บทที่ 60 คนงานก่อสร้างใส่กระโปรงทำงานเหรอ[รีไรท์]
ศาสตราจารย์หวงดีใจมากเมื่อเห็นฉู่เหินพอใจกับการออกแบบ มันไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาให้ฉู่เหิน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหลานสาวของเขาอีกด้วย
“พี่หวง ตอนนี้หลานพี่อยู่ไหนล่ะ พาผมไปหาเลยได้ไหม? ผมอยากเจอ ขอแค่เธอบอกราคามา แพงแค่ไหนผมก็จะซื้อ” เมื่อได้ยินฉู่เหินพูด เขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ถ้าชอบ เท่าไหร่ก็ค่อยว่ากัน และนี่ก็คือหลานสาวของฉันเอง สามารถคุยเรื่องรายละเอียดกับเธอได้เลย พี่น่ะไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เหินจึงหันไปมองหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ยืนอยู่ข้างศาสตราจารย์หวง
เธออายุเพียง 27-28 ปี ลักษณะใบหน้าชัดเจนและไว้ผมสั้น มันทำให้ดูแปลกตา เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่หรูหรือธรรมดาเกินไป มันเผยเนื้อหนังแค่พอประมาณที่จะสื่อถึงความสง่างามในตัวเธอ
“สวัสดีครับ ผมชื่อฉู่เหิน ผมดีใจนะที่ได้เห็นผลงานอันไร้ที่ติแบบนี้ ผมกำลังจะสร้างบ้าน การออกแบบของคุณเหมาะกับมาตรฐานที่ผมต้องการ ผมอยากใช้แบบอันนี้สร้าง คุณคิดว่ายังไง” ฉู่เหินยิ้มขณะกล่าวทักทายและจับมือทำความรู้จักอีกฝ่าย
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหวงม่านอิ่ง ฉันดีใจนะที่คุณชอบแบบของฉัน ฉันมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียว นั่นก็คือเวลาคุณสร้างบ้านหลังนี้ ฉันจะต้องเป็นคนดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ” เธอรีบออกตัว ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉู่เหินรู้สึกนับถือผู้หญิงตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
“ไม่มีปัญหาเลยผมตกลง ตั้งแต่วันนี้ไปคุณจะเป็นคนดูแลบ้านของผมแต่เพียงผู้เดียว คุณจัดการแทนผมได้เลย ผมก็มีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือต้องสร้างออกมาให้ยอดเยี่ยมที่สุด ผมให้คุณตัดสินใจทุกอย่างเลย อ้อ แล้วเงินที่ต้องใช้ล่ะ คุณบอกงบมาเลย มันต้องใช้เงินเท่าไหร่”
ฉู่เหินเงียบไปสักพัก แล้วพูดต่อว่า “คุณก็หาบริษัทรับเหมามาเองเลย ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่าย บอกงบกับเลขบัญชีมา ผมจะโอนให้เลย ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
เมื่อได้ยินฉู่เหินพูด เธอก็รู้สึกแปลกใจนิด ๆ ฉู่เหินกับเธอเพิ่งเคยเจอกันแท้ ๆ แต่เขายอมยกความรับผิดชอบทุกอย่างให้เธอ มันน่าแปลกจริง ๆ เรื่องนี้ทำให้หวงม่านอิ่งรู้สึกว่าฉู่เหินเป็นคนที่น่าสนใจไม่น้อย
“ขอบคุณที่ไว้ใจฉันนะคะ ไม่ต้องห่วง คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน” เมื่อได้ยินหวงม่านอิ่งพูดเช่นนี้ เขาก็ยิ้มกว้าง
“ผมสนิทกับพี่หวง เพราะงั้นผมจึงไว้ใจคุณมากขนาดฝากเงินเป็นล้าน ๆ ไว้ในมือคุณ ผมเชื่อใจคุณอยู่แล้ว”
ทั้งสองคุยกันอยู่อีกพักหนึ่ง หวงม่านอิ่งก็บอกว่าเธออยากจะไปสำรวจพื้นที่สักพักก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการ ถึงตรงนี้ ฉู่เหินแน่นอนว่าก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ
ตอนนี้มันก็สายมากแล้ว พวกเขาก็ตั้งท่าจะกลับ ฉู่เหินก็ชวนหวงม่านอิ่งติดรถมาด้วยเพื่อจะได้ไปสำรวจเลยทีเดียว เมื่อทุกคนขึ้นรถกันหมดแล้ว พวกเขาก็นั่งรถไปส่งหวงลี่ลี่ที่โรงเรียน ก่อนกลับฉู่เหินได้เข้าพบอาจารย์ใหญ่หวังด้วยตัวเอง หวงลี่ลี่กลับมาเข้าเรียน เขาต้องกำชับอาจารย์ใหญ่ว่าให้ช่วยดูแลเธอให้ดี
ก่อนจะลากัน ฉู่เหินยื่นสมุดบัญชีให้หวงลี่ลี่ ในนั้นมีเงินแสนหยวนสำหรับให้หวงลี่ลี่เอาไว้ใช้จ่าย
เมื่อหวงลี่ลี่กับฉู่เหินบอกลากัน เธอก็รีบวิ่งเข้าห้องเรียน ฉู่เหินรู้สึกสะเทือนใจเล็ก ๆ น้องของเขาช่างเป็นเด็กดี เมื่อเสร็จเรื่องของหวงลี่ลี่แล้ว จากนั้นเขาก็ไปที่อู่เรือ เรือของเขามันระเบิดไปแล้ว เขาจึงต้องซื้อลำใหม่ และครั้งนี้เขาก็มีตัวเลือกในใจแล้ว
เขาซื้อเรือสองลำทันที มันคือเรือตกปลาและเรือเร็ว เขาเก็บเรือเร็วเอาไว้ในแหวนมิติ เผื่อว่าครั้งต่อไป ถ้าเจอเรื่องแบบคราวก่อนจะได้ไม่ต้องว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งอีก
การซื้อเรือก็เหมือนการซื้อรถยนต์ ในที่สุดฉู่เหินก็เจอเข้ากับเรือตกปลาคุณภาพดี มันเป็นเรือตกปลาที่ไม่เพียงแต่ดูทันสมัย แต่เครื่องปั่นไฟยังอยู่ในสภาพดีด้วย ตัวเรือเองก็ดูแข็งแรงดี แถมยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ครบชุด ซึ่งนั่นก็ทำให้เรือลำนี้ราคาแพงพอตัว ตอนเขาซื้อลำนี้ ฉู่เหินก็เสียเงินไปถึงสองล้านหยวน
แต่ฉู่เหินรู้ว่ายังไงก็คุ้มค่า เขารีบเขียนที่อยู่ของตัวเอง เพื่อให้คนขายไปส่งเรือตามที่อยู่ที่กำหนด ซึ่งก็คือหน้าหมู่บ้านชาวประมงไหก่าง พอของมาส่งถึงบ้านเมื่อไหร่ เมื่อนั้นฉู่เหินจึงจะจ่ายส่วนที่เหลือ
เรือเร็วราคาถูกมาก ซึ่งที่ร้านก็คิดค่าส่งสองหมื่นหยวน เขาจึงขอให้ช่างส่งทั้งสองลำมาพร้อมกันเลย เมื่อเสร็จเรื่องเรือแล้ว ฉู่เหินจึงพาเสี่ยวชิงและหวงม่านอิ่งไปยังจุดหมายถัดไป
เขาเรียนรู้จากคราวที่แล้ว ฉู่เหินรีบไปห้างสรรพสินค้าทันทีเพื่อซื้อเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อนำมาใส่ไว้ในแหวนเพื่อฉุกเฉินมีอุบัติเหตุแบบครั้งก่อน
ขามา พวกเขามากันสามคน ส่วนขากลับก็มีสามคนเหมือนกัน แค่มีหวงม่านอิ่งมาแทนหวงลี่ลี่ ฉู่เหินพาพวกเธอไปห้างเพื่อซื้อเสื้อผ้า ถึงหวงม่านอิ่งจะไม่พูดอะไร แต่ฉู่เหินก็อาสาจะซื้อเครื่องแบบสำหรับทำงานให้
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวงม่านอิ่งก็ได้แต่งึมงำในใจว่า “ฉันไม่เคยเห็นคนงานก่อสร้างคนไหนใส่กระโปรง กระโปรงนี่ถือเป็นชุดทำงานเหรอ” เธอได้แต่บ่นงึมงำในใจเท่านั้นไม่ได้พูดออกไป
ฉู่เหินไม่เพียงแต่ซื้อเสื้อผ้าหลายชุดให้เสี่ยวชิงแต่ยังซื้อให้เสี่ยวเฟิงและพ่อแม่ของเสี่ยวชิงเอาไว้เลือกใส่ด้วย ในเมื่อพี่สะใภ้เขารับรู้ความสัมพันธ์ของเราแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าตอนกลับบ้านพรุ่งนี้ เขาต้องไปบ้านพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อน เพราะนี่คือกฎของหมู่บ้านชาวประมงไหก่าง
แม้มันจะยังไม่ใช่การหมั้นหมาย แต่ทั้งสองคนก็อยากจะลองใช้ชีวิตร่วมกันก่อน ถ้าทั้งพวกเขาเข้ากันได้ การหมั้นหรือแต่งงานก็จะง่ายขึ้น ฉู่เหินไม่มีพ่อแม่ พี่สะใภ้ของเขาจึงเปรียบเสมือนกับพี่สาว สิ่งสำคัญที่สุดคืออาการของหวงเจี้ยนหมิงทรงตัวดี เขาไม่ต้องทนฉีดยาทุกวันอีกต่อไปแล้ว
ฉู่เหินกะว่าจะจ้างพยาบาลมาให้ดูและพี่ชายของเขาแทน เท่านี้ซูวี่เหมย พี่สะใภ้ของเขาก็สามารถไปไหนมาไหนได้บ้าง
เมื่อกลับไปถึงหมู่บ้าน ฉู่เหินก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขารีบพาหวงม่านอิ่งกับหลิวเสี่ยวชิงไปที่บ่อปลาทันที โดยมีซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ติดสอยห้อยตามมาด้วย แถวบ่อปลามีพื้นที่โล่งกว้างเยอะ แต่บ้านพักนี้เล็กกว่าบ่อปลามาก
ผู้หญิงคนเดียวก็พูดมากจะแย่อยู่แล้ว นี่ผู้หญิงมาเจอกันถึงสามคน ผลก็คือทั้งสามนั่งคุยกันเป็นเวลานานจนฉู่เหินต้องเข้ามาปรามและหนีมาตั้งหลักที่หน้าบ่อปลา ตอนนี้เขากำลังพยายามหาทิศทาง เพื่อจะได้รู้ว่าทางไหนใต้ทางไหนเหนือ
เมื่อเห็นฉู่เหินทำงาน ทั้งสามก็เริ่มคุยกันอีก ฉู่เหินได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่าย สาว ๆ ไม่ยอมช่วยอะไรเลย จนกระทั่งฉู่เหินทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ไอ้ทำงานน่ะฉู่เหินยังพอรับได้แต่ที่เหนื่อยใจก็คือความเจ๊าะแจ๊ะของพวกเธอทั้งสามคนนี่แหละ
เมื่อฉู่เหินจัดการเสร็จเรียบร้อย ฟ้าก็มืดพอดี ฉู่เหินตั้งใจจะทำกับข้าวให้ทาน แต่หวงม่านอิ่งกล่าวว่าจะต้องกลับแล้วเพื่อไปเตรียมงานก่อน ผู้หญิงคนนี้นี่นะ แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว เขาก็รู้ได้เลยว่าเธอจะต้องทำได้ตามที่กำหนดได้แน่ ๆ
ในส่วนรากฐาน พื้นดิน และพื้นที่รอบข้างของพื้นที่ก่อสร้าง หวงม่านอิ่งคำนวณค่าใช้จ่ายมาแล้ว เบ็ดเสร็จแล้วก็น่าจะราว ๆ เจ็ดล้านหยวน เมื่อฉู่เหินได้ยินงบประมาณ เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะรีบมอบเงินให้หวงม่านอิ่งกว่าแปดล้านเหรียญ ณ วินาทีนั้น ฉู่เหินรู้ว่าทุกอย่างอยู่นอกเหนือการดูแลของเขา ทั้งหมดยกให้เป็นหน้าที่ของหญิงสาวตรงหน้าตัวเขาแทนแล้ว
วันนี้เขาใช้เงินมากกว่าห้าล้านหยวนหมดภายในชั่วพริบตา และเพราะแบบนั้นเอง ฉู่เหินจึงต้องรีบหาเงินมาเพิ่มเสียแล้ว ดูเหมือนว่าภายในเร็ว ๆ นี้เขาจะต้องขุนให้ปลาเกล็ดขาวถึงขั้นสองอีกให้ได้หลาย ๆ ตัวแล้วล่ะ
Next