บทที่ 190 ถอยหนี[รีไรท์]
บทที่ 190 ถอยหนี[รีไรท์]
ผู้คนที่อยู่ด้านนอกไม่รู้ความเป็นไปภายในวงล้อมไฟนั้นเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขาก็ได้ยินเสียงของฉู่เหินที่ร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ดังนั้นจึงพากันจินตนาการไปถึงการต่อสู้ข้างในที่เต็มไปด้วยความรุนแรง
ชาวเอเชียบางคนถึงกับตะโกนออกมา “ให้ตายเถอะ มีกันตั้งสองคนแต่ก็ยังใช้ลูกไม้อีกเหรอ? เล่นสกปรกจริงๆ!”
พวกระดับสูงทางตะวันตกเองก็หน้าบูดเบี้ยว ใช้เทคนิคหรือลูกไม้สกปรกอะไรกันล่ะ! ถ้าใช้จริง ๆ แล้วทำไมเจ้าชายเองก็ร้องออกมาด้วยล่ะ เฮ้ยยย แบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?
ตอนนี้เจ้าชายแวมไพร์บาดเจ็บสาหัส เขานอนอ้าปากแต่ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ เจ้าชายแวมไพร์รู้ตัวดีว่าเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่พร้อมกับโทนี่แน่ ๆ
“แขนฉัน! แขนของฉัน!” ฉู่เหินกรีดร้องออกมา
เจ้าชายแวมไพร์ได้แต่แอบพึมพำในใจว่า “แขนบ้า แขนบออะไรกัน หรือไอ้ตอแหลนี่แขนมันหักจริง ๆ เหรอ? แต่ถึงมันแขนหัก พลังต่อสู้ของเราก็แทบไม่เหลือแล้ว? คิดจะเอาชนะมันตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย”
“ขาฉัน ขาของฉัน! ไอ้เวรเอ๊ย ฉันจะฆ่าแก” ฉู่เหินกรีดร้องออกมาเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าเขากำลังเสียเปรียบ จากนั้นเขาก็พุ่งไปฆ่าเจ้าชายแวมไพร์อย่างโหดเหี้ยมทันที!
เมื่อจัดการทั้งเจ้าชายแวมไพร์และโทนี่ได้แล้ว ฉู่เหินก็ใช้หม้อทองคำที่ดูดช้างไปก่อนหน้านี้ ดูดทั้งสองเข้าไปด้วยเพื่อไม่ให้หลงเหลือร่องรอยใด ๆ
เสียงร้องของฉู่เหิงดังอยู่นานจนกระทั่งม่านไฟเริ่มดับลงจนหมด
ฉู่เหินในตอนนี้สภาพน่าสมเพชมาก ถึงจะไม่มีเลือดแต่ชุดของเขาก็ขาดวิ่น แถมแขนกับขายังหักอีกด้วย ทุกคนมองภาพนี้ด้วยความโกรธแค้น แต่อย่างน้อยก็ดีที่เขายังมีชีวิตอยู่แล้ว 2 คนนั้นที่สู้กับเขาหายไปไหนล่ะ?
ในสนามต่อสู้ไม่มีร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด เป็นภาพที่แปลกประหลาดจนทำเอาทุกคนตะลึง ทุกคนมองร่างที่กำลังเดินกลับมาที่ฝูงชนด้วยความน่าสังเวช ไม่มีใครขวางทางเขาทั้งนั้น
จนกระทั่งตัวเขาเดินลับหายไป ก็มีบางคนพูดขึ้นมา “พระเจ้า นี่เขาจัดการแวมไพร์กับโทนี่ด้วยตัวคนเดียวเลยเหรอ?”
คำพูดนั่นทำเอาทุกคนขนลุกซู่ ทุกคนมองหน้ากันด้วยความอยากรู้ ว่าชายคนนี้ใช้วิชาอะไรกันแน่ ? แต่ไม่นานนักทุกคนก็เลือกที่จะไม่ตั้งคำถามกันอีกต่อไป เพราะยังไงเสียก็ถือว่าชนะละนะ
พวกตะวันตกไม่นิ่งเฉยแน่ ๆ พวกเขาเสียมือดีไปสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงออกคำสั่งให้เริ่มไล่ล่าฉู่เหินไปทั่วภูเขานี้ด้วยเหตุผลที่ว่าชายคนนี้สังหารคนที่เก่งที่สุดของกลุ่มไป ให้ตายยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะยอมให้สมบัติที่เดิมพันไว้ตกอยู่ในมือของ ฉู่เหิงเด็ดขาด!
ไม่ใช่แค่พวกตะวันตก พวกเอเชียเองก็มีคำสั่งไปทั่วเขาลูกนี้เช่นกัน ในด้านของฉู่เหิน เขาหาสถานที่ที่เงียบสงบและทำการเปลี่ยนชุดของตัวเอง ก่อนจะปลอมตัวด้วยการใส่หน้ากาก
ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าการค้นหาตัวเขาในครั้งนี้ล้มเหลว ทุกฝ่ายต่างก็ประหลาดใจที่ไม่สามารถตามหาฉู่เหิงที่ได้รับบาดเจ็บจากการประลองคนนี้ได้
ตอนที่ฉู่เหินเดินกลับออกมา ทุกคนต่างก็เห็นแน่ชัดว่าฉู่เหินนั้นไม่เพียงแต่เหนื่อยล้า หากแต่ร่างกายของเขายังได้รับความเสียหายหลายแห่งด้วยเช่นกัน ดู ๆ ไปแล้วคงบาดเจ็บสาหัสมากเลยเดียว
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉู่เหินก็ไม่น่าหนีไปได้ไกลมากนัก เรื่องนี้ทำเอาพวกเขาแปลกใจกันมาก!
เมื่อฉู่เหินกลับมาที่กลุ่มของตระกูลซ่างกวง เสี่ยวฟู๋ก็หันมามองชายหนุ่มด้วยสายตาทิ่มแทง ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายและฉู่เหินก็ยืนอยู่ด้านหลังของฝูงชนเหล่านั้น
ฉู่เหินค่อย ๆ เดินมายืนข้างๆ เสี่ยวฟู๋ ก่อนที่จะส่งหน้ากากคืนให้กับเสี่ยวฟู๋ เมื่อหญิงสาวเห็นว่าเขายื่นให้ เธอก็รับมาเบา ๆ
หน้ากากนี้ถ้ามันอยู่กับเธอก็เป็นแค่เครื่องประดับชิ้นหนึ่ง แต่เมื่ออยู่กับฉู่เหิน มันกลับสร้างผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป เหมือนเปลี่ยนหัวหมูเป็นหัวเสือ*เลยทีเดียว เสี่ยวฟู๋มองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยความหวั่นเกรง
ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว ซึ่งของที่ฉู่เหินได้มามันจะต้องทำเงินให้กับเขาได้เยอะมากแน่ เสี่ยวฟู๋มองเขาด้วยสายตาที่เปล่งประกายและยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เธอคิดว่าฉู่เหินนี่แหละคือที่สุดแล้ว โม่เจียวรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอรีบวิ่งเข้าไปหาฉู่เหินทันทีที่เขาเข้ามาแล้วมองไปยังเสี่ยวฟู๋ด้วยสายตาอาฆาต
“พี่ชายจะไปหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้นะ พี่ชายเนี่ยไม่ไหวเลยจริง ๆ”
ฉู่เหินดวงตาเบิกโพลงด้วยความหวาดหวั่น การที่มีเด็กสาวมาพูดกับเขาด้วยประโยคแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน ? เขารู้สึกได้เลยว่าเด็กคนนี้น่าจะเป็นปัญหากับเขาในอนาคตเเน่ ๆ
“เธอเป็นอะไรมากรึเปล่า? ถ้ายังปกติดีก็ช่วยพูดในเรื่องที่มันน่าฟังมากกว่านี้หน่อยเถอะ!”
“ผิดรึไงเล่าพี่ชาย? ฉันสวยมากเลยใช่ไหมล่ะ? เพราะแบบนั้นแหละพี่ชายต้องอยู่ข้างฉันไม่ใช่แม่นั่นนะ?” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ครั้งนี้เขาพลาดแล้ว
“ช่างมันเถอะ ต่อให้ฉันมีพลังแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีเธอคอยคุ้มครองฉันก็เอาตัวเองไม่รอดจากราชางูหรอก” ชายหนุ่มคิดก่อนพูดอีกครั้ง
“ฮึกๆ”
จู่ ๆ เด็กสาวก็งอนทำเอาฉู่เหินถึงกับปวดหัวและไปไม่ถูกกับความต้องการของเด็กคนนี้ ฉู่เหินรู้สึกได้เลยว่าเขาน่าจะเจอเรื่องยุ่งยากเข้าให้แล้วสิ
—–
* หัวหมูเป็นหัวเสือ คือการเปรียบเทียบว่าเมื่อเปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่าเจ้าของเก่า