บทที่ 162 ฉันไม่อยากจะคิด[รีไรท์]
บทที่ 162 ฉันไม่อยากจะคิด[รีไรท์]
“เฮ้ย ๆ ลุงเป็นใครเนี่ย ทำแบบนี้มันไร้ศีลธรรมไปหน่อยมั้ง มาทำแหตกปลาฉันพังระวังจะจ่ายคืนไม่ไหวนะเว้ย คนแก่ ๆ พวกนี้เอะอะก็บินตามขึ้นมา ไม่กลัวตกลงไปตายรึไง”
หลังจากที่ก้าวเข้าสู่เครือข่ายระดับ 3 แหของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก ตอนนี้ฉู่เหินสามารถรับรู้สัญญาณจากที่ต่าง ๆ ได้ เขาเห็นคนกำลังจัดการกับแหของเขา ด้วยความร้อนรน เขาจึงเผลอพูดจาต่อว่าออกมา
ปัญหาเรื่องของภาษาที่แตกต่างกันระหว่างฉู่เหินและอีกฝ่าย เมื่อผ่านเจ้าแหตกปลา มันก็ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ในจังหวะที่พวกอาจารย์กำลังจะเข้าโจมตี พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ฉู่เหินพูดออกมาเมื่อสักครู่ ฟังเข้าไปแบบมีหรือที่พวกปรมาจารย์นักหลอมยาทั้งหลายจะไม่โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า
“ไอ้หนุ่ม ท่านผู้อาวุโสกำลังโกรธ แน่จริงก็แสดงตัวออกมาสิ พวกเราจะได้สู้กันให้รู้ดำรู้ดีกันไปเลย!” คำเตือนของเขาถูกเมินไปอย่างรวดเร็ว ทว่าชายหนุ่มก็ยังไม่ทันได้ท้วงอะไร เพราะแหนั้นก็ได้ลอยทิ้งห่างคนพวกนั้นมาไกลแล้ว เมื่อเห็นแบบนั้นฉู่เหินก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ตาเฒ่า คิดจะทำลายแหตกปลาของฉันงั้นเหรอ จำไว้นะถ้าลุงยังกล้าล้ำเส้นแบบนี้ ต่อไปฉันไม่เอาลุงไว้แน่” ฉู่เหินนั้นดูโมโหมาก ถ้าเกิดว่าอาวุธระดับ 3 เสียหายขึ้นมา ค่าซ่อมของมันไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ
โชคดีที่แม้อีกฝ่ายจะโจมตีอย่างบ้าระห่ำ แต่มันก็มีน้อยมากที่โจมตีเข้าไปโดนแห แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกใจหายทุกครั้ง พลังของคนพวกนี้น่าหวาดหวั่นมาก ถ้าเกิดว่าพวกเขาคิดโจมตีอย่างเต็มกำลังนั้นคงจะไม่ง่ายแบบนี้แน่ ๆ
ทว่าความเร็วของแหตกปลานั้นเร็วมาก บวกกับเสียงที่ข่มขู่ที่ดังออกมา เหล่าผู้เฒ่าก็ไม่สามารถตามทันได้อีกต่อไป พวกเขาทำได้แต่คำรามไล่หลังมาเท่านั้น
“ผู้ถือครองฉู่เหิน ได้รับม้วนตำรับยา ภายในเล่มบันทึกวิธีการปรุงยาทั้งยาผสานวิญญาณและหญ้าวิญญาณ ที่หาได้ยากมาก! เพิ่มค่าประสบการณ์ 300,000 ยังขาดค่าประสบการณ์อีก 2,490,000 จึงจะสามารถเลื่อนขั้นต่อไปได้”
ได้ยินดังนั้นฉู่เหินก็แสยะยิ้มออกมา เขาไม่ได้คาดหวังว่าตำรานั่นจะมีค่ามากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานเขาคงสามารถเลื่อนเป็นระดับ 4 ได้อย่างไม่ยากเย็นเป็นแน่
เวลานี้เขาเล่นแหอันใหม่จนพอใจแล้ว แต่เขายังมีโอกาสหาของได้อีก 2 ครั้งในวันนี้ หลังจากที่ฉู่เหินเก็บม้วนยาตันฉูแล้ว เขาก็เริ่มหว่านแหแสงม่วงหยินเหล๋ยอีกครั้ง พร้อมกับนึกในใจไปว่าด้วยอย่าได้กลับไปที่นั่นอีกเลย แถวนั้นมันน่ากลัวจริง ๆ
ทว่าหลังจากหว่านแหแสงม่วงหยินเหล๋ยอีกครั้ง ในระยะห่าง 10 เมตร ฉู่เหินถึงได้รู้สึกตัวว่าเขากลับมาที่ที่เขาขโมยม้วนยาตันฉูอีกแล้ว ฉู่เหินรู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
ครั้งที่แล้วเขาด่ากราดอีกฝ่ายไป เลยรับประกันไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะลอบโจมตีกลับหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงพยายามปกปิดตัวตนของแหแสงม่วงหยินเหล๋ยเอาไว้ก่อนเพื่อป้องกันอีกฝ่ายจับได้
การปิดบังตัวเองนั้นเป็นวิชาของขั้น 3 ขึ้นไปเท่านั้น เขาค่อย ๆ ควบคุมแหแสงม่วงหยินเหล๋ยให้ปกปิดตัวเอง จนตอนนี้ต่อให้มีฝีมือแค่ไหนก็ไม่สามารถจับได้ นี่จึงทำให้เขาโล่งไปเปลาะนึง
ฉู่เหินนำแหแสงม่วงหยินเหล๋ยให้ลอยขึ้นในสายลม ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง เดิมทีบนโต๊ะตัวนี้ไม่มีสิ่งใดวางอยู่ ฉู่เหินตั้งใจที่จะเอาของที่จะนำมาวางบนโต๊ะนี้ไป ครั้งนี้เขาก็ไม่คิดเช่นกันว่าต้องมาขโมยของจากถ้ำเสืออีกครั้ง ได้แต่หวังว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะนะ
หลังจากตะโกนไปได้สักพัก ผู้อาวุโสก็เริ่มสงบลง และตรวจงานของ 5 คนที่เหลือต่อด้วยอารมณ์โกรธจัด แม้ว่าทั้ง 5 คนจะสร้างยา 10 เม็ดที่มีคุณภาพที่ดีมากขนาดไหนก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถบรรเทาโทสะของผู้อาวุโสได้แม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสรวบยาทั้ง 10 เม็ด วางไว้ที่โต๊ะเล็ก ๆ ด้านหน้า! ฉู่เหินได้เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น เขาอยากจะเผ่นออกไปซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็พยายามอดกลั้นอยู่!
“ด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น รางวัลที่ 3 คงจะมีการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้จะขอประกาศรางวัลที่ 2!” คราวนี้ถือว่าฉลาดมาก แทนที่จะเอารางวัลไปเก็บไว้ ชายชรากลับเอามาวางไว้ที่โต๊ะต่อหน้าผู้คนเลย
มันคือเตาไฟขนาดเล็กที่ดูสวยงามกว่าหม้อทองคำสามขาของฉู่เหินซะอีก หลังจากที่เห็นเตาไฟหม้อนี้ มันก็ทำให้ผู้คนโดยรอบถึงกับเผลอกลั้นหายใจ ถ้าพวกเขาได้ครอบครองของสิ่งนี้ละก็ การจะไปถึงนักปรุงยาระดับ 6 ก็ไม่ใช่เรื่องฝันเฟื่องอีกต่อไป
การประกวดตานเหมินครั้งนี้ มีผู้คนที่ความสนใจกับสมบัติดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พวกเขาอดไม่ได้ที่จะปวดใจ อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งที่อาจารย์นั้นจะมอบให้กับลูกศิษย์
“จูปิ้งเฉิงนี่เป็นรางวัลของเธอ!”
หลังจากพูดเสร็จผู้อาวุโสก็ถอยไป รอให้จูปิ้งเฉิงมารับรางวัลด้วยตัวเอง ฉู่เหินที่วางแผนมานานนั้นก็ไม่ได้หวังมาก เตาไฟที่เขาหวังว่าจะได้นั้นกำลังจากไปเป็นของคนอื่น ถ้าเขาแสดงออกไปอย่างโจ่งแจ้งคงจะเป็นเป้าสายตาแน่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ที่ยืนอยู่นั้นก็ใกล้กับผู้อาวุโสมากด้วย
“ฮ่า ตาเฒ่าตอนนี้ฉันอยู่เหนือหัวของแกแล้ว ดูสิว่าฉันจะฉกสมบัติมาได้ก่อนหรือว่าฉันจะโดนเจอก่อนกัน!” ทันทีที่ชายชราได้ยินประโยคนี้ก็พลันเปลี่ยนท่าที เขาเงยหน้าขึ้นไป หากแต่ก็พบกับความว่างเปล่า มันทำให้ชายชรารู้สึกสงสัยมาก
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างข้างตัว ว่าแล้วก็รีบหันไปมอง ก่อนจะพบว่าเตาไฟแล้วยาอีกหลายขวดนั้นหายไปแล้ว ทันทีที่เห็นเขาก็ถึงกับคลั่งในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ปรมาจารย์นักหลอมยาอย่างเขาโดนลูบคมบ่อยขนาดนี้
จากนั้นชายชราก็รีบแผ่สัมผัสออกไปโดยพลัน เขาพบเข้ากับแหประมงที่กำลังหดตัวหายไปด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
“เจ้าโจรชั่ว! คิดว่าจะหนีได้อย่างนั้นเหรอ!”
หลังจบคำพูดนั้นไม่ใช่แค่ผู้อาวุโส แต่คนรอบตัวที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วได้ชักอาวุธออกมาแล้วโจมตีไปที่แหแสงม่วงหยินเหล๋ยอย่างรวดเร็ว
เมื่ออาวุธทั้งหลายสัมผัสกับแห ฉู่เหินก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนจากการเชื่อมต่อ รอบนี้ดูท่าจะแย่ ไม่ใช่ว่าแหไม่แข็งแรงพอ หากแต่เป็นเพราะการโจมตีนั้นรุนแรงเกินไป ฉู่เหินรับรู้ได้ในทันทีว่าการเชื่อมต่อนั้นกำลังจะถูกตัดขาดแล้ว
ถึงแม้การฟื้นตัวของมันจะเริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่อาจทนรับความเสียหายรุนแรงแบบนี้ต่อไปได้นานนัก ฉู่เหินคิดว่าคงต้องใช้เวลาซ่อมแซมมากเลยทีเดียว
“เจ้าหัวขโมยไร้ยางอาย! เจ้าจ้องเล่นงานข้าทำไมกันฮะ!?” ผู้อาวุโสคำรามออกมาด้วยความโกรธ
“ถุย แกคิดว่าฉันอยากรึไง ขโมยของเก่า ๆ นับพันปีของพวกแก มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ยอมทำ” ฉู่เหินหดหู่ใจอย่างมากน้ำตาเกือบจะไหลอยู่รอมร่อ เมื่อเห็นว่าแหตกปลาของตนเองเสียหายแค่ไหน น่ากลัวว่าครั้งนี้จะทำให้ตัวเองกระอักเลือดเป็นแน่
“ไม่เกินไปหน่อยเหรอ? ไม่ได้เอาของพวกแกมาทำลายสักหน่อย ดูพวกแกสะดีดสะดิ้งและหมดหวังอะไรขนาดนั้น ไร้เหตุผลสิ้นดี!”