บทที่ 509 ทำความรู้จักพี่น้อง
บทที่ 509 ทำความรู้จักพี่น้อง
ที่คาดไม่ถึงก็คือ คำที่ชายคนนั้นพูด ๆ มา มันดันทำให้คนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ควักตราประจำตัวออกมาอย่างไม่ลังเล ! ทั้งยังหยิบออกมาไม่น้อยเลย และที่ฉู่เหินไม่เข้าใจก็คือ ทั้ง ๆ ที่ท่ามกลางคนพวกนั้นมีคนที่พลังยุทธ์ขั้นปราชญ์ระดับสูงสุดอยู่ 2-3 คนแท้ ๆ แต่พวกเขากลับยอมซะงั้น ?
คนพวกนี้ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะหยิบตราประจำตัวออกมา อีกทั้งตอนที่หยิบใบหน้ายังยิ้มอยู่อีกด้วย ราวกับการปล้นนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสนุกยังไงยังงั้น ! ฉากตรงหน้าทำให้ฉู่เหินไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่ ! กันแน่
คนพวกนี้พากันล้วงควักเอาตราประจำตัวของตัวเองออกมาครึ่งหนึ่ง ! เมื่อเห็นเป็นแบบนั้นฉู่เหินก็เริ่มชักจะรู้สึกเกรงใจขึ้นมานิด ๆ เลยรีบปฏิเสธไป แต่ที่พวกเขาคิดก็คือ ยิ่งเขาปฏิเสธไม่รับ คนอื่นยิ่งต้องให้ !
ปฏิเสธก็ปฏิเสธแล้ว แต่คนพวกนี้ก็ยังไม่สนใจอีก ฉู่ตงได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ! ตอนนี้ในหัวของฉู่ตงตีกันให้วุ่น เขาไม่เข้าใจโลกใบนี้เลยจริง ๆ แต่เพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้วว่าตนนั้นต้องหาทางเปลี่ยนความคิดของคนในโลกนี้ให้ได้ ไม่งั้นเกรงว่าพวกเขาคงได้สิ้นยุคสิ้นสมัยกันหมดแน่ !
หลังสิ้นสุดเรื่องราว ฉู่เหินก็ถามชายคนนั้นว่าเขามีนามว่าอะไร ชายผู้นี้แท้จริงแล้วนานว่าหลิวฮุ่ย ! หลิวฮุ่ยไม่เพียงแต่ชอบพูดจาแปลก ๆ อีกทั้งแต่ละคำยังฟังดูจะน่าเชื่อถืออีกด้วย ! สำหรับส่วนแบ่งของหลิวฮุ่ย ฉู่เหินให้เขาไปถึง 2 ส่วน ! แบบนี้ก็เท่ากับว่าส่วนแบ่งกลายเป็นฉู่เหิน 4 ส่วน ฉู่ตง 4 ส่วน หลิวฮุ่ย 2 ส่วน!
การแบ่งนี้ทำให้หลิวฮุ่ยตกใจมาก แต่มันก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองติดตามถูกคนแล้ว ลูกพี่คนนี้เป็นคนใช้ได้อย่างแน่นอน ติดตามคนคนนี้ต้องไม่เสียใจแน่ สำหรับฉู่ตงไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่เอา เพราะตัวเองก็มีตราประจำตัวกว่าหลายพันชิ้นแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองมีตราประจำตัวเยอะกว่าฉู่เหินซะอีก ! เมื่อเป็นแบบนี้เขาจะกล้ารับอีกได้ยังไง !
สุดท้ายฉู่เหินก็ต้องเก็บเอาไว้เองด้วยความจนใจ ! ส่วนในใจของฉู่ตงตอนนี้ไม่สามารถใช้คำว่าตื้นตันใจมาเปรียบเทียบได้ ! อย่างคำที่กล่าวว่านักรบยอมตายได้เพื่อเพื่อนที่รู้ใจ เมื่อเขาเอามาเปรียบเทียบกับฉู่เหินตอนนี้ที่รู้สึกตื้นตันใจ เขาแอบคิดในใจว่าถ้าเกิดฉู่เหินลำบาก เขาจะเป็นคนแรกที่พุ่งไปช่วย ! โดยไม่กลัวตายเลย !
หลังจากคนพวกนั้นจากไป ก็เหลือเพียง 3 คนยืนอยู่ตรงนี้ ! ฉู่เหินไม่ได้อยากสู้กับคนพวกนี้ และก็ไม่อยากจะฆ่าใครต่อแล้วด้วย ดังนั้นเขาเลยนั่งลงและฝึกฝนพลังเสียเลย ! อย่างไรก็ตามพอหลิวฮุ่ยเห็นฉากนี้ อีกฝ่ายก็อดที่จะมองซ้ายมองขวาก่อนจะพูดเตือนสติฉู่เหินเบา ๆ ไม่ได้
“รอบ ๆ เรามีสัตว์ร้ายอยู่ไม่น้อยเลย ! พวกเราไม่ควรเปลี่ยนสถานที่หน่อยเหรอ” ไม่ใช่หลิวฮุ่ยที่คิดไปเอง เพราะตอนนี้เมื่อมองจากข้างนอกก็สามารถเห็นได้ทันทีว่าสัตว์พวกนี้พากันจ้องมาทางพวกเขาด้วยสายตาน่ากลัว
“ไม่ต้องห่วง พวกมันมาเท่าไรก็ตายเท่านั้น ! ” ฉู่เหินตอบเขาไปแบบนั้น ถ้าเป็นคนทั่วไปได้ยินล่ะก็ จะต้องบอกว่าชายหนุ่มอวดดีเป็นแน่ ! แต่ไม่รู้เพราะอะไรหลิวฮุ่ยกลับเชื่อไปแล้ว ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เหิน หลิวฮุ่ยเลยไม่สนใจเช่นกัน เขานั่งลงตรงนี้เริ่มฝึกฝนพลังอย่างสบายใจ !
ฉู่เหินปรายตามองหลิวฮุ่ย เขารู้สึกสนใจคนนี้ ๆ ตัวเองพูดแบบนั้นเขากลับเชื่อ ! ระหว่างคน 2 คนจะขาดสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าความเชื่อใจไปไม่ได้ ! ถ้าแม้แต่ความเชื่อใจที่เป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดยังไม่มี งั้นก็ไม่ต้องพูดถึงความเป็นพี่น้องกันเลย แม้แต่เอามาเป็นเพื่อนก็ไม่ได้ !
ดังนั้นฉู่เหินถึงได้รู้สึกพอใจในตัวหลิวฮุ่ย ! ต่อมาทั้ง 3 คนก็นั่งฝึกฝนพลังอยู่อย่างงั้น ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีคนเดินผ่านไปมา ทว่าถึงจะเห็นพวกเขา 3 คน แต่คนพวกนั้นกลับไม่กล้าเข้ามาแม้แต่น้อย ! ท่ามกลางสถานที่วุ่นวายแบบนี้ แต่กลับมีคน 3 คนนั่งฝึกฝนพลังอย่างสบายใจราวกับไม่มีใครรอบกาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเขากลัวได้ไง !
ไม่เพียงต้องมีความกล้าเท่านั้นถึงจะทำแบบนี้ได้ ยังต้องมากไปด้วยความแข็งแกร่งอีกด้วย ! และก็เพราะเหตุนี้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวนพวกเขา แน่นอนยังมีพวกไม่รู้ตาม้าตาเรือเล็กน้อยที่เข้ามากวนพวกเขา ทว่ายังไม่ทันจะก้าวเข้ามาเขาก็พบกับสายตานับไม่ถ้วนจ้องมองมาที่เขา
สายตานั้นให้ความรู้สึกน่าขนลุกอย่างประหลาด จากเดิมที่ไม่กล้าเดินเข้าไปอยู่แล้วก็หมุนตัวเดินจากไปทันที ! ทว่าสัตว์ร้ายรอบ ๆ ไม่ได้สนใจสิ่งนี้ พวกมันมองอย่างพิจารณาเงียบ ๆ ครึ่งวัน หลังจากพบว่าทั้ง 3 ไม่ได้เคลื่อนไหวเลย เจ้าสัตว์ร้ายพวกนี้ก็ค่อย ๆ เดินตรงไปยังพวกเขาในทันที !
เมื่อมีคนเปิดก็ย่อมมีคนตาม เพียงครู่เดียวก็มีสัตว์นับร้อยนับพันเดินเข้ามาทางนี่อย่างช้า ๆ ! ฉู่เหินลืมตาขึ้นมองสัตว์ร้ายที่เข้ามาทุกทิศทุกทางก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง ราวกับไม่เคยคิดจะสนใจพวกมัน ! ก่อนจะทำการโบกมือเบา ๆ เพื่อเรียกบาเรียขนาดเล็กออกมาด้านนอก !
ไม่ต้องพูดถึงพลังจิตสังหาร ฉู่เหินไม่มีความคิดที่จะปล่อยพลังจิตสังหารออกไปตั้งแต่แรกแล้ว ! ถ้าสัตว์พวกนี้ไม่เข้ามาใกล้ก็จะปล่อยไป แต่ถ้าเข้ามาใกล้ก็อีกเรื่อง ! ทว่าสัตว์พวกนั้นกลับไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย พวกมันไม่รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าอันตราย ไม่อันตราย
ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกมันรู้สึกว่าพลังของทั้ง 3 คนนั้นอ่อนแอสุด ๆ ! ถ้าพวกมันต้องการ ก็สามารถกินพวกเขาทั้ง 3 ไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูกได้เลย ! ต่อมาสัตว์พวกนั้นก็เข้ามาใกล้ในระยะที่ห่างไม่ถึง 10 เมตรแล้ว
พอฉู่เหินเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจผ่าวเบา “เฮ้อ เห็นแก่ชีวิตของพวกแก ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสพวกแกครั้งหนึ่ง รีบไสหัวไปซะ ถ้ากล้าเดินเข้ามาใกล้อีกครึ่งก้าว วันนี้ที่นี่จะกลายเป็นสุสานของพวกแก!” ฉู่เหินไม่สนว่าพวกมันจะฟังรู้เรื่องไหม เขาเพียงแค่ต้องการจะพูดมันออกไปเท่านั้น !
สัตว์ร้ายพวกนั้นคล้ายจะได้ยินที่ฉู่เหินพูด แต่พวกมันก็ไม่ได้เอามาใส่ใจอะไร กลับเดินต่อไปข้างหน้า ! และก็เป็นตอนนี้อีกเช่นกันที่ไม่รู้ว่าสัตว์ร้ายตัวไหนเป็นคนเปิดฉากพุ่งตัวไปหาพวกฉู่เหินก่อน !
ในเวลาเดียวกัน ฉู่เหินก็โบกมือครั้งหนึ่ง เพื่อปล่อยพลังจิตสังหารออกมา ! พลังจิตสังหารพลันพุ่งออกไปในรัศมีรอบ ๆ ! ทำให้เจ้าสัตว์ที่พุ่งมาทางนี้คล้ายจะถูกหยุดร่างกายอย่างกะทันหัน ! ก่อนที่ต่อมาพวกมันจะมองรอบ ๆ ด้วยสายตางุนงง !
เพราะตอนนี้อยู่ ๆ พวกมันก็มองไม่เห็นร่างทั้ง 3 นั่นอีกแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้พวกมันรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ! ในระหว่างที่พวกมันกำลังกวาดสายตามองไปมา จู่ ๆ พื้นดินก็แตกออกจากกัน จากนั้นก็มีหัวกะโหลกผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ทันทีที่พวกมันผุดขึ้นมาก็ปีนขึ้นตัวสัตว์พวกนั้นและดูดกลืนเลือดเนื้อของพวกมันอย่างรวดเร็ว
จากนั้นดวงไฟสีเขียวก็ปรากฏขึ้นทีละดวงสองดวง และเมื่อดวงไฟเหล่านี้สัมผัสโดนสัตว์พวกนั้น ร่างกายของพวกมันก็ถูกเปลี่ยนเป็นร่างแห้ง ๆ ! หลังจากฉู่เหินเห็นฉากนี้ก็ถอนหายใจออกมา ก่อนที่หลับตาลงอีกครั้งเพราะไม่อยากมองอีกแล้ว ! เคยได้ยินคำนี้ไหม ถ้าทำให้ฟ้าพิโรธอย่าได้โกรธตัวเองเลย เพราะตัวเองนั้นแหละที่เป็นคนเลือกเอง !
แม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ แต่พวกมันก็มีจิตวิญญาณเช่นกัน ไม่ได้ต่างไปจากมนุษย์ธรรมดาเลย ! ดังนั้นจิตวิญญาณของพวกมันจึงถูกเก็บไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อพวกสัตว์ร้ายรู้สึกตัว มันก็สายไปแล้ว พวกมันได้แต่ส่งเสียงร้องขอชีวิตด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด !
เสียงพวกนั้นดังไม่ถึง 10 นาทีก็กลับมาสงบดั่งเดิม หลังจากทุกอย่างเงียบลง ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพตรงหน้าเขาในตอนนี้นั้น นอกจากศพไร้วิญญาณของพวกสัตว์แล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นอีก !
ฉู่ตงมองสิ่งประหลาดพวกนี้จนไม่รู้สึกว่ามันแปลกอีกแล้ว เป็นเพราะเขาเคยเห็นพลังจิตสังหารมาแล้ว ทว่าหลิวฮุ่ยนั้นกลับตกตะลึงจนอ้าปากค้างไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรออกมาดี ! สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันน่ากลัวเกินไป เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต !!