บทที่ 366 ตอบโต้
บทที่ 366 ตอบโต้
แต่ฉู่เหินก็กังวลว่าจะมีคนมาซุ่มโจมตีเหมือนกัน ดังนั้นหลังจากลองคิด ๆ ดูเขาก็ยังให้ฉู่ฉุนเฝ้าประตูเมืองต่อไป จากนั้นเขาก็พาคน 2200 คนออกไปนอกเมืองอย่างรวดเร็ว
แต่พอฉู่เหินมองดี ๆ ถึงได้รู้สึกว่าทหารของเขาตอนนี้มีมากกว่าหมื่นคน ตอนแรกเขาไม่มั่นใจว่า 2200 คนจะพอหรือไมแต่ถ้ามีคนมากมายขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลให้ต้องแพ้!
ฉู่เหินมองอย่างละเอียดก็พบว่าคนพวกนี้เป็นคนในเมืองโบราณทั้งสิ้น คนในเมืองนั้นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปพวกเขาต่างก็มีพลังวรยุทธ์อีกทั้งยังไม่ต่ำต้อยเลยแม้แต่น้อย
ปกติประชาชนพวกนี้ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยสู้รบ แม้แต่จะขึ้นไปเฝ้าบนกำแพงยังขี้เกียจเลย ในสายตาของฉู่เหินคนพวกนี้เป็นพวกกิน ๆ นอน ๆ รอความตาย แต่วันนี้คิดไม่ถึงเลยว่าคนพวกนี้จะหยิบอาวุธเข้าต่อสู้พอเห็นแบบนี้ฉู่เหินก็อดแปลกใจไม่ได้
“พี่น้องชาวบ้านทุกคน พวกนายจะทำบ้าอะไรเนี่ย” ฉู่เหินที่เห็นคนพวกนี้มาหยุดอยู่ตรงหน้าตัวเองก็อดที่จะถามด้วยความแปลกใจไม่ได้
“นายพลฉู่ คุณกับพวกก่อนหน้านี้ไม่เหมือนกัน คุณทำให้พวกเรามองเห็นความหวังแห่งชัยชนะ! ทหารที่อยู่ในมือของนายพลฉู่ตอนนี้มีน้อย ดังนั้นพวกเราจึงมาเพื่อช่วยเหลือ วันนี้พวกเราจะทำตามคำสั่งของท่านนายพลฉู่!” คนที่พูดเป็นชายอายุ 50 กว่าปีดูธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ทว่าวรยุทธ์สูงถึงขั้นทรราชดาราระดับ 6
“ขอบคุณพี่น้องชาวบ้านทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ผมฉู่เหินไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี นอกจากขอแสดงความเคราพต่อพี่น้องทุกท่านที่เชื่อมั่นให้ตัวผม ผมจะนำทัพสู้กับพวกซอมบี้และนำชัยชนะมาให้ได้!”
หลังจากพูดประโยคนี้ฉู่เหินก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ผมรู้ว่าหนึ่งในพวกซอมบี้น่าจะเป็นญาติเป็นเพื่อนกับพวกคุณ ซึ่งผมจำเป็นต้องเตือนพวกคุณไว้อย่าง! เมื่อไม่นานมานี้ผมได้คืนแกนวิญญาณของพวกเขาไปแล้ว และพวกเขาทุกคนสามารถเลือกที่จะกลับมาเป็นมนุษย์ได้”
“แต่ซอมบี้มีเพียงส่วนน้อยที่กลับเมือง พวกที่เหลือยินยอมเลือกที่จะเป็นซอมบี้ต่อ หรือก็คือพวกซอมบี้ที่เหลือต่างก็เป็นพวกที่ทิ้งความเป็นมนุษย์ไปแล้ว พวกเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ดังนั้นถ้าทุกคนจะร่วมทางไปกับผม เวลาลงมือก็อย่าได้ลังเล ถ้าซอมบี้พวกนี้ไม่สูญพันธุ์ เมืองโบราณก็ต้องอย่าหวังว่าจะรอด!”
คนในเมืองรู้แล้วว่ามีคนเพิ่งกลับมานับหมื่นคน และพวกเขารู้ว่าทุกคนเคยเป็นซอมบี้แล้วกลับมาเป็นมนุษย์ ส่วนคนที่เหลือเลือกที่จะเป็นซอมบี้ไม่ยอมกลับมาเป็นมนุษย์ พวกเขารู้เรื่องพวกนี้หมดแล้ว
พอได้ยินที่ฉู่เหินพูด ดวงตาของชาวเมืองก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ซอมบี้เหล่านี้พวกเขาไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้เลยแม้แต่นิดเดียว! เดิมคนในเมืองโบราณก็มีเพียง 100,000 คน แต่พวกเขากลายเป็นซอมบี้ไปไม่รู้ตั้งกี่คน!
พวกเขานึกว่าซอมบี้พวกนั้นไม่หลงเหลือจิตวิญญาณอีกแล้ว ดังนั้นจึงยกโทษให้พวกมันหลายครั้ง แต่ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่พวกมันได้วิญญาณคืนแล้ว กลับมีตั้งหลายคนที่เลือกจะเป็นซอมบี้ไม่กลับมาเป็นมนุษย์อีก ดังนั้นชาวเมืองโบราณก็จะลงมือกับพวกซอมบี้ที่เหลืออย่างโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาแน่นอน
หากไม่คิดเช่นนี้ พวกเขาคงไม่ยกทัพมาช่วยฉู่เหินหรอก! หลังจากทุกคนตอบตกลงแล้ว ฉู่เหินถึงได้พยักหน้าสะบัดแขนเสื้อพาทุกคนออกไปนอกเมือง
หลังจากทหารสองทัพรวมเข้าด้วยกัน จำนวนคนก็เกินว่าหนึ่งหมื่นคนไปแล้ว อีกทั้งชาวเมืองโบราณยังมีพลังวรยุทธ์สูงกว่าทหารไม่น้อยเลย แบบนี้ดูท่าว่าครั้งนี้จะมีแววชนะแล้ว!
ฉู่เหินพาทุกคนมายังค่ายกลสังหารที่เขาสร้างทิ้งไว้ พวกเขาพบกับฉากอันน่าเวทนาที่เพิ่งเกิดขึ้นพอดี ตรงกลางของค่ายกลสังหารคือซอมบี้จำนวนมาก ตอนนี้ค่ายกลสังหารกำลังเริ่มสังหารเหล่าซอมบี้
แสงจากสายฟ้าปรากฏออกมาจากภายในค่ายกลสังหาร แค่มองก็สามารถรู้สึกได้ถึงอานุภาพของค่ายกลสังหารว่ามันรุนแรงขนาดไหนเหล่าซอมบี้ไม่ตายก็ร่างกายแหลกสลาย
โชคดีที่ฉู่เหินมาทัน เขาใช้สองมือควบคุมค่ายกลสังหาร ค่ายกลก็ปรากฏวงกลมวงหนึ่งมันคือทางออกของค่ายกล แล้วเขาก็พาทุกคนไปดักรอตรงทางออกที่เขาสร้างเอาไว้!
ซอมบี้เหล่านี้ไม่ได้ไร้ความรู้สึก พวกมันพอรู้ว่ามีทางออก ก็รีบมาทางนี้แต่ซอมบี้ที่หลบหนีออกมาก็จะโดนกองทัพจำนวนหมื่นคนรุมสังหาร
ซอมบี้ค่อย ๆ ออกมา แต่ด้วยแผนการนี้ทำให้ซอมบี้ถูกสังหารจนล้มตายเป็นจำนวนมาก!
ตอนแรกที่นี่ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรมากนัก ทำให้ซอมบี้ระดับสูงจึงไม่ได้สนใจแถวนี้ แต่หลังจากที่มีซอมบี้ตายเป็นจำนวนมาก ในที่สุดซอมบี้ระดับสูงก็รู้ตัว
ในขณะเดียวกันที่ห้องโถงแห่งหนึ่ง หวังจื่อหลินที่กำลังนั่งอยู่เหนือสุด มองรายงานของพลทหารซอมบี้พร้อมขมวดคิ้ว ซอมบี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์ทั้งหมด มีซอมบี้ฉลาด ๆ จำนวนไม่น้อย
“ออกคำสั่งไป ให้กองกำลังทั้งหมดโจมตีเมืองโบราณ ฉันจะใช้กลยุทธล้อมเว่ยช่วยเจ้า* ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกบ้านนอกนั้นจะรับมือการโจมตีครั้งนี้ได้!”
(*กลยุทธล้อมเว่ยช่วยเจ้า หนึ่งในกลยุทธ์เลียดก๊ก เป็นกลยุทธ์ที่ถ้าเหล่าศัตรูรวบรวมกำลังทหารและไพร่พลไว้เป็นจุดเดียวจะแข็งแกร่งเกินไปต้องลดความเสี่ยงด้วยการ ใช้กลยุทธ์แยกศัตรูให้แตกออกจากกัน เพื่อให้กำลังไพร่พลกระจัดกระจาย ระแวดระวังจนพะวงหน้าพะวงหลังแล้วจึงบุกเข้าโจมตี และต้องบุกเข้าโจมตีในจุดที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย หรือโจมตีในจุดที่ศัตรูไม่ได้เตรียมการตั้งรับเอาไว้ ถ้าทำได้จะถือว่าได้เปรียบมากราวกับได้รับชัยชนะมาแล้วครึ่งหนึ่ง)
หลังจากพูดประโยคนี้จบหวังจือหลินก็ออกคำสั่งให้ดำเนินการโดยทันที จากนั้นทหารจำนวนหมื่นนายก็มุ่งตรงไปยังเมืองโบราณ! ในขณะเดียวกันฉู่ฉุนที่ยืนอยู่บนกำแพงก็เห็นกองทัพซอมบี้เหล่านั้นมาแต่ไกล จนตัวเองรู้สึกใจเต้น เดิมทีตอนที่ฉู่เหินให้เขาเฝ้าเมืองเขาก็แอบไม่พอใจอยู่บ้าง
แต่เขาเคารพในตัวพี่ชาย เขาเลยไม่พูดอะไรมาก คิดไม่ถึงว่าในเวลานี้จะมีซอมบี้มาโจมตีเมืองจริง ๆ ฉู่ฉุนไม่พูดไม่จาก็เปิดใช้งานค่ายกลทันที พอสร้างค่ายกลเสร็จแล้ว พวกซอมบี้ก็บุกมาจริง ๆ ด้วย
ทันทีที่ซอมบี้เหล่านี้โจมตีเมืองค่ายกลห้าวิถีก็เปิดใช้งาน หลังจากพวกมันเข้ามาในค่ายกลห้าวิถี แสงแห่งพลังทั้ง น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง ทั้งห้าธาตุรวมกันแล้วพุ่งโจมตีใส่ซอมบี้อย่างบ้าคลั่ง เดิมทีซอมบี้เหล่านี้ไม่มีความรูสึกอยู่เลย แม้จะรู้สึกถึงอันตราย แต่พวกมันก็ไม่รู้ว่าจะหลบไปทำไม
แต่…ผลลัพธ์ก็คือซอมบี้จำนวนหมื่นตัวที่เพิ่งเข้ามาในค่ายกล พวกมันกลายเป็นศพในทันที ฉากนี้ทำให้ หวังจื่อหลินและพวกซอมบี้ระดับสูงตกตะลึง หลังจากที่พวกมันได้รับรายงานว่ากองทัพซอมบี้ที่ส่งออกไปทัพแรกตายหมดสิ้ม พวกมันก็พากันตกใจจนลุกจากที่นั่ง
แค่ส่งซอมบี้โจมตีเมืองโบราณครั้งแรกก็ได้รับความเสียหายหนักมากแล้วซอมบี้นับหมื่น ๆ หายไปกับตานี้ทำให้ซอมบี้ระดับสูงรู้สึกตกตะลึง! ประวัติศาสตร์การโจมตีเมืองโบราณทั้งหมดไม่เคยมีการสูญเสียขนาดนี้มาก่อน ไม่สิ รวมทั้งประวัติศาสตร์ยังไม่อาจเปรียบได้กับการตายในวันนี้วันเดียวด้วยซ้ำ