บทที่ 271 ปลูกข้าววิญญาณ
บทที่ 271 ปลูกข้าววิญญาณ
ฉู่เหินบอกอีกฝ่ายว่า แม้เขาจะทำสำเร็จได้ก็จริงแต่มันต้องใช้เวลานานพอสมควร เขาเองก็มีหลายสิ่งที่ต้องทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เสี่ยวชิง กำลังปิดเทอมอยู่เขาอยากใช้เวลากับแฟนสาวของเขามากกว่านี้ ไม่งั้นเขาคงรู้สึกผิดต่อเสี่ยวชิงมาก!
จริง ๆ แล้วเสี่ยวชิงไม่จำเป็นต้องไปมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะตอนนี้เธออยู่ปีสุดท้ายแล้ว ช่วงเวลานี้เด็กมหาลัยส่วนใหญ่ต้องไปหางานหรือไม่ก็ฝึกงานนอกสถานที่ เสี่ยวชิงไม่อยากหางานทำหลังจากสำเร็จการศึกษา
ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะกลับบ้าน ตอนจะจบจริง ๆ ถ้ามหาวิทยาลัยต้องการใบรับรองการฝึกงานจริง ๆ ใช้เส้นจัดการซะก็จบ ฉู่เหินอยากอยู่กับแฟนมันผิดด้วยเหรอ!!
ยิ่งกว่านั้นฉู่เหินไม่อยากให้เสี่ยวชิงทำงานข้างนอก หากอยากจะทำงานล่ะก็ทำที่บริษัทเขาก็ได้ สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันใช่ว่าฉู่เหินจะไม่รู้ ถึงเขาจะได้ไม่รวยมาก แต่ก็ยังเรียกได้ว่าดีกว่าไม่มีอะไรเลย เขาไม่อยากให้แฟนไปเป็นลูกน้องใครทั้งนั้น !!
แต่ตอนนี้เขามีความคิดอยู่ในใจ นั่นก็คือจ้างบ่อปลาทั้งหมดในหมู่บ้าน มาทำงานด้วย วิธีนี้จะทำให้ชาวบ้านได้ผ่อนคลายและช่วยเขาปลูกข้าววิญญาณ ทหารจากกองทัพเองก็ยังบอกให้ฉู่เหินทำตามแผนนี้ เมื่อถึงเวลานั้นทั้งหมู่บ้านก็จะร่ำรวยไปด้วยกัน มันเป็นเรื่องที่เยี่ยมไปเลยไม่ใช่เหรอ
เขาทำเรื่องที่ต้องทำก่อนและครุ่นคิดว่าจะทำอะไรก่อนหรือหลัง จากนั้นไปคุยกับหวงเจี้ยนหมิง ฉู่เหินกับเขาก็ตกลงที่จะทำตามขั้นตอนนี้และเริ่มไล่ถามดูทีละบ้าน
ตอนนี้ราคาของข้าววิญญษณเกือบจะถูกกำหนดไว้แล้วเพราะข้าวชนิดนี้มีผลดีต่อสุขภาพ แถมมันยังรักษาโรคไขข้ออักเสบได้ด้วย หากโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการกินเจ้านี่ล่ะ มันคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าเจ้าสิ่งนี้ในโลกแล้วล่ะ แน่นอนว่ากองทัพเองก็อยากได้โภชนาการพิเศษที่อยู่ในข้าววิญญาณนี้
หากมันรักษาโรคไขข้ออักเสบให้หายขาดได้มันจะล้ำค่ามาก แม้จะมียาที่สามารถรักษาโรคไขข้ออยู่บ้างในประเทศอื่นๆ แต่ยาพวกนั้นมีผลข้างเคียงและต้องทานต่อเนื่องอย่างยาวนานถึงจะหาย
การกินข้าวดูง่ายกว่าและไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นข้าววิญญาณไม่ถือว่าเป็นยา แต่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เขาเชื่อว่าถ้าของแบบนี้ลงขายในตลาดเมื่อไหร่มันจะต้องดังเป็นพลุแตกแน่ๆ
ข้าววิญญาณหนึ่งปอนด์ถูกตั้งราคาโดยกองทัพอยู่ที่ 300 หยวนและที่ดิน 1 ไร่โดยเฉลี่ยสามารถปลูกได้มากถึง 10,000 ปอนด์ แบบนี้ที่ดิน 1 เอเคอร์ก็คือ 3 ล้านหยวนและหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้มีที่ดินว่างๆ 6-7 เอเคอร์ กล่าวก็คือมันจะสร้างรายได้ 1ปีมากกว่า 20 ล้านหยวนหากไม่มีเรื่องอะไรมาเปลี่ยนแปลงไม่ถึง 2 ปีหมู่บ้านนี้จะเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ
หลังจากที่ฉู่เหินเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง พวกชาวบ้านแต่ละคนก็ขอเอาด้วยทันที ต้องเข้าใจผู้คนที่นี่มีการกิจการจับปลาก็จริงแต่จับปลาตลอดปีพวกเขาก็มีรายได้สุทธิต่อปีก็คือ 1 แสนหยวน แถมยังต้องทำทุกวันอีก ถ้าพวกเขาปลูกข้าวแค่ไม่กี่เอเคอร์และรายได้ที่มากขนาดนี้ ทุกคนต่างก็ยินดีทำ
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นฉู่เหินก็มอบเมล็ดหนึ่งส่วนนี้ให้กับตงโกวจีหยาง
ฉู่เหินรู้ดีว่าเรื่องข้าววิญญาณนั้นตัวเองเก่งกาจไม่เท่าตงโกวจีหยาง ยิ่งกว่านั้นเด็กคนนี้ก็ไม่อยากไปโรงเรียน ฉู่เหินเลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจ้างครูสอนพิเศษมาสอนที่บ้าน
เรื่องการศึกษานั้นไม่ได้มีเพียงตงโกวจีหยางคนเดียวเท่านั้น ยังมีนางเงือกอีก 20 ตน รวมไปถึงนกคีรีบุน,แมวนพเวทย์,กระต่ายหายนะ แม้แต่พี่เสือและแรดเขาเดียวก็อยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน ด้วยวิธีนี้นี่จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นดั่งโรงเรียนเล็ก ๆ ได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นฉู่เหินเชิญอาจารย์ที่เขาเคยเรียนด้วยมาทั้งหมด แต่เมื่อพวกอาจารย์มาถึงที่นี่เพื่อสอนอย่างจริงจัง ก็ไม่ได้มีแค่พวกโกวจีหยางเท่านั้นที่มาฟัง แต่มีเหล่าเด็กคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านก็มาเรียนที่นี่ด้วยเช่นกัน ฉู่เหินเลยยอมจ่ายค่าจ้างเพิ่มให้พวกอาจารย์ เพราะเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการจ่ายเงินเพิ่ม เขาคิดว่าช่วยเด็ก ๆ ในหมู่บ้านก็ดีเหมือนกัน
แต่ที่ฉู่เหินไม่รู้ก็คือเพราะรากฐานที่เขาวางไว้ในวันนี้ จะทำให้ในอนาคตเด็กหนุ่มสาวในหมู่บ้านชาวประมงจะมีทั้งคุณธรรมและความรู้มากพอที่จะใช้ความสามารถที่เรียนมาช่วยเหลือกันในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ในเวลาต่อมา
หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ฉู่เหินก็พร้อมที่จะพาเสี่ยวชิงมาเล่นด้วย พอคิดๆดูแล้ว ทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานก็จริงแต่ชายหนุ่มยังไม่เคยพาเธอไปเที่ยวเลย ได้ยินแบบนั้นเสี่ยวชิงก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย
ในตอนแรกฉู่เหินคิดจะพาเสี่ยวชิงจะไปที่สนามเด็กเล่น แต่ไม่คิดไม่ถึงว่า
เสี่ยวชิงจะอยากปีนเขา ซึ่งฉู่เหินก็ไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร เขาพร้อมจะไปในทุก ๆ ที่ที่เสี่ยวชิงอยากจะไป เห็นแบบนี้ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋เองก็รู้สึกอิจฉาจนจะตามไปด้วย แต่ฉู่เหินก็ไม่ให้เธอไปซึ่งทำให้เธอผิดหวังมาก
แต่ฉู่เหินก็ไม่เห็นใจและไม่รักษาน้ำใจเลยแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าเรื่องระหว่างเขากับเสี่ยวฟู๋นั้นเป็นไปไม่ได้ เขาไม่อยากทำให้หญิงสาวเสียเวลาวัยสาวไป เพราะเขา บางทีเสี่ยวฟู๋อาจจะเกลียดเขาแล้วก็ได้แต่ชายหนุ่มเชื่อว่าเวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง
“พี่เหิน คนจากตระกูลอู๋บางคนเขายังมีเมียได้ตั้ง 3 หรือ 4 คนเลยนะ ความสามารถอย่างพี่ก็สูงกว่าพวกเขาตั้งเยอะ พี่อยากทำตามแบบพวกเขาดูเหรอ?” เสี่ยวชิงพูดออกมา ตอนนี้แววตาแปลก ๆ ปรากฎในดวงตาของเธอ
เวลาที่ผ่านมา หลังจากที่เสี่ยวชิงพบกับผู้คนมากมายเธอก็ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลจอมยุทธ์โบราณ ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้เธอมีปัญหาในใจ เพราะว่าเธอได้ยินมาจากเสี่ยวฟู๋ว่าตระกูลอู๋นั้นมีคนที่มีภรรยามากมาย คำพูดเหล่านี้มันทำให้เธอดคิดถึงตัวเธอกับฉู่เหินไม่ได้จริง ๆ
เธออยากจะถามมาหลายวันแล้วแต่เธอไม่กล้าพอ วันนี้ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อถามสิ่งที่อยู่ใจ แต่คำตอบของฉู่เหินก็ทำให้หัวใจของเธอหล่นลงไปอยู่ตาตุ่ม เขาถามเธอว่า เธอยอมแบ่งเขาให้กับ
ผู้หญิงคนอื่นได้จริง ๆ เหรอแล้วเธอจะยอมรับมันได้งั้นเหรอ
ปัญหาเหล่านี้ แม้ว่าฉู่เหินจะไม่คิดอะไรแต่ในอนาคตมันก็อาจจะเป็นไปได้แม้แต่ตัวเธอเองก็นึกภาพนั้นไม่ออกเช่นกัน พวกเขาเลยไม่พูดอะไรกันต่อ
หลังจากเวลาวุ่น ๆ ผ่านไป โรงงานผลิตอาหารก็เริ่มต้นสายการผลิตแล้ว กระบวนการผลิตทั้งหมดอยู่ในสายตาของทุกคน แม้แต่การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางของพนักงานก็ยังถูกเปิดเผยอย่างครบถ้วนจากในวิดีโอ
ในเวลาเดียวกันวิดีโอเหล่านี้ก็เริ่มส่งผ่านทาง Weibo ของเว็บไซต์ต่างๆ ด้วยวิธีนี้ถ้าทำให้ทุกคนสามารถเข้าไปดูวิดิโอนี้จากในอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลาผ่านทางมือถือของทุกคน มันเป็นการไลฟ์สดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เรื่องนี้ทำให้คนทั่วไปรู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยมและจริงใจทันทีที่มันออก
สู่สาธารณะ คนหลายคนมาที่โรงงานเพื่อทำการตรวจสอบแล้วพวกเขาพบว่ามันเหมือนกับในไลฟ์สด ด้วยวิธีนี้สามารถยืนยันได้เลยว่าโรงงานอาหารไม่ได้จัดฉากขึ้นมาแต่มันคือเรื่องจริง
ในยุคนี้คนส่วนใหญ่ชอบสงสัยและมีข่าวเสียๆหายๆ ง่ายมากในโลกอินเตอร์เน็ต แบบนี้พวกเขาเวลาซื้อกินก็จะได้สบายใจ อาหารเหล่านี้ถูกแปรรูปภายใต้สายตาของพวกเขาทุกคนและทุกอย่างตรงตามมาตรฐานอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทำให้พวกเขาสามารถซื้อได้อย่างอุ่นใจและกินมันอย่างอิ่มเอม
ผลิตภัณฑ์มากมายถูกขายหมดก่อนที่จะออกวางขาย ไม่เพียงแค่นั้นยังมีการสั่งซื้อจากทั่วทุกมุมโลก บนโต๊ะเสนอราคาข้อตกลงใหญ่ ๆ อยู่มากมายในหมู่ข้อตกลงพวกนี้มีตัวแทนจัดจำหน่ายจำนวนมากเข้ามาขอสิทธิ์ในการขายสินค้าของเขา
นอกจากนี้พวกเขายังได้รับคำสั่งซื้อเยอะมากจนเริ่มมีการให้ทำงานล่วงเวลาจนฟ้ามืด แต่พอผลิตภัณฑ์ของเขายังไม่ทันได้วางขายตลาดให้กับลูกค้ารายเล็กๆ ในตลาดก็มีสินค้าเลียนแบบจำนวนมาก
พวกเขาจากที่อารมณ์ดี จู่ ๆ ก็กลัดกลุ้ม เรื่องนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่อาจรู้สึกสบายใจได้ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามจะขัดแข้งขัดขาพวกเขา สินค้าของพวกเขาเริ่มขายไม่ออกพวกของปลอมกำลังเกลื่อนตลาดมากในตอนนี้ ต่อให้เขาสามารถจัดการพวกของปลอมเหล่านี้จนหมดได้แล้วก็ตาม แต่จะมีอะไรมารับประกันได้ล่ะว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกในอนาคต พวกเขาต่างก็พยายามคิดหาทางแก้ไขปัญหา