สุดยอดชาวประมง – บทที่ 128 หวงเจิน[รีไรท์]

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 128 หวงเจิน[รีไรท์]

บทที่ 128 หวงเจิน[รีไรท์]

คุณภาพของดาบเล่มนี้ไม่ได้เลวร้ายซักเท่าไหร่ มันถูกจัดอยู่ในสมบัติระดับ 3 แต่สำหรับฉู่เหินแล้ว มันก็เป็นได้แค่ซี่โครงไก่ ดังนั้นการมอบมันให้กับโจวหู่เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

แน่นอนว่าเมื่อโจวหู่ได้ดาบเล่มนั้นมา เขาก็ดีใจจนเกือบขับรถทิ่มลงไปในคูน้ำ เรื่องนี้ทำเอาฉู่เหินหวาดเสียวขนลุกซู่ แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรร้ายแรง โจวหู่ก็หยุดรถไว้ได้ทันท่วงที จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ฉู่เหินและเกาหัวด้วยความอาย

ฉู่เหินก็ไม่อาจจะว่าอะไรเขาได้ เพราะสัปดาห์นี้โจวหู่ทำหน้าที่รับผิดชอบและปกป้องเสี่ยวชิงมานานแล้ว

“ในเมื่อเสี่ยวชิงยังปลอดภัยอยู่ งั้นฉันจะไปเยี่ยมผู้อาวุโสก่อนแล้วกัน” ฉู่เหินเหมือนจะพึมพำกับตัวเองและมันก็เหมือนกับการบอกโจวหู่ จากนั้นเขาก็กดเบอร์มือถือเพื่อโทรออก

“สวัสดีครับ ลุงหวงใช่ไหมครับ? ผมชื่อฉู่เหินเพื่อนของม่านอิ่ง ตอนนี้ผมอยู่ที่จิงเหมิน ม่านอิ่งบอกให้ผมเอาของมาให้ลุงครับ ผมไปที่นั่นไม่ถูก…อ้อ ได้ครับแล้วเจอกัน” หลังจากวางหูไป ฉู่เหินก็บอกที่อยู่ให้กับโจวหู่แล้วรถของพวกเขาก็เคลื่อนตัวไปยังที่นั่นอย่างรวดเร็ว

ฉู่เหินไม่คิดว่าตระกูลหวงจะอยู่ในตัวเมืองแบบนี้ เขาคิดว่าน่าจะเสียเวลากับรถติดในเมืองน่าดูเลย อย่างน้อยก็น่าจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง ในระหว่างทางเขาก็ทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา

ช่วงนี้เขาแทบจะไปทุกที่ แม้ว่าชายหนุ่มจะคอยปกป้องครอบครัวและเพื่อนได้เป็นอย่างดี แต่นี่มันเป็นเพียงการแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนเท่านั้น ฉู่เหินกลัวว่าถ้าไอ้พวกนั้นมันเกิดคลั่งไปทำร้ายครอบครัวเขาขึ้นมา เขาก็กลัวว่าด้วยพลังและทักษะที่เขามีอยู่ตอนนี้มันจะไร้ประโยชน์

“ซานเหนียง ในเมื่อเธอมุ่งมั่นที่จะเป็นศัตรูของฉัน ฉันก็จะทำให้เธอดูว่าคนที่เป็นศัตรูของฉันมันจะมีจุดจบที่น่าสมเพชยังไง!!” ฉู่เหินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งอย่างลับ ๆ สีหน้าของเขาดูโหดเหี้ยมมาก หลังจากกดโทรศัพท์ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มก็ปรากฏที่ใบหน้าของเขา

ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าที่จะล้างแค้นเขาอย่างไร้เหตุผล แล้วทำไมเขาถึงจะไม่เล่นเกมสักหน่อยล่ะ ? เกมที่ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ อย่างไรก็ตาม มันอาจอันตรายสำหรับเขา แต่เขาเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้จบลง อีกฝ่ายจะต้องร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดแน่

ตั้งแต่ต้นจนจบ โจวหู่ได้ยินทุกอย่างจากปากของฉู่เหิน ในใจของเขาเต็มไปด้วยความยกย่องและขอบคุณ สุดท้ายแล้วเขากับฉู่เหินก็รู้จักกันได้ไม่นาน พวกเขาไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับจากอีกฝ่าย แต่เขายังได้รับความไว้ใจจากอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

อีก 1 ชั่วโมงต่อมา วิลล่าภูเขาเซียงซรานในเมืองจิงเหมินก็ปรากฏตรงหน้าฉู่เหิน ที่นี่จัดได้ว่าเป็นหมู่บ้านคนรวยก็ไม่ปาน แถมมันยังเป็นพื้นที่ปิดที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย นี่จึงนับได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดของเมืองจิงเหมินเลยก็ว่าได้

ตึกหมายเลข 16a 3a 9-11 คือที่อยู่ของหวงม่านอิ่ง! ฉู่เหินนำของที่ได้มาจากหวงม่านอิ่งออกมา และอีกมือหนึ่งถือขวดไวน์ชั้นดีที่เขาซื้อมาให้พ่อของเธอเอาไว้ ถ้านี่เป็นการพบกันครั้งแรกทำไมเขาจะไม่นำของขวัญมามอบให้ก่อนล่ะ

แต่แล้วฉู่เหินก็ถูกหยุดเอาไว้ที่หน้าประตูด้วยยาม

“ขออภัยด้วยครับ ที่นี่เป็นหมู่บ้านปิด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออก ถ้าหากจะมาเยี่ยมลูกบ้านที่นี่ก็รบกวนติดต่อหรือให้เขามารับด้วยครับ” ยามคนนั้นพูดกับเขาอย่างสุภาพ

ฉู่เหินไม่ได้รำคาญอะไรยามคนนี้ เพราะยิ่งเขาคนนี้ทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งนั่นก็ยิ่งดีต่อความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน

ฉู่เหินพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะรีบโทรหาหวงเจิน หลังจากรับสาย อีกฝ่ายก็รีบลงมารับฉู่เหินทันที

หวงเจินรู้ดีว่าฉู่เหินไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาของลูกสาวเขาเท่านั้น หากแต่ชายผู้นี้ยังเป็นเพื่อนคนสำคัญอีกต่างหาก หลังจากที่รออยู่ไม่นานนัก ชายวัยกลางคนในชุดสูทก็ปรากฏตัวขึ้นต่อยามคนนั้น และแล้วประตูก็เปิดออก

โจวหู่ไม่ได้เข้าไป เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่เขาควรอยู่ แม้ว่าฉู่เหินจะชวนเขาแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะขึ้นไปอยู่ดี และเลือกที่จะให้ฉู่เหินจัดการธุระให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยลงมาหาเขา

บ้านของหวงเจินนั้นเป็นตึกระฟ้า เขาอยู่ที่ชั้น 9 ของห้อง 9-11 โชคยังดีที่เทคโนโลยีสมัยนี้มีการคิดค้นลิฟต์ที่ทำให้ทุกคนไม่ต้องเดินกันจนปวดเมื่อย ไม่งั้นแล้วถ้าอยากจะเดินขึ้นไปคงจะเหนื่อยมาก

ถึงจะเป็นตึก แต่ห้องของหวงเจินก็ไม่ได้แคบเลย มันกว้างกว่า 100 ตารางเมตรเสียอีก แถมยังมีพื้นที่มากมายที่เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาด 3 คนเลยด้วยซ้ำไป

การตกแต่งในห้องนั้นก็เลิศหรูหราเอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นหนังสือที่อยู่ในห้องนั่งเล่นที่ให้อารมณ์อย่างของความใฝ่รู้ แถมยังมีโซฟาไม้มะฮอกกานีอีก บวกกับแก้วน้ำ 2 แก้วที่โต๊ะกาแฟ หลังจากกวาดสายตาไปเรื่อย ๆ ฉู่เหินก็ได้เห็นเข้ากับใครบางคนที่กำลังง่วนอยู่ในห้องครัว

ปรากฏว่าเป็นแม่ของหวงม่านอิ่งที่อยู่ในครัวนั่นเอง เมื่อรู้แบบนั้น ฉู่เหินก็รีบจัดแจงนำของทุกอย่างมามอบให้แล้วก็พูดคุยกับทั้งสอง!

ฉู่เหินสามารถเห็นได้ว่าการตกแต่งที่นี่น่าจะมีอายุหลายปี พื้นเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและบนฝ้าเพดานเองก็มีรอยแตก ยิ่งกว่านั้นโคมไฟระย้าที่สวยงามก็เริ่มชำรุดแล้ว ฉู่เหินไม่คิดว่าครอบครัวนี้จะไม่มีเงินซ่อม ที่บ้านของพวกเขาเป็นแบบนี้ก็คงเพราะมัวยุ่งแต่กับงานและไม่มีเวลา ซึ่งสำหรับทั้งสองแล้ว ตราบใดที่พวกเขาอยู่ที่บ้าน มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นยังไง

ทว่า ฉู่เหินเองก็รู้สึกได้ว่าต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ

“คุณลุงครับ โคมไฟระย้านั่นมันดูเก่าแล้วนะ ทำไมไม่ตกแต่งมันใหม่ล่ะครับ?” ฉู่เหินเอ่ยปากถามด้วยท่าทีปกติ

“ฉันยุ่ง ๆ น่ะ และที่สำคัญ ฉันเองก็ชักจะชอบที่การตกแต่งสไตล์แบบนี้แล้วด้วย ฉันเจอบริษัทรับจัดตกแต่งบ้านที่หนึ่ง ฉันให้พวกเขามาที่นี่ คำขอของฉันนั้นง่ายมาก คือทำให้เป็นแบบเดิม แต่บริษัทบอกว่าสไตล์นี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ไม่งั้นก็บอกว่ามันกลับสู่สภาพเดิมไม่ได้สมบูรณ์ ดังนั้นฉันเลยปล่อยมันไว้แบบนี้จนถึงปัจจุบันเนี่ยแหละ!”

หลังจากได้ยินแบบนั้น ฉู่เหินก็ตบหน้าอกของตัวเองและอาสาช่วย “ไม่มีปัญหาครับลุง ผมมีเพื่อนคนหนึ่งทำงานตกแต่งภายใน การตกแต่งสไตล์นี้เดี๋ยวผมขอให้เพื่อนมาช่วยซ่อมแซมเองครับ ไม่น่าจะมีปัญหา”

ในตอนนี้ฉู่เหินนึกถึงเพื่อนของเขา เว่ยตงจื่อ ชายผู้โชคร้ายที่เจอกับเขาเมื่อเดือนที่แล้ว ใครจะไปรู้บ้างล่ะว่าเว่ยตงจื่อจะทำอะไรอยู่ หลังจากคิดถึงเพื่อนของเขาแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนมุมปาก มันช่างเป็นโชคร้ายจริง ๆ ที่พวกเขาเจอกันในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด

เมื่อคิดไปคิดมา ฉู่เหินก็รีบโทรไปหาเว่ยตงจื่อทันที แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีสัญญาณซะอย่างนั้น มันทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย เว่ยตงจื่อไม่เคยปิดมือถือแน่ ๆ

จากนั้นเขาก็เริ่มโทรไปที่บ้านของเว่ยตงจื่อ กลายเป็นว่าคนรับสายคือชายชราคนหนึ่ง

“สวัสดีครับ เอ่อ คือ ที่นั่นบ้านของเว่ยตงจื่อใช่ไหมครับ? เขาอยู่รึเปล่า?” ฉู่เหินถามอย่างสุภาพเมื่อได้ยินเสียงคน

“แกเป็นใครกัน! ฉันเองก็ตามหาหมอนั่นอยู่เหมือนกับแกนั่นแหละ มันหายหัวไปตั้ง 10 วันแล้วนะเว้ย! แม่งเอ๊ย ไร้ประโยชน์จริงๆ!”

Next

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน