนนาน…”
ใช่แล้ว
เฉินจื้ออวี่ซึ่งตกรอบไปก่อนในรายการราชาหน้ากากนักร้อง กลับกลายเป็นนักร้องคนแรกที่เซี่ยนอวี๋เลือกร่วมงานด้วยในเวทีแรก บางทีความรู้สึกนี้อาจตราตรึงใจเฉินจื้ออวี่ไปชั่วชีวิต…
ในคอมเมนต์ปรากฏประโยคนี้
‘คุณประชดตัวเองผมปวดใจ เสียงเพลงของคุณรักเขาหมดใจ’
คอมเมนต์นี้มียอดไลก์สูงมาก!
ทุกคนล้วนฟังออกถึงสิ่งที่เฉินจื้ออวี่กำลังสื่อสาร!
เพลงก่อนหน้านี้ นักร้องสื่อถึงอารมณ์ของนักประพันธ์เพลง แต่เฉินจื้ออวี่ไม่เพียงร้องเพลงของเซี่ยนอวี๋ แต่เขายังร้องเพลงของตนเองออกมาด้วย!
ชั่ววินาทีนั้น!
เสียงปรบมือของผู้ชมดังสนั่น!
ในด้านทำนองและความบันเทิง เพลงนี้ไม่ได้เป็นรอง ‘เพลงของกระต่าย’ แต่ในแง่ของเนื้อหา ทุกคนมองเห็นความเข้าใจกันและกันของนักประพันธ์เพลงและนักร้องได้จริง!
…………………………………………………