บทที่ 151 หลีกหนีความตาย[รีไรท์]
บทที่ 151 หลีกหนีความตาย[รีไรท์]
กระดองเต่านั้นใช้เป็นโล่ป้องกันได้ดี มันสามารถปัดป้องเศษหินทั้งหลายที่พุ่งเข้ามาได้ ถ้าฉู่เหินไม่งัดมันออกมาใช้ป่านนี้ก็น่าจะตายอย่างน่าอนาถไปนานแล้ว
ชายหนุ่มเห็นพื้น เศษหิน แท่งเหล็ก และอะไรก็ไม่รู้มากมายกระเด็นมาทางเขาอย่างบ้าคลั่ง เสียงดังแคร้ง ๆ ที่เกิดจากวัตถุกระทบเข้ากับกระดองเต่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉู่เหินรีบพุ่งไปยังทิศทางอื่นทันทีด้วยความสั่นเทา
ความตื่นเต้นต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทำเอาเลือดลมของฉู่เหินสูบฉีดกันอย่างบ้าคลั่ง โชคยังดีที่มีกระดองเต่าอยู่ มันจึงทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้สบายตัวมากนัก ถ้าร่างกายของฉู่เหินไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่ากับระดับยอดฝีมือชั้นสูงแล้วละก็ เขาน่าจะลำบากพอตัวเลยทีเดียว
เมื่อหลบหนีออกมาได้สำเร็จ ฉู่เหินก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เขาจะต้องถึงกับสั่นเทาเมื่อเห็นรอยแตกที่พื้นใต้เท้าของเขา ฉู่เหินรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเขาจึงเอากระดองเต่ามาวางไว้ที่ใต้ฝ่าเท้าทันที
ชายหนุ่มใช้กระดองเต่าสไลด์ลงไปตามทางเบื้องหน้า ทว่าในตอนนั้นพื้นด้านหลังของเขาเองก็ถล่มตามลงมา พร้อม ๆ กับที่เปลวไฟมากมายพวยพุ่งขึ้นมาตามรอยแยกที่เปิดกว้างขึ้น เปลวเพลิงพวกนั้นดุดันราวกับมังกรไฟที่ทะยานขึ้นมา
มีเสียงดังคำรามดังออกมาจากด้านหลัง ทันทีที่ได้ยินเสียงฉู่เหินก็พลันกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ที่เขาอยู่บนหัวของมังกรไฟตัวนี้พอดิบพอดี ในตอนนี้มังกรไฟเปรียบเสมือนกับสัตว์ร้ายที่แสนน่ากลัว มันได้พุ่งเข้าใส่กระดองเต่าที่อยู่ใต้เท้าของฉู่เหิน
โชคยังดีที่ชายหนุ่มเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี เขาย่อตัวลงและใช้กระดองเต่าหลบหลีกไฟพวกนั้นออกมาได้ก่อนที่จะโดนไฟพวกนั้นส่งตัวเองลอยขึ้นมาบนท้องฟ้า
หลังจากที่พวกเขาขึ้นมาบนท้องฟ้าแล้ว สายลมก็เปลี่ยนทิศจนทำให้ไฟพวกนั้นไม่อาจเอื้อมถึงทั้งคู่ได้อีก ถ้าหากว่าลมไม่เปลี่ยนทิศทางแล้วพาไฟพวกนั้นออกไปละก็ ป่านนี้พวกเขาน่าจะถูกย่างบนกระดองเต่าไปแล้ว
ทุกคนที่อยู่ห่างออกไปได้เห็นภาพนี้ต่างก็รู้สึกประทับใจและเชิดชูในตัวของฉู่เหินเป็นอย่างมาก แต่มันก็ยังมีความกังวลปนอยู่ในความตะลึงนั่นด้วยเช่นกัน
ฮวยเหรินกู๋พยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เก็บมันเอาไว้ “หมอนี่มันเก่งเกินคาดว่ะ” เมื่อเขาเห็นฉู่เหินเหาะเหินอยู่บนทะเลเพลิง ตัวเขาก็เริ่มทนไม่ไหว
เทียบกับตัวเขาเองที่ตอนนี้อยู่ระดับที่เกือบจะบรรลุชั้นยอดฝีมือ ทว่าฉู่เหินกลับมีความสามารถในการต่อสู้ที่เก่งกาจเหนือคนธรรมดา มันทำให้ความอิจฉาในใจของฮวยเหรินกู๋เพิ่มพูนขึ้นมาก
“ทำไมกัน? ทำไม? ฉันที่ฝึกฝนมาแทบตายแต่ก็ยังเข้าไม่ถึงระดับยอดฝีมือ แล้วไอ้หมอนี่ที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่ไหนกลับเป็นระดับสูงสุดซะอย่างนั้น บ้าที่สุด!” เขาสบถด่าทอออกมา
ไม่ใช่แค่พวกคนจากหน่วยมังกรเท่านั้นที่ได้เห็นภาพนี้ คนอื่นๆ ที่ศูนย์บัญชาการก็ได้เห็นภาพนี้จากดาวเทียมเช่นกัน พวกเขาเห็นทุกอย่างรวมไปถึงการโต้คลื่นทะเลเพลิงของฉู่เหินที่ทำให้พวกเขาต้องสั่นเทา
“เจ้าเด็กคนนี้เก่งเอาเรื่องเลยนะ ฉันเกรงว่าวันข้างหน้าหมอนี้ต้องเก่งขึ้นได้มากกว่านี้อีกแน่” ชายแก่ผมสีขาวพูดออกมาอย่างชื่นชม
แม้แต่คนอื่นเองก็พยักหน้าเห็นด้วย ในกลุ่มคนเหล่านี้หนึ่งในนั้นมีชายแก่รวมอยู่ด้วย ถ้าฉู่เหินอยู่ที่นี่เขาก็คงจำชายแก่คนนี้ได้ทันที เพราะเขาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ผู้อาวุโสจาง นั่นเอง
ชายชรานั่งอยู่กับเหล่าบรรดาหัวหน้าคนอื่น ๆ ในห้องนี้ เขาคือคนที่เก่งกาจที่สุด แต่เมื่อเห็นภาพนี้เขาก็ถึงกับเหงื่อตก
พื้นที่ที่ฉู่เหินอยู่ในตอนนี้เต็มไปด้วยเปลวไฟที่พร้อมจะคร่าชีวิตของชายหนุ่มทุกเมื่อ มังกรไฟทะยานขึ้นมาเรื่อย ๆ ในทุกวินาทีที่ผ่านไป จากนั้นเมื่อมังกรเพลิงพวกนั้นเชื่อมต่อกัน มันก็บังเกิดเป็นทะเลเพลิงขนาดใหญ่ที่มีฉู่เหินลอยอยู่บนนั้น
โชคยังดีที่เขามีกระดองเต่าไม่งั้นเขาน่าจะตายไป 10 รอบแล้ว ไม่นานนักพื้นดินก็ไม่เหลือให้ฉู่เหินใช้วิ่งได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหันมาใช้กระดองเต่าในการสไลด์ไปข้างหน้าแทน
ชายหนุ่มโดนไฟลวกบ้างเล็กน้อย จนใครหลาย ๆ คนก็คิดว่าเขาน่าจะต้องตายไปแล้วในกองเพลิงนั่นแน่ ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเขายังไม่ตายเสียอย่างนั้น ทว่าสภาพของเขาก็ไม่สู้ดีมากนัก มุมปากของเขามีเลือดออกมา อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ตายละนะ
“ถ้าเด็กคนนี้ไม่ตายละก็ ฉันจะหาทางเอาเขาเข้าทีมมังกรให้ได้เลย” ชายแก่ที่อยู่ข้างผู้อาวุโสจางพูดด้วยความมุ่งมั่น
“แกคิดอย่างนั้นเหรอ? ปลาเกล็ดขาวกับสมบัติใต้ทะเลนั่นฉู่เหินก็เป็นคนหามาให้ทั้งนั้น แล้วคราวนี้ยังจะมาขอให้เด็กคนนี้เข้าร่วมทีมอีกงั้นเหรอ? จะต้องมีคนไม่พอใจนายแน่ ๆ!” ผู้อาวุโสจางพูดออกมาอย่างขุ่นเคือง
ชายแก่คนนั้นถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย “ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นคนเพาะพันธุ์ปลาพวกนั้น ฉันก็แค่คิดเอาเฉย ๆ นี่นา แต่ถ้าให้ฉันดูแล้วละก็ ยังไงเจ้าเด็กคนนี้ก็น่าควรมาเข้าทีมอยู่ดี”
ทุกคนในห้องนี้ตะลึง พวกเขารู้จักปลาเกล็ดขาวพวกนั้นดี แต่ไม่คิดว่าคนที่เพาะเลี้ยงพวกมันจะเป็นชายหนุ่มคนนี้ ข้อมูลดังกล่าวยิ่งทำให้ฉู่เหินกลายเป็นจุดสนใจไปกันใหญ่
หลังจากตื่นตระหนกอยู่สักพัก ฉู่เหินก็เริ่มจับเทคนิคได้ วันนี้เขาเหมือนนักเล่นกระดานโต้คลื่นที่อยู่ในกองเพลิง เขาคิดจะใช้พลังไฟในการส่งแรงผลักออกไป
ทุกคนที่เห็นภาพของฉู่เหินต่างก็ไม่เชื่อในสายตาตัวเอง ในขณะที่ทุกคนกำลังเหงื่อตกกับสภาพการณ์หนีตายในสภาวะแบบนั้น แต่ชายคนนี้กลับรู้สึกสนุกไปกับมันเนี่ยนะ?
ฉู่เหินที่กำลังโต้คลื่นไฟไปมาอย่างสนุกสนาน พื้นใต้เท้าของเขาก็เกิดแตกและปะทุไฟขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันกว้างกว่า 10 เมตรและมีเปลวเพลิงอันร้อนระอุทะลุขึ้นมา
ไฟพวกนั้นดุดันราวกับมังกรที่โกรธเกรี้ยว มันพุ่งเข้าใส่ฉู่เหินอย่างเดือดดาลและกระแทกจนเขาเกือบตกจากกระดองเต่า ต้องขอบคุณที่เขาเตรียมตัวรับมือมันมาแต่แรกแล้ว ไม่งั้นชายหนุ่มอาจจะตกไปในกองเพลิงก็เป็นได้
แรงปะทะนั้นทำเอากระดองเต่าพุ่งไปด้านหน้า พร้อมกันนั้นพื้นด้านล่างก็ยังคงปะทุไฟขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา โชคยังดีที่ชีวิตของฉู่เหินยังโอเค แรงส่งนั้นพาเขาออกมาได้ในที่สุด
ฉู่เหินลงจอดบนพื้นได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เขาจะเก็บกระดองเต่าเอาไว้แล้วอุ้มเด็กคนนั้นไว้แน่นขึ้นพร้อมกับวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เขารู้แค่ว่าเขาต้องรอดจากสถานการณ์ตรงนี้ให้ได้!
Next