สุดยอดชาวประมง – บทที่ 220 ร่มนภา

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 220 ร่มนภา

บทที่ 220 ร่มนภา

ฉู่เหินยืนอยู่ระหว่างภูเขาไฟลูกแรกกับภูเขาไฟลูกที่สอง เขาสัมผัสได้ว่าถ้าเขาก้าวเข้าไปในช่วงภูเขาไฟลูกที่สองเขาจะถูกฆ่าตายแน่ๆ

แต่ยังไงเขาก็ต้องผ่านทางนี้ ถ้าอ้อมคงต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน ตอนนี้เขากำลังกังวล แม้ว่าครั้งที่แล้วจะรอดไปได้ แต่ครั้งนี้เขาจะรอดอีกครั้งจริงเหรอ? มีทางเดียวเท่านั้นที่เขาจะรอดไปได้คือต้องจัดการคนที่ไล่ล่ามาก่อนที่มันจะฆ่าเขา

ถ้าเขาฆ่าจนหมด อีกฝ่ายน่าจะกลัวจนไม่มีใครกล้าลงมือต่อแน่ๆอย่างน้อยก็ช่วงนี้ ดังนั้นฉู่เหินจึงเริ่มคิดหาวิธีในการจัดการคนพวกนี้

ขณะที่ฉู่เหินกำลังครุ่นคิดอยู่เขาก็กวาดสายตามองรอบๆ แล้วก็หยิบของต่างๆ สร้างเป็นแนวป้องกันทั่วร่างกายของเขาจนรอบๆตัวส่องสว่างออกมา ห่อหุ้มร่างกายของเขาจนมองไม่เห็นอะไรรอบตัว เป็นม่านบังตาชั้นดี!

ทันทีที่ได้เห็นฉากนั้น โบตั๋นก็เกือบจะสั่งให้เริ่มการโจมตีซะ แต่ทว่าเหตุผลก็เอาชนะเธอได้ ในขณะที่รออย่างเงียบๆ เธอก็สั่งให้คนที่ซ่อนตัวอยู่เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา

20 นาทีต่อมาค่ายกลของฉู่เหินก็ถูกสร้างเสร็จอย่างสมบูรณ์ จู่ๆฉู่เหินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ที่ตะลึงไปตามๆ กัน โบตั๋นรู้สึกกลัวมาก

พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉู่เหินที่ยืนอยู่ตรงนี้ เป็นแค่ภาพมายาที่เขาสร้างขึ้น ส่วนตัวจริงเขาซ่อนตัวเองอยู่ภายใต้เสื้อคลุมล่องหนที่ไม่ให้ใครเห็นแล้วค่อยๆ เดินต่อไปอย่างระมัดระวัง

เสื้อคลุมล่องหนนี้เขาได้มันมาจากถ้ำของงูยักษ์ เพียงแค่เขาใช้มือจับมัน มันก็จะซ่อนได้แม้กระทั่งเงาของฉู่เหิน เขาจึงเรียกมันว่าเสื้อคลุมล่องหน

แล้วร่มประหลาดนั้นเขาตั้งชื่อว่าร่มนภา ถ้าถือมันไว้จะสามารถลอยตัวขึ้นได้ในระยะสั้นๆ โดยใช้พลังงานดวงดาวภายในร่างกาย เขาเลยไม่สามารถรู้ว่ามันใช้ได้นานเท่าไหร่ แต่มันน่าจะมีประโยชน์อย่างแน่นอน

แต่เขายังไม่ได้ดูวิธีใช้มันอย่างจริงจัง แค่เห็นว่ามันดูมีเอกลักษณ์ดีก็เลยเก็บเอาไว้ก่อน ซึ่งมันก็มีประโยชน์ในอนาคตจริงๆ

หลังจากใช้เสื้อคลุมล่องหน เขาก็เดินไปเรื่อยๆ อย่างระมัดระวัง เมื่อไปถึงตรงกลางภูเขาไฟ เขาก็เห็นว่าตรงนี้มีคนจำนวนมากกำลังซ่อนอยู่รอบๆ

ฉู่เหินจึงลอบเดินเข้าไปหลังพวกเขาอย่างเงียบๆ

ดาบวงพระจันทร์ในมือส่องแสงสว่างวาบ มือข้างหนึ่งปิดปากเป้าหมาย แล้วดาบในมือก็ปาดคออีกฝ่ายตายอย่างเงียบเชียบ

ฉู่เหินต้องลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่จะมีใครเห็น แต่ละคนนั้นร่วงลงไปทีละคนๆ โดยที่คนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกตัวเอง

เวลาผ่านไป พวกคนที่ซุ่มโจมตีก็ตายหมดสิ้น ฉู่เหินเดินต่อไปยังภูเขาไฟลูกที่สาม ที่เขาคาดว่าที่นี่คงมีคนซุ่มโจมตีอยู่เหมือนกัน

หนึ่งดาบหนึ่งชีวิต ผู้คนล้มตาย กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่ว โบตั๋นที่อยู่ห่างออกไปก็เพิ่งเริ่มสังหรณ์ใจและรีบติดต่อทุกคนทันที

น่าเสียดายที่การติดต่อทุกสายของเธอไม่ได้รับการตอบกลับเลยสักคนเดียว นั้นทำให้เธอตื่นตระหนกอย่างมาก จนสั่งให้คนที่อยู่บนภูเขาไฟนั้นโยนระเบิดลงไปในปล่องทันที

หลังจากจัดการคนที่ซุ่มโจมตีเรียบร้อย ฉู่เหินก็รีบไปจากปล่องภูเขาไฟที่ 3 ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอันตราย ถ้าถอยหนีไปตอนนี้เขาคงจะเป็นฝ่ายที่ถูกฆ่าเสียเอง

ฉู่เหินจึงไม่ลังเล วิ่งไปด้านหน้าต่อ ข้างหน้าเป็นหน้าผาแต่มีถนนเส้นเล็กๆ อยู่ข้างๆ ถ้าเกิดเขาสามารถไปจนถึงตรงนั้นได้ทันเวลา เขาก็น่าจะรอดไปได้

เกือบจะทันทีที่เขาวิ่งออกมา ภูเขาไฟทั้งสามก็ระเบิดอย่างรุนแรงจากการระเบิดของภูเขาไฟทั้งสามลูกพร้อมกัน ถึงขนาดทำให้พื้นที่โดยรอบค่อยๆ แยกออกจากกัน

รอยแตกจำนวนมากปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขา บางอันก็เริ่มปริแตกบางอันกระจายเป็นรอยคลื่นขนาดใหญ่ ลาวาไหลออกมากัดเซาะและทำลายบริเวณโดยรอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ หรือก้อนหิน

เนื่องจากนี้เป็นภัยธรรมชาติ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ จึงสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ กระจายออกไปนับพันลี้

แม้ว่าฉู่เหินจะหลีกเลี่ยงผลจากการระเบิดของภูเขาไฟได้ แต่เขาก็เคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก ร่างกายเขาสั่นอย่างไร้การควบคุม

ไม่ใช่แค่ฉู่เหินเท่านั้น โบตั๋นที่อยู่ห่างออกไปก็ไม่ต่างกัน แต่เธออยู่ไกลจากการระเบิดและเตรียมทางหลบหนีไว้ก่อนแล้ว

แต่การระเบิดขวางทางหลบหนีของเธอ พื้นดินที่ถูกหลอมละลายหายไปทำให้เธอตื่นกลัว ถ้าเธอรู้เช่นนี้คงไม่สั่งให้ระเบิดมันทั้ง 3 ลูกพร้อมกันแน่ๆ

ตอนนี้เส้นทางหนีถูกปิดตาย เธอต้องใช้เครื่องบินที่เตรียมไว้หลบหนีออกไป จึงจะสามารถออกไปได้ไม่งั้นเธอตายแน่

แต่บนฟ้าก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ควันภูเขาไฟนั้นเริ่มที่ขยายออกเป็นวงกว้างอีกทั้งยังต้องหลบหินที่ตกลงมาจากทางซ้ายและทางขวาด้วย โชคดีที่เธอยังดวงดีอยู่บ้าง จึงสามารถหลบหนีออกไปได้สำเร็จในที่สุด

การระเบิดครั้งนี้ทำเอาเธอเกือบตายไปด้วย ถ้าเธอไม่ได้เตรียมเครื่องบินเอาไว้เธอคงจะตายไปพร้อมกับพรรคพวกแล้ว เธอซับเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลออกมาแล้วให้เครื่องบินพาเธอออกไป

แต่ก่อนที่เธอจากไป เธอไม่คาดคิดว่าจู่ๆก็มีหินกระเด็นมาชนเข้ากับบริเวณด้านหลังของเครื่องบิน

เธอไม่สามารถควบคุมเครื่องบินให้หลบได้ทัน ทำให้เครื่องบนตกลงมาก่อนที่สติของเธอจะดับลง เธอได้แต่เลือดไหลออกมาจากปาก

ฉู่เหินเองก็ใช้ร่มนภาหนีออกมาได้ แต่การเดินทางโดยใช้ร่มนภาทำให้เขาลำบากมาก ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เป็นช่วงนาทีชีวิต ทำให้เขากลัวมากว่าเจ้าร่มนภานี้จะพาเขาไปตายหรือเปล่านะ!

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท