บทที่ 551 ผู้หญิงของตัวเองมีชู้
บทที่ 551 ผู้หญิงของตัวเองมีชู้
ด้วยเพราะฐานะของอีกฝ่าย ทำให้ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่มาวันนี้เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกพึงพอใจ แม้กระทั่งพวกที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลหลิวเอง พวกเขาต่างก็มีรอยยิ้มประทับบนใบหน้าเช่นเดียวกัน และก็ไม่ใช่เพราะอะไรอื่น แต่เป็นเพราะว่าปกติแล้วหลิวเทียนฉี่ชอบรังแกพวกเขาไม่น้อยเลย !
“ฉันว่านะผู้เฒ่าหลิว พวกเราปล่อยเรื่องหมา ๆ ให้มันผ่านไปจะได้ไหม นายจะไปหาว่าพวกนายหรือสุนัขสำคัญกว่ากันให้มันได้อะไรขึ้นมา ? ถึงขนาดอิจฉาหมาดำตัวหนึ่ง นี่มันไม่ใจแคบเกินไปหน่อยเหรอ !” ยิ่งฉู่เหินพูดก็เหมือนยิ่งกรีดแผลลงไปในใจของหลิวเทียนฉี่ ทำให้เขารู้ได้ในทันที ว่าไม่ว่าตัวเองจะชนะหรือแพ้ก็จบสิ้นแล้ว
ขณะที่เขาเตรียมจะพูดอะไรบางอย่างกลับ ระหว่างนั้นจู่ ๆ ก็เกิดเสียงตะโกนดังมาจากด้านล่างเวที “มารดามันเถอะ แกจะสู้หรือไม่สู้ ถ้าไม่สู้ก็รีบไสหัวกลับไปซะ ! อย่าอยู่ให้ขายหน้าคนอื่นเลย !” เสียงนี้มีหลายคนที่ไม่ได้ยิน เพราะว่ามันได้ใช้วิธีพิเศษส่งมาให้หลิวเทียนฉี่โดยเฉพาะ !
ดวงตาของฉู่เหินพลันหรี่เล็กลง เขาปรายสายตามองไปทางต้นเสียง ก่อนสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่แผ่ออกมา ถึงกับทำให้รู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่มาตามเสียงได้แบบนี้ย่อมน่ากลัวเป็นแน่ ! เพียงแต่ว่าชายหนุ่มไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไรอยู่นี่สิ !
อันที่จริง ชายหนุ่มเองก็พอจะรู้เหมือนกันว่า มีอีกหลายคนที่แอบซ่อนตัวอยู่ ! แต่เช่นนั้นแล้วยังไง เขาไม่ได้กลัวคนพวกนี้ เพราะตอนที่เขาออกมา เขาก็สัมผัสได้ว่าศิษย์พี่และอาจารย์นั้นก็กำลังซ่อนตัวอยู่แถวนี้เหมือนกัน ! ถ้าพวกคนแก่หน้าไม่อายพวกนี้ลงมือล่ะก็ อาจารย์จะไม่ไว้ชีวิตพวกเขาอย่างแน่นอน !
“ฉู่เหิน หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว แสดงความสามารถของนายออกมาซะ ให้ฉันดูว่าฝีปากของนายหรือว่าความสามารถของนายอย่างไหนมันจะเก่งกว่ากัน” หลิวเทียนฉี่ยืนนิ่งตัวสั่นไม่พูดไม่จา กลับเป็นหลิงอู่เหมิงที่เป็นคนตะโกนออกมาเช่นนั้น !
พอได้ยินที่หลิวอู่เหมิงพูด ชายหนุ่มก็ทำหน้าคล้ายกับกำลังรู้สึกผิด “อืมมม ฉันมีหรือไม่มีความสามารถน่ะอย่าถามฉันเลย เอาไว้กลับไปถามเมียแกจะดีเสียกว่า ! ว่าความแข็งแกร่งของลิ้นฉันอยู่ที่ระดับไหนแล้ว ขืนให้ฉันบอกไปแกคงไม่เชื่อ งั้นแล้วแกก็ไปถามเธอน่าจะดีกว่านะ !”
สิ้นเสียง คนอื่น ๆ ในสนามถึงกับอ้าปากค้าง ใครไม่รู้บ้างว่าอันธพาลผู้นี้กำลังจะแต่งงาน พวกเขานั้นเคยได้ยินว่าหญิงสาวคนนั้นทั้งสวยทั้งบริสุทธิ์ ! อีกทั้งยังเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสคนหนึ่ง และที่ทางตระกูลหลิวต้องการให้หลิวอู่เหมิงกับหญิงสาวคนนั้นเป็นทองแผ่นเดียวกัน ก็เพื่อสานความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสคนนั้น !
ดังนั้นเมื่อหลิวอู่เหมิงได้ยินที่ฉู่เหินพูดก็ย่อมโมโหเป็นธรรมดา เขาโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ ! ต้องเข้าใจว่ากระทั่งมือเขายังไม่เคยได้จับ มาวันนี้กลับถูกคนอื่นพูดแบบนี้ใส่จะให้เขาอดได้ยังไงไหว !
“เฮ้ย ฉู่เหิน ทำไมแกต้องใส่ร้ายแบบนี้ด้วย การประลองระหว่างเราก็ให้มันมีแค่พวกเราสิวะ หน่อยแหนะแกโดนแน่ ฉันคนนี้จะใช้ไฟเผาเส้นผมของแกให้โล้นไปเลยคอยดู !” ขณะที่หลิวอู่เหมิงกำลังโมโห หญิงสาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา ทั้งยังกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากเม้มแน่น
พอเธอเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของฉู่เหิน ก็จงใจกระทืบเท้าหลาย ๆ ครั้งเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจ หากแต่ในสายตาของคนอื่น มันกลับทำให้พวกเขาเริ่มคิดว่าเป็นเรื่องจริง ! ถ้าหญิงสาวคนนี้ไม่ออกมาล่ะก็ ทุกคนคงคิดว่าฉู่เหินเพียงคะนองปากก็เท่านั้น แต่พอเห็นฉากนี้ก็ทำให้คนอื่น ๆ เริ่มไม่แน่ใจแล้ว !
“ต้องขอโทษน้องฮวาโยวหรานด้วยจริง ๆ ขอโทษนะ ถ้ารู้แต่แรกว่าเธออยู่ตรงนี้ด้วย ฉันคงจะไม่พูดแบบนี้ คำพูดพวกนี้พอพูดออกไปแล้วทำให้คนอื่นคิดดีไม่ได้เลย !” เมื่อพูดจบ สายตาของคนอื่น ๆ ก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็น ! ด้วยสัมผัสได้ว่าประโยคของคนสองคนนี้มีปัญหาอะไรบางอย่าง !
“พี่ฉู่เหิน ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะค่ะ ปากพี่นี่ช่างใส่ร้ายเสียจริง น่าตีตายนัก !” พอหญิงสาวพูดจบก็ต่อยกำปั้นเล็กเข้าไปที่หน้าอกของฉู่เหิน ทว่าทุกคนดูออกว่าหญิงสาวไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย ฉากนี้ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เหมือนคู่รักหยอกล้อกัน !
“ทำไมน้องฮวาโยวหรานโหดอย่างนี้กัน พี่เจ็บนะ ! ว่าแต่สรุปแล้วว่าพี่เก่งไหมจ๊ะ ?” ประโยคแปลก ๆ นี้ถูกเขาพูดออกมา ทำให้คนอื่น ๆ คิดว่าหญิงสาวต้องโกรธแน่ ๆ หากแต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะทำหน้าเขินอายและพยักหน้าแทน !
“แน่นอนว่าพี่ฉู่เหินเป็นคนเก่ง !” พอหลิวอู่เหมิงเห็นฉากนี้ก็เริ่มอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว ! คู่หมั้นของตัวเองกำลังทำตัวเหมือนคู่รักที่กำลังหยอกล้อกันกับอีกฝ่าย และเห็นเขาเป็นเพียงอากาศธาตุ ทำให้นอกจากเขาจะโกรธแล้ว ยังกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธอีกด้วย ! ดังนั้นจึงจัดแจงยืนด่าชุดใหญ่ด้านบนเวทีในทันที !
“แก นังสารเลว ต่อหน้าต่อตาฉันเธอกล้าพลอดรักผู้ชายคนอื่นแบบนี้เชียวเหรอ แกมันเป็นตัวอะไรกันแน่ ! วันนี้ฉันขอประกาศถอนหมั้นกับผู้หญิงอย่างเธอ คนอย่างเธอก็แค่ผู้หญิงหน้าไม่อาย !”
ต่อให้หลิวอู่เหมิงไม่พูดแบบนี้ คนอื่น ๆ ก็ไม่อาจคิดเป็นอื่นได้เลย แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังส่งสายตาแปลก ๆ อยู่นั้น พวกเขาก็คิดในใจอย่างคาดไม่ถึงว่าวิปลาสที่ 9 จะสวมหมวกเขียว* ให้กับหลิวอู่เหมิงแบบนี้ ! อีกทั้งยังเป็นหมวกเขียวที่แข็งมากด้วย !
*สวมหมวกเขียว หมายถึงคบชู้
“ศิษย์พี่หลิวช่างมีเมตตา ! ผู้น้อยขอขอบคุณแทนน้องฮวาโยวหรานคนนี้แล้ว ที่จริงน้องสาวคนนี้นั้นหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์เกินไป คงไม่เหมาะสมกับนายเท่าไร ! และฉันว่านะ ในอนาคตศิษย์พี่หลิวก็ตั้งใจหาอาม่าที่กวาดพื้นอยู่ข้างถนนมาเป็นเมีย ยังจะเหมาะสมกับนายกว่าอีก !” พอพูดจบฉู่เหินก็ประคองมือของหญิงสาวมาไว้ในมือ !
“จริงสิ ยังมีอีกประโยคที่ต้องบอกนาย ถ้าอยากมีชีวิตดี ๆ ล่ะก็ จับหัวดูดี ๆ ล่ะว่าเป็นสีเขียวหรือเปล่า !” เมื่อพูดจบฉู่เหินก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก กลับปรายตาหันมามองหญิงสาวตรงหน้าแทน และชั่วพริบตาดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเสียเฉย ๆ! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
“น้องฮวาโยวหราน ฉันเห็นเธอดูทั้งสวยทั้งใสซื่อบริสุทธิ์ ! ถ้าเธอไม่ว่าอะไรพวกเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม !” เมื่อพูดจบ หลิวอู่เหมิงที่ยืนอยู่บนเวทีก็รู้สึกเหมือนกับถูกตบหน้าอย่างแรง
“พี่ฉู่เหิน หรือพี่คิดว่าพวกเราไม่ใช่เพื่อนกันคะ” เมื่อพูดจบหญิงสาวก็ยิ้มอย่างใสซื่อออกมา ! เมื่อเห็นฉากนี้หลิวอู่เหมิงก็โกรธจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ! พอทุกคนเห็นแบบนี้ก็คิดในใจว่า เขากระอักเลือดออกมาเยอะขนาดนี้ ถ้าสู้กันจริง ๆ ขึ้นมาจะเป็นยังไงกัน จะไหวหรือเปล่าเนี่ย ?
มีบางคนคิดว่าที่หญิงสาวคนนี้ปรากฏตัวที่นี่ จะต้องเกี่ยวกับฉู่เหินแน่นอน ! เพราะเรื่องนี้ดูมันจะบังเอิญเกินไป
แท้ที่จริงแล้ว วันนี้ตั้งแต่ฉู่เหินตื่นขึ้นมาเขาก็ได้วางแผนเข้าร่วมการประลองเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ! แต่ตอนระหว่างเดินทาง ชายหนุ่มก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มีสายตาเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเข้า
และหลังจากสอบถาม เขาถึงเพิ่งรู้ว่าหญิงสาวมีหมาที่รักมากตัวหนึ่ง แต่วันนี้หมาที่เธอรักเกิดคลอดลูกยาก จนสุดท้ายหญิงสาวก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะตอนนี้คนทั้งพรรคกำลังรอดูเรื่องสนุก ปล่อยให้หมาของเธอเป็นอย่างนั้นโดยไม่สนใจ !
ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้ไปหาเธอที่บ้านโดยไม่ลังเล และเมื่อใช้ความพยายามบวกกับความรู้ด้านการแพทย์ของที่โลกตัวเอง ในที่สุดหมาตัวนี้ก็คลอดลูกออกมาได้อย่างราบรื่น !
ซึ่งมันก็เป็นเวลาเดียวกันนี้เองที่หญิงสาวนึกขึ้นมาได้ ว่าคู่หมั้นตัวเองต้องประลองกับฉู่เหิน ! ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเดิมทีเธอไม่พอใจพรรคของตัวเองเท่าไร ที่ให้ตัวเองแต่งงานกับคนแบบนั้น และยิ่งถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชน เธอก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่
อีกทั้งเมื่อตอนเช้า ตอนที่หมาดำกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอก็ได้ขอความช่วยเหลือจากหลิวอู่เหมิงแล้ว ! หากแต่หลิวอู่เหมิงบอกว่าไม่มีเวลาต้องรีบไปประลอง แล้วก็รีบจากไปไม่หันกลับมามองเลยสักนิดเดียว !
อย่างไรก็ตาม ฉู่เหินนั้นไม่เหมือนกัน ตอนที่หญิงสาวถามว่าทำไมเขาเลือกที่จะช่วยหมาดำของตัวเองมากกว่าจะไปประลอง ! ชายหนุ่มกลับหัวเราะและตอบแต่เพียงว่า “ในสายตาของฉัน เจ้าหมาดำตัวนี้สำคัญกว่าพวกตระกูลหลิวเสียอีก ! อีกอย่าง มันก็เพียงแค่การประลองหนึ่งเท่านั้น และต่อให้เป็นพิธีแต่งงานของตระกูลหลิว มันยังสำคัญไม่เท่าสุนัขตัวนี้เลย ดังนั้นฉันจะไปใส่ใจทำไมกัน !”