บทที่ 109 ปลาเกล็ดขาวขั้น 3
พวกคนบนเรือต่างตื่นเต้นกันมาก ตอนแรกพวกเขาเพียงแค่คาดเดาว่าสิ่งที่อยู่บนหลังสัตว์ประหลาดนั่นเป็นอะไรกันแน่ เพราะมันอยู่ห่างเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงมองไม่ชัด แต่เมื่อครู่ พวกเขาเห็นกันตำตาว่าสิ่งที่อยู่บนหลังของสัตว์ประหลาดกำลังโบกมือให้พวกเขาอยู่ มันทำให้พวกเขารู้สึกบ้าคลั่ง ตำนานมีอยู่จริงเหรอเนี่ย!
ต่อมาจากคำบอกเล่าของคนที่เห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้น นั่นก็ทำให้เกิดข่าวเรื่องอัศวินนางเงือกไปแพร่กระจายไปทั่ว ซึ่งตอนแรกทุกคนก็คิดว่าเป็นแค่การกุเรื่องขึ้นมา แต่เมื่อได้รับการยืนยันจากคนอื่น ๆ นั่นก็ทำให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ร้อนแรงมากขึ้น!
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกในทันที แถมยังแพร่กระจายออกไปเร็วขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย!
โฮสต์: นั่นเป็นอัศวินนางเงือกอย่างแน่นอน ขอเอาหัวเป็นประกันเลย!
พอล: เจ้าของข่าวนั่นพูดถึงอัศวินนางเงือกโบกมือให้พวกเขา มันดูปลอมไปไหม?
ไอได: ฉันเห็นด้วยนะ ฉันว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง
หลักฐานมากมายนั้น แท้จริงแล้วล้วนแต่พูดถึงฉู่เหิน หากแต่เขายังไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตนจะทำให้เกิดเรื่องขึ้น ในขณะนี้ชายหนุ่มนั่งอยู่บนหลังของปลาทูน่า เขาก็ได้แต่โอดครวญ ต่อไปนี้ฉู่เหินขอสาบานว่าจะไม่ขึ้นหลังปลาทูน่าอีก ความเร็วขนาดนี้ เขารับมันไม่ไหวจริง ๆ
โชคดีที่หลังจากนี้คงไม่ต้องมาขี่อะไรแบบนี้อีก พอความเร็วชะลอลง ในที่สุดฉู่เหินก็หายใจทั่วท้องได้ซะที เขาเกือบจะขาดใจตายอยู่แล้ว ตอนนี้หน้าของชายหนุ่มนั้นซีดมาก
10 นาทีต่อมา ในที่สุดฉู่เหินก็เดินลงจากหลังปลาได้อย่างนิ่มนวล ชายหาดในยามกลางคืนเต็มไปด้วยความเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นเท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นครั้งคราว ฉู่เหินโบกมือลาปลาทูน่า ก่อนจะเดินกลับบ้าน
ตอนที่โบกมือ ฉู่เหินได้หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา มันอยู่ภายในแหวนมิติมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครโทรเข้ามาบ้าง?
พอเขาหยิบมันออกมาก็มีสายเข้ามาทันที
“ฮัลโหล วางใจได้ ผมไม่เป็นไรครับ ตอนนี้อยู่บนฝั่งแล้วครับ เมื่อกี้แบตจะหมดก็เลยปิดเครื่องไป ครับ อย่าคิดมากเลยครับ” เมื่อคุยกับหลิวจ้านซานเสร็จ ฉู่เหินก็รู้สึกอบอุ่นในใจ การมีคนนึกถึงมันดีจริง ๆ
เมื่อถึงบ้าน ฉู่เหินก็หาทำอะไรง่าย ๆ พอเวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า เขาก็วิ่งไปทางบ่อปลา ในตอนกลางวันมีคนมาทำงานอยู่แถวบ่อปลาอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมาดูแลปลาเกล็ดขาวได้ ต้องเข้าใจด้วยว่าถ้าหากเขาเอาศพแปลก ๆ ออกมาแล้ว คนพวกนั้นไม่ตกใจตายสิแปลก
เพราะฉะนั้นชายหนุ่มจึงเลือกที่จะมาบ่อเลี้ยงปลาในตอนกลางคืนแทน เมื่อฉู่เหินมาถึงบ่อปลา เขาก็พบว่าไฟยังสว่างอยู่ พวกคนงานกำลังทำงานต่อไม่พัก ไม่ไกลนัก มีเงาคนตัวเล็กดูอ่อนแอปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา คน ๆ นั้นก็คือหวงม่านอิ่งนั่นเอง
ตอนแรกฉู่เหินต้องการที่จะทักทายผู้หญิงคนนี้ แต่คิดได้สักพักเขาก็หันไปเลี้ยงปลาต่อแทน ตอนนี้บ่อปลาได้ถูกพัฒนาต่างจากเมื่อ 3 วันก่อน ซึ่งตอนนี้ถือว่าอยู่ในขั้นสังเกตการณ์
ฉู่เหินเตรียมนำปลา 2-3 ตัวออกมา ขนาดของมันนั้นใหญ่มาก บ่อนี้ไม่สามารถเลี้ยงพวกมันได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเอามันไปเลี้ยงในบ่อใหม่
การทำงานนั้นรวดเร็วเกินคำบรรยาย ภายใน 1 เดือนบ่อปลาใหม่นี้ก็เสร็จสมบูรณ์ บ่อปลาบ่อนี้มีขนาดกว่า 100 เอเคอร์ และลึกกว่า 10 เมตรตามที่ฉู่เหินนั้นขอไว้
ด้วยบ่อที่ใหญ่ขนาดนี้ การที่จะเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ก็ย่อมไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป หลังจากที่เปิดประตูน้ำที่กันอยู่ ฉู่เหินก็ปล่อยพวกเศษเนื้อของสัตว์ประหลาดลงไปในอวน
ปลาที่อยู่ในน้ำพวกนั้นต่างก็ว่ายไปมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาปล่อยปลาลงไปจนหมด บ่อที่กว้างขวางก็แออัดไปด้วยปลาจำนวนมาก เมื่อเห็นดังนั้นฉู่เหินจึงทำการปิดประตูบ่อ
ก่อนจะลากอวนที่เต็มไปด้วยเลือดและเศษเนื้อที่เหลือลงไปในบ่อนั้น
หลังจากที่ได้กลิ่นเลือด พวกปลาก็เริ่มมาอยู่ตรงบริเวณเหนือน้ำที่อวนตั้งวางอยู่ เศษเนื้อพวกนั้นถูกกินหมดลงอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่การเปลี่ยนแปลงนั้นชัดเจนมาก พวกปลาเกล็ดขาวที่กินเข้าไปพวกมันแต่ละตัวว่ายน้ำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาผ่านไม่ถึง 20 นาทีปลาเกล็ดขาวขั้น 3 ก็เริ่มปรากฏขึ้น
เดิมทีเขาคิดว่าพวกปลาขั้น 2 นั้นพอเปลี่ยนเป็นขั้น 3 แล้วจะไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็ดันมีบางอย่างประหลาด ๆ เกิดขึ้นที่เกล็ดของพวกมัน เช่นเดียวกับร่างกายของพวกมันที่ใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม
หลังจากที่ปลาพวกนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นขั้น 3 ในน้ำที่เดิมทีเป็นน้ำอุ่นก็เริ่มที่จะเย็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉู่เหินไม่กล้าที่จะเอามือจุ่มลงไปในนั้น เพราะเขาแค่ยืนข้างบ่อนี่ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นแล้ว
หลังจากนั้น ฉู่เหินก็ทำการจับปลาคราฟออกมาจากบ่อเล็ก ปลาทั่ว ๆ พวกนี้อย่างมากก็เป็นได้แค่อาหารของปลาเกล็ดขาวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงจับมันโยนลงไปในบ่อที่เย็นเฉียบอย่างระวัง
แล้วก็มีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น เมื่อพวกปลาคราฟลงไปในบ่อ มันก็เริ่มแข็งตัว พอผ่านไปสักพัก พวกมันก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งโดยสมบูรณ์ โชคดีที่เขาสังเกตความผิดปกติแล้วกลับขึ้นมาทัน เพราะขืนตกลงไปจริง ๆ ละก็ ได้แข็งตายในชั่วพริบตาแน่ อีกแบบนี้คงต้องสร้างราวกั้นซะแล้วซิ
อันที่จริงฉู่เหินไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะเจ้าปลาพวกนี้มีขนาดกว่า 10 เมตร? ถ้ามีใครกล้าโดดลงไปในบ่อที่มีพวกมันอยู่เต็มจริง ๆ ละก็ คนพวกนั้นก็คงหาเรื่องตายแล้วล่ะ!
หลังจากที่สังเกตการณ์อยู่นาน ชายหนุ่มก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านั้น ดังนั้นฉู่เหินจึงออกมา ตอนแรกเขากะจะไปหาหวงม่านอิ่งเพราะอยากจะคุยอะไรกับเธอสักหน่อย ผู้หญิงคนนี้ทำงานหนักมาก ขืนทำหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ต่อให้ร่างกายจะแข็งแรงแค่ไหน สักวันคงได้ล้มป่วยเอาแน่ ๆ
แต่ตอนที่เขากลับมา ฉู่เหินก็ไม่พบเธอแล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเธอคงจะไปนอนแล้วเลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เขาไม่รู้เลยว่า เพราะการละเลยของเขาในครั้งนั้น มันก็เกือบจะคร่าชีวิตของหญิงสาวคนนี้ไปแล้ว…
หลังจากกลับมาที่บ้าน เขาก็เริ่มฝึกฝนตัวเองอย่างเงียบ ๆ แต่ดูท่าว่าอารมณ์ของแมวนพเวทย์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากที่ได้วิชาไปจากฉู่เหิน เจ้าตัวน้อยนี้ก็ฝึกฝนทุกวัน แต่ไม่กี่วันมานี้เหมือนกับว่าเจ้าเหมียวกำลังเผชิญหน้ากับอุปสรรคบางอย่างอยู่ ดังนั้นช่วงนี้มันจึงพยายามฝืนตัวเอง ทำการฝึกฝนให้หนักขึ้นไปอีก
Next