บทที่ 535 ความมหัศจรรย์ของแฟรี่
บทที่ 535 ความมหัศจรรย์ของแฟรี่
ฉู่เหินอยู่บนทางเดิน พร้อมกับโคจรก้าวนภาจนถึงขีดสุด ! ด้วยวิธีนี้เลยมองเหมือนเขาเป็นเหมือนลำแสงเส้นหนึ่ง ที่ไวเสียจนสามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลนับพันเมตรภายในพริบตาเดียว !
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มองเห็นพวกแฟรี่ที่กำลังทำงานอย่างแข็งขันแต่ไกล ๆ และพอพวกแฟรี่เห็นฉู่เหินกลับมา พวกเธอก็พากันดีใจ ชายหนุ่มนั้นรู้ดีว่าสถานการณ์เร่งด่วนขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดพร่ำทำเพลง นำไข่มุกที่ถืออยู่ในมือโยนเข้าไปในสระแห่งจิตวิญญาณ !
สระแห่งจิตวิญญาณถูกเตรียมพร้อมโดยเหล่าแฟรี่มานานแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น แต่ทว่าในจังหวะที่ไข่มุกกำลังหลุดจากมือของฉู่เหินนั่นเอง เขาก็สัมผัสได้ถึงแรงดูดมหาศาลจากไข่มุกนั่น ที่รุนแรงราวกับว่ามันสามารถดูดกลืนทุกอย่างในโลกนี้เข้าไปได้ !
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น กระทั่งตัวเขาเองยังเหมือนกับจะถูกไข่มุกนี้ดูดเขาไปเหมือนกัน ! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉู่เหินตกใจ และหวาดกลัว ! เพราะนอกจากความสามารถในการดูดของไข่มุกแล้ว ชายหนุ่มก็ยังสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารที่แผ่ออกมาจากมัน !
ถ้าเกิดเขาไม่ระวังจนถูกดูดเข้าไปล่ะก็ คงไม่ต้องพูดเลยว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง ทางด้านแฟรี่ตัวอื่น ๆ เอง เมื่อพวกเธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็พากันตกใจเป็นอย่างมาก ! ถึงกับมีแฟรี่ตนหนึ่งที่อายุค่อนข้างเยอะตะโกนบอกฉู่เหินเสียงดังว่า “คุณฉู่เหิน รีบแสดงความเป็นเจ้าของเร็ว หยดเลือดลงไป !”
พอได้ยินดังนั้นฉู่เหินก็เหมือนจะได้สติ รีบหยดเลือดของตัวเองลงไปที่ไข่มุก ! หลังจากเลือดหยดลงไปแล้วเขาก็สัมผัสได้ว่าตัวเองสามารถสื่อสารกับไข่มุกนี้ได้ ทว่าคิดอยากจะให้มันเชื่อฟังตัวเองทั้งหมด เขาจำเป็นต้องใช้เวลา !
ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเสร็จ แต่นี่ก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นัก ในเมื่อตอนนี้เขาทำการเชื่อมกับไข่มุกได้แล้ว ดังนั้นการควบคุมมันจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ! ว่าแล้วชายหนุ่มก็พลันเพ่งสมาธิไปที่สระแห่งจิตวิญญาณตรงหน้า !
ต่อมาเขาก็ทำการดึงสระขึ้นมา ทำให้ของเหลวด้านในนั้นไหลเข้าไปในไข่มุกอย่างช้า ๆ
ผ่านไปซะพักหนึ่ง สระแห่งจิตวิญญาณก็เข้าสู่ไข่มุกทั้งหมด พอสระแห่งจิตวิญญาณถูกดึงเข้าไปหมดแล้ว เหล่าแฟรี่ก็ทยอยเข้าไปภายในไข่มุก ! ไม่เพียงแต่แฟรี่และสระแห่งจิตวิญญาณ เพราะแม้แต่สิ่งของที่อยู่ในมิตินี้ก็ถูกดูดเข้าไปภายในทั้งหมดเช่นกัน !
เมื่อพบว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว ฉู่เหินก็ก้มมองไข่มุกในมือของตน เขาไม่รู้ว่าควรจะวางมันไว้ตรงไหนถึงจะดี และในตอนที่ชายหนุ่มกำลังสับสน ก็เห็นว่าไข่มุกเม็ดเล็กนั้น อยู่ ๆ ก็ลอยเข้าไปในหัวของตัวเองอย่างรวดเร็ว !
ยังไม่ทันที่ฉู่เหินจะได้สติกลับมา ไข่มุกนั้นก็เข้าไปในจิตวิญญาณของเขาแล้ว ! ก่อนที่ร่างกายของชายหนุ่มจะขยายใหญ่ขึ้น เพียงพริบตาเดียวก็กลายร่างเป็นยักษ์ตัวใหญ่ พร้อม ๆ กันกับที่มีข้อความพิเศษบางอย่างเข้ามาในการรับรู้
ฉู่เหินตรวจสอบข้อความนั้นอย่างละเอียด เพียงครู่เดียวเขาก็ทราบว่าที่ร่างกายของตัวเองเปลี่ยนไป มันเป็นเพราะแฟรี่พวกนั้นได้หลอมรวมกับร่างยักษ์ของเขาแล้ว ! ทำให้พลังวรยุทธ์เพิ่มขึ้น และส่งผลให้พลังกายเนื้อของชายหนุ่มในตอนนี้นั้นแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น !
พอเห็นฉากนี้ ในใจฉู่เหินก็รู้สึกมีความสุข ต้องเข้าใจว่าแบบนี้เขาก็จะมีไพ่ตายมากขึ้น 1 ใบแล้ว ! ถ้าถึงตอนที่ต้องสู้กับศัตรูละกัน เขาก็จะสามารถโจมตีด้วยพลังวรยุทธ์ที่สูงขึ้นอีกหนึ่งขั้นนี้ได้ ! และแม้จะแค่ขั้นเดียว หากแต่สำหรับการต่อสู้แล้วนั้น ถ้ามีโอกาสเพิ่มขึ้น แม้จะเพียงเล็กน้อย มันก็นับได้ว่ามีค่ายิ่งนัก !
ด้วยร่างยักษ์ที่มี เขาจึงไม่เกรงกลัวอีกต่อไป จากนี้ชายหนุ่มสามารถใช้พลังจิตสังหารต่อหน้าคนอื่น ๆ ได้แล้ว ! โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกคนอื่นจับไล่ล่าเพื่อขโมยวิชา !!!!
เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะหันมองออกไปยังค่ายกลที่เขาเข้ามา ต้องเข้าใจว่าที่ตรงนั้นยังมียังมีพวกที่จ้องจะฆ่าเขาอยู่ ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้ชายหนุ่มก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ต่อให้พวกนั้นมาจริง ๆ เขาก็สามารถจัดการได้อย่างสบาย ๆ
แต่ก่อนที่จะออกไป ฉู่เหินจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จเสียก่อน ! เหตุที่เขาต้องเข้ามาในนี้ก็เพราะหญ้าร้อยฝันไม่ใช่หรือไง ! ซึ่งชายหนุ่มก็ได้ถามพวกแฟรี่เกี่ยวกับหญ้าร้อยฝันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และตามที่พวกเธอบอกนั้น หญ้าร้อยฝันพวกนี้เป็นได้ก็เพียงแค่ของไร้ค่า ! นอกจากความสามารถในการเพิ่มอายุขัยแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อื่นใดอีก !
สำหรับพวกแฟรี่ที่มีอายุยืนยาวแล้ว หญ้าร้อนฝันก็เป็นได้แค่ของไร้ประโยชน์ ! ดังนั้นพวกเธอจึงเต็มใจที่จะบอกตำแหน่งที่ ๆ หญ้าร้อยฝันโตขึ้นให้เขาโดยไม่ปิดบัง ! และเมื่อเดินมาถึงตำแหน่งดังกล่าว ฉู่เหินก็ได้พบเข้ากับหุบเขาที่เต็มไปด้วยหญ้าร้อยฝัน !!!
เพียงมีหญ้าร้อยฝัน ก็ไม่ต้องกลัวแก่แล้ว หากแต่หญ้าร้อยฝันที่มีอายุเป็นพันเป็นหมื่นปีนั้นค่อนข้างจะมีน้อย ! ต้องเข้าใจว่าหญ้าร้อยฝันที่โตมาไม่กี่ 10 ปีนั้นสามารถยืดอายุได้เพียง 2-3 ปีเท่านั้น และก็มีแต่หญ้าร้อยฝันอายุพันปีขึ้นไปที่สามารถยืนอายุไปได้นับ 100 ปี !
สำหรับหญ้าที่มีอายุหมื่นปีขึ้นไป มันสามารถอายุยืนยาวได้ถึง 1 พันปี ! เพียงแต่ต้นหญ้าแบบนั้นค่อนข้างมีน้อย ในมิตินี้ฉู่เหินได้พบแค่เพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น ! ว่าแล้วชายหนุ่มก็ทำการเด็ดหญ้าร้อยฝันอายุร้อยปี พันปี และหมื่นปีมาเก็บไปไว้ในแหวนมิติแล้วทั้งหมด !
สำหรับต้นหญ้าที่ยังโตไม่เต็มที่ ฉู่เหินก็ได้เก็บพวกมันเอาไว้ในไข่มุกแทน ! แม้ว่าหญ้าร้อยฝันตรงหน้าจะไม่มีค่าในสายตาพวกแฟรี่ แต่สำหรับโลกข้างนอกนั้นมันเป็นของหายาก !
แม้ว่าต้นอ่อนพวกนี้จะ สามารถยืดอายุได้เพียง 2-3 ปีเท่านั้น แต่ถ้าเอาพวกมันมาหลอมเป็นยาล่ะก็ จะสามารถยืดอายุได้หลายสิบปีเลยทีเดียว ! ดังนั้นอย่าดูถูกว่ามันอายุน้อยเด็ดขาด เพราะด้วยระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นมา บางทีอาจทำใครหลาย ๆ คนมีเวลามากพอที่จะยกระดับวรยุทธ์ขึ้นก็เป็นได้ !
ต้องเข้าใจว่าทุก ๆ ระดับพลังวรยุทธ์ที่เลื่อนแต่ละขั้นนั้น อายุขัยก็จะยืนยาวขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ! ด้วยเหตุนี้เองหญ้าอายุไม่กี่สิบปีพวกนี้จึงเป็นดั่งยาเซียนในสายตาของผู้คนจำนวนมาก !
ถ้ามีคนรู้เรื่อง มันจะต้องมีผู้คนมากมายที่คิดเข้ามาแย่งชิงอย่างแน่นอน ! และก็คงมีแต่ตระกูลหรือพรรคที่มีอิทธิพลสูง ๆ เท่านั้นที่จะได้ยาพวกนี้ไว้ในครอบครอง !!!!
หลังจากฉู่เหินเก็บหญ้าร้อยฝันจนหมด ก็เตรียมจะออกไปสังหารคนพวกนั้นทิ้ง แต่ในตอนนี้เอง เขาก็พบว่ามันได้เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่ด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มไม่อาจชักช้าได้อีกต่อไป เขารีบกระโดดหนีอย่างรวดเร็ว ! ต้องเข้าใจว่าถ้าด้านหลังนั้นถล่มลงมาแล้วล่ะก็ ขืนนิ่งเฉยต่อไปคงมีแต่ตายกับตายเท่านั้น !
การใช้ก้าวนภาในขณะที่อยู่ในร่างยักษ์นั้นต่างกับก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก เพราะมันเร็วกว่าเดิมนับ 10 เท่าก็ว่าได้ ! ราวกับว่าก้าวนภานั้นเป็นวิชาที่ออกแบบมาเพื่อยักษ์สามตาโดยเฉพาะ ! แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วเหตุใดวิชาก้าวนภาถึงไปอยู่ในที่แบบนั้นได้กันนะ ?
หลังจากหายตัวไม่กี่ครั้ง เขาก็มาถึงตรงหน้าค่ายกลแล้ว ! ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่แต่อย่างใด เขารีบก้าวเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่ก้าวเดินอยู่นั้น ที่ด้านหลังก็มีเสียงระเบิดดังไล่ตามมาติด ๆ !
อีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงทางออกแล้ว !
หลังจากหายร่างไปอีกครั้ง ในที่สุดก็สามารถออกมาข้างนอกได้สำเร็จ ! และในขณะฉู่เหินออกมาได้นั้นเอง คนที่รออยู่ด้านนอกก็หัวเราะและพูดออกมาด้วยความโกรธ “ในที่สุดก็ออกมาเสียทีนะ” แต่ทว่าจากความโกรธมันก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นอาการตกตะลึงอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาพบว่าคนที่ออกมาเป็นยักษ์ตนหนึ่ง !