บทที่ 314 พลังคาดเดาอนาคต!
บทที่ 314 พลังคาดเดาอนาคต!
หลังจากได้ยินคำพูดของโม่เจียว หน้าผากของฉู่เหินก็ปูดโปดไปด้วยเส้นเลือดสีดำ แม้เขาจะรู้ว่าเธอชอบพูดเรื่องไร้สาระ แต่พอเธอพูดออกมาเขาดันพูดอะไรไม่ออกแถมรู้สึกโกรธขึ้นมาซะอย่างงั้น
ฉู่เหินมองโม่เจียวและพูดอย่างรวดเร็ว “พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่นานนัก รีบไปกันเถอะ”
ทั้งโลกรู้ว่าปรากฏการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นที่นี่ พวกกองกำลังแถมนี้จะไม่รู้ได้ยังไง? ดังนั้นฉู่เหินจึงรีบออกจากที่นี่ ก่อนจะมีเรื่องที่เลวร้ายเกิดขึ้น แต่เมื่อเขากำลังจะออกไปพวกเขาก็พบว่ามีคนมากมายมารวมตัวกันที่นี่แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นภาพตรงหน้า ฉู่เหินก็สีหน้าเคร่งเคลียด เพราะมันเอ่อ…เหมือนกับอนาคตที่เขาเห็นยังไงยังงั้น ฉู่เหินรู้ทันทีว่าจะมีกองกำลังนับสิบมาที่นี่พร้อมกับเชิญเขาไปเป็นแขก
แม้ผิวเผินคนเหล่านี้ดูเหมือนมาดีแต่จริง ๆ ไม่ใช่ ฉู่เหินมองเห็นอนาคตหลายอย่างไม่ว่าเขาจะไปกับฝ่ายไหนก็ตาม สุดท้ายเขาตายอยู่ดี เขาเลยมองไปที่ ปาเค่อผู้ซึ่งเป็นผู้พิชิตดารา
พวกคนแคระมีความสามารถเหนือธรรมชาติอีกอย่างนั่นก็คือพวกเขาสามารถหดร่างให้เล็กลงได้ แต่ความสามารถนี้ปกติแล้วไม่สำคัญซักเท่าไหร่ เพราะมันไม่สามารถขยายใหญ่ได้ทำได้แค่หดเล็กลงเท่านั้น
แม้แต่ร่างธรรมดาที่เป็นผู้ใหญ่ยังตัวเล็กขนาดนี้ แล้วตัวเล็กลงจนกลายเป็นเด็กทารกแล้วจะให้สู้ยังไง? ทำให้พลังพิเศษนี้ของพวกคนแคระแทบจะไม่มีใครใช้เลยด้วยซ้ำ
“ปาเค่อ ใช้พลังพิเศษให้ตัวเท่ากับเด็กทารกเดี๋ยวนี้ จำไว้ตั้งแต่นี้ไปนายเป็นลูกของผมนะ!” ด้วยความวิตกกังวลฉู่เหินก็รีบพูดอย่างรวดเร็ว
ปาเค่อไม่รู้ว่าทำไมฉู่เหินถึงให้ทำเช่นนี้ แต่เขาก็รีบเปลี่ยนร่างทันที ฉู่เหินเห็นแบบนี้ก็รีบใช้พลังคาดเดาอนาคตอย่างรวดเร็วเช่นกัน พอเขาใช้พลังคาดเดาอนาคต ภาพมากมายต่างก็ไหลผ่านหัวของเขาเต็มไปหมด ภาพเหล่านั้นปนไปด้วยเรื่องดีและเรื่องไม่ดี แต่โดยรวมแล้วก็ยังดีกว่าอนาคตก่อนนี้
พอพวกเขาออกจากผิวน้ำ กองกำลังหลายสิบกลุ่มก็ได้ปรากฏตัวขึ้่นมา หลังจากกองกำลังเหล่านี้เห็นฉู่เหิน พวกเขาทั้งหมดต่างก็คารวะฉู่เหินเป็นการทักทาย! แต่ฉู่เหินรู้ว่าสิ่งเหล่านี้คือหายนะ อีกฝ่ายต้องการให้เขาเป็นแขกในกองกำลังของพวกเขา แต่จริง ๆ แล้วพวกเขากำลังซ่อนจิตสังหารเอาไว้อยู่!
แต่ฉู่เหินไม่เชื่อว่ากองกำลังจะอยากฆ่าเขาทั้งหมด ฉู่เหินรีบใช้พลังคาดเดาอนาคตทันที เขาใช้พลังคาดเดาอนาคตมองดูว่าถ้าเขาเข้าร่วมกับกลุ่มตรงหน้าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?
หัวใจของเขาเริ่มเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากเห็นอนาคต ถ้าเขาเข้าร่วมกับกลุ่มเหล่านี้เจรจาเกิดการแลกเปลี่ยนกันอย่างหลากหลายและแต่ละอย่างฉู่เหินไม่อาจทนรับได้เป็นผลให้การเจรจาล้มเหลวทุกครั้ง ทั้งสองฝ่ายเลยเข้าต่อสู้กันจนพังพินาศกันทั้งสองฝ่าย
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับทุกกลุ่มที่ฉู่เหินกวาดตามองไป จนถึงกลุ่มที่ 40 กลุ่มนี้ดูจะเป็นกลุ่มพลังเล็ก ๆ อันดับ 40 บนเกาะแห่งนี้! ดูเหมือนกองกำลังเล็ก ๆ แห่งนี้ไม่คิดจะฆ่าเขาและอยากเป็นเพื่อนจากจริงใจ แต่สุดท้ายก็ถูกรุมโจมตีโดยกองกำลังหลายฝ่าย ผลสุดท้ายก็คือพวกฉู่เหินตายหมด!
แต่ตอนนี้ฉู่เหินมีพลังคาดเดาอนาคต ฉู่เหินมองรอบ ๆ ก็เห็นว่าเทือกเขาที่ที่ค่อนข้างใหญ่โต มีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ในเทือกเขา หากสามารถใช้สถานที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็อาจเปลี่ยนโชคชะตาได้
หลังจากคิดเรื่องนี้ ฉู่เหินก็ได้ข้อสรุปในใจ การต่อสู้นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะไปเข้าร่วมกลุ่มไหนก็ตาม แต่เขาสามารถเลือกคบเพื่อนได้ บางทีกลุ่มนี้อาจจะช่วยเขาในอนาคตก็ได้
ทุกคนทักทายฉู่เหินและเชิญเขาไปเข้ากลุ่ม ฉู่เหินปฏิเสธไปอย่างอ่อนน้อมและรีบไปยังนิกายอันดับที่ 40 ทันที
นิกายนี้มีชื่อว่า นิกายกิเลน แม้จะอยู่อันดับ 40 ของเกาะแต่ความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา เหตุผลที่พวกเขาไม่ขึ้นไประดับที่สูงกว่านี้ก็เพราะมีศิษย์น้อยกว่าที่อื่น แต่ว่าเฉลี่ยพลังแล้วผู้คนในนิกายกิเลนก็สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ มากแถมพวกเขาค่อนข้างมีความยุติธรรม ทำให้นิยายต่าง ๆ ไม่กล้าเข้ามาหาเรื่อง
“น้องฉู่ ไม่คิดเลยว่านายจะเข้าร่วมกับพวกเชา วรยุทธ์ของพวกเรายอ่อนด้อยแต่น้องฉู่ก็ยังเลือกพวกเรา มันทำให้ฉันดีใจมากเลยนะ ตั้งแต่นี้ไปฉันจะเป็นเพื่อนกับน้องฉู่!” ชายวัยกลางคนที่มีท่าทางเรียบง่ายเอ่ยขึ้นทำให้รู็สึกใกล้ชิดขึ้นเล็กน้อย
นามสกุลของเขานี้คือ เฉิง เฉิงหมิงกู่ เขาเป็นคนที่รับผิดชอบนิยายกิเลน
บนเกาะซาถัวแห่งนี้ ฉู่เหินรู้สึกดีมากเมื่อได้ยินคำพูดของเขา จากนั้นฉู่เหินก็เริ่มคิดในใจว่าจะเกิดอะไรหากเชื่อใจอีกฝ่าย แต่หลังจากใช้พลังคาดเดาอนาคตฉู่เหินก็เห็นอนาคตทั้งหมดจริง ๆ แล้วไม่เพียงแต่พวกเขาจะเป็นเพื่อนกัน แต่พวกเขายังกลายเป็นศัตรูกันอีกด้วย!
สาเหตุเพราะอีกฝ่ายสงสัยว่าฉู่เหินตั้งใจมาขโมยวิชายุทธ์ของพวกเขา เพราะฉู่เหินเองก็ใช้วิชากิเลน หากถูกจับได้ล่ะก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายอาจพังทลายลงในทันที!
พลังคาดเดาอนาคตพอใช้อย่างต่อเนื่องทำให้ฉู่เหินเหนื่อยมาก แต่เขารู้ว่ามันไม่มีหนทางอื่นแล้ว! ถ้าเขาเลือกมากเขาอาจตายได้ตลอดเวลา!
เขาไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับความตาย แต่คราวนี้มันแตกต่างกันเพราะเขาไม่ได้อยู่คนเดียว มีพวกพ้องมากมายอยู่เคียงข้างเขา! ระหว่างทางเขาก็คุยกับเฉิงหมิงกู่ต่อไป
พวกเขาพูดคุยกันและหัวเราะกัน จนเริ่มสนิทกับกลุ่มเฉิงหมิงกู่มากขึ้น
ฉู่เหินรู้ว่าเขาจะต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นคราวนี้ต้องโชคร้ายมาก กว่าโชคดีแน่ ๆ!
“พี่ฉู่ ที่นี่สวยงามากนะ แต่น่าเสียดายที่ภูเขาแต่ละลูกเชื่อมต่อกันทำให้ง่ายต่อการโดนโจมตีและยากที่จะปกป้อง แถมค่ายกลก็ไม่ได้เรื่องเลย ถ้ามีศัตรูบุกมาคงยากมากที่จะรักษาความสวยงามของที่นี่เอาไว้ได้” เมื่อโม่เจียวพูดออกมา ฉู่เหินและเฉิงหมิงกู่ก็มองเธอพร้อมกัน
เด็กผู้หญิงตัวเล็กพูดพล่อย ๆ ตลอดทางและเธอพูดอะไรที่ไร้หัวใจสุด ๆ เฉิงหมิงกู่รู้สึกว่าเธอน่าสนใจมาก เขาไม่คิดว่าในขณะที่เขาเดินมาถึงหน้าประตูนิกาย เด็กคนนี้จะพูดเช่นนี้ออกมา ทำให้เขารู้สึกชื่นชมไม่น้อย
“เก่งมากคุณโม่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริง ๆ แต่พวกเราจะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไงละ? พวกเราสร้างค่ายกลป้องกันดี ๆ ไม่ได้เทือกเขาแห่งนี้มีค่ายกลของผู้แข็งแกร่งปกคลุมอยู่ มันยากที่จะสร้างค่ายกลโดนไม่ให้ไปรบกวนเขา! ” เฉิงหมิงกู่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“เฮอะ? นั่นเพราะคุณยังไม่เจอปรมาจารย์ของจริงน่ะสิ ให้ตายเถอะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าเอาของดี ๆ ออกมาให้พี่ฉู่ของฉันละก็ รับประกันได้เลยว่าเขาสร้างค่ายกลให้ได้แน่ ๆ!” โม่เจียวพูดพร้อมเอามือเท้าเอว
ฉู่เหินที่เห็นแบบนั้นก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มในใจก็แอบมีความสุข ถ้าเขาจัดการวางค่ายกลที่นี่ได้ บางทีอาจจะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น
“พี่เฉิงถึงยัยเด็กนี้จะชอบพูดเรื่องไร้สาระ แต่ฉันเข้าใจค่ายกลพวกนี้นะ มันเป็นค่ายกลที่ช่องว่าง พี่หาเวลาว่างแล้วไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะจัดการค่ายกลให้เอง จากนั้นพี่ค่อยมามาตรวจสอบดูก็ได้ ถ้าพี่พอใจฉันก็ยินดีช่วย! เว้นแต่พี่เฉิงจะผิดหวังกับค่ายกลของน้องชายคนนี้น่ะสิ”
หลังจากพูดถึงสิ่งนี้ ฉู่เหินก็ส่ายหัวเยาะเย้ยราวกับว่าเขารู้สึกว่าค่ายกลตรงหน้ากระจอกจริง ๆ แต่เฉิงหมิงกู่เป็นคนใจกว้างพอได้ยินแบบนี้เฉิงหมิงกู่ก็หัวเราะออกมา “น้องฉู่ ทำไมต้องสุภาพขนาดนั้นด้วยล่ะ ในเมื่อน้องฉู่มีความสามารถมากกว่าน้องยวี๋* งั้นเราก็มาลองดูกันเถอะ!”
(ผู้สร้างค่ายกลให้นิยายกิเลน)